ตอนที่ 2 ของชิ้นแรกจากท่านชีค (1)
ตอนที่ 2
ของชิ้นแรกจากท่านชีค
เช้าวันใหม่กับการเริ่มทำงานกับที่ใหม่ แม้เมื่อวานจะผ่านการเดินทางอันแสนยาวนานบวกกับมาถึงก็ต้องมาวุ่นวายกับการผ่าตัดเอาลูกกระสุนออกให้ชีคซาลซาเอลอีก และด้วยเหตุนั้นเองทำให้เมื่อคืนอุรัสยาหลับเป็นตาย พอเช้ามาเลยสดชื่นกระปรี้กระเปร่า เรียกได้ว่าแรงกายแรงของเธอพร้อมเต็มที่ ถึงอย่างนั้นก็มารู้สึกไม่สบายใจนิดๆ ก็ตรงชีคซาลซาเอลนี่แหละ เพิ่งจะผ่าตัดไปเมื่อวานแทนที่จะนอนพักผ่อนอยู่ที่ห้อง แต่นี่กลับบอกว่าจะไปโรงพยาบาลพร้อมกับเธอ ถ้าไปให้ทางโรงพยาบาลเช็คบาดแผลจะไม่ว่าอะไรเลย แต่นี่บอกว่าจะไปทำงานพร้อมกับไปแนะนำเธอให้รู้จักคุณหมอคนอื่นๆ ในฐานะเจ้าของโรงพยาบาล
“ไหวไหมคะท่านชีค ฉันว่าท่านน่าจะหยุดพักผ่อนดีกว่าไหม แค่ไปโรงพยาบาลแค่นี้ ฉันไปอิสลัมสองคนก็ได้”
คุณหมอสาวถามด้วยน้ำเสียงที่เจือไปด้วยความเป็นห่วงทันทีที่รถเคลื่อนตัวมุ่งหน้าไปยังโรงพยาบาล โดยมีคนสนิทอย่างอิสลัมเป็นสารภี
“แผลแค่นี้ทำอะไรผมไม่ได้หรอกน่า เมื่อเช้าคุณเป็นคนล้างแผล คุณก็น่าจะเห็นว่ามันไม่ได้ร้ายแรงหรือน่าวิตกกังวลอะไร และขอร้องเลยนะอยู่ข้างนอกอย่าเอ่ยถึงเรื่องแผลนี้เด็ดขาด”
ชีคซาลซาเอลสั่งเสียงเข้ม อุรัสยาปรายตามองต้นแขนซ้ายที่อยู่ภายใต้ชุดกาลาไบยาสีน้ำตาลแล้วก็เห็นว่าทุกอย่างดูปกติ ถ้าเมื่อวานไม่เห็นกับตาว่าพระองค์มีบาดแผลวันนี้เธอก็ดูไม่รู้หรอก ร่วมไปถึงคนอื่นๆ ด้วย
“รู้หรอกค่ะว่าเรื่องนี้มันลับแค่ไหน ไม่อย่างนั้นท่านคงไม่กักตัวฉันไว้หรอกจริงไหมคะ”
“รู้ก็ดีแล้ว จะได้ไม่ปากสว่าง”
คุณหมอสาวย่นจมูกใส่ชีคหนุ่มอย่างหมั่นไส้ ก่อนจะสะบัดหน้าหนีออกไปมองบรรยากาศนอกตัวรถ เห็นแล้วชีคซาลซาเอลก็ได้แต่แย้มพระสรวลขำและทรงคิดไปว่ามันก็น่ารักดี
ร่างบอบบางสมส่วนของคุณหมอสาวที่เดินเคียงคู่กับชีคซาลซาเอลและอิสลัมเข้ามาภายในโรงพยาบาลสามารถเรียกสายตาทั้งจากคนไข้และเหล่าพยาบาลได้เป็นอย่างดี และส่วนมากทุกคนคงจะรู้จักชีคหนุ่มดีว่าเป็นใครจึงต่างพากันลุกขึ้นทำความเคารพและทักทาย ด้วยสีหน้าที่ปลื้มปิติ และชีคซาลซาเอลเองก็ดูไม่ถือตัวพระองค์ทักทายกลับพร้อมถามสารทุกข์สุขดิบดูๆ ไปแล้วพระองค์ก็ไม่ได้แตกต่างจากที่เคยได้ยินอิสลัมพูดเอาไว้เลยว่าพระองค์เป็นชีคที่ใจดีมีเมตตา ยกเว้นกับเธอคนเดียวหรือเปล่าที่พระองค์ดูจะดื้อดึงเอาแต่พระทัย
แม้จะคิดอย่างนั้น แต่ภาพตรงหน้าก็ทำให้เธอรู้สึกอย่างอื่นไปไม่ได้ นอกจากรู้สึกดีถึงดีมากๆ และในระหว่างที่หญิงสาวมองเพลินๆ ก็มีเด็กชายคนหนึ่งร้องไห้งอแงวิ่งมาชนเข้ากับร่างสูงที่กำลังทักทายคนไข้อยู่อย่างจังจนเป็นผลให้ร่างเล็กนั้นล้มก้นจ้ำเบ้า
“ว๊าย! ชาร์มิล”
ผู้เป็นแม่กรีดร้องเสียงหลง แต่เมื่อเห็นหน้าคนที่ลูกชายของตนวิ่งชน นางก็รีบวิ่งไปประคองลูกชายพร้อมทั้งรีบละล้ำละลักขอโทษขอโพยชีคหนุ่มเป็นการใหญ่
“ข้าขอประทานโทษแทนลูกชายหม่อมฉันด้วยเพคะท่านชีค”
ชีคซาลซาเอลทรงไม่เพียงไม่กล่าวโทษ แต่กลับทรุดพระองค์ลงนั่งยองๆ ยกพระหัตถ์ไปโยกศีรษะเล็กของเด็กน้อยที่อยู่ในอ้อมกอดของผู้เป็นแม่ พลางเอ่ยตรัสอย่างเอ็นดูว่า
“เป็นอะไรเราร้องไห้งอแงเชียว”
“กลัวหมอ”
เด็กน้อยบอกเสียงสะอึกสะอื้น มองหน้าชีคหนุ่มสลับกับคนเป็นแม่ ก่อนจะกวาดสายตามองไปที่คนอื่นๆ ที่มองมาอย่างสนใจใคร่รู้ด้วยสายตางงงวย
“กลัวหมอ”
ชีคหนุ่มทวนคำพลางเลิกพระขนงมองใบหน้ากลมที่เปื้อนคราบน้ำตาแล้วทรงพระสรวลเบาๆ ก่อนจะทรงหันไปตรัสถามผู้เป็นแม่ของเด็ก
“พาเด็กมาทำอะไร”
“มาถอนฟันเพคะท่านชีค แต่ก่อนจะถึงคิวมีเด็กคนหนึ่งเข้าไปก่อน และพอออกมาเด็กคนนั้นก็ร้องไห้จ้า ทำให้ลูกของหม่อมฉันเกิดอาการกลัว พอถึงคิวจะพาเข้าไปในห้องถอนฟัน ก็วิ่งหนีมาอย่างที่เห็นนี่แหละเพคะ”
ชีคซาลซาเอลพยักพระพักตร์ ก่อนจะตรัสให้อิสลัมพาอุรัสยาไปรอที่ห้องก่อน ส่วนพระองค์นั้นอาสาจะพาเด็กน้อยเข้าไปในห้องถอนฟันเอง
ตอนแรกเด็กน้อยทำท่าจะไม่ไป แต่พอซาลซาเอลก้มลงกระซิบตรัสบางอย่างเด็กน้อยก็มีสีหน้าลังเลอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะยอมเดินเคียงจูงพระหัตถ์ชีคหนุ่มเข้าห้องทำฟัน โดยมีผู้เป็นแม่ของเด็กน้อยมองตามด้วยสายตาที่ปลาบปลื้มปิติ เพราะนางเองเคยได้ยินชื่อเสียงล่ำลือเรื่องความใจดีมีเมตตาของชีคซาลซาเอลมานาน แต่ก็ไม่เคยได้ประสบพบพานกับตัวเองเลยสักครั้ง พอมาวันนี้ได้ประจักษ์ด้วยตา นางจะไม่มีวันลืมวันนี้เลยชั่วชีวิต และขอปฏิญาณตนว่าจะขอภักดีต่อชีคซาลซาเอลผู้นี้ตลอดไป
ทันทีที่เดินเข้ามาภายในห้องส่วนตัวหรืออีกนัยหนึ่งก็คือห้องทำงานของเจ้าของโรงพยาบาลอย่างชีคซาลซาเอล อุรัสยาที่ดูอัดอั้นอยากจะพูดอะไรสัก แต่ถ้าพูดต่อหน้าคนหมู่มากหรือเดินผ่านไปผ่านมาก็คงไม่ดีสักเท่าไหร่ก็เอ่ยปากขึ้นทันที
“นี่ถ้าฉันไม่เห็นกับตาฉันไม่เชื่อนะคะว่าชีคจอมดื้อดึงเอาแต่ใจอย่างท่านชีคซาลซาเอลจะเป็นชีคที่ใจดีมีเมตตาอย่างที่คุณเคยเอ่ยชม”
ได้ยินอย่างนั้นอิสลัมถึงกับหัวเราะออกมาอย่างชอบใจ
“ชีคใจดีมีเมตตากับทุกคนครับ โดยเฉพาะกับเด็กท่านชีคจะใจดีเป็นพิเศษ คอยดูสิกลับมาท่านชีคต้องสั่งให้ผมไปหาอะไรสักอย่าง หลังจากหลอกล่อให้เด็กคนนั้นเข้าไปถอนฟันเพื่อแลกอะไรสักอย่างที่เด็กคนนั้นชอบ แต่กรณีของคุณหมอผมก็ไม่ทราบเหมือนกันนะครับว่าทำไมท่านชีคถึงกลายมาเป็นคนเอาแต่ใจ ทั้งที่ปกติชอบเป็นฝ่ายเอาใจสาวๆ มากกว่า”
“นั่นสิค่ะหรือฉันเป็นผู้หญิงที่หน้าตาอุบาศก์มากๆ ท่านชีคเลยไม่ปลื้ม สงสัยจะใช่แน่ๆ แต่ก็ดีแล้วละค่ะ ถ้าเกิดปลื้มฉันขึ้นมาแล้วเอาไปเป็นนางในฮาเร็ม ฉันจะต้องแย่แน่ๆ”
อุรัสยาพูดพลางทำสีหน้าประกอบ ทำเอาอิสลัมหัวเราะดังลั่นคับห้องอย่างชอบใจ ผิดกับเจ้าของร่างสูงที่หลังจากพาเด็กเข้าห้องถอนฟัน และได้ใช้ให้คนไปซื้อหุ่นยนต์ให้เด็กหลังออกจาห้องตามสัญญาแล้วก็เปิดประตูเข้ามาพอดีที่จะได้ยินหญิงสาวพูดถึงฮาเร็มของพระองค์
“แล้วคุณรู้ได้ไงว่าผมมีฮาเร็มคุณหมอซุ่มซ่าม”
อุรัสยาหันขวับมามองอย่างตกใจ และพอเห็นใบหน้าที่บึ้งตึงของคนต้นเสียงหญิงสาวก็ยิ้มแหยๆ แต่พอนึกขึ้นมาได้ว่าตอนท้ายชีคหนุ่มเรียกเธอว่าคุณหมอซุ่มซ่ามอีกแล้วจึงตีหน้าเรียบตอบกลับไปว่า
“กะ…ก็ฉันเคยได้ยินมาอย่างนั้นนี่คะว่าชีคเนี่ยจะมีผู้หญิงในฮาเร็มเป็นร้อยเป็นพันๆ คน”
“อย่างนั้นเหรอ งั้นผมจะให้คุณเป็นหนึ่งในนางฮาเร็มเป็นร้อยเป็นพันของผมก็แล้วกัน”
“ไม่ได้นะ! ฉันไม่ยอม ไหนท่านแจ้งกับทางโรงพยาบาลว่าท่านจะจ้างฉันมาเป็นหมอก็เป็นแค่หมอสิคะ ทำไมต้องมาพวกตำแหน่งนางในฮาเร็มให้ฉันด้วย ฉันจะกลับ”
ว่าแล้วคุณหมอสาวก็หุนหันจะเดินออกจากห้อง เดือดร้อนคนกลางอย่างอิสลัมต้องรีบเข้าไปห้าม พลางมองชีคหนุ่มด้วยสายตาคล้ายกับถามว่าทำไมไม่บอกความจริงไปละว่าไม่มีฮาเร็ม แต่ชีคหนุ่มกลับยักพระอังสา อย่างไม่หยี่ระ เพราะได้แกล้งคุณหมอสาววันละนิดจิตของพระองค์ก็แจ่มใส
“ใจเย็นๆ ครับคุณหมอ ไม่มีเรื่องแบบนั้นแน่นอน ตอนนี้ผมว่าเราพาคุณหมอไปชมโรงพยาบาลและไปแนะนำตัวกับคุณหมอและพยาบาลคนอื่นๆ ดีกว่าไหมครับท่านชีค”
“ก็ดี ไปกันเลย”
ชีคซาลซาเอลพยักพระพักตร์เป็นเชิงเรียก ก่อนจะเดินนำออกไป และตามมาด้วยคุณหมอสาวที่ดูเหมือนยังคลางแคลงใจกับการที่ชีคหนุ่มบอกว่าจะเอาเธอไปเป็นนางในฮาเร็มไม่หาย และอิสลัมเองก็สังเกตเห็นจึงบอกความจริงไปเพื่อความสบายใจของหญิงสาว
“คุณหมออย่าถือสาเลยนะครับ ท่านชีคแค่อยากแกล้งคุณเล่นเท่านั้นเอง”
“แกล้งเล่น ถ้าอย่างนั้นฮาเร็ม…”
“ไม่มีหรอกครับ”
สิ้นเสียงอิสลัมคุณหมอสาวถึงกับถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังคงมีเรื่องที่สงสัยอีกเรื่องที่เพิ่งผุดขึ้นมาในหัว
“แล้วทำไมต้องแกล้งกันด้วยนะ”
“เรื่องนั้นผมว่ารบกวนคุณหมอไปถามท่านชีคเองดีกว่าไหมครับ”
อิสลัมบอกยิ้มๆ และนั่นทำให้อุรัสยาทำตาโต เพราะเพิ่งรู้ว่าตัวเองว่าหลุดปากพูดในสิ่งที่คิดออกมาโดยไม่รู้ตัว เธอหันมายิ้มเก้อเขินให้คนสนิทของชีคหนุ่ม ก่อนจะรีบกึ่งเดินกึ่งวิ่งตามร่างสูงใหญ่ที่เดินดุ่มๆ อย่างไม่คิดจะรอใคร
ขณะที่อิสลัมได้แต่มองตามคนทั้งคู่แล้วส่ายหน้า ตอนนี้เขาไม่สามารถคาดเดาได้ว่าชีคซาลซาเอลจะเอาอย่างไรกับคุณหมอสาว รู้เพียงว่าชีคสนใจเธอเป็นพิเศษ และนั่นก็ถือเป็นนิมิตหมายอันดี เพราะตั้งแต่รู้จักและทำงานด้วยกันมาท่านชีคไม่เคยเป็นอย่างนี้กับผู้หญิงคนไหนเลย
อุรัสยาเดินชมโรงพยาบาลโดยมีไกด์กิตติมศักดิ์เป็นคนคอยแนะนำไปจนรอบพื้นที่กว้างขวาง ถึงตอนนี้นี่เองหญิงสาวจึงได้รู้ว่าโรงพยาบาลแห่งนี้ค่อนข้างจะทันสมัยเอามากๆ เครื่องมือเครื่องไม้ครบครันจะขาดก็แต่บุคลากรเท่านั้น แต่คงไม่นานทุกอย่างที่นี่จะครบสมบูรณ์เพราะชีคซาลซาเอลบอกว่าพระองค์กำลังติดต่อขอซื้อตัวคุณหมอมือดีจากหลายประเทศเพื่อให้มาทำงานที่นี่ แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่แน่ว่าที่ติดต่อซื้อตัวไปจะมาทำงานที่นี่กันทุกคนหรือเปล่า
และหลังจากชมโรงพยาบาลจนสามารถรู้ได้ว่าห้องไหนคือห้องไหน ช่วงเวลาต่อจากนั้นชีคซาลซาเอลจึงพาเธอไปแนะนำทำความรู้จักกับคุณหมอและคนอื่นๆ จนเกือบครบ จะเหลือก็แต่คุณหมอการิบและทีมผ่าตัด ที่กำลังจะเตรียมตัวเข้าทำการผ่าตัด แต่ชีคซาลซาเอลก็ขอเวลาเล็กน้อยเพื่อให้ทุกคนได้รู้จักคุณหมอสาวคนใหม่
“คุณหมอการิบและทุกคน นี่คือคุณหมอคนใหม่ คุณหมออุรัสยา ชื่อเรียกยากไปหน่อยนะ คุณหมอฝีมือดีจากเมืองไทย”