แสร้งว่า
“คุณหนูตระกูลจ้าวไม่อาจดูแคลน ขันทีข้างกายฝ่าบาท บอกว่าถุงหอมของเจ้าฝ่าบาทต้องการอีกมากหน่อย ข้าในฐานะฮองเฮาจึงอาสาทำถุงหอมด้วยการช่วยเหลือของเจ้า เพื่อถวายฝ่าบาท และเพื่อเป็นการไม่รบกวนการคัดตัวนางในของเจ้า ข้าจึงแค่เพียงต้องการให้เจ้าบอก รายชื่อสมุนไพรในถุงหอมมาให้กับข้าเพื่อจะได้ทำถุงหอมถวายฝ่าบาท”
“จื่อหรานยินดี”
จื่อหรานยิ้มหวาน ตวัดพู่กันรายชื่อสมุนไพรในถุงเครื่องหอม แต่มีหนึ่งรายชื่อที่ไม่ถูกเขียนลงไป ยื่นส่งกระดาษในมือให้นางกำนัล
ฮองเฮายิ้มหยิบเหรียญทองส่งให้จื่อหรานก่อนจะโบกมือให้ออกไป
“ฝ่าบาท เคยเห็นหน้านางหรือยัง”ถามนางกำนัลข้างกาย
“ฝ่าบาทให้ฉีกงกงตรวจสอบนาง”
“เจ้าว่าฝ่าบาทจะโปรดปรานนางหรือไม่”
“ฝ่าบาทแต่เดิม ไม่มีสายตามองใครอยู่แล้วนับวันยิ่งเฉยชาไม่สนใจหญิงใด”นางกำนัลข้างกายยิ้มบางๆ
“จริงของเจ้า คนตายไปแล้วกับคนใกล้ตายเช่นไรถึงจะเป็นที่โปรดปรานได้อีก”
ตำหนักฮ่องเต้
“ฝ่าบาท ถุงเครื่องหอมใบนั้นคงถูกใจฝ่าบาทไม่น้อย”ฉีกงกงเอ่ยปากเมื่อเห็นว่าโจวเหวินหรงเพิ่งจะตื่นนอน
“นำไปเผาทิ้งเสีย ถุงหอมเช่นไรจึง ทำให้เกิดอาการง่วงงุน”ฉีกงกงรีบหยิบถุงหอมส่งให้นางกำนัลนำไปทำลาย
“เรียกกวงซีหมิง” ฉีกงกงประสานมือ
เพียงครู่เดียวเกาซีหมิงองครักษ์หนุ่มก็มายืนประสานมือตรงหน้า
“กวงซีหมิง ถวายพระพรฝ่าบาท”โบกมือให้ฉีกงกงออกไป
“ให้ซีหมิงดูแลข้า”ฉีกงกงถอยออกไปปิดประตูลงเบาๆ
“เรื่องที่ให้ไปสืบ”เกาซีหมิงขยับเข้าไปใกล้
พูดเบาๆ
“ตระกูลจู นางคือคุณหนูตระกูลจู จูจื่อหรานใต้เท้าจ้าวจงใจส่งนางเข้าวัง” โจวเหวินหรงยิ้มดวงตาเป็นประกาย ในที่สุดบุตรีของอาจารย์ยังอยู่นางไม่ได้ถุกฆ่าล้างครัวเหมือนที่รู้ๆกัน
“อารักขานาง”
“ฝ่าบาท ข้าข้อยพยายามอย่างที่สุด เมื่อคืนก่อนหน้านั้นมือสังหารจงใจเข้าสังหารนางแต่ นางย้ายห้องนอนเสียก่อน ข้าพระองค์เองก็สังหารมือสังหาร และเก็บกวาดเรียบร้อย”
“เกรงว่า จะปกป้องนางมิใช่เรื่องง่าย”
“นางเข้าใจว่าเป็นฝ่าบาท ที่สั่งการทั้งหมด”
“ดีแล้ว ศัตรูของนางยากจะต่อกร ใต้เท้าจูเป็นทั้งอาจารย์และคนที่ภักดีกับข้าเกินกว่าจะละเลย ทว่าการที่ทำให้คนอื่นคิดว่านางตายไปพร้อมกับกองเถ้าถ่านของตระกูลจูนับว่าดีไม่น้อย”กวงซีหมิงถอนใจ
“ราชครู หวงซู่วางยังไม่รามือตอนที่ทุกอย่างอยู่ในมือเขาแล้วมีเพียงบัลลังก์เท่านั้น ที่ยังมีฝ่าบาทนั่งอยู่”โจวเหวินหรงเป็นฝ่ายถอนหายใจบ้าง
“หากนางแค้นเคืองข้าจนถึงกับเผยตัวตนออกมายิ่งอันตราย ถุงหอมของนางสื่อความนัยต่อไปต้องควบคุมนางให้อยู่ในที่ที่ควรอยู่”
“ฝ่าบาทห่วงใยนางเพียงนี้เชียวหรือ”
“ข้าเพียงแค่อยาก ทำสิ่งใดที่เป็นการไถ่โทษกับใต้เท้าจูบ้างก็เท่านั้นเองในเมื่อเรามักจะช้าไปก้าวหนึ่งเสมอ ครั้งนี้อย่าให้สายไปอีก ข้าวางใจเจ้ากวงซีหมิง”
“ฮุ่ยหนิงเจ้าคิดว่า ฮ่องเต้ชั่วผู้นั้นจะรู้ฐานะของข้าหรือไม่”ฮุ่ยหนิงสะดุ้งกับคำว่าฮ่องเต้ชั่วจื่อหรานอยู่ๆ ก็เอ่ยปากถามฮุ่ยหนิงที่ กำลังพับผ้าและเตรียมแท่นนอนให้จื่อหรานสำหรับคืนนี้
“การคัดตัวนางใน เป็นเรื่องที่เข้มงวดรอบคอบมาก ภูมิหลังของทุกคนจะโดนสืบจนละเอียดถี่ถ้วน อยู่ที่ใต้เท้าจ้าวว่าจะทำทุกอย่างได้แนบเนียนขนาดไหนจะตบตาที่มาที่ไปของคุณหนูได้ดีแค่ไหน”
“ท่านลุง รับปากให้ข้าเข้าวังแน่นอนว่าต้องมีการเตรียมการที่ดีไม่เช่นนั้นเป็นท่านลุงเองที่จะติดร่างแหไปด้วย”
“คุณหนูเองก็ต้องระวังตัวให้มากการเป็นที่จับตามอง มักจะส่งผลเสียหากโปรดปรานยิ่งแย่เข้าไปใหญ่”
“จื่อหราน เดิมทีคิดว่าจะเป็นม้ามืดมาบัดนี้ฝ่าบาทรับสั่งให้นำถุงหอมของเจ้าไปเผาทำลายเพราะสมุนไพรในถุงหอมทำให้ฝ่าบาทไร้เรี่ยวแรงและง่วงงุน”
หนึ่งในผู้คัดตัวนางในคนหนึ่งคาบเอาเรื่องที่ได้ยินมาถากถาง จื่อหรานถึงในห้องพัก
“เห็นทีข้าจะอ่อนด้อยเรื่องการผสมสมุนไพรในถุงหอม คงต้องฝึกปรืออีกนาน”
“ เจ้าเป็นคนต่างแคว้นคงยังไม่รู้อะไร ฝ่าบาทแต่เดิมชอบสีฟ้าครามที่สุด คงจะเห็นถุงหอมของเจ้าสีฟ้าครามถูกใจ แต่กลิ่นของถุงหอม ฝ่าบาทไม่ทรงโปรดทำใจเสียเถอะ คนที่จะครองใจฝ่าบาทคงหายากเย็นดั่งงมเข็มในมหาสมุทร”อีกคนพูดเหมือนจะปลอบใจก่อนจะเดินจากไปเมื่อจื่อหรานไม่เป็นที่น่าสนใจและน่าริษยาอีกต่อไป
จื่อหรานขมวดคิ้ว สมุนไพรที่ผสมไปนั้นทำให้รู้สึกสดชื่น และผ่อนคลายนอนหลับสบายตื่นขึ้นมายิ่งเพิ่มกำลังวังชา ไม่เข้าใจว่าโจวเหวินหรง ให้เผาทำลายทำไมกันหรือจะเป็นเพราะไม่ชอบลวดลายที่จือหรานปักลงไป หรืออาจจะเข้าใจความนัยของลวดลายนั้นได้จึงขู่จื่อหรานกลายๆช่างร้ายนัก หากจะรู้ว่าจื่อหรานเป็นใครหรือแค่ระแคะระคายก็คงสั่งประหารไปเสียแล้ว เหมือนที่เคยทำกับตระกูลจู