ลำนำ เดียวดาย

59.0K · จบแล้ว
จันทร์ส่องแสง
46
บท
5.0K
ยอดวิว
8.0
การให้คะแนน

บทย่อ

บุตรีของขุนนางกบฏ เพื่อคืนความเป็นธรรมให้บิดาแทนที่จะหนีไปไกลแสนไกลกลับพาตัวเองมาผูกพัน กับคนที่เป็นศัตรู แค้นฆ่าพ่อจือหรานจะสามารถทวงความเป็นธรรมให้บิดาได้หรือไม่ ..พบกับความรักความแค้นที่ฝั่งแน่น

นิยายจีนโบราณฮ่องเต้พลิกชีวิตแก้แค้นกลอุบายในวังวังหลังจีนโบราณดราม่ารักหวานๆ

ปฐมบท

ควันไปลอยอ้อยอิ่ง อยู่บนกองเถ้าถ่านเศษไม้เศษซากของบ้านตระกูลจู ที่ถูกเผาจนเหลือเพียงเถ้าถ่าน จูจื่อหรานชันเข่าทอดอาลัยต่อสิ่งที่เห็น น้ำตาเพิ่งจะเหือดแห้งไป สาวใช้ข้างกายลากตัวจูจื่อหรานออกจากตระกูลจู ที่บัดนี้ขึ้นชื่อว่าเป็นกบฏไปเสียแล้วการประหารในทันทีจึงไม่อาจรีรอ สาวใช้จับตัวจูจื่อหรานเปลี่ยนเครื่องแต่งกายเป็นชาวบ้าน ทั้งๆ ที่กำลังร้องไห้ฟูมฟายเมื่อภาพตรงหน้าคือมารดาที่ถูกกระบี่เสียบเข้ายอดอกจนทะลุ

“กรี๊ด ท่านแม่ ท่านแม่ ท่านแม่" ถูกลากถูลู่ถูกังออกมาจากตรงนั้นจากภาพบาดตาไม่มีคำสั่งเสียและอำลาแม้แต่คำเดียว

“ฝ่าบาทบัญชาให้ประหารทุกคนในตระกูลอย่าให้เหลือรอดแม้แต่คนเดียว”เสียงองครักษ์เกราะทองที่มีเพื่อฆ่าล้างตระกูลจูออกคำสั่ง

สาวใช้นางหนึ่งยอมสละชีพแทนจูจื่อหราน สวมอาภรณ์ของจูจื่อหรานหลอกล่อพวกทหารไปเสียอีกทางก่อนจะโดนฆ่าตายในทันทีเช่นนั้นยคถุณหนูบ้านจูจูจื่อหรานจึงตายไปเสียแล้ว

“คุณหนู หนีไปเถิด อย่า รั้งอยู่ที่นี่เลยมันอันตรายไม่น้อย”ฮุ่ยหนิงที่เติบโตมาพร้อมกันกล่าวออกมาด้วยความห่วงใยในเมื่อทุกคนตายแล้วทางเดียวที่ทำได้ตอนนี้คือหนีไปเสีย

“ฮุ่ยหนิงปล่อยข้าไว้ที่นี่เถิดเจ้าหนีไปเสีย” สาวใช้ส่ายหน้าไปมา

"มีชีวิตอยู่เท่านั้น นายท่านสั่งฮุ่ยหนิงว่าให้คุณหนูมีชีวิตอยู่ จะต้องเป็นอย่างคำของนายท่านนายท่านสั่งเสียเช่นนั้นคุณหนูกลฃ้าขัด”ปาดน้ำตา ที่ไหลอาบแก้ม

“ อย่างนั้นให้ข้าได้พบท่านแม่กับท่านพ่ออีกสักครั้ง ข้าอยากกล่าวลาพวกเขาก่อนที่จะไม่ได้พบกันอีก”สาวใช้พยุงให้ลุกขึ้น เนื้อตัวผมเผ้ารุงรัง ไม่น่ามองอีกทั้งอาภรณ์ที่สวมใส่ก็ขาดวิ่นไร้ราศี

เสียงฝีเท้าม้าควบตะบึงมาแต่ไกล

“ฝ่าบาท ระวังขอรับที่นี่ไม่ปลอดภัย”

เสียงตะโกนตามหลังมา ฮุ่ยหนิงรีบกดศีรษะของจื่อหรานให้หมอบลงกับเศษซากของบ้านที่ถูกเผาราบ ฝีเท้าม้าหยุดลง ไม่ไกลนัก

“ไม่ทัน เรามาไม่ทัน”

น้ำเสียงเศร้าสร้อย เสียงฝีเท้าม้าจากไปจูจื่อหราน ลุยกองเถ้าถ่านหาร่างไร้วิญญาณของบิดาและมารดา ไม่มีอะไรเหลือล้วนเป็นจุณไปเสียแล้ว

ทุกอย่างเงียบหายไปราวกับสายลม

หลายเดืนต่อมา

จื่อหรานยืนแหงนหน้ามองประตูวังหลวงที่สูงตระหง่าน ฮุ่ยหนิงยืนอยู่ข้างๆสุดลมหายใจเข้าลึกๆที่ผ่านมาได้ทุกวันเพื่อรอวันนี้วันที่จะได้มายืนอยู่ตรงนี้

“คุณหนูแน่ใจแล้วหรือเจ้าค่ะ”

“แน่ใจเป็นเพียงวิธีเดียวที่จะคืนความเป็นธรรมให้ตระกูลจูอีกทั้งยังเป็นที่ที่ข้าจะมีชีวิตรอดอย่างที่ท่านพ่อต้องการ แต่มิใช่แค่มีชีวิตรอดอย่างเดียวจะต้องทวงความเป้นธรรมคืนให้ตระกูลจู” ทหารยืนอารักขาหน้าประตู จื่อหรานก้าวขาไปข้างหน้าอย่างมั่นคงไร้ซึ่งความกลัวต่อจากนี้จะต้องอาศัยความกล้าทเท่านั้น

“คุณหนูมาจากตระกูลใดกัน”เสียงขันทีคัดกรองจากหน้าประตูวังถามขึ้น

จื่อหรานหยิบตราประจำตระกูลของตระกูลจ้าวส่งให้ขันที

ก่อนหน้านั้น

“ท่านลุงจื่อหราน ขอร้องท่านรับรองจื่อหรานในฐานะคนของตระกูล เห็นแก่ความสัมพันธ์เก่าก่อนด้วยเถิด”ใต้เท้าจ้าวลูบเครายาวขึ้นลง

“จื่อหรานไม่มีสิ่งใดทำลายความสัมพันธ์ของเราสองตระกูล นับจากนี้เป็นตายไม่หวั่นนี่คือตราของตระกูลจ้าว บอกพวกเขาว่าเจ้าเป็นหลานของใต้เท้าจ้าว เพิ่งเดินทางมาจากแคว้นเหลียงนามจ้าวจื่อหราน”

จื่อหรานคุกเข่าลงกับพื้นซ่อนหยาดน้ำตาไว้จนมิดต่อไปนี้ไม่มีแล้วหยาดน้ำตาที่จะไหลรินออกมาให้ใครเห็น ลุงจ้าสวไม่ถามสักคำว่าจื่อหรานจะเข้าไปทำไมในวังหลวงหากทิ้งความสงสัยไว้แค่นั้น

“เข้าไปได้ ใต้เท้าจ้าวให้คนส่งข่าวแล้วว่าคุณหนูจะมา สาวใช้ให้ตามได้อย่างน้อยสองคนคุณหนูต้องการเพิ่มจำนวนสาวใช้หรือไม่”

จื่อหรานส่ายหน้าร่างบางระหงเชิดตัวตรง ก้าวเดินด้วยท่าทีมั่นคง ไม่ว่อกแว่กต่อจากนี้เป็นตายไม่หวั่นเพื่อทวงความเป็นธรรมและแก้แค้น

“เพล้ง”ฮ่องเต้โจวเหวินหรง ปาจอกชาลงตรงหน้าเสียงดังสนั่นขันทีรีบคุกเข่าตัวสั่นเทา

“ชาเย็นชืดเช่นนี้ เจ้าเอาไว้ดื่มเอง”

ขันทีนางในวิ่งจนแทบจะชนกันก้าวเท้าออกมาหน้าตำหนักใหญ่ ใบหน้าเฉยชาไม่แสดงอารมณ์ทั้งๆ ที่เพิ่งจะระเบิดอารมณ์ออกมา

เบื้องล่างบันไดลงไปชั้นล่างสุดบนลานกว้าง บรรดาผู้ที่สมัครเข้ามาคัดตัวเป็นนางในปีนี้รวมทั้งจื่อหรานเดินผ่าน เป็นแถวยาว

“นางคือใคร ไปสืบมา”ชี้มือไปยัง จื่อหราน ขันทีมองตามมือ ก่อนจะประสานมือไม่มีทีท่าว่าจะถามว่าเพราะอะไรใครกล้าสงสัยกัน

ที่พำนักของเหล่าผู้คัดตัวนางใน

“คุณหนู คืนนี้นอนพักเอาแรงเสียหน่อยพรุ่งนี้คงต้องพบกับบทเรียนมากมาย”ฮุ่ยหนิงปัดกวาดแท่นนอนให้จนสะอาดสะอ้าน

ยังไปทันจะหย่อนกายลงไป ร่างอรชรของใครอีกคนก็ทิ้งตัวลงนอนบนแท่นนอนทันที

“นี่มันที่นอนของข้า เจ้า ไม่รู้หรือไร”จื่อหรานขมวดคิ้ว

“ข้ามาถึงก่อนและจับจองห้องนี้ไว้ก่อน”

“ใครบอกเจ้าเช่นนั้นห้องนี้ทำเลดีที่สุดสามารถออกไปเข้าแถวได้เร็วกว่าผู้ใด เจ้ารู้ไหมข้าคือน้องสาวของตี่กุ้ยเหรินปีนี้อายุครบคัดตัวนางใน เจ้าคงไม่เกรงใจไม่ได้เสียแล้ว”