บทที่ 5 คุณหมอเปิดศึก
เช้าวันต่อมา
“วันนี้คนไข้เป็นอย่างไรบ้างครับ” ใบหน้าหล่อเหลาจมูกโด่งเป็นสันได้รูป ที่กำลังตรวจดูอาการ สายตาคมมองผ่านเลนส์แว่นที่ดูแล้วเข้ากับใบหน้าเรียวที่สุด
“หายดีแล้วค่ะหมอ….เมื่อไหร่จะได้กลับสักที” ตะวันเธอเบื่อกับการนอนในห้องสี่เหลี่ยมและอยากออกไปทำงานแล้ว สายตาดุจึงมองไปที่ใบหน้าหวานและหันไปมองที่สายน้ำเกลือที่มันไหลย้อนจนเห็นเลือดไหลขึ้นมา
“นี่คนไข้ในฐานะหมอคนไข้ต้องรับยาให้ครบและต้องรักษาตัวอีก หนึ่งวัน” ขายาว ๆ ก้าวไปใกล้ถุงน้ำเกลือและมือหนายกมือบางขึ้นมา พร้อมกับแกะพลาสเตอร์ที่ปิดท่อต่อสายน้ำเกลือแล้วจัดการใช้เข็มเจาะเข้าไปใหม่อย่างชำนาญ
“หมอเบา ๆ ตะวันเจ็บ” ตะวันที่ปากกล้าแต่เธอกลัวเข็มที่สุดใบหน้าหวานหลับตาปี๋และร้อง
“ฮืออออ! อย่าหมอ” ตะวันที่กลัวจึงดึงมือกลับ
“คุณพยาบาลจับคนไข้ไว้”
“ค่ะ!” อาจารย์หมอหงุดหงิดและไม่คิดว่าคนร่างบางจะกลัวเข็มขนาดนี้
“คนไข้หมอสัญญาว่าจะทำเบาที่สุดนะครับ กรุณาอยู่นิ่ง ๆ และเชื่อใจหมอ” ใบหน้าหล่อที่กำลังปฏิบัติหน้าที่ เอาจริง ๆ เวลาที่อาจารย์หมอพูดจาอ่อนโยนสุภาพยิ่งทำให้หมอนั้นดูดีและอบอุ่นมาก
“เสร็จแล้วครับคนไข้อย่าดิ้นเยอะนะ เดี๋ยวสายน้ำเกลือจะหลุดอีก” เธอลืมตาขึ้นมามองดูหลังมือที่ตอนนี้มีพลาสเตอร์แปะอยู่และเสร็จเรียบร้อย ไม่น่าเชื่อว่าเธอแทบจะไม่รู้สึกเจ็บแค่เพียงเย็น ๆ แอลกอฮอล์เช็ดแผลเท่านั้น
“ขอบคุณค่ะ!” ใบหน้าสวยกัดริมฝีปากเม้มจนเป็นเส้นตรงและเธอทึ่งในความสามารถของหมอเขื่อน
“เป็นเด็กดีนะครับ…คนไข้อย่าดิ้นอย่าซนถ้าสายน้ำเกลือหลุดอีก จะให้พยาบาลเป็นคนเจาะแทน” ปากหยักได้รูปยิ้มสายตาที่มองคนร่างบางผ่านแว่นนั้นสดใสและเปี่ยมไปด้วยความอบอุ่น ตะวันถึงกับหน้าแดงเพราะรู้สึกเขินขึ้นมาทันที
“วันนี้หมอมาแปลกพูดจาอะไรก็แปลก ๆ เมื่อวานดุอย่างกับเสือสงสัยวันนี้ออกเวรเร็ว” ตะวันคิดในใจและเธอรู้สึกดีไม่น้อยกับการดูแลเอาใจใส่คนไข้ของอาจารย์หมอสุดหล่อ หลังจากอาจารย์หมอเดินจากไปพร้อมกับพยาบาลสาว
“เอ๊ะ! พี่หมอเค้ากำลังอ่อยแกรึเปล่าอีตะวัน…” พลอยใสเธอยืนยิ้มและดูทุกการกระทำของอาจารย์หมอ
“บ้า….มึงก็คิดอะไรได้เรื่อยเปื่อยเน๊าะ พี่เขื่อนเนี่ยนะจะอ่อยกูเค้าคงทำแบบนี้กับคนไข้ทุกคนแหล่ะ” ตะวันที่ปากบอกว่าอาจารย์หมอไม่หยอดเธอแต่ในใจนั้น แอบเขินจนแทบอยากจะกรี๊ดลั่นโรงพยาบาล
“กระแดะอีตะวัน กูรู้นะว่ามึงคิดอะไรอยู่” พลอยใสที่รู้ใจรู้ไส้รู้พุงตะวันทุกอย่างหมั่นไส้เพื่อนสาวที่ปากไม่ตรงกับใจ
@ร้านอาหารในโรงพยาบาล
“พี่หมอมีข่าวดีอะไรรึเปล่า ทำไมวันนี้ดูอารมณ์ดียิ้มคนเดียวนี่พี่บอกผมหน่อยสิ” หมอภูสงสัยหมอเขื่อนที่วันนี้เขาดูอารมณ์ดีแปลก ๆ และที่สำคัญหมอภูยังไม่โดนหมอเขื่อนด่าสักคำ
“เปล่า…ก็แค่คิดถึงเรื่องอะไรเก่า ๆ น่ะ” หมอเขื่อนกินข้าวไปยิ้มไปจนหมอภูสยอง
“นี่พี่หมอรึว่าพี่โรคเก่ากำเริบ” หมอภูกระซิบที่หูหมอเขื่อนเบา ๆ
“เฮ้ยย! ไอ้หมอภูกูรักษาหายมาเป็นสิบปีแล้ว” หมอเขื่อนถึงกับตาขวางใส่หมอภูและอมยิ้ม
“ขอโทษคร๊าบ!…ผมแค่ล้อเล่นว่าแต่คนไข้คนสวย ๆ ที่พี่ดูอยู่ผมจำได้แล้วว่าเธอคือใคร” หมอภูเขาจำตะวันได้จากที่ได้เห็นเธอชัด ๆ ในวันนั้น เพราะทั้งสามคนเรียนที่เดียวกัน
“สมองช้าเนาะมึงน่ะ” หมอเขื่อนกระตุกยิ้มเบา ๆ
“ฮั่นแน่! ผมว่าแล้วเชียวน้องตะวันคนสวยที่ไปสารภาพรักกับพี่ตอนมัธยม” หมอภูถึงกับคิดไม่ถึงว่าหมอเขื่อนจะจำเธอได้ก่อนเขา
“เรื่องสมัยเด็ก ๆ มึงนี่ก็คิดเป็นตุเป็นตะอย่างยัยผมหน้าม้านั่น ทั้งเปรี้ยวทั้งใจกล้าแถมตอนนี้ก็ดูโตขึ้นคงจะแต่งงานมีลูกมีเต้าไปแล้ว” หมอเขื่อนเขาคิดว่าตะวันเธอมีแฟนและมีครอบครัวไปแล้ว เพราะวัยของเธอนั้นก็ควรจะเป็นเช่นนั้นอีกทั้งตะวันเธอก็ดูสวยสะพรั่งมีความเพียบพร้อมทุกด้าน
“เฮ้ยยย! อย่าพึ่งตัดสิน ไม่แน่น้องตะวันอาจจะยังไม่มีใครถ้าจริงก็เข้าทางผมพอดีพี่หมอภูน้องตะวัน” หมอภูยิ้มสายตาเป็นประกายเมื่อพูดถึงตะวัน เขาก็โสดและแอบเล็งเธอไว้เหมือนกัน
“ชิ!…ไอ้หมอกะล่อน” หมอเขื่อนชักสีหน้าใส่หมอภูอย่างไม่รู้ตัว
“นี่พี่เราสลับคนไข้กัน พรุ่งนี้ผมจะเป็นเจ้าของไข้น้องตะวันเองนะพี่นะ” หมอภูอ้อนหมอเขื่อนเขาอยากจะใกล้ชิดกับตะวันบ้าง
“เฮ้ยย! จะบ้ารึไงกูเป็นแพทย์เจ้าของไข้ตั้งแต่แรกต้องรับผิดชอบให้เสร็จสิ” หมอเขื่อนเริ่มจะอารมณ์เสียและไม่พอใจกับข้อเสนอของหมอภู
“เชอะ! ไม่รู้แหละถ้าพี่ชอบน้องเค้าทำไมตอนนั้นถึงปฏิเสธเธอไป แล้วตอนนี้น้องเค้ากลับมาและสวยขึ้นพี่มาเสียดายอะไรตอนนี้” หมอภูเค้าดูอาการหมอเขื่อนออกที่คอยสกัดเขาไม่ให้ใกล้ตะวัน
“มึงจะรู้มากไปแล้วนะ ไอ้หมอภู” หมอเขื่อนหงุดหงิดที่หมอภูอ่านใจเขาออกไม่แปลกที่หมอภูจะรู้ใจเขาขนาดนี้ เพราะทั้งคู่สนิทสนมกันมาก
“หึ! หวงก้างไม่รู้แหละผมจะจีบน้องตะวัน พี่อย่ามายุ่งใครดีใครได้ก็แล้วกัน” หมอภูเขาก็ไม่ยอมแพ้หมอเขื่อนเช่นกันสองหมอกำลังเปิดศึกหัวใจด้วยกันทั้งคู่
“ชิ! ไอ้ภู” หมอเขื่อนกระตุกยิ้มร้ายและกอดอกมองไปที่หมอภูอย่างท้าทาย
“ได้…พี่หมอถ้าผมแพ้พี่นะผมสัญญาเลยว่าจะเลิกเจ้าชู้” หมอภูเขามั่นใจเพราะเขาก็มีดีพอและหล่อเหลาไม่แพ้หมอเขื่อนเช่นกัน ถ้าเค้าจีบสาวไม่ว่าจะคนไหนนางแบบดาราเค้าก็เคยควงมาแล้วทั้งนั้นแค่ตะวันเขาคงไม่พลาด
วันนี้เป็นวันสุดท้ายตะวันหลังจากตรวจร่างกายแล้วรับยาเสร็จ เธอจึงรีบเคลียค่ารักษาพยาบาลแล้วเตรียมตัวกลับคอนโดโดยมีพลอยช่วยเป็นธุระ
“คนไข้มีนัดตรวจร่างกายกับอาจารย์หมออัครินทร์ อีกทีสัปดาห์หน้านะคะนี่ใบนัดค่ะ” มือบางหยิบใบนัดขึ้นมาดูพร้อมกับเดินออกจากโรงพยาบาล
“ช่วยหลีกทางหน่อยครับๆ”
บุรุษพยาบาลหนุ่มที่กำลังเข็นเตียงจากรถพยาบาลลงมาและมีอาจารย์หมอเขื่อนกำลังขึ้นคร่อมทำ CPR ปั๊มหัวใจนั้น ชุดกาวน์สีขาวสวมถุงมือเปรอะไปด้วยเลือดสีแดงเต็มตัว คนไข้ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์มีสามคนซึ่งแพทย์แต่ละคนนั้นกำลังวุ่นวาย และรักษาอาการอย่างชุลมุน ตะวันและเพื่อนสาวมองดูหมอเขื่อนที่ตั้งใจรักษาชีวิตคนป่วยอย่างสุดกำลังสายตาของหมอเขื่อนนั้นเปี่ยมไปด้วยความหวังและความเมตตา มันดูเท่และอบอุ่นหัวใจอย่างบอกไม่ถูกที่หมอคนหนึ่งจะช่วยชีวิตคนเจ็บไว้อย่างไม่รีรอเมื่อเตียงคนเจ็บถูกเข็นมาใกล้ และหมอเขื่อนก็ขึ้นคร่อมอยู่บนนั้นสายตาก็เหลือบมองมาที่ร่างบางพอดีทั้งคู่สบตากัน ใบหน้าหล่อเหลาที่เปื้อนเลือดและมีเหงื่อซึมมองดูคนสวยร่างบางที่คุ้นตาและพยักหน้าให้เธอผ่านเข้าห้องฉุกเฉินไป
“ตะวัน พี่หมอเค้าเท่ชะมัด” พลอยใสเธอก็ตกใจกับภาพที่เห็นและยืนดูกับตะวัน
“อาชีพหมอนั้นทำงานหนักจริง ๆ พี่เขื่อนเขาเหมาะกับชุดกาวน์มากเลย” ตะวันถึงกับเอ่ยชมหมอเขื่อนและปลื้มใจกับภาพที่เห็น
“นั่นนะสิทำงานรักษาชีวิตคนอื่นอยู่กับความเจ็บป่วยความตายทุกวัน ต้องเสียสละมากมายขนาดไหน” พลอยใสเธอหดหู่กับภาพที่เห็นและเหตุการณ์นาทีชีวิตที่เกิดขึ้นตรงหน้า
@คอนโดหรู
หลังจากแยกย้ายกับเพื่อนสาวตะวันก็ได้แวะซื้อของที่ห้างสรรพสินค้าเข้าตู้เย็น และทำความสะอาดห้องชั้นที่เธออยู่นั้นเป็นชั้นบนสุดและราคาแพงที่สุดจะมีเพียงไม่กี่ห้องเท่านั้นจึงเงียบสงบและเป็นส่วนตัวที่สุด พรุ่งนี้เธอก็จะไปทำงานเพราะลาป่วยมาหลายวันอีกทั้งต้องไปเคลียเอกสารต่าง ๆ อีกมากมายตอนนี้เวลาก็ผ่านมาเกือบจะเที่ยงคืนจึงได้รีบอาบน้ำและเข้านอน เธอแปลกใจที่มองไประเบียงข้าง ๆ ห้องมีแสงไฟเปิดอยู่เพราะปกติข้างห้องเธอจะว่างไม่มีคนเช่าจึงได้รู้ว่าเธอมีเพื่อนบ้านใหม่แล้ว