บทที่ 7
ตั้งแต่เกิดจนถึงตอนนี้ ฌอนพบเจอกับการใช้ความรุนแรงจบปัญหามานักต่อนัก เขาเคยทั้งเป็นผู้กระทำ ผู้ถูกกระทำ และผู้เฝ้ามอง ด้วยบุคลิกท่าทาง และใบหน้าของเขา ทำให้คนเข้าใจผิดว่าเป็นพวกชอบต่อยตีมาแต่ไหนแต่ไร
ทั้งๆที่ความจริงแล้ว เขาไม่ได้อยากข้องเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้เลยแม้แต่น้อย เมื่อเขาเติบโตมากพอที่จะรู้จักควบคุมอารมณ์ตัวเอง เขาก็มักจะเลือกวิธีเอาตัวรอดที่ยอดฮิตที่สุด
ฌอน ถอยมายืนหน้าประตูร้านพลางผายมือเชิญกลุ่มคนเหล่านั้นให้เดินไปตามทางต่อ สีหน้าของเขาฉายชัดเจนว่า ‘อย่ามายุ่งกับตรูเลย’ ฌอนส่งยิ้มการค้าให้คนกลุ่มนั้น เขาคิดเพียงว่าอะไรที่ยอมได้ก็ยอมไปก่อน
เพื่อกันไม่ให้เกิดเรื่องวุ่นวายตามมา และคิดว่ากลุ่มชายนักกล้ามตรงหน้าจะยอมปล่อยผ่าน ซึ่งฌอนก็คิดถูก ชายกล้ามปูเหล่านั้นละความสนใจจากฌอนไป แต่หนุ่มน้อยกลางวงล้อมนั้นไม่
“คุกเข่าลง แล้วคลานมาขออภัยข้า”
หนุ่มน้อยพูดอย่างเอาแต่ใจ น้ำเสียงเย่อหยิ่งและแววตาดูถูกที่หนุ่มน้อยส่งมายังฌอน ทำให้เขายิ้มค้าง ร่างกายแข็งทื่อ
‘ไอ่เด็กเวรนี่! ดเพถ%$@’ ฌอนสบถด่าภายในใจอย่างบ้าคลั่ง แต่ภายนอกกลับยังนิ่งค้างอยู่ในบริบทเดิม
“ไม่ได้ยินที่ท่านชายดิออนสั่งรึไง!”
เหล่าองครักษ์ เมื่อได้ยินคำสั่งของเจ้านายตน ก็หันกลับมากดดันฌอนอีกครั้ง ยิ่งเห็นว่าเขายืนนิ่งเฉย ก็ยิ่งตะโกนย้ำออกมาอย่างดุดัน
ฌอนได้ฟังถึงกับสะดุ้ง เหงื่อตกอยู่ภายในใจ
‘ตะโกนหาพระแสงวิมานอะไร!! เกิดมาเป็นโทรโข่งเรอะ!!!’
แม้ภายในใจจะเดือดพล่านแค่ไหน แต่ภายก็ยังคงยืนส่งยิ้มการค้าเช่นเดิม ถึงจะเคยผ่านเรื่องทะเลาะวิวาทต่อยตีมาบ้างตามประสาผู้ชายที่มีหน้าตากวนอารมณ์ แต่นั่นก็เป็นตอนที่เขายังเป็นแค่เด็กที่แยกแยะอะไรไม่เป็น ไม่เหมือนตอนนี้ที่เขารู้ว่ายังไงตนเองก็ไม่มีทางชนะ!
“ขออภัยครับ ท่านชายดิออน”
ฌอนพูดตามน้ำไป โดยที่ยังยืนนิ่งอยู่หน้าร้านเหมือนเดิม จากการที่ได้ยินองครักษ์กล้ามปูพวกนี้เรียกหนุ่มน้อยว่าท่านชาย คงเป็นพวกลูกคุณหนูคุณนาย ไม่ก็พวกลูกคนใหญ่คนโต หรือผู้มีอำนาจแน่นอน
“ข้าบอกให้เจ้าคุกเข่า และคลานมาด้วยไม่ใช่เรอะ”
ดิออนกอดอกอย่างเอาแต่ใจ ใบหน้าเย่อหยิ่งเชิดขึ้นเล็กน้อย พลางกดสายตาจิกกัดฌอน ฌอนที่เห็นท่าทางแบบนั้นก็ลอบกุมขมับอยู่ภายในใจ ‘นี่มันลูกคุณหนูจิตป่วยชัดๆ!’
“เอ่อ คือ เข่าข้าไม่ค่อยดีน่ะ โอ้ยๆ เริ่มปวดขึ้นมาอีกแล้ว ข้าขอตัวก่อนนะ”
ฌอนแสร้งก้มลงจับเข่าและหันหลังเดินเข้าร้านไป แต่ก็ถูกหยุดไว้ด้วยเสียงของดิออนอีกครั้ง
“เจ้ากล้าดีอย่างไรขัดคำสั่งข้า! ไม่รู้รึว่าข้าเป็นใคร!” ดิออนวางอำนาจด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด
“เจ้ายังไม่รู้เลยว่าตนเอนเองเป็นใคร แล้วข้าจะรู้ได้ไง”
ฌอนเผลอตอบออกไปเสียงเบาตามความคิดของตนอย่างเบื่อหน่าย ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าทำสิ่งที่ไม่ควรออกไปเสียแล้ว เพราะดิออนได้ยินคำตอบของเขาอย่างชัดเจน
“นี่เจ้า!! กล้ามากนะ ถ้าเจ้าไม่รู้ข้าก็จะบอกให้ ข้าคือ ดิออน โลเวน ธานาเทียส ว่าที่ผู้นำรุ่นที่ 13 ของสมาคมนักฆ่า! หึ รู้แล้วก็คุกเข่าขออภัยข้าซะ” ในขณะที่ดิออนกำลังแนะนำตนเอง? ฌอนกลับติดใจสงสัยอยู่อย่างหนึ่ง
“สมาคมนักฆ่า? คือไรอ่ะ”
ฌอนถามออกมาอย่างงงงวย และนั่นก็ทำให้ไฟโทสะของดิออนลุกโชน หนุ่มน้อยสั่งให้องครักษ์ของตนเข้ามาจับตัวฌอนทันที ในขณะที่ฌอนนั้น..
‘ผู้ดูแลได้รับข้อมูลใหม่ -สมาคมแห่งต่างโลก- ต้องการรับทราบข้อมูลหรือไม่’
“ต้องการ” ฌอนกำลังจดจ่ออยู่กับระบบ และหน้าต่างโปร่งแสงซึ่งแสดงข้อมูลของสมาคมในโลกนี้ตรงหน้า เสียงของระบบยังคงดังในหัวของฌอนเพื่อบอกเล่าข้อมูลเสริมจากในหน้าต่างโปร่งแสง
‘สมาคมในต่างโลกนี้ มีอยู่หลักๆ 5 สมาคม นั้นก็คือ สมาคมเวทย์มนต์ สมาคมนักฆ่า สมาคมการค้า สมาคมนักดาบ และสมาคมนักผจญภัย’
------------------------
สมาคมในต่างโลก
สมาคมคือองค์กรผู้ควบคุมในเรื่องต่างๆของโลกแห่งนี้
จัดตั้งขึ้นเพื่อเป็นผู้ควบคุมดูแลเฉพาะในเรื่องนั้นตามแต่ละสมาคม
โดยภายในสมาคมจะมีตำแหน่งการปกครองเป็นระดับ ลดหลั่นกันลงไป
ซึ่งทุกคนในองค์กรจะต้องขึ้นตรงกับผู้นำสูงสุดของสมาคมเพียงเท่านั้น
ปัจจุบันสมาคมมีอำนาจเทียบเท่าราชาของเมืองหนึ่งเมืองเลยทีเดียว
และยังคงแพร่ขยายอำนาจต่อไป ทำให้สมาคมมีสมาชิกเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ด้วยเหตุนั้นเอง สมาคมจึงมีบทบาทในเรื่องของการเมืองการปกครอง
และชีวิตประจำวันของผู้คนเป็นอย่างมาก
------------------------
ในขณะที่ฌอนตั้งอกตั้งใจอ่านข้อมูลของสมาคมอยู่นั้น เขาก็รู้สึกถึงแรงกระชากที่ดึกสติเขากลับมาตรงหน้า
“โอ้ย!!” ฌอนส่งเสียงร้องตกใจระคนเจ็บปวดออกมา ทำให้เขารู้สึกตัวว่า ตนเองถูกชายกล้ามปูสองคนจับล็อกตัวไว้ และดิออนก็มายืนอยู่ตรงหน้าเขาเสียแล้ว
‘เรือหาย! ลืมไอ่เด็กวายป่วงนี่ไปซะสนิทเลย ตายแน่ไอ่ฌอน’ ฌอนคิดอย่างแตกตื่น ในสมองเรอ่มคิดหาทางหนีทีไล่อย่างรวดเร็ว
“เจ้าบอกว่าไม่รู้จักสมาคมนักฆ่าใช่มั้ย งั้นก็จงรู้ซะ จัดการมัน!” ดินออนพูดกับเขาก่อนจะหันไปบอกชายกล้ามปูอีกคน
“เดี๋ยวๆๆ รู้แล้— อั่ก!!” พูดยังไม่ทันจบ ฌอนก็ได้รับฝ่าเท้าประเคนเข้ามาที่กลางอก จนกระเด็นไปชนกับเคาท์เตอร์ในร้าน ฌอนทรุดลงไปกับพื้นอย่างเจ็บปวด เขาเจ็บร้าวไปทั้งอก สมองมึนตึบไม่สามารถคิดวิเคราะห์สิ่งใดได้อีก ชายกล้ามปูเดินเข้ามาเขาเพื่อลงมือซ้ำ แต่ทว่า...
พรึ่บ !!!
ฌอนเห็นร่างของชายกล้ามปูคนนั้นปลิวออกจากร้าน ไปกระแทกกับกำแพงอาคารที่อยู่ฝั่งตรงข้าม จนกำแพงถล่มลงมาทับร่างชายคนนั้น เหล่าองครักษ์กล้ามปูที่เหลือมองตามไปอย่างนิ่งอึ้ง แม้แต่ดิออนเองก็ยังคงมองตาค้าง
ในขณะที่ฌอนกำลังงุนงงอยู่ เขาก็รู้สึกว่าร่างกายของตนเองเริ่มรู้สึกเจ็บน้อยลง น้อยลง จนกระทั่งไม่รู้สึกเจ็บอะไรอีกเลย เมื่อลองขยับร่างกายก็รู้สึกแข็งแรงตามปกติ เขายืนขึ้นอย่างงงๆ ทุกความเจ็บปวดที่เคยเกิดขึ้นหายไปปลิดทิ้ง ราวกับว่าเมื่อครู่ไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้นกับเขามาก่อน ฌอนเงยหน้าขึ้นมามองพวกองครักษ์กล้ามปูที่มีท่าทีระมัดระวังมากขึ้น พวกมันจ้องมองเขาด้วยสายตาอำมหิต ก่อนที่เสียงของระบบจะดังขึ้นภายในหัวของฌอน
ระบบพื้นที่ปลอดภัยเปิดทำงาน’