CHAPTER 9
มธุรดายังติดแหงกอยู่บนรถแท็กซี่ พี่จิ๊กกี้ใช้คนโทรมาตามหลายหนแล้ว เพราะเกรงใจโรงพยาบาล เลยต้องเร่งถ่ายทำทั้งหมดให้เสร็จภายในวันนี้ แต่ดันตรงกับวันที่คนมางานเลี้ยงกันอย่างคลาคล่ำพอดี ถ้าจะไปถึงโดยด่วน คงต้องให้คนขับพาเหาะแทน
“ถึงไหนแล้วยะ” น้ำเสียงคนโทรมาทั้งจิกทั้งกัด
“จะถึงแล้วค่ะ รถมันติดด้วยนะคะพี่จิ๊กกี้”
“ทางโรงพยาบาล เขาให้เวลาทางเราแค่ครึ่งวันนะ ผู้กำกับไม่ได้บอกบีหรือไง”
“บอกค่ะ บีรีบสุดชีวิตแล้วค่ะ” เธอตอบเสียงอ่อย
“นี่ถ้าไม่เห็นว่าเธอกำลังตกที่นั่งลำบาก พี่ก็ไม่ยัดงานให้หรอกนะ”
“บีกราบขอบพระคุณพี่จิกกี้มากนะคะ ถ้าไม่ได้พี่ บีก็คงไม่มีงานเยอะแบบนี้”
“หยุดจ้ะ ไม่ต้องพูดเยอะ เร่งคนขับรถให้เร็ว ๆ หน่อย”
“ค่ะ”
“อ้อ อีกเรื่อง ใครให้ข่าวไปกับพี่ปอย ช่องสิบสอง ข่าวบีโดนโกงออกทีวีด้วยนะ”
“ใครคะให้ข่าว”
“แล้วฉันอยากจะบอกหล่อนว่า ตอนนี้ข่าวว่อนเต็มเน็ตเลยย่ะ”
“หา! จริงเหรอคะพี่จิ๊กกี้ คือบีไม่ได้มีเวลาได้สนใจอะไรเลยค่ะ เวลาท่องบทกับแต่งตัวก็หมดแล้ว”
“ก็จริงน่ะสิ”
“โธ่! แล้วบีจะทำยังไงดี” ชีวิตเธอวุ่นวายไม่จบไม่สิ้นเสียที ช่วงนี้มีแต่เรื่องแต่ราว ไม่รู้ดวงชะตาอะไร
“จะทำอะไรล่ะ ก็หลบหน้านักข่าวหน่อยก็แล้วกัน ป่านนี้คงหาตัวเธอกันวุ่น เพราะอยากได้ข่าวไปทำกัน” ผู้คร่ำหวอดแนะนำด้วยความหวังดี “เธอใส่ชุดแต่งงานมาแล้วใช่ไหม มาถึงจะได้เข้าฉากเลย”
“ค่ะ” เพราะกลัวจะเสียเวลาแต่งตัวที่กองนาน มธุรดาจึงแต่งตัวด้วยชุดเจ้าสาวสวยสง่าพร้อมเข้าฉากทันทีที่ไปถึง
“เออ...ดีแล้ว ทีแรกก็หวั่นๆ อยู่ว่าอีช่างฉัตรมันจะลืม อีนางคนนี้มันขี้ลืมมาก ทำงานฉันพลาดมาเยอะแล้ว นี่ก็ให้คนสแตนด์บายชุดแต่งงานเอาไว้ที่โรงพยาบาลอีกชุดหนึ่งเลยนะ”
“พี่จิ๊กกี้ขา บีถึงหน้าโรงพยาบาลแล้วค่ะ กำลังจะเลี้ยวเข้าไปแล้ว แต่ทำไมวันนี้รถเยอะจังคะ”
“เห็นว่ามีงานแต่งงานหรืองานหมั้นก็ไม่รู้”
“ฮะ…ใครจะมาแต่งงานกันในโรงพยาบาลคะ”
“ใครจะแต่งได้ ถ้าไม่ใช่ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของคุณหมอปฐมเดช เจ้าของโรงพยาบาลนี้”
“อ้อ ค่ะ” มธุรดาเคยอ่านบทความของผู้ชายคนนี้ในหน้านิตยสาร คุณหมอหนุ่มรูปหล่ออนาคตไกล ที่จะต้องสืบสานกิจการงานของคุณพ่อ นายแพทย์ปฐมเดช อัศวิเวชน์ ผลประกอบการที่นี่ปีละหลายร้อยล้าน
เมื่อรถจอดเทียบหน้าล็อบบี้ มธุรดาลงจากรถ มือหอบหิ้วชายชุดแต่งงานที่กรุยกรายขึ้น แล้วเร่งนีบไปที่ประชาสัมพันธ์
“เขาถ่ายละครกันที่ไหนคะ”
“อุ๊ย! คุณบีสวยจังค่ะ ทางนี้นะคะ” คนบ้าดาราอย่างเข็มพิณรีบพานักแสดงสาวไปยังจุดถ่ายทำ ซึ่งเป็นทางเดินทอดยาวที่จะพานางเอกวิ่งตรงไปยังห้องฉุกเฉิน ตามบทละคร มธุรดาต้องรอพระเอกมาเข้าพิธีแต่งงานที่โรงแรม แต่เจ้าบ่าวดันประสบอุบัติเหตุถูกคนร้ายลอบยิงในเรื่อง
มธุรดาหอบชายชุดเดินแกมวิ่งตามเข็มพิณไป นายแพทย์ปรมะที่หน้าเหม็นบูดเดินทะลุมาอีกทางพอดี เขาเกือบชนเข้ากับหญิงสาว ช่วงจังหวะที่เผชิญหน้ากันในระยะประชิด เหมือนเวลาขณะนั้นหยุดนิ่ง
หมอหนุ่มจ้องมองใบหน้าผุดผ่องของหญิงสาว ที่แต่งแต้มด้วยสีสันพองาม ขนตาของเธอถูกดัดและปัดมาสคาร่าอย่างงอนงาม กลีบปากอวบอิ่มฉาบเคลือบด้วยลิปสติกสีแดงกุหลาบ สองพวงแก้มแดงระเรื่อเหมือนมีเลือดฝาด
มธุรดาจ้องหน้าของปรมะเหมือนโดนมนตร์สะกด เขาทั้งหล่อและเท่ คลับคล้ายคลับคลาว่าเคยเห็นเขาที่ไหนมาก่อน อีกฝ่ายสวมใส่ชุดเจ้าบ่าว ถ้าได้เจ้าบ่าวของตัวเองแบบนี้ละก็ เธอจะยอมแต่งงานด้วยแน่นอน
เขาจำเธอได้ในทันที ปกติไม่ค่อยเข้าไปอ่านอะไรในอินเทอร์เน็ตนัก เพราะเวลางานมันเร่งรัด แต่วันนี้ปรมะฟุ้งซ่าน จนไม่มีกะจิตกะใจทำอะไร เลยหาทางออกด้วยการหยิบมือถือมาไถอ่านข่าวเรื่อยเปื่อย
สมัยนี้ผู้คนอัปเดตข่าวสารกันง่ายขึ้น แค่กดเปิดเข้าไปปุ่มเดียว การแจ้งเตือนจากเว็บไซต์กูเกิลก็เด้งขึ้นมาทันที ใบหน้าของมธุรดาพร้อมประโยคพาดหัวข่าวเรียกแขก ทำให้เขาสนใจกดเข้าไปอ่านเนื้อหา
‘ดวงตกหรือว่าอย่างไร บี มธุรดา เป็นหนี้หัวโต ถูกเพื่อนสนิทโกงเงินไปเฉียดสิบล้าน’ จากนั้นก็ลงรายละเอียดอีกมากมาย
ปรมะไม่ได้อ่านอะไรมาก รู้แค่ว่ามธุรดาเป็นหนี้ก้อนโตเพราะถูกเพื่อนโกง เนื่องจากร่วมทำธุรกิจด้วยกัน แต่ที่เขาสนใจเป็นพิเศษ คือความสวยสะดุดตา เครื่องหน้าผสมมาได้สัดส่วนลงตัวไปหมด
งานอดิเรกของปรมะคือ การวาดรูปในเวลาว่าง เขาชื่นชอบการวาดภาพเหมือน ส่วนใหญ่จะวาดมาจากความคิดและจินตนาการของตน ใบหน้าของมธุรดาช่างเหมือนกับผู้หญิงในนิมิตของเขาที่เคยวาดไว้เมื่อหลายปีก่อนเหลือเกิน
ฝ่ามือหนาถือวิสาสะคว้ามือของมธุรดาเอาไว้แน่นแล้วพาเดิน
“นี่คุณ อะไรกันคะ คุณจะพาฉันไปไหน”
“ไม่ต้องถาม”
“ไม่ต้องถามได้ไง ก็คุณจะพาฉันไปไหนล่ะ” มธุรดาคันปาก อยากโวยใส่เขาเหลือเกินว่า อย่าคิดว่าหน้าตาดีแล้วจะลากใครไปไหนก็ได้
“คุณหมอคะ” เข็มพิณที่ตามมาเอ่ยรั้ง แต่ปรมะไม่สนใจอะไรทั้งนั้น เขาพบคำตอบแล้วว่าจะเอาตัวรอดจากปัญหาโดนมัดมือชกได้อย่างไร
“เดี๋ยวค่ะ เดี๋ยว นี่จะพาฉันไปกองถ่ายละครใช่ไหม” นักแสดงสาวทั้งสับสนและมึนงง
“ไม่ใช่”
“เอ้า! แล้วคุณจะพาฉันไปไหนล่ะ” ถามจบ ปรมะก็พาเธอมาถึงที่หน้าห้องจัดงานเลี้ยงของโรงพยาบาลแล้ว
ทุกสายตาจับจ้องมายังเธอกับเขาเป็นจุดเดียว ผู้หญิงสวย ผู้ชายก็หล่อ ทุกคนตกตะลึง แอบชื่นชมคู่บ่าวสาวที่ดูเหมาะสมกันราวกิ่งทองใบหยก
นายแพทย์ปรมะมาในชุดทักซีโดสีดำเรียบหรู คิ้วเข้มช่วยขับใบหน้าให้ยิ่งดูมีเสน่ห์ เขาสวมคอนแท็กเลนส์แทนแว่นตา วันนี้จึงไม่มีสิ่งใดบดบังความหล่อเหลาขั้นเทพ
มธุรดาอ้าปากค้าง ไม่รู้จะเซ็ตอัปสถานที่อลังการงานสร้างไปไหน นึกแปลกใจว่าผู้กำกับกับพี่จิกจี้ เปลี่ยนฉากที่จะถ่ายในวันนี้หรืออย่างไรกัน
“คุณหมอมาแล้วครับ” เสียงพิธีกรประกาศ ปรมะลากกึ่งบังคับจูงมือมธุรดา ให้เดินผ่านกลุ่มคนเข้าไปในงานเลี้ยงด้วยกัน