CHAPTER 8
ปรมะอนุญาตให้ทางกองละครมาใช้สถานที่ถ่ายทำ เพราะทนเสียงรบเร้าของพี่จิ๊กกี้ หรือที่คนทั่วไปรู้จักในนามคุณพบพร แห่งทีวีไอนาดาวไม่ไหว และเขาต้องการจะโพรโมตโรงพยาบาลผ่านละครด้วย
เขาไปเจอชลิสา เซ็นเอกสารเรียบร้อยแล้วก็ยืนมองผู้คนที่ทยอยมาไม่ขาดสาย รถหลายคันแล่นเข้ามาจอดหน้าประตูใหญ่ ทุกคนแต่งองค์ทรงเครื่องจัดเต็ม เหมือนพวกเขาเหล่านั้นมาร่วมงานเลี้ยงหรูหราในโรงแรมดังห้าดาว
“คุณธรรม์ช่วยดูเรื่องที่จอดรถด้วยนะครับ” ปรมะหันไปสั่งผู้จัดการฝ่ายสันทนาการที่เดินเข้ามาใกล้
“ครับคุณหมอ แต่ส่วนใหญ่มีคนขับรถมาส่ง และวนออกไปเลยครับ”
“เหรอ”
“ครับ สงสัยจะเป็นฝีมือของคุณหมอปฐมเดชนะครับ” ธรรม์หมายถึงคุณพ่อของหมอหนุ่ม
“โอเคครับ แต่ช่วยดูอย่าให้เกิดปัญหาก็แล้วกัน”
“ครับ” ธรรม์รับปาก ก่อนจะโค้งอย่างสุภาพ
หันไปเห็นเกวลิน พร้อมคุณกิติยาและคุณปราบ หรือก็คือ คุณพ่อและคุณแม่ของเธอกำลังลงจากรถ หมอหนุ่มก็เดินหนีไปอีกทาง คุณแม่กับคุณกิติยาเป็นเพื่อนสนิทกัน รักกันเหมือนพี่น้องที่คลานตามกันมา แต่ว่าเขาไม่พร้อมเผชิญหน้ากับครอบครัวเลิศปรีชาในตอนนี้
“เฮ้อ...” เลี้ยวมุมไปได้ ปรมะก็ผ่อนลมหายใจ
“แฮ่!” พัชระโผล่มาดักหน้า ปรมะถึงกับสะดุ้งโหยง
“แกจะบ้ารึไง” หมอหนุ่มรูปหล่อ มาดสุขุมถึงกับหลุดปาก
“ที่นี่ฉันเป็นนายจ้างแกนะ เดี๋ยวปั๊ดเหนี่ยว”
“ทำไมใจลอยครับ” เห็นท่าทีหมอหนุ่มรุ่นพี่แปลกไปจากปกติ เลยอดที่จะถามไม่ได้
“ไม่ได้ใจลอย”
“เหรอ แต่ผมว่าใจลอย”
“แกเถียงชนะแล้วจะได้อะไร”
“ก็นั่นน่ะสิ” พัชระหัวเราะชอบใจ
“วันนี้โรงพยาบาลของเรามีงานอะไรครับ คนเยอะมาก ดีว่าผมมาถึงก่อน ถึงมีที่จอดรถ” พูดแล้วก็คิดไปถึงใบหน้าน้อยๆ ของคนนิสัยไม่ดี ที่แต่งหน้าเหมือนหลุดออกมาจากนิตยสารแฟชันคนนั้น
“อยากรู้จริงๆ หรือ”
“แน่นอนสิครับ”
“งานจับคนใส่พานทอง”
“หือ” พัชระยังนึกภาพตามไม่ออก
“งานแบบมอบรางวัลสุพรรณหงส์อะไรแบบนั้นน่ะเหรอครับ” พัชระคาดเดา
“เปล่า เหมือนว่าพ่อแม่ของฉันจะจับคลุมถุงชนน่ะ”
“จับใคร” ปรมะชี้ไปที่หน้าของตัวเอง
“เหรอครับ กับใคร คนไหน ผู้หญิงที่โชคดีคนนั้น” เขารู้สึกประหลาดใจ แต่งานมงคลสมรสอย่างไรก็เป็นเรื่องน่ายินดี
“นี่แก... ยังจะมาทำหน้าระรื่น ฉันไม่อยากแต่งงานตอนนี้โว้ย”
“เอ่อ... มันควรแก่เวลาละมั้งครับ คิดดูสิ พี่พร้อมแต่งงานแล้ว และมีลูกไปแล้วถึงสามคน ผมว่าพี่ป้องก็น่าจะแต่งได้แล้วนะครับ” พัชระชอบมากวนใจ ปรมะสนิทกับพัชระ เพราะเป็นน้องชายของเพื่อนสนิท พร้อมพงศ์ หรือพี่พร้อมของนายหมอพี
“ก็ช่างไอ้พร้อม แต่พี่ยังไม่พร้อม”
“อ้อ...เป็นเจ้าบ่าวที่กลัวฝนนี่เอง”
“ไม่ตลก” ปรมะมองตาขวาง
“เมื่อกี้ผมเห็นสาวสวยคนหนึ่งเพิ่งเดินไป เธอมาที่นี่บ่อยๆ เอ่อ ชื่ออะไรนะ” พัชระพยายามนึก “อ้อ...ใช่ คุณก้อย แถวประชาสัมพันธ์พากันเมาท์ว่า อีกหน่อยจะมาเป็นนายหญิงของอัศวิเวชน์ ตอนแรกผมก็ไม่ค่อยจะเข้าใจ แต่ตอนนี้รู้แล้ว”
“แล้วไง”
“อืม... ผมว่าเธอเหมาะสม และอาจจะเป็นคู่บุญของพี่ป้องก็ได้นะครับ”
“หุบปากไปเลย พูดไม่เข้าหู ฉันจะตัดเงินเดือนของแกไอ้หมอพี” พูดมาแต่ละคำชวนให้รใมดันเขาขึ้นกว่าเดิม
“อ้าว! ไหงหวยมาตกอยู่ที่ผมล่ะครับ โธ่! พี่ป้อง” พัชระแสร้งบ่น แต่พอเห็นสีหน้าคิดหนักของปรมะ เขาก็เงียบเสียงลง
“ผมไม่ได้แบบ...”
“หยุดไม่ต้องพูดอะไรแล้ว” หมอหนุ่มรุ่นพี่ยกมือห้าม คร้านจะฟังประโยคไม่สร้างสรรค์
“พี่ป้องครับ เชื่อผมเถอะน่า ว่าการแต่งงานมันไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้น”
“แกจะแต่งงานเองไหมล่ะ?”
“หือ เรื่องนี้ถามผมไม่ได้ พี่ป้องต้องไปถามคุณพ่อกับคุณแม่ของพี่นะครับ” รุ่นน้องย้อนมาทีสะเทือนไปถึงไต เขาจุกจนพูดไม่ออก
“แกว่าพ่อกับแม่ของฉันจะยอมเหรอ” หมอหนุ่มรุ่นพี่ส่ายหน้าดิก
“ไม่อะ ผมคิดว่าท่านสองคนคงจะไม่ยอม” ว่าแล้วก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่แทนปรมะ
“แล้วจะทำยังไงครับ เรื่องนี้จะจบแบบไหน”
“มันต้องมีทางสิวะ” การที่พ่อแม่ตัดสินใจแทนโดยพลการ ไม่ต่างอะไรกับส่งเขาไปลานประหารแม้แต่น้อย ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังไม่ถอดใจ
“ครับ” เห็นปรมะมีสีหน้ามุ่งมั่น เลยบีบมือแน่นๆ หนึ่งทีเพื่อให้กำลังใจ
“สิ่งเดียวที่พ่อกับแม่ของพี่ต้องการก็คือทายาท ผมว่ามันไม่ยาก ก็แค่ทำให้คุณก้อยท้อง”
“พอ ๆ เลิกพูด เลิกพูด ที่สำคัญฉันไม่ต้องการแต่งงาน”
“พวกท่านคงอยากจะอุ้มหลานแล้วครับ ก็พี่เล่นบ้างาน จนลืมหาหวานใจ”
“พอเถอะ แกไปให้พ้นหน้าฉันสักที แล้วนี่ไม่มีงานเหรอ”
“ผมแวะมาเข้าห้องน้ำครับ”
“อ้าว แล้วที่ใกล้ๆ ห้องตรวจ”
“อ้อ...ทีมงานจากกองถ่ายทำละครอยู่กันแน่นจนเต็มน่ะครับ แถมยังวางของเกะกะด้วย”
“อะไรนะ ก็บอกแล้วว่า ถ้าจะมาถ่ายทำ ต้องห้ามรก ห้ามรบกวนคนไข้ หมอ และคนทำงานที่นี่ด้วย”
“แต่พี่...” ปรมะไม่รอฟัง ขายาวก้าวฉับไปยังบริเวณที่มีการถ่ายทำ เป็นจังหวะเดียวกับที่มือถือของพัชระดังขึ้น พยาบาลหน้าห้องโทรมาตาม คงเพราะเห็นหายมาเข้าห้องน้ำนานเกินไป
“จะไปเดี๋ยวนี้ครับ” เขาตอบพลางมองตามหลังปรมะ ส่วนตัวเองก็เดินไปอีกทาง
ปรมะที่ปลีกตัวมาก่อนเดินบ่นไปตลอดทาง พื้นฐานเป็นคนระเบียบจัดก็ใช่ แต่สาเหตุของความหัวเสีย คงเพราะควบรวมเรื่องงานหมั้นบ้าบอที่จะเกิดในไม่กี่ชั่วโมงนี้เข้าไปด้วย
‘ที่นี่โรงพยาบาล ไม่ใช่ลานกิจกรรม!’