ร้อยเล่ห์บุพเพรัก

65.0K · จบแล้ว
ตะวันอิงดาว
53
บท
8.0K
ยอดวิว
9.0
การให้คะแนน

บทย่อ

ปัญหาของความรัก คือ ความคิดที่ไม่ลงรอย แต่ปัญหาของคนที่ไม่อยากมีความรัก คือ ความเป็นห่วงของคนในครอบครัว ที่บางครั้งก็เกินไปจนน่าอึดอัด...มันเป็นความคิด ที่ควรจะจบลงกับการตัดสินใจของเขาฝ่ายเดียว ไม่ใช่ถูกคลุมถุงชน แล้วมารู้ตัวเอานาทีสุดท้าย “นายแพทย์ปรมะ” เขาจะทำอย่างไร? “ดวงนังหนูมันต้องอยู่บนคานแน่” มธุรดากะพริบตาปริบ ๆ หันไปมองหน้าเพื่อนชายคนสนิท พัชระยักไหล่อย่างเดียว เขาไม่รู้สิ่งที่จะเกิดขึ้นข้าง แต่หมอดูคนนี้แม่นมาก “มธุรดา” เธอเคยเป็นนางเอกหน้าใหม่ แต่ปัจจุบันครองบทนางร้าย เปิดดูช่องไหนจะต้องเจอหน้าของเธอ มธุรดาเพิ่งถูกเพื่อนสนิทโกงเงินไป ทั้งยังทิ้งหนี้สินไว้มากกว่าสิบล้านบาท ความทุกข์ใจของเธอ ก็คือ ต้องดิ้นรนเพื่อหาทางช่วยปัดเป่า มันร้อนรุ่มแค่ไหน ใครจะเข้าใจได้ #แล้วยังไง #นายแพทย์หนุ่มกับดาราสาวสองคนนี้จะโคจรมาพบกันได้จริงเหรอ? ....โปรดติดตามได้เร็วๆ นี้!! คำเตือน ✨ นิยายเรื่องนี้เป็นเพียงจินตนาการของผู้แต่งเท่านั้น ทั้งรูปภาพ สถานที่ ตัวละคร ชื่อสกุลเป็นเพียงเรื่องสมมุติไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในชีวิตจริง ...เนื้อหาบางส่วนอาจมีคำหยาบคายหรือพฤติกรรมทางเพศและความรุนแรง เพื่อเพิ่มอรรถรส โปรดใช้วิจารณญานในการอ่าน ❤️❤️❤️

นิยายรักโรแมนติกนิยายรักแต่งงานสายฟ้าแลบหมอดาราแต่งงานก่อนรักโรแมนติกรักหวานๆ

CHAPTER 1

พัชระทราบดีว่าเพื่อนตัวเองกำลังเป็นทุกข์เรื่องโดนโกงมากแต่ไหน พึ่งทั้งจิตแพทย์และพระ เพื่อนสนิทก็ช่วยกันปลอบ แต่ยังไม่สามารถบรรเทาอาการแพนิกของมธุรดาได้ พอได้ยินหมอดูที่หวังเป็นที่พึ่งพาทางใจพูดผิดประเด็นเลยรีบขัด

“คืออย่างนี้ครับแม่หมอ ผมพาเพื่อนมาดูเรื่องเงินที่ถูกโกงไป ไม่ได้อยากมาดูเรื่องเนื้อคู่นะครับ”

“อ้อ... นี่คงจะเป็นเธอสินะพ่อหนุ่ม เพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อนะเราอะ อยากกินเพื่อนอยู่แล้วใช่มั้ย ดูสิไพ่มันขึ้นแบบนี้ นี่ ๆ เธอนะนี่”

จำต้องหุบปากฉับเพราะเขาคิดเช่นที่หมอดูว่า ชายหนุ่มหลงรักมธุรดามาตั้งแต่สมัยเรียน เวลานี้พัชระก็ยังเก็บซ่อนความในใจเอาไว้

คำพูดของหมอดูทำให้มธุรดาเกิดความไม่สบายใจมากขึ้นไปอีก เธอไม่ได้อยากอยู่บนคาน แต่ก็หวังว่าสักวันหนึ่งจะมีคนรักและครอบครัว ยิ่งตอนนี้ทำงานงก ๆ แต่เงินไม่ได้ใช้สักบาท แถมยังต้องมาใช้หนี้แทนคนอื่น เนื้อไม่ได้กิน หนังไม่ได้รองนั่ง แต่เอากระดูกมาแขวนคอ

“เฮ้อ...” เธอถอนหายใจเสียงดัง กวาดสายตามองไปยังไพ่ ยังดีที่มีไพ่เหรียญขึ้นมาบ้าง เธอชี้ไปยังไพ่ใบนั้นอย่างตื่นเต้น

“แม่หมอคะ หนูจะมีโอกาสได้เงินคืนไหม?” มธุรดามองหมอดูตาแป๋วอย่างมีความหวัง

“ก็ได้ยินที่พูดไหมล่ะ ว่าให้หาผัวน่ะ!” แม่หมอตอบไปคนละเรื่อง หัวคิ้วของเธอขมวดแข็งจนเป็นปม

“แต่เมื่อกี้ แม่หมอบอกหนูว่าหนูจะขึ้นคาน ขึ้นคานยังไงหนูก็ไม่มายด์นะคะ แต่ประเด็นคือ ช่วยดูให้หนูหน่อยเถอะค่ะว่า หนูจะได้เงินคืนไหม? หนูอยากรู้เท่านั้นเอง” มธุรดาเริ่มไม่ค่อยสบอารมณ์

“ใจเย็นนะครับบี เดี๋ยวลองรอฟังแม่หมอก่อน แม่หมอว่ายังไงครับ บีจะได้เงินคืนไหม?” พัชระรีบแตะหัวเข่าของมธุรดาเอาไว้

เจียมใจ หมอดูที่แม่นอย่างกับตาเห็น แค่เปิดไพ่ก็รู้ว่าคนที่เป็นเจ้าของดวงต่อไปจะเป็นอย่างไร แม่หมอคนนี้สนิทสนมกันดีกับคุณนายพวงมณีแม่ของพัชระ แกเป็นหมอดูมาตั้งแต่ยังสาว ที่รับดูให้มธุรดาวันนี้เพราะเห็นว่าสนิทกับลูกเพื่อนหรอก

แม่หมอเจียมใจสบสายตากับมธุรดา สิ่งที่เห็นคือความมุ่งมั่นเด็ดเดี่ยว มุทะลุ และด้วยการที่เป็นคนตัดสินใจอะไรเร็ว ทำให้บางครั้งเธอก็ตัดสินใจพลาด

“นี่... อย่าเพิ่งโมโหหรืออารมณ์เสียสิ มาดูดวงนะ ไม่ได้มาหาตำรวจเพื่อสอบสวน ที่พูดน่ะคือเธอจะได้เงินจากคนอื่น ที่ไม่ใช่เพื่อนคนนั้น”

“สิบล้านเลยนะคะ”

“อื้อ... อยากได้เท่าไรก็จะได้ตามที่ต้องการ”

“แล้วใครละคะจะเอาเงินมาถวายให้หนูน่ะ” มธุรดาคิดไม่ออกเลยว่าจะได้เงินมาอย่างไร กว่าจะเก็บหอมรอมริบได้แต่ละบาท ทุกวันนี้ต้องทำงานหาเงินจนตัวเป็นเกลียว จะถึงสิบล้านเมื่อไรก็ยังไม่รู้

“ได้ แต่ไม่ได้จากคนที่โกงเงินไป” พัชระถามทวนด้วยความงุนงง

“แม่นแล้ว”

“หือ... แล้วได้จากใครล่ะครับ?” หัวคิ้วของชายหนุ่มชนกัน

“จากผัวน่ะสิ!” น้ำเสียงของแม่หมอเจียมใจติดรำคาญ แกเริ่มไม่สบอารมณ์ อดบ่นไอ้พวกคนหัวสมัยใหม่ในใจไม่ได้

ถ้าไม่เชื่อในคำพยากรณ์แล้วจะมาดูทำไม

“หา!” ทั้งมธุรดาและพัชระอุทานขึ้นมาพร้อมกัน