บท
ตั้งค่า

บทที่ 3 นัดพบเพื่อนๆ

“ขุนคะ แต่แม่นี่ทำให้รถคุณเป็นรอยนะคะ” กานติมาบอกแฟนหนุ่มที่ไม่ยอมลงมาดูรถและยังใจดีไม่เอาเรื่องยัยเซ่อซ่าหน้าสวยนี่อีกด้วย

“ไม่เป็นไรหรอกไปเถอะเดี๋ยวไม่ทันดูหนัง” ขุนศึกบอกคู่ควงสาวที่เดือดร้อนแทนทั้งที่เขาเป็นเจ้าของรถไม่เดือดร้อนสักนิดตั้งแต่เห็นเขมิกาดึงรถเข็นของไม่อยู่มันก็ไถลมาหารถเขาพอดี

“แต่ขุนคะ..”

“เร็วๆสิ หรือจะกลับล่ะ” ขุนศึกพูดอย่างไม่สนใจทำให้กานติมายอมขึ้นรถแล้วขุนศึกก็ขับออกไป

“ขุนจะปล่อยแม่นั่นไปเหรอคะ หล่อนทำรถคุณเป็นรอยเยอะเลยนะคะ” ไฮโซสาวยังโกรธแทนแฟนหนุ่มที่ไม่เอาเรื่องยัยหน้าหวานนั่นหรือว่าขุนศึกจะชอบแม่นั่น

“ช่างมันเถอะน่า ถือว่าฟาดเคราะห์ไปละกัน ไปดูหนังกันเถอะคุณอยากดูไม่ใช่เหรอ” ขุนศึกพูดแล้วเดินออกไปไม่รอคู่ควงที่วิ่งตามหลังมาควงแขนเขา

“ค่ะๆๆ” ทั้งสองก็ขึ้นไปชั้นห้าของห้างที่เป็นโซนโรงหนังและร้าอาหารหรูนับสิบร้าน

“กริ้งๆ กริ้งๆ”

“ขิมแกเป็นอะไรหรือเปล่า” เสียงของวีรนุชดังมาตามสายด้วยความเป็นห่วงเพื่อน

“ไม่เป็นไรแก ขิมตกใจน่ะ กำลังขึ้นไปรอแป๊บนะ เอ่อ แค่นี้นะขิมเจอ รสกับชามาแล้ว” ขิมบอกเพื่อก่อนจะวางสาย “เฮ้ รส ชามา” เสียงหวานเรียกเพื่อที่เดินนำหน้าเธอเข้าไปในห้าง

“ขิม แกเพิ่งมาถึงเหรอ” ชามาถามเพื่อนรักที่วิ่งกระหืดกระหอบมาหยุดตรงหน้า ชามา ศรชัย สาวอัมพวาพ่อแม่ขายของที่ระลึกอยู่ในตลาดน้ำอัมพวาและเป็นประชาสัมพันธ์ของสายการบินโลว์คลอสในประเทศไทย

“เปล่า ขิมมาถึงก่อนเป็นชั่วโมงเลยไปซื้อของก่อนเพิ่งเสร็จนี่แหละ ทำไมแกสองคนมาด้วยกันได้ล่ะ”

“รสเอารถเข้าศูนย์น่ะ ก็เลยให้ชามาแวะรับ ยัยนุชรออยู่หน้าโรงหนังแล้วนะแก ไปกันดีกว่า” รสหรือเสวรส ผดุงจิต สาวแปดริ้วพ่อแม่ทำสวนผลไม้และทำงานที่โรงแรมรัตนชัย ริเวอร์ไซด์ ในตำแหน่ง ผู้จัดการห้องอาหารไทย ตอบเพื่อนแล้วพากันขึ้นลิฟต์ไปที่ชั้นห้าเพื่อดูหนังก่อนจะออกมาหาอะไรกินกันเพราะพวกเธอจะนัดเจอกันบ่อยๆบางทีไม่ว่างตรงกันก็จะเลื่อนไปก่อน ปกติวรนุชจะว่างมากกว่าใครเพราะทำงานอิสระเป็นนักออกแบบรับงานฟรีแลนซ์จากพี่ชายที่เป็นเจ้านาย

สี่สาวคุยกันเหมือนไม่ได้เจอกันนานทั้งที่โทรเฟสกลุ่ม ไลน์คุยกันทุกวันแต่มารวมตัวกันแล้วก็มีเรื่องให้เมาท์ได้ตลอด

“งานแกเป็นยังไงบ้างขิม” วรนุชถามเพื่อนเพราะอยากให้เขมิกาไปทำงานด้วย

“ก็ดีอ่ะ เจ้านายท่านใจดีขิมก็เลยทำงานสบายๆไม่มีปัญหาเพื่อนร่วมงานก็น่ารัก ขอบใจแกมากนะนุช” เขมิการู้ว่าเพื่อนเป็นห่วงและอยากให้เธอไปเป็นเลขาของพี่ชาย วีรภาพ เดชพิพัฒน์ นักธุรกิจหนุ่มรูปหล่อโปรไฟล์ดีขวัญใจสาวๆและยังโสด

“เสียดายจัง แล้วแกสองคนล่ะ รส ชามา”

“ก็เหมือนเดิมน่ะ ใครจะเหมือนแกล่ะทำงานสบายๆทำงานที่ไหนก็ได้.” เสวรส เป็นผู้จัดการห้องอาหารไทยในโรงแรมหรูหกดาวกลางกรุงเทพแม้งานจะรับผิดชอบงานเยอะแต่ก็คุ้มกับเงินเดือนที่ได้และเธอก็มีความสุขกับมัน

“ชามาเริ่มจะเบื่อแล้วอ่ะแก วันๆมีแต่เรื่องจนอยากจะบ้าตายวันหลายๆรอบ” ชามาบ่นเพราะวันๆต้องทำตามความต้องการของลูกค้าที่อยากได้โน่นนี่นั่นจนเธอก็อยากเปลี่ยนงานแต่ยังเสียดายเงินเดือนที่ได้จึงต้องทนต่อไป

“แกมาทำงานกับพี่วีมั้ยล่ะชามา”

“ไม่เอาอ่ะ ชามาไม่ได้เรียนเลขานุการมานะ ทำไม่ได้หรอก” สาวสวยส่ายหน้า

“ลองดูก่อนก็ได้นี่แก”

“ขอบใจมากแม่เพื่อนรัก ชามาไม่อยากทำให้พี่วีเสียเวลาน่ะ งานบริษัทใหญ่ขนาดนั้นต้องมืออาชีพนะแก แล้วชามาก็จะเป็นตัวถ่วงน่ะ” เธอไม่ได้เรียนเลขานุการมาจึงไม่อยากไปเริ่มใหม่หากไม่ไหวจริงๆก็คงต้องกลับไปอัมพวาและทำธุรกิจเล็กๆทำหรือไปยึดกิจการของพ่อแม่ดีกว่า ชามาคิดอย่างขำๆ

“ก็ถูกของแกนะชามาเอาไว้แผนกประชาสัมพันธ์ว่านุชจะล็อคไว้ให้แกเลยโอเคมั้ย”

“โอเค ค่อยน่าทำหน่อย อิๆอิๆ”

สี่สาวก็เดินไปซื้อน้ำและป๊อบคอนไปกินในโรงหนังและยืนรอประตูโรงหนังเปิด

“แกๆ ดูนั่นสิ ไฮโซหนุ่มหล่อควงสาวมาดูหนังอ่ะ” เสวรสสะกิดเพื่อนให้ดูขุนศึกกับคู่ควงที่ยืนกอดแขนชายหนุ่มแน่นราวกับกลัวใครจะมาแย่ง

“อ่อ นายนี่เอง เจ้าชู้ตัวพ่อเลยนะแก ขี้หลีอีกต่างหาก” วรนุชว่าให้ขุนศึกและไม่รู้ว่าเป็นพี่ชายต่างแม่ของเพื่อนรัก

“แกรู้ได้ยังไงนุช”

“เจอในงานเลี้ยงน่ะ แต่ไม่ได้ควงคนนี้น่ะ”

“อย่าไปยุ่งกับเขาเลยน่า ไปเถอะประตูเปิดแล้ว” เขมิกาบอกเพื่อนๆแล้วหันไปมองขุนศึกที่เลิกคิ้วใส่เธอเหมือนจะถามและยิ้มให้

“ดูสิ นั่นๆพวกแกเห็นมั้ยขนาดควงสาวอยู่ยังมาอ่อยพวกเราอีก อี้ ไอ้ผู้ชายหน้าหม้อ” วรนุชยังเจ็บใจไม่หายที่ขุนศึกชนเธอและยังจับน่มน้มของเธอและยังมาแก้ตัวว่าไม่ได้ตั้งใจ น่าเชื่อตายล่ะ สมแล้วที่โดนเข่าพิฆาตของเธอก่อจะยิ้มเยาะแล้วหันหน้าหนี

“ไปเร็วสิแก ช่างเขาเถอะน่า” เสวรสรุนหลังเพื่อนเดินไปเข้าแถวตรวจตั๋วเพื่อเข้าชมภาพพยนต์ต่างประเทศที่เพิ่งเข้าจึงมีผู้คนเข้าชมเต็มโรง

ขุนศึกมองน้องสาวต่างแม่และเพื่อนก็เห็นยัยไฮโซตัวแสบตีเข่าเข้าเป้าเขาจนหน้าเขียวทั้งที่เขาเป็นคนช่วยไม่ให้เธอล้มและบังเอิญจับผิดที่แค่จับนมเองนะ แต่มันนุ่มมือทำให้เขาดันไปบีบด้วยก็เลยโดนทั้งเข่าทั้งด่าจนอายพนักงานและแขกในงานที่ไปเข้าห้องน้ำ

“ขุนมองอะไร ยัยเซ่อซานี่ ขุนมองมันสนใจมันใช่มั้ยคะ” ไฮโซสาวมองเขมิกาเพราะคิดว่าขุนศึกมองยัยหน้าหวานที่ทำรถเข็นครูดกับลัมโบกินี่ของชายหนุ่ม

“จะอะไรนักหนานะกานต์ ตกลงจะดูหนังมั้ย ถ้าไม่ดูผมจะกลับบ้าน” ขุนศึกพูดอย่างรำคาญตอนแรกที่คบกันก็ดีอยู่หรอกนานเข้าก็จะเป็นแม่คนที่สองเข้าไปทุกทีและเขาก็ไม่ใช่คนที่ทนอะไรมากมายนี่ขนาดเป็นแค่แฟนถ้าเป็นเมียจะขนาดไหน

“ขุนอ่ะ กานต์หวงคุณนี่คะ” กานติมาเอนศีรษะซบไหล่หนุ่มหล่ออย่างออดอ้อนเพราะกลัวเขาโกรธ

“เราคุยกันรู้เรื่องแล้วนะกานต์ ผมไม่ชอบคนจุกจิกจู้จี้ถ้าจะคบกันอย่าทำแบบนี้อีก” ขุนศึกเตือนไฮโซสาวคู่ควงที่เขาคบแต่ยังไม่ถึงขั้นวางแผนแต่งานกัน

“ค่ะขุน” กานติมาไม่พอใจแต่เธอก็เก็บไว้ไม่อยากอาละวาดให้เขาโกรธเธอคบกับเขายังไม่ถึงสองเดือนและยังไม่เคยไปพบครอบครัวของชายหนุ่มเลยจึงไม่อยากพลาดโอกาสเป็นสะใภ้ อภิโชคธนานันท์ มหาเศรษฐีหมื่นล้าน

สี่สาวเดินเข้าไปในโรงหนังดูหนังจบจบเรื่องก็สองชั่วโมงครึ่งพอออกมาก็ไปกินสุกี้ร้านดังที่มีสาขาอยู่ทั่วประเทศ

“ปีใหม่นี้ใครมีแผนไปเที่ยวที่ไหนกันบ้าง” วรนุชถามเพื่อนก่อนจะคีบลูกชิ้นใส่ปากเพราะไม่กี่อาทิตย์ก็สิ้นปีแล้ว

“รสจะกลับบ้าน อยากอยู่กับครอบครัว ปีที่แล้วไปเที่ยวกันแล้วปีนี้ขอตัวนะ” เสวรสตอบเพื่อนเพราะเธอวางแผนจะอยู่กับครอบครัวและพาพ่อแม่ไปไหว้พระ

“ชามาก็กลับบ้านพ่อกับแม่จัดงานปีใหม่รวมญาติเลี่ยงไม่ได้เลยอ่ะแก” ชามาก็ไม่แน่ใจว่าพ่อแม่มีแผนอะไรหรือเปล่าเพราะจู่ๆก็จัดงานปีใหม่ทั้งที่ร้อยวันพันปีไม่เคยจัดแค่บอกว่ารวมญาติทำบุญให้บรรพบุรุษและเธอต้องกลับบ้าน

“ว้าพวกแกไม่ไปเที่ยวกันเหรอ ขิมล่ะ.” คนอยากเที่ยวถามเพื่อนคนสุดท้ายที่ยิ้มขำวรนุชอยากเที่ยวแต่เพื่อนๆไม่ว่าง

“ขิมก็อยู่ช่วยแม่กับพี่เวียงทำขนมน่ะ ปีนี้เจ้หมวยใหญ่แกสั่งเยอะเพราะมีลูกค้ามาสั่งจัดกระเช้าของขวัญด้วยเอาไว้ไปหลังปีใหม่กันมั้ยพวกแก” ขิมถามเพื่อนเพราะปีนี้ไม่ได้ไปเคาท์ดาวด้วยกันเหมือนปีที่แล้วพวกเธอไปหัวหิน

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel