บทที่ 4
ในขณะเจ้าหญิงฟาติยาเฝ้ารอให้มีบุรุษผู้กล้าหาญสักคนที่กล้าเข้ามามอบหัวใจให้ และกล้าปกป้องเจ้าหญิงผู้สูงศักดิ์ แต่ก็มีบุรุษอีกคนที่อยากเข้ามากุมหัวใจของเจ้าหญิงฟาติยา แต่กลับไม่ได้รับความสนใจจากเจ้าหญิงแม้แต่นิดเดียวนั่นก็คือ ‘เจ้าชายอะเอลี’ แห่งประเทศอะเดลา
ประเทศอะเดลา...แผ่นดินทะเลทรายที่มีอาณาเขตติดกับประเทศอัสดารานส์ แม้จะเป็นบ้านพี่เมืองน้องในแถบตะวันออกกลาง ทว่าความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศกลับไม่ค่อยราบรื่นสักเท่าไร เพราะฝ่ายที่ตั้งตนเป็นศัตรูกับประเทศอัสดารานส์คือโอรสและธิดาของประเทศอะเดลา
ภายในห้องโถงของตำหนักหรูหรา ผู้ที่เป็นเจ้าผู้ปกครองประเทศพร้อมด้วยโอรสและธิดา ต่างก็มีสีหน้าโกรธกริ้ว กำมือแน่น กัดฟันดังกรอดหลังจากได้รับแจ้งข่าวอันไม่น่าระรื่นหูจากประมุขของประเทศอัสดารานส์
เจ้าชายอะเดลีผู้เป็นโอรส ซึ่งถูกปฏิเสธเรื่องการสู่ขอเจ้าหญิงฟาติยามาเป็นพระชายา กำแก้วเหล้าในมือแน่น ดวงตาลุกวาวโดยไฟโทสะ และเมื่อระงับอารมณ์ไม่อยู่ ก็ขว้างแก้วซึ่งมีน้ำสีอำพันเหลืออยู่เกือบครึ่งแก้วไปยังผนังห้องเต็มแรงตามอารมณ์โกรธที่พุ่งสุดขีด
เพล้ง!!!
แก้วเหล้าราคาแพงลอยละลิ่วปะทะกับฝาผนังจนแตกละเอียด น้ำสีอำพันไหลรินเป็นทางยาวลงมาตามผนังห้อง ก่อนจะซึมเข้าไปในพรมเปอร์เซียราคาแพง ส่วนเจ้าชายผู้สูงศักดิ์ที่ไม่ได้ทำตัวให้เหมาะสมกับการเป็นมกุฎราชกุมารแห่งประเทศอะเดลา ได้ทุบมือลงบนโซฟาติดกันหลายๆ ครั้ง ก่อนจะสบถออกมาอย่างอารมณ์เสีย
“บัดซบ! ไอ้ฟารีสต์กับนังฟาติยามันบังอาจมาก ที่กล้าปฏิเสธเรื่องการเป็นทองแผ่นเดียวกันกับพวกเรา”
“ใช่! พวกมันบังอาจมาก และคิดผิดอย่างมหันต์ที่ไม่รับน้องไปเป็นพระชายานั่ง
คู่ราชบัลลังก์อัสดารานส์”
เจ้าหญิงอลีมาเค้นเสียงด้วยความแค้นเคืองไม่แพ้ผู้เป็นเชษฐา นัยน์ตาทั้งสองวาวโรจน์ด้วยความเจ็บใจที่ชีคฟารีสต์ปฏิเสธเธออย่างไม่มีเยื่อใย ซึ่งไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปี ชีคฟารีสต์ก็ไม่ยอมรับไมตรีจากเธอสักที ทั้งๆ ที่เธอนั้นพร้อมมอบทั้งกายและใจให้กับชีคหนุ่มผู้หล่อเหลา
“ชีคฟาซิซต์ ปฏิเสธที่จะรับลูกของพ่อไปเป็นลูกสะใภ้และลูกเขย แล้วลูกๆ ทั้งสองจะทำอย่างไรต่อไป”
ชีคอะเดลา เจ้าผู้ปกครองประเทศอะเดลา ได้แสดงอาการผิดหวังและเสียดายออกมาให้เห็นอย่างชัดเจน ที่ไม่มีโอกาสได้รวมแผ่นดินทะเลทรายให้เป็นแผ่นเดียวกันกับประเทศอัสดารานส์อันแสนมั่งคั่งไปด้วยสายแร่น้ำมัน
หากได้เป็นทองแผ่นเดียวกันกับประเทศอัสดารานส์ ก็จะทำให้ประเทศของพระองค์พ้นจากคำว่าล้มละลาย เพราะตอนนี้ทรัพย์สินที่เคยเป็นของพระองค์ได้ถูกจำหน่ายไปหมดแล้ว พระองค์ โอรสและธิดา กำลังจะเข้าสู่สภาพกลายเป็นบุคคลล้ม
ละลาย ประเทศอะเดลากำลังจะล้มสลายหากไม่ได้รับการค้ำจุนจากประเทศอัสดารานส์ที่มั่งคั่งยิ่งนัก
เจ้าหญิงอลีมาหันมาจ้องมองพระบิดาเขม็ง ก่อนจะเอ่ยตอบเสียงเย็นอย่างไม่ยอมแพ้ “อลีมาไม่ยอมให้ชีคฟารีสต์ปฏิเสธอลีมาง่ายๆ แบบนี้หรอกค่ะ อลีมาปล่อยให้ชีคฟารีสต์วิ่งหนีความต้องการของอลีมา มานานหลายปีแล้ว ต่อไปอลีมาจะทำทุกวิธีทางเพื่อครอบครองชีคฟารีสต์ให้ได้”
ที่ผ่านมาเจ้าหญิงอลีมาได้คว้าบุรุษมากหน้าหลายตา เพื่อมาสนองตัณหาของเธอ ซึ่งผู้ชายเหล่านั้นเป็นแค่ส่วนหนึ่งในเกมราคะ แต่ไม่มีใครสามารถทำให้เธอลืมเรือนกายกำยำล่ำสันของชีคฟารีสต์ได้
ตลอดระยะเวลาห้าปีที่ผ่านมา ไม่เคยมีชายใดทำให้เธอพึงพอใจได้ เรือนกาย
ของบุรุษเหล่านั้นไม่สามารถทำให้เธอลืมเรือนกายอันแข็งแกร่งเต็มไปด้วยมัดกล้าม
และไรขนอ่อนๆ ที่ขึ้นประปรายเต็มหน้าอก ก่อนจะลับหายไปในขอบกางเกงว่ายน้ำ
เธอมีโอกาสได้เห็นเรือนกายที่สมบูรณ์แบบเสียยิ่งกว่าบุรุษอาหรับโบราณ ในขณะที่ชีคฟารีสต์ได้ลงแหวกว่ายออกกำลังกายในสระน้ำขนาดใหญ่ที่ตำหนักของพระองค์ เรือนกายที่งดงามของชีคฟารีสต์ ทำเอาเธอคลั่งไคล้และถวิลหาพระองค์อยู่ตลอดเวลา ซึ่งไม่มีชายใดที่จะทำให้เธอลืมชีคฟารีสต์ได้ และตอนนี้ก็ถึงเวลาแล้วที่เธอจะทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ชีคฟารีสต์มาครอบครอง
“พี่เองก็ต้องการเจ้าหญิงฟาติยาเช่นเดียวกัน เกิดมาไม่เคยเห็นผู้หญิงคนไหนที่มีผิวพรรณยองใยราวกับตุ๊กตาเจียระไน งดงามน่าฟัดน่ากินเหมือนเจ้าหญิงฟาติยามาก่อน หากไม่ได้ลิ้มลองดอกไม้สีสวยดอกนี้ พี่คงเสียชาติเกิดและคลั่งตายเป็นแน่”
พอได้พูดถึงเจ้าหญิงผู้สูงศักดิ์แห่งประเทศอัสดารานส์ เจ้าชายอะเดลีก็บังเกิดความกระสั่นอยาก แก่นกายเบื้องล่างเต้นตุบๆ สั่นระริก อยากจมดิ่งเข้าไปในเรือนร่างอันแสนงดงามของเจ้าหญิงฟาติยาที่ตนเองเฝ้ามอง เฝ้าโลมเลียผ่านสายตามานานนับหลายปีแล้ว
“หากพวกเจ้าทั้งสองคนสามารถครอบครองเจ้าหญิงฟาติยาและชีคฟารีสต์ได้ พวกเราก็จะพ้นจากคำว่าอดตาย พ้นจากคำว่าล้มละลาย และที่สำคัญพวกเราจะมีเงินทองให้จับจ่ายใช้สอยได้อย่างไม่ขาดมือ”
ชีคอะเดลากระตุ้นเตือนให้โอรสและธิดา ได้นึกถึงสภาพความเป็นจริงของแผ่นดินที่พวกตนกำลังยืนอยู่ หากไม่รีบจัดการให้ราชนิกุลหนุ่มและเจ้าหญิงผู้สูงศักดิ์มาตกอยู่ในกำมือ พวกเขาคงได้กินเม็ดทรายต่างข้าวอย่างแน่นอน
เจ้าหญิงอลีมาเหยียดยิ้มตรงมุมปากอย่างมาดหมาย ก่อนจะเอ่ยตอบให้พระบิดาได้แสยะยิ้มออกมาบ้าง
“ท่านพ่อไม่ต้องเป็นห่วงค่ะ อลีมาจะทำทุกอย่าง เพื่อให้ได้ชีคฟารีสต์มาเป็นของ
อลีมา ชีคฟารีสต์ต้องเป็นของอลีมาเพียงคนเดียวเท่านั้น”
“หากได้เจ้าหญิงฟาติยามานอนอยู่ใต้เรือนร่าง คงทำให้เกมรักเร่าร้อนทุกนาที
และสนุกจนลืมไม่ลง”
เจ้าชายอะเดลีแสยะยิ้มหื่นกระหาย ดวงตาลุกโชนด้วยไฟราคะ อยากครอบ
ครองจับจองเป็นเจ้าของเรือนร่างอันแสนเซ็กซี่ของเจ้าหญิงแห่งแผ่นดินอัสดารานส์จนแทบทนรอไม่ไหว
“พวกเจ้าทั้งสองจะจัดการอย่างไรให้ได้ครอบครองเจ้าหญิงฟาติยากับชีคฟารีสต์ จงอย่าปล่อยให้เวลาผ่านเนิ่นนานจนเกินไป ไม่เช่นนั้นพวกเจ้าจะทำตามที่ต้องการไม่สำเร็จ”
ผู้เป็นพระบิดาเริ่มถามด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดใจ ที่โอรสธิดาต่างก็พร่ำรำพันถึงความหิวกระหายใจตัวราชนุกุลหนุ่มและเจ้าหญิงผู้สูงศักดิ์ ทว่าทั้งสองกลับไม่ทำอะไรให้เป็นรูปธรรม ตามถ้อยวาจาที่ได้เอ่ยออกมา
“ท่านพ่อใจเย็นค่ะ” เจ้าหญิงอลีมาเอ่ยห้ามพระบิดาติดน้ำเสียงขุ่น ก่อนจะเอ่ยบอกเสียงเย็น “ในวันราชาภิเษกสถาปนาชีคฟารีสต์ขึ้นเป็นประมุขแห่งประเทศอัสดารานส์ อลีมาได้เตรียมของขวัญชิ้นพิเศษไว้ให้ท่านชีคพระองค์ใหม่แล้ว รับรองว่าชีคฟารีสต์ต้องนึกไม่ถึงกับเรื่องเซอร์ไฟรส์ในครั้งนี้แน่นอนค่ะ”
ประมุขแห่งประเทศอะเดลาคลี่ยิ้มออกมาได้ จากนั้นก็หันไปมองโอรสที่ยังนั่งนิ่งเฉย ก่อนจะตรัสถามออกมา เพื่อให้มั่นใจว่าโอรสหนุ่มจะไม่ทำให้พระองค์ต้องผิดหวัง
“แล้วเจ้าล่ะอะเดลี เจ้าจะเผด็จศึกเจ้าหญิงฟาติยาด้วยวิธีใด”
“อีกไม่นานท่านพ่อก็จะรู้เอง ผมเตรียมแผนไว้รอรับเจ้าหญิงฟาติยาแล้ว รับรองว่าเจ้าหญิงฟาติยาต้องตกเป็นของผมในเร็ววันนี้แน่”
เจ้าชายอะเดลีกระตุกยิ้มตรงมุมปาก ดวงตาอันแฝงไปด้วยความโหดเหี้ยมไหววาบกับแผนการที่เตรียมไว้มอบให้กับเจ้าหญิงฟาติยา ไม่นานเกินรอเจ้าหญิงผู้สูงศักดิ์คนนี้ต้องมานอนครวญครางอยู่ใต้ร่างของเขา เจ้าหญิงจะต้องหลงใหลกับเซ็กซาดิสม์ที่เขาเตรียมไว้ให้ และจะอ้อนวอนให้เขามอบเซ็กอันดิบเถื่อนให้กับเธอในตลอดเวลา