บท
ตั้งค่า

7

“แก้มอย่าลืมวิ่งไปเด็ดดอกกล้วยไม้มาเสียบปากแก้วเหมือนที่พี่เคยพาทำนะ มีอะไรไม่เข้าใจรีบมาถามด่วน หรือถ้ากล้วยไม้ไม่มีดอกให้ใครก็ได้ขับมอเตอร์ไซคล์ออกไปซื้อในตลาด จำไว้นะว่าต้องดอกกล้วยไม้เท่านั้นจะสีอะไรก็ได้แต่ต้องกล้วยไม้ ถ้าในตลาดไม่มีให้วนหาตามร้านดอกไม้ที่ถนนใหญ่เลย เหนื่อยหน่อยนะเสร็จงานนี้พี่จะเลี้ยงพิซซ่าถาดใหญ่กับไก่ทอดทุกคนเลย ตกลงมั้ย”

จิณณวัตรเห็นแก้มรีบทำตามคำสั่งเลขาแม่ด้วยความรีบร้อนและใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส จากนั้นเลขาก็ลงมือหั่นของบนเขียงฉับๆ ต่ออย่างเร่งรีบ

“คุณจะช่วยแกะผักต่อจากแก้มก็ได้นะคะ แต่รบกวนไปล้างมือก่อน”

แถมเจ้าหล่อนก็หันมาสั่งหน้าตาเฉย ถ้าเป็นเวลาอื่นเขาคงจะไม่คิดจะทำตามแน่ แต่ตอนนี้ทุกคนกำลังวุ่นเขาจึงลงมืออย่างไม่เกี่ยงงอน ช่วยได้ไม่นานผ่อนก็เสนอให้เขารีบขึ้นไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเตรียมต้อนรับแขกของแม่ซึ่งเขาก็ยอมออกจากครัวไปแต่โดยดี

และไม่ได้กลับเข้าไปอีกกระทั่งแม่มาถึงบ้าน พ่อที่เพิ่งจะกลับจากออกรอบก็ช่วยต้อนรับอย่างเต็มใจ และเมื่อเดินเข้าห้องอาหารเขาเองก็ทึ่งไม่น้อย

ผ่อนเปลี่ยนมาใส่ชุดแม่ครัวฝรั่งเต็มยศ แหม่มกับแก้มก็อยู่ในชุดแม่บ้านฝรั่งผ้าสีเทาขอบแขนกับชายกระโปรงแถมขาว มีผ้ากันเปื้อนสีขาวผูกเอวไว้มองแล้วดูสะอาดหูสะอาดตาและอินเตอร์ไม่น้อย

ส่วนอาหารนั้นไม่ต้องพูดถึง จานแรกเป็นสลัดผักรวมซึ่งเขามีโอกาสช่วยเด็ดกับมือ ตามด้วยซุปเห็ดแชมปิญองที่เขาเห็นเลขาแม่คว้ามาจากห้างหลายกระป๋องสปาเกตตีซอสมะเขือเทศที่เลขาแม่หั่นฉับๆ อย่างคล่องแคล่ว

“ใครไม่ทานเนื้อบ้างคะ เด็กๆ จะได้เสิร์ฟปลากับหมูให้ ท่านปลัดทานเนื้อใช่มั้ยคะ”

ตามติดด้วยสเต๊กทำเอาแม่เขายิ้มน้อยยิ้มใหญ่ด้วยความพึงพอใจก่อนจะถามแขกแทบจะรอบโต๊ะ แต่กลับลืมถามสามีกับลูกชายเสียสนิท ผ่อนจึงตัดสินใจเสิร์ฟเนื้อให้เพราะเดาได้ว่าทั้งสองกินเนื้อ จิรเดชชิมคำแรกก็หันไปยิ้มให้แม่ครัวร่างอวบอั๋นด้วยความพอใจ

ไอศกรีมที่เลขาแม่หอบมาสามกล่องก็ถูกตักเสิร์ฟใส่ถ้วยแก้วหรูหราแก้วละสองก้อนมีแยมหลายรสกับลูกเชอร์รีตกแต่งเป็นท็อปปิ้งสวยงามและดูอินเตอร์ไม่น้อย

“ทานอิ่มๆ ออกไปยืดเส้นยืดสายตรงสนามดีกว่านะคะ เด็กๆ จะได้ยกชา กาแฟไปให้”

ศาลาไม้สักสามสี่หลังตั้งอยู่ตามขอบสนามหญ้าเขียวขจีถูกจับจองด้วยแขกทั้งหมด ซึ่งแยกย้ายกันไปนั่งจับกลุ่มคุยตามอัธยาศัย ส่วนแม่กับพ่อต้อนรับปลัดกับนายอำเภอที่ไหนสักแห่งเขาก็จำไม่ได้ และเขาก็ถูกสั่งให้เดินนำแขกรุ่นอาวุโสรองลงมาไปนั่งอีกศาลา ไม่นานแหม่มกับแก้มก็ยกชา กาแฟร้อนมาเสิร์ฟถึงที่ ตามติดด้วยสาลี่ แคนตาลูปหั่นเป็นชิ้นพร้อมสลักลวดลายพอเป็นพิธี

ทว่าหน้าตาก็เหมือนในร้านอาหารไม่มีผิด เขาให้สงสัยไม่น้อยว่าเลขาแม่หายไปไหน ทำไมไม่โผล่หน้ามาให้เห็นเลย แต่ความสงสัยก็หมดไปเมื่อแขกกลับหมดแล้ว เขากับแม่เดินเข้าไปในครัวก็เห็นทุกคนกำลังนั่งกินมื้อเย็นที่ดึกกว่าปกติอย่างเอร็ดอร่อย แล้วเขาก็เห็นเลขาแม่ทำท่าจะอิ่ม

“กินก่อนเถอะตะวัน ไม่มีอะไรหรอก ฉันแค่จะแวะมาขอบใจน่ะที่มาทันเวลาจนกู้หน้าฉันไว้ได้อีกครั้ง ขอบใจทุกคนนะ กินอิ่มแล้วก็แยกย้ายกันไปพักผ่อนเถอะ พรุ่งนี้เราค่อยคุยกันนะตะวัน”

“ค่ะคุณผู้หญิง”

อาทิตยารับคำแค่นั้นแล้วก็นั่งลงกินข้าวรวมกับทุกคนอย่างไม่ถือเนื้อถือตัวว่าเป็นเลขาหรือคนสนิทของเจ้านายเลยสักนิด พออิ่มก็รีบรุดบึ่งรถที่เล็กเอามาจอดไว้ให้กลับคอนโด

ซึ่งได้โทรบอกเพื่อนให้จองไว้ตั้งแต่ได้ยินเสียงโทรศัพท์ของเจ้านายเมื่อเช้าแล้ว เพราะรู้ดีว่าถ้าลองได้ลำเลิกบุญคุณจากการช่วยพ่อกับแม่ไว้ ก็ไม่มีทางจะหลีกเลี่ยงได้แน่

ตอนที่ 2 ยัยหัวถั่วงอก

“เฮ้อ!!! เหนื่อยจังเอมี่ อยากจะนอนไปสามวันติดๆ กันเลย”

ร่างเล็กรีบกระโดดไปหาเตียงนุ่มทันทีเมื่อกระเป๋าถูกขนจากรถขึ้นมาบนห้องได้ เอมิกามองเพื่อนรักแล้วส่ายหน้าน้อยๆ ให้ก่อนจะกระโดดไปนอนข้างๆ

“แล้วคราวนี้จะอยู่นานแค่ไหนล่ะยะแม่คุณ นอกจากจะสวยเลือกได้แล้วยังเก่งเลือกได้ด้วยนะ ดูสิกลับมาหนนี้ได้เงินเดือนตั้งเก้าหมื่นแน่ะ อิจฉาจริงๆ เลย”

แล้วส่งประโยคประชดนิดๆ ไปหา

“อยากได้บ้างไหมล่ะจะยกให้”

เลยถูกอาทิตยาเหน็บด้วยน้ำเสียงไม่จริงจังนักขณะยังนอนนิ่งไม่ไหวติงไปไหน

“อุ๊ย! ไม่เอาหรอกย่ะ ฉันเป็นเมียเก็บเมียน้อยก็ได้เดือนละหลายแสนละ เรื่องอะไรจะไปนั่งทนให้แม่คุณนายนั่นโขกสับเหมือนหล่อนล่ะยะ แล้วเมื่อไหร่ไอ้คำว่า ‘บุญคุณต้องทดแทนหนี้แค้นต้องชำระ’ จะหมดจะสิ้นสักทีแม่ด๊อกร์”

เพราะเอมิการู้เรื่องงานของอาทิตยาทุกอย่าง ในทางเดียวกันอาทิตยาก็รู้เรื่องของเพื่อนทุกเรื่องเช่นกัน เพราะทั้งสองคบหากันมาตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัยปีแรก จนต่อโทจบพร้อมกัน และอีกไม่นานทั้งคู่ก็จะได้เป็นดอกเตอร์ตามที่คาดหวังเอาไว้แล้ว

“เฮ้อ!!! ไม่รู้เหมือนกัน อย่าพูดถึงมันเลย หมดเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น คิดอะไรมากล่ะ ได้เงินเดือนตั้งเยอะแยะ หนักหน่อยเหนื่อยหน่อยก็ทนๆ เอาสิ อีกอย่างถ้าไม่มีเขา เราก็คงมาถึงวันนี้ยากเหมือนกัน”

ดูเหมือนจะเป็นการปลอบใจตัวเองมากกว่าจะสั่งสอนเพื่อน

“อย่ามาถ่อมตัวหน่อยเลย นักเรียนเกียรตินิยมอันดับหนึ่งอย่างหล่อนนี่อยากจะไปทำงานที่ไหนเขาก็อ้าแขนรับกันทั้งนั้น ถ้าไม่มัวแต่เอาตัวไปเป็นขี้ข้าเจ้านายเก่าของคุณลุงคุณป้าป่านนี้เจริญไปถึงไหนๆ แล้ว”

และแน่นอนว่าเอมิกาไม่อยากให้เพื่อนต้องมาจมอยู่กับงานหาความก้าวหน้ายากเต็มทีอย่างนี้ เพราะเสียดายความรู้อันดีเลิศน่าจะได้เอาไปใช้กับบริษัทใหญ่ๆ เงินเดือนเยอะๆ อีกทั้งเสียดายรูปร่างหน้าตาอันสะสวยของเพื่อน

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel