บทที่ 1 - ดั้นด้นมาก็เพื่อตามหา 2
“ดอกเริ่มร่วง ฝักก็เริ่มแก่ข้างในต้องมีเมล็ดเยอะแน่ๆ” เขาเอ่ยออกมาด้วยรอยยิ้ม เพราะเจ้ากวางตุ้งแก่ต้นนี้จะทำให้เขามีเมล็ดพันธุ์ไว้ปลูกในครั้งต่อไป
พืชผักชนิดอื่นชายหนุ่มทำก็เช่นเดียวกัน ทั้งปลูกไว้กินและเก็บไว้ให้เติบโตจนได้เป็นเมล็ดพันธุ์ ชายหนุ่มจึงได้มีพืชผักกินตลอดทั้งปี ไม่เว้นแม้แต่ในฤดูหนาว
เก็บผักเสร็จซ่งหานหลิ่งก็เดินกลับเข้าไปในครัว พอดีกับหม้อข้าวต้มของเขากำลังสุกได้ที่ ชายหนุ่มใช้ทัพพีที่เหลามาจากไม้ไผ่คนข้าวในหม้อ เพื่อไม่ให้เม็ดข้าวจับกันเป็นก้อน ก่อนจะหันไปล้างผักเตรียมผัดใส่เนื้อหมูป่าที่เขาแล่ตากแดดให้แห้งไว้เมื่อสามวันก่อน
ซ่งหานหลิ่งใช้เวลาราวครึ่งก้านธูปก็ทำอาการเสร็จ ข้าวต้มสองถ้วยถูกวางลงบนโต๊ะกินข้าวที่ตั้งอยู่ตรงข้ามกับเตียง พร้อมกับอาหารอีกสองอย่างคือกวางตุ้งผัดเนื้อแห้งกับเนื้อไก่ฟ้าแดดเดียวย่างไฟอ่อนๆ
หมอหนุ่มเดินไปใช้หลังมือวัดไข้คนป่วย เมื่อเห็นว่าเนื้อตัวอีกฝ่ายไม่ร้อนนัก คนเป็นหมอก็โล่งอก เพราะลึกๆ แล้วซ่งหานหลิ่งก็ไม่ปรารถนาจะเห็นคนคนนี้ต้องมาตายตกใกล้สายตาเขา
“อาฮั่น อาฮั่น ตื่นขึ้นมากินอะไรก่อนเถิด” ชายหนุ่มปลุกคนที่กำลังนอนอยู่สองสามครั้ง ไม่นานคนป่วยก็ลืมตาตื่น
“อาหลิ่ง” เหอเจ่อฮั่นเรียกคนที่ยืนอยู่ข้างเตียงด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา ราวกับจะโรยราจางหายจากไปได้ทุกเวลา
“ข้าจะไปเอาน้ำมาให้ล้างหน้า จากนั้นก็กินอะไรลงท้องเสียหน่อย อย่าได้มาตายในบ้านของข้าเชียว” คนเป็นหมอว่าก่อนจะเดินออกจากห้องไป
เหอเจ่อฮั่นมองตามแผ่นหลังคนที่ช่วยชีวิตเขาไว้ก่อนจะยกยิ้มบาง แล้วค่อยๆ ประคองร่างกายที่เต็มไปด้วยบาดแผลของตนเองลงมาจากเตียง
มื้อเช้าของชายหนุ่มทั้งสองผ่านไปด้วยความเงียบ ซ่งหานหลิ่งเห็นว่าคนป่วยยังพอที่จะใช้งานแขนได้ เขาจึงปล่อยให้อีกฝ่ายกินเองโดยที่ไม่คิดช่วย
เหอเจ่อฮั่นเองก็ก้มหน้าก้มตากิน ด้วยเพราะอาหารง่ายๆ ที่ตั้งอยู่ต่อหน้าเขาตอนนี้เป็นอาหารฝีมือของอาหลิ่ง หากไม่เดินเท้าข้ามป่าข้ามเขามาถึงที่นี่ ชีวิตนี้เขาก็คงไม่มีโอกาสได้กินอาหารฝีมือซ่งหานหลิ่งแน่
หลังเสร็จจากทานมื้อเช้า หมอหนุ่มก็เดินออกไปนอกห้อง ปล่อยให้คนป่วยนั่งรออยู่ในห้องเพียงคนเดียวราวสามก้านธูป ก่อนจะกลับเข้ามาพร้อมสมุนไพรหลายชนิดในมือ
“อาหลิ่ง เจ้าหายไปไหนมา” แม้จะเห็นสิ่งของที่อยู่ในมืออีกฝ่าย แต่เหอเจ่อฮั่นก็เอ่ยถามออกไปเพื่อทำลายความเงียบงัน
ซ่งหานหลิ่งช้อนสายตาขึ้นมอง ทว่ากลับไม่ได้เอ่ยคำใดออกไป หมอหนุ่มหยิบสมุนไพรชนิดนั้นชนิดนี้มาบดรวมกันจนละเอียด จากนั้นก็เดินไปหาคนที่นั่งอยู่บนเตียงพร้อมกับถ้วยยาในมือ
“ถอดเสื้อออกแล้วใส่ยานี้ซะ แผลจะได้ไม่เน่าเปื่อย” ซ่งหานหลิ่งเอ่ยบอกคนป่วยเสียงเรียบ
“อาหลิ่ง” คนป่วยเอ่ยเรียกคนเป็นหมอ เมื่ออีกฝ่ายไม่มีท่าทีสนใจตน เหอเจ่อฮั่นก็หันไปถอดเสื้อตัวนอกของตนเองออกด้วยความยากลำบาก
“ซี้ด!” คนป่วยสูดปากด้วยความเจ็บ เมื่อขยับตัวมากเข้า แผลที่เริ่มอักเสบก็ค่อยๆ สร้างความทรมานให้เขา
ซ่งหานหลิ่งมองคนเจ็บที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ถนัดด้วยสายตาเอือมระอาปนรำคาญใจ เหตุใดเหอเจ่อฮั่นจึงชอบสร้างความยุ่งยากลำบากใจให้เขานัก
มือเรียวยื่นไปช่วยคนป่วยถอดเสื้อชั้นนอกในออก ก่อนจะเริ่มต้นทายาให้เขา น้ำหนักมือของคนเป็นหมอเบาหวิวจนเหอเจ่อฮั่นลืมเจ็บไปชั่วขณะ เขามองหน้าซ่งหานหลิ่งด้วยความขอบคุณ...
“อาหลิ่ง เหตุใดจึงหนีมาอยู่ในป่าเยี่ยงนี้เล่า?” เหอเจ่อฮั่นเอ่ยถาม ในขณะที่ซ่งหานหลิ่งกำลังพันแผลให้เขา
“แล้วเจ้ามาทำอะไรในป่าลึกเยี่ยงนี้เล่า?” อดีตหมอเทวดาถามกลับ
“ข้า...ข้า” เหอเจ่อฮั่นอึกอัก เขาไม่รู้ว่าควรจะบอกความจริงให้ซ่งหานหลิ่งรู้ดีหรือไม่
หากจะบอกว่าเขาจงใจเข้าป่ามาก็เพื่อตามหาอีกฝ่าย ก็ไม่รู้ว่าซ่งหานหลิ่งจะมีความคิดเห็นหรือรู้สึกเช่นไร
“ข้าออกเดินทางมากับขบวนขายสินค้า ทว่ากลับถูกกองโจรดักปล้นกลางทาง ข้าพลัดหลงกับอี้เจาในตอนที่กำลังหนีพวกโจร จนกระทั่งมาเจอเจ้า”
ซ่งหานหลิ่งจ้องมองคนเล่าเรื่องด้วยสีหน้าคล้ายกำลังหวาดระแวง แน่นอนว่าเขาไม่เชื่อในสิ่งที่เหอเจ่อฮั่นพูดทั้งหมด ด้วยพอจะรู้จักนิสัยใจคอของอีกฝ่ายอยู่บ้าง
ด้วยครั้งก่อนเขาได้รักษาดวงตาให้อีกฝ่ายจนหายดี ไม่มัวสลัวแม้ในเวลากลางคืนดั่งเช่นที่เคยเป็น หลังจากนั้นเขาและอีกฝ่ายจึงได้ตกลงคบหากันเป็นสหายในที่สุด
ทว่าหลังจากนั้นก็มีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมาย ตัวเขาที่ถูกวางยาแล้วถูกแม่ทัพอู่หยงพากลับมาแคว้นหนานไห่ ก็ไม่ได้ติดต่อหรือรับรู้ข่าวสารความเป็นไปของสหายผู้นี้อีกเลย ไม่รู้ว่าตลอดห้าปีที่ผ่านมาอีกฝ่ายพบเจอเรื่องราวดีร้ายใดมาบ้าง
“อาหลิ่ง”
“ช่างเถอะ!” ซ่งหานหลิ่งเอ่ยขัด
“ข้าขอไม่รับรู้ก็แล้วกันว่าเจ้าจะไปพบเจอเรื่องใดมา เอาเป็นว่าเจ้าพักรักษาตัวอยู่ที่นี่ พอหายดีแล้วก็กลับไปเสีย” ซ่งหานหลิ่งเอ่ยอย่างใจดำ
เป็นความจริงที่ว่าหลังจากน้องสาวผู้เป็นที่รักของเขาตายจาก พี่ชายที่รักและผูกพันกับน้องสาวมากเช่นเขา ย่อมเสียใจมากเป็นธรรมดา และสาเหตุที่เขาปลีกวิเวกมาอยู่ในป่า ก็เพราะเขานั้นไม่ต้องการพบหน้าผู้ใดอีก โดยเฉพาะคนที่มาจากแคว้นตงฟู่