ตอนที่ 6 ฉันไม่ได้รักเธอ
“เดี๋ยวก่อนสิคะพี่คีย์! พี่เป็นอะไรทำไมถึงทำกับพิมพ์แบบนี้ พิมพ์ไปทำอะไรให้พี่ไม่พอใจขนาดนั้นเลยหรอคะ ทั้งๆที่เราสองคนเพิ่งจะแต่งงานกันนะ” หญิงสาววิ่งไปสวมกอดร่างสูงจากด้านหลัง สองแขนเล็กเกาะเกี่ยวเอวสอบไว้แน่น จู่ๆทำไมเขาถึงเป็นแบบนี้ รู้ไหมหัวของเธอกำลังเจ็บปวด....กลัวว่าผู้ชายที่รักมากที่สุดในชีวิตจะหลอกเธอ “อย่าเดินหนีสิ มีอะไรก็บอกมาตรงๆสิคะ เราสองคนเป็นสามีภรรยากันแล้วนะ”
พรึ้บ!
เขาแกะมือของเธอทิ้ง แล้วหันกลับมามองด้วยสายตาสุดแสนเย็นชา ราวกับว่าอัคคีคนนี้ไม่ใช่คนที่เธอเคยรู้จัก
“สามีภรรยางั้นหรอ รู้ไหม ฉันโครตเกลียดคำนี้เลย!”
“...” พิมพ์ลดาสะอึกจนหน้าชา แต่ก็ยังเข้าข้างตัวเองอยู่ว่าอัคคีคงไม่พอใจที่พ่อของเธอพูดในวันนี้ “พี่คีย์...พี่เป็นอะไรไป ตอนนี้พิมพ์สับสนไปหมดแล้ว เกิดอะไรขึ้นกับพี่”
“อย่าคิดเข้าข้างตัวเองไปหน่อยเลยว่าที่ฉันแต่งงานด้วยเพราะรัก ความจริงฉันรอคอยวันนี้มานานแล้วต่างหาก”
“พี่พูดอะไร?”
“ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ห้ามเรียกฉันว่าพี่คีย์เด็ดขาด แต่ให้เรียกฉันว่าคุณอัคคี”
“พะ...พี่คีย์”
“บอกแล้วใช่ไหมห้ามเรียกฉันแบบนี้!!”
“พิมพ์จะเรียก! พี่เป็นแฟนพิมพ์นะ อีกอย่างเราสองคนก็แต่งงานกันแล้วด้วย จู่ๆจะให้พิมพ์เรียกพี่ว่าคุณอัคคีทั้งๆที่เราสองคนเป็นคนรักกันงั้นหรอ”
“คนรักหรอ เหอะ! มีแค่เธอฝ่ายเดียวหรือเปล่าที่รักฉัน เพราะตลอดระยะเวลาที่เราคบกัน....ฉันไม่เคยรักเธอเลย!”
กึก!
“มะ...ไม่จริง เลิกแกล้งพิมพ์สักที!!”
“ฉันไม่ได้แกล้ง!” เขาผลักร่างของเธอกระแทกผนัง แววตาดุจัดตวัดมองพิมพ์ลดาด้วยความเคียดแค้น แค่รู้ว่าเป็นลูกสาวไอ้ฆาตรกรเขาก็รู้สึกขยะแขยงจนแทบไม่อยากมองหน้า ที่พยายามทำดีด้วยเพราะรอคอยวันนี้....วันที่เกรียงไกรกำลังจะตายทั้งเป็น! “ขนาดนี้แล้วเธอยังคิดเข้าข้างตัวเองอีกหรอ ที่แต่งงานด้วยเพราะฉันรอคอยวันนี้มานานแล้วต่างหาก!”
“ไม่...ฮึก....พิมพ์ไม่เชื่อ!”
“ต้องให้ฉันทำยังไงเธอถึงจะเชื่อ”
“ถ้าพี่ไม่ได้รักพิมพ์จริงๆ พี่จะโอนบริษัทคืนให้พิมพ์ทำไม”
“หึ! ฉันบอกให้เธออ่านดีๆแล้วนะสาวน้อย แต่เธอไม่อ่านเอง”
“มะ....หมายความว่ายังไง” ดวงตากลมโตสั่นระริกกำลังสบตากับเขา ริมฝีปากหยักได้รูปกระตุกยิ้ม แววตาคู่นั้นไม่ได้มีความรักใคร่ ไม่ได้มีความหลงใหลเหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว ทำไห้พิมพ์ลดาเริ่มเชื่อแล้วว่าที่เขาพูดคือเรื่องจริง
“บริษัทเป็นของเธอก็จริง แต่รายได้ทุกบาททุกสตางค์....ต้องถูกโอนมาที่บัญชีบริษัทของฉัน”
“มะ...หมายความว่า....”
“ก็หมายความว่า....เธอกับพ่อของเธอ ก็ทำงานให้ฉันฟรีๆไง”
“ฮึก! ไม่! พิมพ์ไม่เชื่อ!”
“ฉันบอกให้เธออ่านดีๆแล้วนะ แต่เธอเลือกที่จะไม่อ่านเอง”
“เพราะพิมพ์ไว้ใจพี่ไง และพิมพ์ก็รักพี่มาก....มากกว่าชีวิตของตัวเองด้วยซ้ำ!!” หญิงสาวว่าทั้งน้ำตา จู่ๆคนที่เคยบอกรักทุกวันกลับมาบอกว่าที่ผ่านไม่เคยรักเธอเลย ใครจะไปตั้งตัวทัน ถ้าไม่ได้รักแล้วมาแต่งงานกับเธอทำไม
“คนที่เธอควรจะรักคือตัวเองมากกว่านะ ฉันเองก็ไม่คิดเหมือนกันว่าบนโลกใบนี้จะมีผู้หญิงโง่เง่าขนาดนี้ ไม่เอะใจเลยหรอว่าทำไมงานแต่งของเราถึงไม่มีใครเลย เพราะมันเป็นแค่งานแต่งหลอกๆไง คนระดับฉัน ถ้าจะแต่งงานจริงๆก็ต้องจัดงานให้สมเกียรติสมศักดิ์ศรีสิ พ่อของเธอพูดถูกทุกอย่างแล้วพิมพ์ลดา แต่ลูกสาวอย่างเธอดันเลือกเชื่อผู้ชายมากกว่าพ่อของตัวเอง”
“พี่ทำแบบนี้ทำไม...ฮึก....ทำแบบนี้ทำไม!!”
“เพราะฉันอยากให้ครอบครัวของเธอสยบแทบเท้าไงล่ะ ฉันอยากเห็นพ่อของเธอทุกข์ทรมาน ดิ้นทุรนทุรายเพราะเห็นสิ่งที่มันรักที่สุดถูกทำลาย “ฉันจะทำให้มันรู้ว่าตายทั้งเป็น....มันเป็นยังไง!!”
“พ่อพิมพ์ไปทำอะไรให้พี่! ท่านไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกับใคร พิมพ์ว่าพี่ต้องเข้าใจผิดแน่ๆ”
“ฉันไม่ได้เข้าใจผิด! พ่อของเธอสร้างบาดแผลไว้ให้ฉัน ก็ไม่แปลกที่ฉันจะสร้างบาดแผลให้มันคืน!”
“ท่านไปทำอะไรให้พี่ก็บอกมาสิ พิมพ์กับพ่อจะได้แก้ไข!”
“เธอกับไอ้ชั่วนั่นกลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว!” เขาจ้องลึกเข้าไปในดวงตากลมโตสั่นระริก น้ำตาไหลลงมาไม่ขาดสาย มองเขาด้วยสายตาเชิงตัดพ้อ แล้วเขาก็พูดออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นเยือก บาดใจคนฟัง “เว้นแต่จะมีใครคนใดคนหนึ่งตาย....เรื่องพวกนี้ถึงจะจบ!”