บท
ตั้งค่า

ตอนที่5.พบเจอ

[โครงการบ้านจัดสรรชานเมือง]

“คุณคีไม่น่าลำบากมาด้วยตัวเองเลยครับ ทางเรากำลังจะสรุปแบบโครงการส่งไปให้อยู่แล้วครับ” วิวัฒน์วิศวกรคุมงานบอกด้วยท่าทางนอบน้อม เมื่อประธานบริษัทมาดูโครงการก่อสร้างด้วยตัวเอง คีตภัทรไม่ตอบโต้ใด ๆ ตาคู่คมมองแบบที่ทีมงานกางให้ดู พร้อมกับฟังคำอธิบายไปด้วย หลังจากเข้ามาบริหารงานในบริษัทได้ไม่นาน คีตภัทรก็เปิดบริษัทใหม่หลายแห่ง แยกจากอัครธาดาที่ใหญ่โต และมีสาขาเพิ่มขึ้นมากมาย

“เปิดได้เร็วที่สุดเมื่อไร”

“ยอดจองได้เกินครึ่งแล้วครับ คาดว่ากลางปีนี้น่าจะลงมือได้เลยครับ”

“ทำโฆษณา เพิ่มส่วนลด และเพิ่มของแถมไปอีกห้ารายการ ทำยังไงก็ได้ให้ลูกค้าเชื่อมั่นและมาจองกับเรา โครงการนี้ผมจะไม่เอาชื่ออัครธาดามาเป็นจุดขาย ยอดจองต้องมาจากความพอใจของลูกค้าเท่านั้น”

“ครับ ผมจะทำตามที่คุณคีแนะนำ แล้วจะรีบสรุปแบบส่งให้เร็วที่สุด เชิญที่สำนักงานดีกว่าครับ ตรงนี้แดดมันร้อน”

“ไปที่ห้องพักดีกว่าค่ะ วันนี้แดดร้อนมากจริง ๆ” สุชาดาที่ตามคีตภัทรมาจากบริษัทออดอ้อน เมื่อทนกับแดดตอนเที่ยงวันไม่ไหว หญิงสาวก่นด่าตัวเองในใจ ตามมาให้ลำบาก คีตภัทรไม่มีทีท่าว่าจะสนใจเธอเลยสักนิด ถ้ารู้ว่าจะเป็นอย่างนี้ นั่งตากแอร์รอที่บริษัทดีกว่า

“คุณสุไปก่อนเถอะครับ ผมจะเดินไปดูทางนั้นอีกสักหน่อย” คีตภัทรบอกพร้อมกับชี้มือไปยังบริเวณที่เป็นเขตชุมชน ถึงแม้จะมีรั้วสูงกั้นเอาไว้ แต่ก็รู้สึกขัดตา ไม่สมควรอย่างยิ่งที่จะมีสลัมอยู่ติดกับโครงการพันล้านของเขา

“งั้นสุไปรอในออฟฟิศนะคะ” พูดจบก็เดินตามคนงานออกไป สุชาดาเป็นนางแบบที่เข้ามาติดพันทั้ง ๆ ที่รู้ว่าเขามีคู่หมั้นอยู่แล้ว

“ที่ตรงนั้นมันดูขัดตา คุณจัดการให้ผมได้ไหม” ตอนที่มาซื้อที่ตรงนี้ เขาคิดว่าชุมชนไม่เป็นอุปสรรค กั้นรั้วให้สูงก็มองไม่เห็นแล้ว แต่พอเอาเข้าจริง ๆ ชุมชนกลับบดบังทัศนียภาพ ทำให้โครงการของเขาดูด้อยค่าลงไป

“ที่ตรงนั้นเป็นชุมชนเก่าแก่ ผมเกรงว่า...” คำพูดที่เหลือของวิวัฒน์ค้างไว้แค่ริมฝีปาก เมื่อคีตภัทรชัดขึ้น

“เสนอเงินให้สักก้อน ถ้าพูดไม่รู้เรื่องก็จัดการขั้นเด็ดขาด ผมไม่อยากเห็นมันอีก” คีตภัทรยื่นคำขาด มาคราวหน้าเขาต้องไม่เห็นชุมชนแออัดข้างรั้วนั่น ต้องเสียเงินอีกเท่าไร เขาก็พร้อมจ่าย

“ครับท่าน” วิวัฒน์รับปากทั้ง ๆ ที่รู้สึกไม่สบายใจ เพราะไม่อยากมีปัญหากับคนในชุมชน แต่เมื่อเจ้านายสั่งมาก็ต้องทำตามคำสั่ง

“วันใหม่รอพี่ด้วย อย่าวิ่งสิคะเดี๋ยวล้ม” เสียงร้องห้ามที่ดังมาพร้อมกับร่างเล็กกลมป้อม ในชุดกระโปรงสีชมพูฟูฟ่อง ที่กำลังวิ่งมาทางเค้า ทำให้คีตภัทรหยุดเท้าที่กำลังก้าวเดิน ตาคู่คมจับจ้องอยู่ที่ร่างเล็กที่ยิ่งผ่านหน้าไป ก่อนจะเลื่อนสายตาไปยังคนที่วิ่งตามมาด้วยความไม่พอใจ เขตก่อสร้างที่มีทั้งคนงานและเครื่องจักรกำลังทำงาน ทำไมถึงมีเด็กเข้ามาวิ่งเล่นได้ ดูเหมือนเด็กน้อยจะคุ้นเคยกับที่นี่เป็นอย่างดี เพราะเธอวิ่งผ่านหน้าเขาไปยังตู้คอนเทนเนอร์ ที่ดัดแปลงเป็นออฟฟิศสำหรับพนักงาน

“เด็กที่ไหน! ทำไมถึงมาวิ่งเล่นในนี้ ไม่รู้เหรอว่ามันตราย!” วิวัฒน์หน้าถอดสีเมื่อได้ยินคำถามของเจ้านาย

“หนูวันใหม่ลูกสาวคุณเกม ผู้ช่วยคุณยอดยิ่งเจ้าของบริษัทบิ้วอิน ที่ออกแบบภายในให้โครงการของเราครับ”

“เกม...เกมไหน” ชื่อที่ได้ยินทำให้คีตภัทรต้องถามต่อ

“คุณเกม กวิสรา ผู้ช่วยคุณยอดยิ่งเจ้าของบริษัท ที่เราจ้างมาออกแบบภายในครับ” อธิบายให้เจ้านายฟังอีกครั้ง เมื่อเห็นแววตาของคีตภัทร วิวัฒน์ก็อดเสียวสันหลังไม่ได้

“ผมจะบอกคุณเกมว่าไม่ให้พาลูกมาที่นี่อีก ขอโทษครับเป็นความผิดของผมเอง” วิวัฒน์ออกรับแทนเพราะไม่อยากให้มีปัญหา

“กำลังอยากรู้พอดีว่าออกแบบภายในไปถึงไหนแล้ว พาผมไปดูหน่อยเผื่อมีจุดที่ต้องแก้ไข” ชื่อเล่นกับชื่อจริงที่ตรงกัน ทำให้คีตภัทรไม่อาจปล่อยให้เรื่องนี้ผ่านไปได้ เกือบสี่ปีแล้วที่เขาไม่ได้เจอกับเธอ ถ้าใช่จริง ๆ เด็กคนนั้นคงเป็นลูกสาวของเธอกับปรมะ มุมปากหยักยกยิ้ม บางครั้งโลกก็กลมเหมือนกับตั้งใจ

“คูมแม่ วันใหม่มาแล้วค่ะ” ทันทีที่ประตูเปิดออก เด็กน้อยก็วิ่งเข้าไปหาคนเป็นแม่ กวิสราที่กำลังดูแบบจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ต้องล่ะมือจากงานที่ทำ ร่างอวบย่อตัวลงกับพื้น กางแขนออกรับ ก่อนจะเซไปข้างหลังเล็กน้อย เมื่อร่างเล็กกลมป้อมโถมเข้าใส่

“คิดถึงจังเลย วันนี้วันใหม่เป็นเด็กดีหรือเปล่า” สวมกอดพร้อมกับพรมจูบไปตามศีรษะและกระหม่อมบาง ก่อนจะตั้งคำถาม

“วันใหม่เป็นเด็กดีค่ะ วันใหม่ไม่ดื้อ” เด็กน้อยตอบด้วยความไร้เดียงสา

“จริงหรือเปล่า เดี๋ยวแม่จะถามพี่กวางถ้าพี่กวางบอกว่าหนูดื้อ วันใหม่ต้องถูกทำโทษนะคะ”

“จริงค่ะ วันใหม่ไม่ดื้อ” เด็กน้อยยังยืนยันคำเดิม กวิสรามองหน้าพี่เลี้ยงของลูกสาว พร้อมกับยิ้มออกมา เอ็นดูให้กับความไร้เดียงสาของลูกน้อย วันใหม่เป็นเด็กน่ารัก ไม่ดื้อไม่อ้อนและไม่งอแงเหมือนเด็กวัยเดียวกัน ที่เป็นแบบนี้ก็เพราะเธอสอนให้ลูกมีเหตุผล และเข้มแข็งมาตั้งแต่เด็ก กวิสราต้องทำงาน ถึงแม้จะไม่ค่อยมีเวลาแต่กวิสราก็ไม่เคยทิ้งลูกเลยสักครั้ง ให้ความรักความอุบอุ่นเท่าที่แม่คนหนึ่งจะให้ลูกได้ คณิสาจึงเป็นเด็กน่ารัก สดใส ร่าเริงสมวัย

ปัง

เสียงเปิดประตูเข้ามาอย่างแรง ทำให้คนที่อยู่ในห้องต้องหันไปมอง

“ไม่ยักรู้ว่าที่นี่เปิดเนอสเซอรี่เลี้ยงเด็กด้วย เอาเวลางานมาเลี้ยงลูก สงสารเจ้าของบริษัท ที่เสียเงินจ้างคนไม่คุ้มกับงาน” คำพูดกระแนะกระแหนที่ได้ยิน ทำให้กวิสราตัวชา แล้วก็ต้องตกใจสุดขีด เมื่อเห็นว่าเจ้าของเสียงเป็นใคร

“คี!” อุทานออกมาด้วยความตกใจ พร้อมกับดึงวันใหม่มาซ่อนไว้ข้างหลัง

“คือ...แบบนี้ครับคุณคี” วิวัฒน์กำลังจะอธิบายถึงลักษณะงานที่กวิสราทำ แต่ก็ถูกขัดขึ้นเสียก่อน

“ที่งานช้าเพราะแบบนี้นี่เอง ไอ้ปอไปไหนเสียล่ะ ถึงต้องหอบลูกมาเลี้ยงที่นี่”

“คูมแม่...วันใหม่กลัว” คณิสากอดขาแม่ พร้อมกับบอกความรู้สึกออกมา ตกใจกับน้ำเสียงและท่าทางของคนแปลกหน้าที่บุกรุกเข้ามา

“ชื่อวันใหม่เหรอ ออกมานี่สิ ขอดูหน้าชัด ๆ หน่อย” พูดจบคีตภัทรก็เอื้อมมือไปหาเด็กน้อย ที่ซุกตัวอยู่ข้างหลังแม่ กวิสราตกใจกับการกระทำที่คุกคามของคีตภัทรไม่น้อย ตั้งสติแล้วกอดลูกเอาไว้แนบอก

“ไม่ต้องกลัวนะคะ แม่อยู่นี่แล้ว” ปลอบลูกน้อย พร้อมกับหันไปเผชิญหน้ากับชายหนุ่ม คีตภัทรแสยะยิ้มออกมาอย่างน่าเกลียด โกรธกรุ่นและสะอิดสะเอียนกับความรักที่หญิงสาวแสดงออกกับลูก จนลืมไปว่าตอนนี้เขากับเธอไม่ได้เป็นอะไรกันแล้ว

“หึ! หน้าเหมือนไอ้ปอยังถอด คงตั้งใจทำมากสินะ!”

“คี!”

“หรือไม่จริง โบราณว่าไว้ถ้าลูกหน้าเหมือนพ่อ แสดงว่าแม่รักพ่อมาก คุณคงรักมันมากสินะ ถึงได้ทรยศผม!”

“หยุดนะ! รู้ตัวหรือเปล่าว่าพูดอะไรออกมา” กวิสราตวาดลั่นเมื่อคีตภัทรเริ่มพูดจาไม่เข้าหู เขาลืมไปหรือเปล่าว่าอยู่ในฐานะอะไร คนที่นี่ก็ไม่รู้เรื่องราวระหว่างเค้ากับเธอ คีตภัทรกำลังทำให้ตัวเองเสียชื่อเสียง

“ผมว่าใจเย็น ๆ กันก่อนนะครับ” วิวัฒน์เข้ามาไกล่เกลี่ย เมื่อเห็นว่าเรื่องราวกำลังจะบานปลายไปใหญ่โต ถึงแม้จะไม่รู้ต้นสายปลายเหตุ แต่การกระทำของเจ้านายก็บอกให้รู้ว่าสองคนนี้มีเบื้องหน้าเบื้องหลังที่เกี่ยวข้องกัน

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel