ให้โอกาส
อลิซ.....
ตอนนี้ฉันนั่งอยู่บนรถกับเต ฉันกำลังชั่งใจอยู่ว่าจะพูดกับเขาดีไหมหรือจะไม่พูดดีแต่ถ้าไม่พูดแล้วสิ่งที่ฉันคิดมันเป็นจริงมันก็จะอันตรายมากๆ
"เต" ฉันตัดสินใจเรียกชื่อเขาเมื่อรถติดไฟแดงตรงสี่แยก
"หื้มมีอะไร" เขาขานตอบแม้ตาจะจ้องมือถือในมือฉันไม่รู้ว่าเขากำลังดูอะไรอยู่แต่ดูเขามีความสุขมากดูไปก็ยิ้มไป แต่เรื่องนั้นช่างมันเถอะฉันมีเรื่องสำคัญต้องคุยกับเขา
"ฉันรู้สึกว่าวิมลเธอดูแปลกๆ"
"แปลกๆยังไง" เขาเงยหน้าขึ้นมาแล้วขมวดคิ้วกับคำพูดของฉัน
"ไม่รู้เหมือนกันแต่ฉันรู้สึกได้นะ" คือฉันก็ไม่รู้จะอธิบายกับเขายังไงให้เข้าใจ
"แล้วยังไงฉันไม่เข้าใจ"
"ฉันก็ไม่รู้จะพูดกับนายยังไง เอาเป็นว่านายน่าสืบประวัติเธอสักหน่อยนะ"
"เธอพูดเหมือนเธอไม่ไว้ใจวิมล??"
"อืมจะว่าอย่างนั้นก็ได้"
"ไม่ไว้ใจหรือหึงกันแน่" เขายิ้มตรงมุมปากอย่างน่าหมั่นใส้
"บ้า!!!!ใครจะหึงนายกัน" พูดจบฉันก็รีบหันหน้าออกนอกรถทันทีเพราะไม่ชอบสายตาที่เขามองฉันเหมือนกำลังจับผิด
"ก็พอเธอรู้ว่าฉันจะให้วิมลเค้าไปเป็นแม่บ้านที่คอนโดเธอก็เลยกลัวว่าฉันกับวิมลจะ..."
"ไร้สาระ" ฉันหันไปตะคอกใส่เขาทันทีก่อนจะหันออกไปมองด้านนอกเหมือนเดิม
"หึงก็บอกมา"
"ไม่ได้หึง" ฉันรีบปฏิเสธแม้ลึกๆแล้วฉันจะรู้สึกอย่างนั้นก็เถอะคือจะว่าไปแล้ววิมลก็ถือได้ว่าเป็นผู้หญิงหน้าตาดีคนนึงเลยนะทั้งสวยทั้งหน้าตาดีหุ่นก็ดีรวมๆแล้วสเปกเตเขาเลยล่ะขนาดไม่ได้แต่งหน้าเธอยังดูสวยดูดีมากๆ ถ้าได้อยู่ใกล้ชิดกันฉันมั่นใจว่าเตต้องรู้สึกหวั่นไหวกับวิมลแน่ๆ อย่าหาว่าฉันคิดมากเลยนะ ฉันคิดแบบนั้นจริงๆ และแม้ว่าสิ่งที่ฉันคิดมันจะเกิดขึ้นจริงในอนาคตฉันก็คงไม่มีสิทธิ์ไปว่าอะไรพวกเขาได้เพราะฉันกับเตวิชเราไม่ได้เป็นอะไรกันแล้ว คือตอนนี้ฉันไม่รู้ว่าสิ่งที่วิมลเล่ามาทั้งหมดให้ฉันกับพี่มาร์ชฟังมันจะเป็นความจริงมากน้อยแค่ไหน ถ้าพี่มาร์ชไม่พูดดักคอไว้ว่าไม่ไว้ใจฉันอาจจะเชื่อวิมลไปแบบร้อยเปอร์เซ็นต์เพราะเธอเล่าได้น่าสงสารมาก แต่พอเมื่อกี้ที่ฉันแอบจับสังเกตุตอนที่เตวิชเข้ามาในห้องฉันเห็นวิมลมองเตวิชแบบเพ้อฝันเหมือนคนตกหลุมรัก
"โอเคไม่หึงก็ไม่หึง ฉันก็แค่พูดเล่นไปงั้นแล่ะเพราะฉันรู้ว่าเธอกำลังดูใจกับไอ้มาร์ชอยู่"
"นายจะว่ายังไงถ้าวันนึงฉันกับพี่มาร์ชเรา...."
"ไม่มีวันนั้นเชื่อฉัน"
"ทำไม"
"เพราะถ้าเธอจะชอบมันเธอคงชอบมันไปนานแล้ว มันชอบเธอก่อนที่ฉันจะเข้ามาจีบเธอซะอีก ถ้าเธอรุ้สึกอะไรกับมันเธอคงไม่มาคบกันฉันหรอกจริงไหม"
"มันก็จริงของนายแต่นายอย่าลืมว่าอะไรๆมันก็เปลี่ยนแปลงได้ทั้งนั้นรวมถึงความรู้สึกของคน เพราะขนาดนายที่เคยบอกกับฉันว่าจะรักฉันจะมีฉันแค่คนเดียว ดูตอนนี้สิผู้หญฺิงรอบตัวนายมีตั้งกี่คน"
"..........." พอฉันพูดออกไปแบบนั้นเขาก็เงียบ พอไฟเขียวเขาก็ขับรถต่อจนกระทั่งถึงบ้าน และพอฉันจะเปิดประตูลงรถเขาก็กระชากตัวฉันเข้าไปใกล้ก่อนจะโน้มไปหน้ามาใกล้แล้วกดริมฝีปากลงมาที่ริมฝีปากของฉันเบาๆอย่างอ่อนโยน เขาจุบฉันอย่างนุ่มนวลและอ่อนโยนจนฉันเคลิ้มไปอย่างไม่รู้ตัว สักพักพอฉันรู้สึกตัวฉันก็รีบผลักเขาออก
"นายจุบฉันทำไม" ฉันพูดพร้อมกับเอามือเช็ดริมฝีปากของตัวเอง
"เธอรู้สึกยังไงตอนที่ฉันจูบ"
"ไม่ได้รู้สึกอะไร" ฉันรีบปฏิเสธแม้ใจตอนนี้จะตุ๊มๆต่อมๆเหมือนมันไม่อยู่กับเนื้อกับตัว
"แต่เธอเคลิ้มมากเลยนะ ฉันจูบเธอนานเลยนะเมื่อกี้"
"ก็ฉันไม่ทันตั้งตัวไม่ได้เคลิ้มอะไร"
"ลิซ...ถ้าฉันจะบอกว่าฉันรู้สึกกับเธอเหมือนเดิมเธอจะเชื่อมั้ย"
"ไม่เชื่อ" ใครจะไปเชื่อเขาจะมารู้สึกกับฉันเหมือนเดิมได้ยังไงในเมื่อเขาเป็นฝ่ายบอกเลิกฉันเอง
"ตอนที่เราเลิกกันไปสามปีฉันคิดว่าฉันจะหาใครก็ได้มาแทนที่เธอแต่แล้วก็ไม่มีใครแทนที่เธอได้ ฟังดูฉันอาจจะดูเลวที่มีอะไรกับใครก็ได้นอกจากเธอ แต่เธอรู่้อะไรมั้ยฉันไม่เคยรู้สึกกับใครเหมือนรู้สึกกับเธอเลยให้สาบานที่ไหนก็ได้ ทุกคนที่ผ่านเข้ามาก็แค่ความใคร่ ไม่เคยมีความรักปนอยู่เลยแม้แต่นิดเดียว จนกระทั่งเธอกลับมาครั้งนี้มันทำให้เราได้ใกล้กันอีกครั้ง พอได้อยู่ใกล้เธอความรู้สึกที่เคยหายไปมันก็กลับมา เธออาจจะไม่เชื่อเพราะที่ผ่านมาฉันทำตัวไม่ดีมาตลอดมีคนโน้นคบคนนี้ไปทั่ว แต่พอได้อยู่กับเธอกับน้องติณณ์มันทำให้ฉันคิดย้อนกลับไปในตอนนั้นว่าถ้าตอนนั้นฉันไม่ใจร้อนพยายามเข้าใจเธอให้มากเรื่องของเรามันคงไม่จบลงแบบนี้ ฉันคิดว่าฉันคงหมดรักเธอไปแล้วถึงกล้าบอกเลิกเธอ แต่จริงๆแล้วเปล่าเลยอลิซ ฉันยังรักเธออยู่ แต่ฉันพยายามหาเหตุผลมากลบความรู้สึกนั้นเพราะฉันไม่อยากกลับไปง้อเธอฉันกลัวเสียศักดิ์ศรีถ้าต้องไปง้อเธอทั้งที่ฉันเป็นคนบอกเลิกเธอเอง ฉันแม่งโคตรโง่เลยที่ปล่อยเธอให้หลุดมือไปทั้งที่เธอรักฉันมากที่สุดยอมทะเลาะกับยอมอุ้มท้องลูกของเราทั้งที่เธอควรจะได้เรียนต่อมหาลัยแต่เธอก็เลือกที่จะเก็บลูกเอาไว้ ยิ่งมาได้ยินเธอพูดว่าที่ผ่านมาเธอรอให้ฉันไปง้อฉันก็ยิ่งรุ้สึกว่าตัวเองแม่งโคตรเหี้ยเลย ทั้งที่ฉันทำเลวกับเธอแต่เธอก็ยังรอยังรักฉันจนถึงตอนนี้ ลิซฉันรักเธอนะรักเธอเหมือนเดิม" พูดจบประโยคเขาก็ดึงฉันเข้าไปกอด สักพักฉันได้ยินเสียงสะอื้นเบาๆก่อนที่ไหล่ของฉันจะรับรู้ถึงความเปียกชื้น
"นายร้องไห้เหรอเต" ฉันถามเขาเมื่อมั่นใจว่าเขาร้องไห้จริงๆ
ฟืดดด ฟืดดดด ฟืดดดดดด
"เปล่าไม่ได้ร้อง" เขาปฏิเสธก่อนจะรีบผลักตัวฉันออกแล้วก็รีบเดินลงจากรถเข้าบ้านโดยทิ้งให้ฉันนั่งอึ้งปนงงกับสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่บนรถ
ฉันเดินเข้ามาในบ้านแต่ก็ไม่เจอแตเจอแต่ป้าแม่บ้านที่กำลังยกถาดกาแฟไปข้างบนให้เดาน่าจะยกไปให้ป๊าของเต
"คุณลิซมาพอดีเลย ป้าจัดเตรียมห้องไว้ให้แล้วนะคะห้องเดิมชุดนอนผ้าขนหนูอะไรป้าก็เตรียมไว้ให้หมดแล้ว"
"ขอบคุณค่ะ เอ่อป้าคะเตเค้าขึ้นไปข้างบนแล้วเหรอคะ"
"คุณเต....อ้อเมื่อกี้ป้าเห็นเดินไปทางสวนหลังบ้านน่ะค่ะเห็นรีบเดินไปป้าทักก็ไม่หันมาตอบเลย"
"อ่อค่ะ ขอบคุณค่ะ"
ฉันเดินไปทางสวนหลังบ้านพยายามมองหาเตเพราะในสวนตอนนี้มันค่อนข้างมืดแม้จะมีเปิดไฟตามทางเดินแต่ก็ไม่ได้สว่างมากนัก
"ฮึก ฮึก ฟืดดด แม่งเอ้ยกูทำไมต้องร้องไห้ด้วยวะเกิดลูกมาเห็นกูจะตอบลูกว่าไง" ฉันแอบยืนมองดูเตนั่งบ่นไปร้องไห้ไป
"ทำไมกูไม่คิดได้ให้เร็วกว่านี้วะ ไอ้โง่เอ้ย ไอ้เตหน้าโง่" ตุบ ตุบ ตุบ เตเอากำปั้นทุบพื้นหญ้า แม้ว่าอยากจะเข้าไปห้ามแต่ก็ไม่กล้าเข้าไปเพราะกลัวว่าเขาจะรู้ว่าฉันแอบดูเขาอยู่ สักพักมือถือของเขาก็ดังขึ้น
"มีอะไรแนน" แนน??ชื่อผู้หญิงนี่นา
"ฉันบอกเธอไปแล้วไม่ใช่หรือไงว่าไม่ต้องติดต่อมาอีก เออทุกคนนั่นแล่ะ"
"เออ ฉันอยู่กับลูกกับเมียเข้าใจนะแค่นี้ล่ะไม่ต้องโทรมาอีกเข้าใจภาษาคนนะ" เขากดวางสายอย่างอารมณ์ไม่ดีจากนั้นฉันก็สังเกตุเห็นเขาก้มกดอะไรไม่รู้ยุกยิกยุกยิกอยู่นานก่อนจะโยนมือถือลงพื้นหญ้าข้างๆ
"บล็อกเบอร์แม่งให้หมดบอกเลิกก็ไม่ยอมเลิกโทรมาอยู่นั่นแล่ะ" อ่อที่แท้เขาก็บล็อกเบอร์ผู้หญิงของเขานั่นเอง
"เห้อออ เบื่อโว๊ยยยยย" เขาตะโกนออกมาก่อนจะลุกขึ้นยืนฉันตกใจกลัวเขาจะหันมาเจอก็รีบหันหลังเพื่อเดินเข้าบ้านแต่ไม่ทันได้ก้าวขาออก
"ใครวะ!!! กูถามว่าใคร!!!ไม่ตอบกูเอาปืนยิงจริงๆนะ" ฉันไม่รู้หรอกว่าเขามีปืนจริงๆมั้ย แต่ฉันก็กลัวจนต้องรีบออกมาจากมุมมืดตรงนั้น
"เอ่อฉันเอง"
"ลิซ??เธอมายืนอยู่ทำไมตรงนี้"
"เอ่อก็ป้าแม่บ้านบอกนายเดินมาทางนี้ฉันก็เลย...เดินมาดู"
"ฉันแค่มาสูดอากาศรับลมเย็นๆนี่ก็กำลังจะเข้าบ้าน" ฉันเดินมาหาเขาส่วนเขาพอเห็นว่าฉันใกล้เข้ามาเขาก็เดินหนีไปทางศาลาริมน้ำ
"นายจะเดินหนีฉันทำไมเต"
"เปล่าฉันแค่ไม่อยากอยู่ใกล้เธอ"
"ทำไม"
"เพราะฉันกลัวจะห้ามความรู้สึกตัวเองไม่ได้เพราะฉันรู้แล้วก็มั่นใจแล้วว่าฉันยังรักเธออยู่ แม้ว่าเธอจะไม่เชื่อก็ตาม"
"มันเชื่อยากไง นายทิ้งฉันมานานตั้งกี่ปีพอมาวันนี้นายมาบอกว่านายยังรักฉันอยู่ใครมันจะไปเชื่อ"
"แล้วฉันต้องทำยังไงเธอถึงจะเชื่อ"
"แล้วนายคิดว่าควรต้องทำยังไงล่ะ"
"ฉันต้องพิสูจน์ตัวเองให้เธอเห็นใช่มั้ย แค่เธอบอกมาว่าเธอพร้อมให้ฉันพิสูจน์ตัวเองฉันก็จะทำให้เธอเห็นเอง"
"ถ้าฉันตอบตกลงให้โอกาสนายแต่ระหว่างที่นายพิสูจน์ตัวเองฉันก็จะยังให้โอกาสพี่มาร์ชอยู่เหมือนเดิมนายจะว่าไง"
"ทำไมต้องให้โอกาสมันอีกในเมื่อเธอให้โอกาสฉันแล้ว"
"เพราะพี่มาร์ชเค้ารักฉันเหมือนกัน เขารักฉันมาตลอดไม่เคยเปลี่ยนแปลง แล้วแบบนี้นายจะให้ฉันใจร้ายกับเค้าโดยการตัดโอกาสเค้าแล้วให้โอกาสนายแค่คนเดียวอย่างงั้นเหรอ นายอย่าลืมว่านายเองก็เคยทำให้ฉันเจ็บมาแล้วอย่าลืมสิ"