สวนสนุกของลูก
อลิซ....
ฉันไม่รุ้หรอกนะว่าทำไมเขาถึงพูดแบบนั้น หรือเขาอาจจะสงสารลูกอยากให้ลูกมีครอบครัวที่อบอุ่น แต่มันเป็นไปไม่ได้ไง ไม่ใช่ว่าฉันไม่อยากให้ลูกมีทั้งพ่อทั้งแม่อยู่พร้อมหน้าพร้อมตาหรอกนะฉันรู้ว่าลูกต้องการแบบนั้นมากแค่ไหนแต่มันเป็นไปไม่ได้ ฉันหวังว่าถ้าถึงวันนึงที่ฉันพูดความจริงกับแก แกจะยอมรับกับความจริงข้อนี้ได้ฉันหวังว่าลูกจะเข้าใจ ฉันคิดมาตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมาว่าจะพูดแบบไหนยังไงกับลูก แต่สิ่งที่ฉันจะไม่บอกกับลูกก็คือสาเหตุที่แท้จริงว่าเพราะอะไรเราสองคนถึงต้องเลิกกันอยู่ด้วยกันไม่ได้ เพราะที่ผ่านมาฉันจะบอกกับลุกว่าพ่อของแกเป็นคนดีมากแค่ไหนและรักแกมากๆฉันรู้ว่าเตน่ะรักลูกมากเหมือนกัน ก่อนที่ฉันจะย้ายไปอยู่อังกฤษฉันแอบเห็นเขากอดลูกแล้วร้องไห้แต่ฉันก็ทำเป็นไม่เห็นเพราะฉันรู้ว่าเขาคงไม่ให้ฉันเห็นเขาร้องไห้ ก่อนเดินทางเขาให้เงินกับฉันมาจำนวนหนึ่งซึ่งมันมากพอที่จะทำให้ฉันไม่ต้องทำอะไรเลยแค่อยู่บ้านเลี้ยงลูกอย่างเดียวเขาบอกว่ามันคือเงินของเขาที่มีทั้งหมดเขาให้ฉันเอาไว้ดูแลลูก และทุกๆเดือนเขาก็โอนมาให้อีกซึ่งเขาก็ทำแบบนั้นมาตลอดสามปีที่เราเลิกกันไม่มีเดือนไหนที่เขาจะไม่โอนเงินมาให้ เขาจะมาหาลูกทุกเดือนมาอยู่กับลูกพาลุกไปเที่ยวฉันยอมรับว่าเขาเป็นพ่อที่ดีของลูกในระดับหนึ่ง เขาทำให้ลูกรักเขาทั้งที่ไม่ได้อยู่ด้วยกันและลูกก็รักเขามากๆไม่มีวันไหนที่แกจะไม่พูดถึงปะป๊า ฉันจะไม่พูดให้ลูกฟังหรอกนะว่าเพราะอะไรเราสองคนถึงอยู่ด้วยกันไม่ได้ ฉันจะพูดแต่สิ่งดีๆเท่านั้น
เวลาต่อมา....
ระหว่างนั่งรถมาทั้งฉันและเตต่างก็เงียบไม่ได้พูดอะไรกันอีกเพราะไม่รู้จะพูดอะไร จะมีแต่เขาที่คุยกับลูกระหว่างทางเพราะลูกมักจะถามนั่นถามนี่อยู่ตลอดเวลา คือน้องติณณ์เป็นเด็กช่างพูดช่างสังเกตและช่างสงสัย เวลาที่แแกถามอะไรฉันฉันต้องตอบแกให้ได้เพราะไม่งั้นแกก็จะถามอยู่แบบนั้น จนกระทั่งเรามาถึงสวนสนุกเตวิชก็ขับไปจอดตรงที่จอดรถวีไอพีด้านในมีพี่รปภวิ่งมาเปิดประตูรถให้โค้งคำนับไหว้สวัสดีเหมือนรู้จักกับเขา เตหยิบเงินออกมาให้ทิปก่อนจะอุ้มลูกลงจากรถแล้วพาเดินไปยังจุดจำหน่ายตั๋วซึ่งมีฉันก็เดินตามหลังเดินไปไม่กี่ก้าวเสียงมือถือฉันก็ดังขึ้นเป็นยัยเมย์ที่โทรมา เตคงได้ยินมือถือฉันดังเขาก็เลยหันมามองแล้วหยุดเดิน ฉันก็ไม่ได้สนใจอะไรเขาก็รีบรับสายยัยเมย์เพราะมันดังมาสักพักแล้วไม่รู้มีเรื่องด่วนอะไรหรือเปล่า
"ว่าไงยัยเมย์"
"แกถึงสวนสนุกหรือยัง"
"อืมเพิ่งลงจากรถน่ะ" ที่ยัยเมย์รู้ว่าวันนี้ฉันพาน้องติณณ์มาเที่ยวสวนสนุกก็เพราะเมื่อวานเราโทรคุยกันมีพี่มาร์ชด้วยยัยเมย์ถามฉันว่าเป็นยังไงบ้างโอเคมั้ยเพราะมันรู้ว่าฉันมานอนบ้านของเตวิชคือยัยเมย์มันรู้เรื่องราวของฉันทุกอย่างมันเป็นเพื่อนสนิทฉันมีอะไรฉันก็จะเล่าให้มันฟังทุกอย่างเราสองคนเป็นเพื่อนสนิทกันมาตั้งแต่เด็กจะมาห่างกันก็ตอนขึ้นมอปลายเพราะยัยเมย์ต้องย้ายไปอยู่กับย่าที่ต่างจังหวัดทำให้เราห่างกันแต่ก็ติดต่อกันตลอด ช่วงที่ฉันมีปัญหากับเตฉันไม่ได้พูดให้มันฟังทุกอย่างหรอกนะเพราะฉันกลัวมันจะเป็นห่วง ฉันมาบอกความจริงกันมันก็ตอนที่ฉันย้ายไปอยู่อังกฤษแล้ว
"อย่าเพิ่งเข้าไปนะ รอฉันก่อน"
"ห๊ะ รอ รออะไรแกจะมาเหรอ"
"อื้ม ฉันกับพี่มาร์ชแล้วก็น้องมุ่ยกำลังจะถึงแล้ว"
"แกกับพี่มาร์ชน้องมุ่ยกำลังจะถึง??อะไรฉันงง"
"คือพอพี่มาร์ชรู้ว่าแกจะพาน้องติณณ์มาเที่ยวสวนสนุกพี่มาร์ชก็เลยชวนฉันกับน้องมุ่ยมาด้วย" น้องมุ่ยที่ยัยเมย์พูดถึงก็คือหลานสาวของยัยเมย์คือยัยเมย์เป็นลูกคนเล็กมีพี่ชายคือพี่มาร์ชกับพี่หมวยพี่หมวยน่ะแต่งงานแล้วมีลูกสาวชื่อน้องมุ่ยอายุน่าจะพอๆกับน้องติณณ์นั่นแล่ะ
"โอเค ยังไงฉันจะรอตรงที่เค้าขายตั๋วเข้านะ"
"จ้าา เพื่อน ว่าแต่สามีเก่าแกคงไม่ว่าใช่ไหม"
"ไม่หรอก...มั้ง" คือฉันไม่รู้ว่าเตจะว่ายังไงถ้าเขารู้ว่ามีคนอื่นตามมาด้วย คือนิสัยส่วนตัวของเตน่ะเขาเป็นคนที่สนิทกับคนยากถ้าไม่สนิทก็จะไม่พูดด้วย ฉันเกรงว่าทุกคนจะลำบากใจน่ะ
"ป่ะ ยืนรออะไรลูกร้อน" เขาถามฉันเพราะเขาไม่ได้ยินที่ฉันคุยเมือ่กี้
"นายพาลูกเข้าไปข้างในก่อนก็ได้ฉันยืนรอยัยเมย์กับเอ่อ...กับพี่มาร์ชน่ะเดี๋ยวจะตามเข้าไป"
"รอทำไม นี่อย่าบอกนะว่าเพื่อนเธอกับไอ้มาร์ชจะมาเที่ยวสวนสนุกด้วยน่ะ" น้ำเสียงของเขาเริ่มบ่งบอกถึงความไม่พอใจ
"พวกเค้าพาหลานสาวมาเที่ยวน่ะ"
"เหอะวันอื่นไม่พามา เจาะจงจะมากันวันนี้"
"พวกเค้าจะมากันวันไหนก็เรื่องของพวกเค้ามั้ย สวนสนุกใครก็มากันได้มั้ยหรือนายเป็นเจ้าของที่นี่"
"เออ ครอบครัวฉันเป็นเจ้าของพอใจยัง"
"พูดเป็นเล่น"
"ใครมันจะไปพูดเล่น ไม่เชื่อก็เสริซกูเกิ้ลหาสิว่าใครเป็นเจ้าของที่นี่" คือเรื่องนี้ฉันก็เพิ่งรู้เหมือนกันก็ว่าอยู่ว่าทำไมพอมาถึงเตวิชถึงไปจอดตรงที่จอดวีไอพี
"จะไม่ถามหน่อยหรือไงทำไมฉันถึงทำสวนสนุก"
"ทำไม"
"เพราะน้องติณณ์ชอบเล่นเครื่องเล่นสวนสนุกฉันก็เลยสร้างมันขึ้นมาเพื่อลูก ฉันอยากพาลูกมาเล่น"
"..........." ฉันถึงกับพูดไม่ออก เขาลงทุนขนาดนี้เลยเหรอแค่เพราะลูกชอบเล่นเครื่องเล่นสวนสนุกเขาถึงกับลงทุนสร้างสวนสนุกขึ้นมา ซึ่งมันใช้เงินไม่ใช่น้อยเลยนะ ฉันมองไปรอบๆบริเวณเห็นพ่อแม่ผู้ปกครองพาลูกหลานมาเที่ยวกันเยอะมากๆ
"น้องติณณ์ชอบมั้ยครับปะป๊าทำเพื่อน้องติณณ์เลยนครับเพราะปะป๊ารู้ว่าน้องติณณ์ชอบเล่นเครื่องเล่น^^" เขาก้มหน้าพูดกับลูกอย่างภูมิใจ
"ชอบค๊าบบบปะป๊า ผมอยากมาเล่นทุกวันเลยได้มั้ยค๊าบ"
"ได้สิครับ น้องติณณ์มาเล่นได้ทุกวันเลยปะป๊าจะพามาเอง^^"
"เย่ เย่ ปะป๊าน่ารักที่สุด ผมรักปะป๊ามากๆเลยค๊าบ"
"ปะป๊าก็รักน้องติณณ์นะครับ"
เวลาต่อมา...
ฉันยืนรอยัยเมย์ไม่ถึงห้านาทียัยเมย์ก็วิ่งมาหาฉันข้างหลังมีพี่มาร์ชที่จูงมือน้องมุ่ยตามมาติดๆ เราสองคนกอดกันด้วยความคิดถึงเพราะไม่ได้เจอหน้ากันนานมากๆ ก็ตั้งแต่ฉันย้ายไปอยู่อังกฤษนั่นแล่ะ แต่เราก็คุยไลน์เฟซไทม์หากันตลอด
"โอ๊ยดีใจจังได้เจอแก แกสวยขึ้นนะเนี้ย" ยัยเมย์ก็ชมฉันจับตัวฉันหันไปมาเหมือนสำรวจ
"แกก็สวยเหมือนกันนั่นแล่ะ"
"สวัสดีครับน้องลิซไม่เจอกันตั้งหลายปีโตเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมากเลยนะ"
"พี่มาร์ชสวัสดีค่ะ" ฉันยกมือไหว้พี่มาร์ชก่อนจะหันไปทักน้องมุ่ยหลานสาวยัยเมย์
"สวัสดีค่ะน้องมุ่ย^^"
"สวัสดีค่าอาลิซ^^" น้องมุ่ยยกมือไหว้ฉันอย่างนอบน้อม ฉันเพิ่งเจอหน้าแกครั้งแรกแกหน้าตาน่ารักน่าชังมากๆออกแนวลูกครึ่งเลยนะจะว่าไปหน้าตาแกคล้ายพี่มาร์ชมาก ไม่มีเค้าโครงยัยเมย์เลยทั้งที่เป็นญาติกัน
"จะยืนคุยกันอีกนานมั้ยลูกร้อนแล้ว" ไม่ต้องถามว่าเสียงใครตะโกน เสียงพ่อของลูกของฉันเองค่ะทั้งที่ฉันบอกให้เขาพาลูกเข้าไปก่อนก็ไม่ยอมไป