คนคุย
อลิซ...
ฉันกับน้องติณณ์นั่งรอเตประมาณครึ่งชั่วโมงเขาก็เดินเข้าร้านพร้อมกับใบหน้าที่เคร่งเครียดอย่างเห็นได้ชัดจนฉันอดถามไม่ได้
"เป็นยังไงบ้างมีปัญหาอะไรหรือเปล่า"
"อืม มีแต่ช่างมันเถอะไว้ค่อยคิด ตอนนี้ฉันว่าเราพาลูกไปเที่ยวสวนสนุกกันเถอะ" ว่าแล้วเตวิชก็กวักมือเรียกพนักงานมาคิดเงินค่าขนมกับเครื่องดื่มที่ฉันกับลูกทานไป จากนั้นเขาก็อุ้มน้องติณณ์ออกมาจากร้านตรงไปยังลานจอดรถ พอถึงบนรถมือถือเขาก็ดังขึ้น
"ครับ"
"อ่อเหรอครับคุณหมอแจ้งว่าให้ออกจากโรงพยาบาลได้เลยเหรอครับ ครับ ถ้างั้นขอเป็นพรุ่งนี้ได้มั้ยครับเพราะผมยังไม่รู้จะทำยังกับเธอดีเหมือนกัน ครับ ขอบคุณนะครับ" พอวางสายเสร็จเขาก็ถอนหายใจ
"เห้ออออ"
"เป็นอะไรถอนหายใจทำไม"
"ก็ฉันไม่รู้จะทำยังไงดี"
"เรื่องอะไร"
"ก็ผู้หญิงที่ฉันชนน่ะสิเขาไม่มีที่ไปเขาขอให้ฉันหางานให้บอกจะขอไปเป็นแม่บ้าน แต่ฉันไม่ได้ต้องการแม่บ้าน ฉันก็เลยไม่รู้จะช่วยยังไง" จากนั้นเตวิชก็เล่าเรื่องของผู้หญิงคนนั้นให้ฉันฟังว่าเธอชื่อ วิมล อายุ22ปี เธอมีปัญหากับกับคนรักคนรักของเธอนอกใจเธอก็เลยไล่เธอออกจากบ้าน พอเธอกลับมาหาพ่อกับแม่ก็ถูกไล่อีกเธอไม่รู้จะทำยังไงเพราะเธอไม่มีที่ไปก็เลยคิดสั้นฆ่าตัวตาย พอฉันได้ฟังฉันก็รู้สึกสงสาร เพราะเธออายุพอๆกับฉัน
"ผู้หญิงคนนั้นเธอจบอะไรมานายรู้ไหม เผื่อฉันจะหางานให้เธอได้" ไม่รู้เพราะอะไรฉันถึงอยากช่วย
"ไม่รู้ไม่ได้ถาม"
"แล้วเธอจะได้ออกจากโรงพยาบาลเมือ่ไหร่เหรอ"
"พยาบาลเพิ่งโทรมาบอกเมื่อกี๊ว่าคุณมามาตรวจอาการบอกให้กลับวันนี้ได้เลยแต่ฉันขอเลื่อนไปเป็นพรุ่งนี้เพราะฉันไม่รู้จะให้เธอไปอยุ่ที่ไหน"
"คอนโดนายไง"
"บ้า ไม่เอาใครก็ไม่รู้ฉันไม่กล้าเสี่ยงหรอก"
"แต่จากที่นายเล่าเธอน่าสงสารนะ"
"ก็จริงอยู่แต่ถึงยังไงฉันก็ไม่ชอบให้ใครไปวุ่นวายในที่ๆเป็นส่วนตัวของฉัน"
"พูดเหมือนนายไม่เคยพาใครขึ้นไปอย่างงั้นแล่ะ"
"มันเหมือนกันที่ไหนล่ะ ผู้หญิงที่ฉันพาขึ้นไปฉันก็รุ้จักทั้งนั้น"
"แปลว่าพาขึ้นไปบ่อยล่ะสิ"
"ก็..."
"ช่างเถอะนายไม่ต้องตอบหรอกฉันไม่ได้อยากรู้เท่าไหร่"
"จริงอ่ะ" เขาหันมาทำหน้าทะเล้นใส่จนฉันต้องหันไปมองด้านนอกรถ ส่วนน้องติณณืก็นั่งดูการ์ตุนอยู่เบาะหลังไม่ได้สนใจว่าฉันกับเตเราคุยอะไรกัน
หลังจากนั้นเขาก็พาฉันกับน้องติณณ์มายังสวนสนุกที่เรามากันเมื่อวาน เขาพาลูกเล่นเครื่องเล่นต่างๆอย่างสนุกสนาน น้องติณณ์ทั้งหัวเราะทั้งยิ้ม ฉันรู้เลยว่าแกมีความสุขขนาดไหนเวลาที่อยู่กับเต ฉันไม่อยากจะคิดเลยถ้าวันที่ต้องกลับอังกฤษแกจะร้องไห้หนักขนาดไหนเพราะฉันรู้ว่าเตคงไม่มีเวลาไปส่งน้องติณณ์กับฉันถึงอังกฤษหรอก เพราะเท่าที่รู้มาจากพ่อแม่ของเตช่วงนี้เตทั้งเรียนทั้งฝึกงานที่บริษัท จนฉันอดแปลกใจไม่ได้ว่าเขายุ่งขนาดนั้นเขายังมีเวลาพาฉันกับลูกมาเที่ยวเล่นได้เป็นวันๆ
"หิวรึยังลิซนี่จะบ่ายแล้ว" ขณะที่ฉันนั่งเล่นมือถือไปเรื่อยเปื่อยระหว่างรอสองคนพ่อลูกเตก็อุ้มน้องติณณ์มาหาฉันแล้วถาม
"ยังอ่ะเพิ่งทานกาแฟไป ว่าแต่น้องติณณ์หิวหรือยังครับ"
"ยังค๊าบผมอยากเล่นรถไฟเหาะ"
"ยังเล่นไม่ได้นะครับ รอให้น้องติณณ์โตกว่านี้อีกหน่อยนะครับแล้วปะป๊าจะอนุญาตให้เล่น"
"แล้วเมือ่ไหร่ผมจะโตล่ะค๊าบปะป๊า"
"ก็...อีกสักสี่ห้าปี"
"โหนานจัง"
"ไม่นานหรอกครับแป๊บเดียวเองเนอะ"
"เล่นตอนนี้ไม่ได้เหรอค๊าบ"
"มันอันตรายครับ ปะะป๊าห่วงน้องติณณ์นะครับ"
"ก็ได้ค๊าบ แต่ปะป๊าต้องพาผมไปทานไอศครีมแทนได้มั้ยค๊าบ"
"ได้เลยครับ^^"
สองคนพ่อลูกตกลงกันเองเสร็จสรรพจากนั้นเขาก็พาฉันกับน้องติณณ์มายังห้างใกล้โรงแรมที่ฉันพัก พอมาถึงห้างน้องติณณ์ก็ขอไปเล่นบ้านบอลก่อนซึ่งเตวิชก็ตามใจลูก เราสองคนก็เลยเดินออกมานั่งยังโซนที่ให้ผู้ปกครองนั่งรอ
"เหอะที่มาบอกเลิกวีวี่ก็เพราะยัยนี่จริงๆด้วย ไม่คิดเลยนะคะว่าเตจะกลับไปกินของเก่าที่เคยคายทิ้งไปแล้ว"
"วีวี่ หุบปาก!!!" เตวิชตะคอกใส่วีวี่ที่เดินมากับเพื่อนของเธออีกสองคน
"ทำไมหรือไม่จริงที่วีวี่พูด ว่าไงจ๊ะอลิซ กลับมาทำไม"
"ฉันจะกลับมาทำไมมันก็เรื่องของฉันไม่เกี่ยวกับเธอ"
"จะไม่เกี่ยวได้ยังไงในเมื่อเธอกลับมาเพื่อแย่งเตไปจากฉัน"
"วีวี่ฉันกับเธอเราไม่เคยเป็นอะไรกัน ฉันว่าฉันพูดกับเธอรู้เรื่องแล้วนะเมื่อคืน"
"ไม่เป็นอะไรกันแต่เอากันมาตั้งหลายปีน่ะเหรอ"
"ฉันว่าเธอมาทางไหนก็กลับไปทางนั้น อย่าให้ฉันต้องหมดความอดทนกับเธอ"
"ทำไม เตจะทำไมวีวี่"
"เธอลืมเรื่องที่ฉันขู่เธอแล้วเหรอ"
"อ่อ เรื่องวีวี่กับมาวินน่ะเหรอคะ เตพูดไปก็ไม่มีใครเชื่อหรอกเพราะวีวี่ก็จะบอกกับทุกคนว่าวีวี่กับวินเป็นแค่เพื่อนกันผู้จัดการวีวี่เป็นพยานได้ แล้วถ้ามีนักข่าวถามว่าทำไมวีวี่กับเตถึงเลิกกันวีวี่ก็จะบอกว่าเมียเก่าเตกลับมาแย่งเตไปจากวีวี่ วีวี่จะทำให้มันอับอายจนต้องหอบลูกเผ่นกลับบ้านมันที่เมืองนอกเลยคอยดู"
"เธอก็ลองทำอย่างที่พูดดูวีวี่ แล้วเธอจะรู้ว่าฉันมันร้ายกว่าที่เธอคิดไว้แค่ไหน ถ้าถึงตอนนั้นก็อย่าหาว่าฉันไม่เตือนก็แล้วกัน"
"ขู่วีวี่เหรอเต"
"ฉันไมไ่ด้ขู่ ฉันพูดเรื่องจริง ถ้าเธอทำให้อลิซเสียชื่อเสียงฉันก็จะทำให้เธอไม่มีที่ยืนในสังคมเลยคอยดู"
"ดูเตจะปกป้องเมียเก่าน่าดูเลยนะคะใครแตะต้องไม่ได้"
"แน่นอน เพราะฉันเคยทำผิดพลาดมาแล้วครั้งหนึ่งฉันจะไม่มีวันยอมให้ใครมาทำร้ายผู้หญิงที่ฉันรักอีกเป็นอันขาด"
"เตบอกว่าเตรักมันงั้นเหรอ วีวี่ไม่ยอมนะ เตเลิกกับมันไปแล้วจะกลับมารักกับมันได้ยังไง"
"ฉันไม่เคยเลิกรักอลิซ ที่ผ่านมาฉันมันโง่เองโง่ที่ยอมปล่อยคนที่ดีที่สุดในชีวิตของฉันให้หลุดหายไป"
"กรี๊ดดด เตห้ามพูดว่ารักมันนะ วีวี่ไม่ยอม กรี๊ดๆๆๆ" ยัยวี่วี่ยืนกระทืบเท้าส่งเสียงกรี๊ดจนเพื่อนที่มาด้วยต้องเอามือปิดหู
"ผีเข้าเหรอวีวี่ เธอไม่อายเหรอเธอเป็นถึงนางแบบดังแต่มากรี๊ดเหมือนผีเปรตกลางห้างแบบนี้ เธอไม่อายแต่ฉันอายแทนเธอนะวีวี่"
"นังอลิซ!!!"
"ฉันยังไม่ได้สะสางกับเธอเลยนะ เรื่องที่เธอส่งคลิปส่งรูปแล้วมาโกหกฉันเรื่องเธอกับเต"
"เธอคิดว่าฉันโกหกงั้นเหรอ ไม่คิดช้าไปหน่อยเหรออลิซห๊ะ"
"แปลว่าเธอโกหก"
"เหอะเพิ่งมาฉลาดเอาตอนนี้ แต่ก็ช่วยไม่ได้อยากโง่เอง โง่ทั้งผัวทั้งเมีย"
"วีวี่!!!เธอ..."
"ไม่ต้องเต นายยืนเงียบไปฉันจะจัดการยัยนี่เอง" ฉันบอกเตวิชที่กำลังจะเข้าไปเอาเรื่องยัยวีวี่ทำกำลังทำลอยหน้าลอยตาจนอดหมั่นไส้ไม่ได้
"เธอทำแบบนั้นทำไมวีวี่ ฉันไม่เคยรุ้จักเธอไม่เคยทำอะไรให้เธอ"
"เพราะฉันชอบเตยังไงล่ะ ฉันน่ะเหมาะสมคู่ควรกับเตมากกว่าเธอด้วยซ้ำ ถ้าเธอไม่ท้องมีเหรอที่เตเค้าจะรับผิดชอบฉันอุตส่าทำตัวเป็นเพื่อนที่ดีเป็นที่ปรึกษาที่ดีเวลาที่เ่ค้ามาระบายมาปรับทุกข์เรื่องเธอ แต่สุดท้ายความพยายามฉันก็สำเร็จแค่ฉันแต่งเรื่องโกหกว่าฉันกับเตเรามีอะไรกันเธอก็ระแวงเตไม่ไว้ใจเตคอยหาเรื่องทะเลาะกับเตจนสุดท้ายเตก็ทนไม่ได้ขอเลิกกับเธอ 5555 สุดท้ายฉันก็ได้เตมาเป็นของตัวเองจนสำเร็จ เป็นไงฉันฉลาดมั้ยล่ะ" ในขณะที่วีวี่กำลังพูดฉันก็สังเกตเห็นเตวิชกำหมัดแน่นเหมือนกำลังข่มความรู้สึกโกรธอยู่จนฉันต้องจับมือเขามากุมเอาไว้
"ฉลาดมากแล้วก็...ขอบใจนะที่เธอยอมรับสารภาพว่าเธอมันเป็นพวกชอบโกหกสร้างเรื่อง ฉันอยากรู้จังว่าแฟนคลับของเธอจะว่ายังไงถ้ารู้ว่านางแบบดาวรุ่งอนาคตไกลที่พวกเขาหลงรักที่แท้แล้วเป็นคนแบบไหน อยากรู้จังถ้าคลิปเสียงนี้ถูกเผยแพร่ออกไปคนที่ชื่นชอบเธอเค้าจะมองเธอแบบไหนกันนะวีวี่^^" ฉันพูดพร้อมกับชูมือถือขึ้นมาเพื่อให้ยัยวีวี่รุ้ว่าฉันกำลังบันทึกเสียงของเธอเอาไว้
"นี่แกอัดเสียงงั้นเหรอ"
"เพิ่งฉลาดเหรอจ๊ะวีวี่^^"
"นังอลิซ แก!!!" วีวี่โมโหเลือดขึ้นหน้าเงื้อมือขึ้นมาแล้วพุ่งตัวเข้ามาหาฉันอย่างไงแต่เตวัชไวกว่าเข้าเอาตัวเข้ามบังฉันไว้แล้วจับแขนของวีวี่เหวี่ยงออกไปจนเธอล้มลงไปกองกับพื้น เพื่อนของวีวี่รีบเข้ามาประคองเพื่อนตัวเอง
"วีวี่พอเถอะ อายคนอื่นบ้างดูสิมีแต่คนมองอ่ะ"
"นั่นสิ เธอเป็นนางแบบนะมครๆก็รู้จัก"
"ฝากไว้ก่อนเถอะนังอลิซ"
"ฝากไว้ก็อย่าลืมมาเอาล่ะ" ฉันตะโกนไล่หลังยัยวีวี่ที่เพื่อนนางประคองออกไป
"เธอไม่เป็นอะไรใช่ไหม" เตวิชหันมาถามฉัน
"ไม่อ่ะไม่เป็นไร"
"ฉันขอโทษนะเรื่องวีวี่"
"ช่างมันเถอะ ฉันหวังว่ายัยนั่นจะไม่มาทำอะไรฉันอีก"
"ก็ลองทำดู ฉันจะจัดการไม่ให้ได้ผุดได้เกิดแน่"
"นายไม่สงสารยัยนั่นเหรอ แฟนนายนะ"
"ฉันกับวีวี่เราไม่ได้เป็นแฟนกัน"
"แต่เคยมีอะไรกันไม่ใช่เหรอ"
"ก็แค่เคย แต่ฉันบอกเลิกยัยนั่นไปตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว"
"แปลว่าที่นายหายไปเมือ่คืนนายไปหายัยวีวี่งั้นเหรอ"
"อืม ฉันไปถามความจริงเรื่องที่วีวี่โกหกเธอ พอรู้ความจริงฉันก็เลยเลิกเกี่ยวข้องกับวีวี่"
"แต่ดูเหมือนยัยนั่นไม่ยอมจบกับนายนะ"
"ช่างแม่งเหอะ เธอไม่ต้องสนใจ เธอรู้แค่ว่าตอนนี้ฉันไม่ได้มีใครแล้วก็พอ"
"นายจะมีใครหรือไม่มีใครมันก็ไม่ใช่เรื่องของฉันอยู่ดี"
"ฉันแค่อยากเป็นพ่อที่ดีให้กับน้องติณณ์แล้วก็อยากเป็นสา..."
"ฉันว่าเราไปหาลูกกันเถอะน่าจะครบเวลาละ" ฉันรู้ว่าเขาจะพูดอะไรก็เลยตัดบท
"เดี๋ยวดิ ฉันยังพูดไม่จบเลย" เตวิชคว้าแขนฉันเอาไว้
"ก็อย่างที่ฉันเคยบอกเธอว่าฉันอยากจะทำหน้าที่พ่อที่ดีให้กับลูกแล้วก็อยากกลับไปทำหน้าที่สามีที่ดีให้กับเธอ เธอจะให้โอกาสฉันได้ไหมลิซ ฉันสัญญาว่าจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด"
"นายอย่ามาพูดอะไรที่มันไร้สาระได้ป่ะ"
"ฉันไมไ่ด้ไร้สาระฉันพูดความจริง เธอลองให้โอกาสฉันสักครั้งไม่ได้เหรอ แค่ครั้งเดียว"
"แต่ฉันมีคนคุยแล้ว เรากำลังศึกษาดูใจกันอยู่" ฉันตัดสินใจพูดบางอย่างออกไป
"ใคร"
"ผมเอง^^"
"ไอ้มาร์ช??"