บทที่ 14 แม้แต่ฉันก็ยังกล้าหลอกลวง
เจียงเหยียนคาดเดาได้ถึงการตอบสนองของเธอ เพราะว่าการผ่าตัดนี้มีเพียงเขากับอาจารย์ที่ทำได้สำเร็จ จึงยิ้มพูด
“เพียงแค่เธอยอมรับฉันเป็นอาจารย์ ต่อไปฉันสามารถสอนเธอได้ช้าๆ ในฐานะปริญญาเอกแพทย์แผนจีน เธอน่าจะรู้ ฝีมือทางการแพทย์ของแบบนี้ไม่ได้พึ่งพาตำรับเฉพาะก็เพียงพอ จะต้องฝึกฝนอย่างหนักระยะยาว”
โล่ซีซีระเบิดทันที
“นายเนี่ยนะ อยากจะเป็นอาจารย์ของฉัน? รู้แต่แรกว่านายเปลี่ยนสันดานไม่ได้ แม้แต่ฉันก็กล้าหลอกลวง การค้าขายนี้ไม่ต้องคิดอยากทำแล้ว”
“ฉันไม่ได้หลอกเธอจริงๆ เอาแบบนี้ ต่อไปโรงพยาบาลแพทย์แผนจีนของพวกเธอมีผู้ป่วยแบบนี้ ฉันไปทำการผ่าตัดด้วยตัวเอง เธอดูอยู่ข้างๆ หรือวันไหนศูนย์การแพทย์เทียนซินถูกฉันเอาคืนกลับมาได้ เธอส่งคนไข้มารักษา” เจียงเหยียนพูด
“นายเก่งจริงเอาศูนย์การแพทย์เทียนซินกลับมาในมือให้ได้ก่อนค่อยว่ากัน นายก็แค่หมาขี้ประจบด้านหลังจ้าวเซียวหรุหรุเท่านั้นแหละ” โล่ซีซีท่าทางโมโหกลับไป
แม้แต่โจวจี้ซีที่กำลังล้างจานอยู่ ก็ส่ายหน้าอย่างหมดคำพูด
โล่ซีซีเป็นหมอมารุ่นสู่รุ่น และก็เป็นนักเรียนดีเด่น เจียงเหยียนมีสิทธิ์อะไรเป็นอาจารย์ของเธอ
เจียงเหยียนก็ยังคงเป็นเจียงเหยียนคนนั้น ใช้คำพูดหวานตีสีหน้าซื่อประจบเอาใจ ก็แค่อยากจะจัดการเพื่อนรักของเธอเท่านั้น
“นายยังคงจำเรื่องที่นายเคยทำได้ไหม?” โจวจี้ซียิ้มเยาะถามขึ้น
เธอไม่พูด เจียงเหยียนจำไม่ได้จริงๆ ในเมื่อเขาไม่ได้เป็นคนทำ
ตอนนี้คิดดู จึงตบหน้าผากอย่างแรง พูดเย็ดแม่มึงหนึ่งหมื่นประโยคพุ่งออกมา
บนตัวคนล้างผลาญนี่ เต็มไปด้วยหลุมบ่อจริงๆ
เมื่อครู่สะเพร่าไปหน่อยจริงๆ
ที่ผ่านมา เจียงเหยียนไอ้หมอนี่เคยทำเรื่องน่าอับอายมากเรื่องหนึ่ง
แอบเพิ่มเพื่อนโล่ซีซี ส่งข้อความรบกวน และยังจะให้รถแลมโบกินี่กับเธอคันหนึ่ง
โล่ซีซีถ่ายภาพหน้าจอส่งให้โจวจี้ซีทั้งหมด
เขากลับไม่สนใจ คิดว่าตัวเองมีเงิน ผู้หญิงแบบไหนก็จัดการได้หมด ตั้งใจทำให้โจวจี้ซีเห็น
เธอไม่ให้ฉันนอนด้วย ฉันก็นอนกับเพื่อนรักของเธอ
จนกระทั่งภายหลังเสียทรัพย์สินของครอบครัวไปจนหมดถึงจะเลิก
“ขั้นตอนการผ่าตัดที่ฉันพูดเมื่อครู่คือเรื่องจริง บอกว่าจะสอนเธอ ก็เพื่อดึงดูดคนไข้มาที่ศูนย์การแพทย์ของฉันเยอะๆ เธออย่าคิดมากล่ะ” เจียงเหยียนอธิบาย
“ตามใจนายเถอะ นายจะสู้จ้าวเซียวหรุหรุได้เหรอ? ของที่แพ้ไปแล้ว ก็ไม่มีทางชนะเอากลับมาได้อีก” โจวจี้ซีพูดอย่างโมโห
“เรื่องการค้าขายเธอก็ไม่ต้องกังวล โสมหิมะมังกรหยกยู่หลงวัตถุดิบยาที่ล้ำค่าแบบนี้ พวกเขารับไว้แน่นอน”
“ฉันพูดแล้ว ตามใจนาย” โจวจี้ซีตอบกลับอย่างเย็นชา
เธอตายใจต่อเจียงเหยียนแล้วจริงๆ
แต่ทำให้เธอเจ็บปวดก็คือ เพิ่งเห็นความหวังเพียงริบหรี่ ก็สาดน้ำเย็นรดจนเย็นเยือก
เจียงเหยียนรู้ว่าอธิบายตอนนี้ก็ไม่มีประโยชน์ ผู้หญิงที่ถูกทำให้เสียใจจนถึงที่สุด
แต่เขาก็ไม่รีบร้อน โอกาสยังมีอีกเยอะ
เพียงแค่ในงานวันเกิดของพ่อตา ให้พ่อของเธอยืนขึ้นอีกครั้ง จะต้องได้รับความรู้สึกดีมากขึ้นแน่นอน
“ฉันไปรับเหมียวเหมียวเลิกเรียนแล้ว”
พูดจบเขาก็ขี่รถจักรยานไฟฟ้าไปโรงเรียนอนุบาล แถมยังใส่ซิมโทรศัพท์เข้าในโทรศัพท์มือถือ หาเบอร์มือถือส่งข้อความออกไป
“ฉันมีเพื่อนคนหนึ่งชื่อเจียงเหยียน ทำธุรกิจที่ตลาดสมุนไพรจีนเมืองเจียงโจว นายขนส่งโสมหิมะมังกรหยกยู่หลงไปให้เขาสองชิ้น สร้างการติดต่อทางธุรกิจ ต่อไปจัดหาสินค้าตามมาตรฐานที่พวกเราเคยร่วมมือกัน”
“นายแพทย์ผู้หญิงใหญ่ คุณยังมีชีวิตอยู่เหรอ?” อีกฝ่ายรีบถามขึ้น
เห็นเบอร์โทรนี้ราวกับเห็นนายแพทย์ผู้ยิ่งใหญ่ ดังนั้นคนที่ได้รับข้อความนี้ ทั้งหมดตกตะลึงอย่างมาก
“ยังไม่สะดวกเปิดเผยข้อมูล ทำตามที่ฉันบอก”
“ได้ครับ รับรองภายในสามวันส่งของถึงที่!”
หน้าโรงเรียนอนุบาล ครูใหญ่จับมือเหมียวเหมียว มาส่งถึงหน้าประตูด้วยตนเอง ยิ้มแย้มอยู่ตลอด ท่าทางดีจนอธิบายไม่ได้
“เหมียวเหมียว หิวไหมจ๊ะ ครูเตรียมผลไม้ไว้ให้หนูด้วยนะ”
ครูใหญ่เพิ่งพูดจบ ครูประจำชั้นของเหมียวเหมียวก็ยกจานผลไม้มาให้จริงๆ แถมยังนั่งยองป้อนเธอ
เจียงเหมียวเหมียวไม่เคยได้รับการปฏิบัติแบบนี้ รู้สึกเขินอายเล็กน้อย
“เชี่ย สุดยอดเลย” มีผู้ปกครองตกตะลึงอ้าปากค้าง
นอกจากความตกตะลึงของครูใหญ่ ก็มีความอิจฉาอย่างมาก ใครไม่อยากให้ลูกของตัวเองได้รับการดูแลแบบนี้
ไอ้ขยะตระกูลเจียงคนนี้ได้รับเกียรติใหญ่โตขนาดนี้มาจากไหน เพิ่งตบหน้าหลานชายของครูใหญ่จนร้องจ๊าก ไม่เพียงไม่ถูกไล่ออก แถมยังได้รับเกียรติแบบนี้
ใครบ้างที่ไม่รู้ว่าครูใหญ่ทรัพย์สินตระกูลเกินร้อยล้าน ต่อให้เป็นช่วงที่ตระกูลเจียงรุ่งเรือง ก็ไม่แพ้หน้านะ!
ตอนที่เจียงเหยียนปรากฏตัวขึ้น ดึงดูดทุกคน สายตาของทุกคนเต็มไปด้วยความอิจฉาริษยา
ครูใหญ่กลับยิ้มตาหยีเดินเข้ามา ถามเสียงเบา “คุฌชายเจียง คุณพอใจไหมคะ?”
“พอใช้ได้ ลูกสาวฉันร่างกายอ่อนแอ ต้องดูแลแบบนี้แหละ” เจียงเหยียนตอบ
“แน่นอนอยู่แล้วค่ะ คุณวางใจได้ ต่อไปเหมียวเหมียวอยู่ที่โรงเรียน ไม่มีใครกล้ารังแกเธอ”
“ดี โรงเรียนอนุบาลของคุณ ไม่ต้องปิดแล้ว”
“ขอบคุณค่ะ ขอบคุณค่ะ เดินทางกลับดีๆ นะคะ” ครูใหญ่ทั้งโค้งตัวแสดงความเรารำ ทั้งมองส่งพวกเขา
เจียงเหมียวเหมียวมีความสุขเป็นพิเศษ คุยกะหนุงกะหนิงตลอดทาง คำพูดเยอะมาก
ความสุขของเธอไม่ได้มาจากแคนตาลูปในปาก แต่เป็นเพราะพ่อมารับเธอเลิกเรียนเป็นครั้งแรก
เหมียวเหมียวก็เป็นเพียงคนเดียวที่ไม่เคยโกรธแค้นเจียงเหยียน
ไม่ว่าที่ผ่านเจียงเหยียนจะเย็นชาและไร้จิตใจอย่างไร ตั้งแต่ต้นจนจบเธอรักพ่ออย่างไม่มีเงื่อนไข หวังว่าเขาก็รักตัวเอง
น่าเสียดาย เจียงเหยียนไม่เห็นคุณค่า แม้กระทั่งรังเกียจที่เธอเป็นภาระ
โจวจี้ซีเห็นลูกสาวเปลี่ยนไปมีชีวิตชีวาร่าเริงขึ้นมา จิตใจก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้นแล้ว
ต่อให้เจียงเหยียนไม่ดีต่อเธออย่างไร เพียงแค่อ่อนโยนกับลูกสาวมากหน่อย เธอก็ขอบคุณฟ้า ขอบคุณดินแล้ว
กลางคืน เจียงเหยียนฝังเข็มให้เหมียวเหมียวอีกครั้ง และก็นวดทุยหนาครึ่งชั่วโมง
ต่อให้ลูกสาวหลับแล้ว มือน้อยๆ ก็ยังวางอยู่ในมือใหญ่ของเขา ไม่อยากเอามือออก
“คืนนี้นายอยู่เป็นเพื่อนเหมียวเหมียวไหม ฉันออกไปนอนเก้าอี้ด้านนอก” โจวจี้ซีพูด
ความหมายก็คือเธอไม่อยากร่วมเตียงกับเจียงเหยียนอีกแล้ว มีลูกสาวอยู่ก็ไม่ได้
“ด้านนอกหนาว เดี๋ยวฉันไปเอง โรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวในสมัยโบราณ ก็เรียกว่าโรคไข้ ที่ภูเขาหิมะยู่หลงมีโสมหิมะมังกรหยกชนิดหนึ่ง เจริญเติบโตระยะยาวในพื้นที่เย็นจัด ควบคู่กับวิธีการต้มพิเศษ มีผลต่อโรคของเธออย่างมหัศจรรย์” เจียงเหยียนพูด
“นายหมายความว่า ลูกสาวไม่ใช้ยาเคมีรักษาแล้ว ให้นายเป็นคนรักษา?” โจวจี้ซีถาม
“ใช่ ใช้ยาเคมีรักษาเธอไม่ได้แล้ว เสียเวลานานเกินไป ทำได้เพียงให้ฉันรักษาในทุกวัน บางทีภายในสามปี ก็สามารถให้เธอหายดีเป็นปกติได้” เจียงเหยียนพูด
“หายดีเป็นปกติ?”
โจวจี้ซีตกตะลึงจนปากสวยอ้าปากค้าง
โรคที่ไม่มีทางรักษาหายได้แบบนี้ จะหายดีเป็นปกติได้อย่างไร
“อืม วางใจได้ เสือแม้จะดุร้ายเพียงใดก็ไม่กินลูกของฉัน ฉันไม่มีทางทำร้ายเหมียวเหมียว”
โจวจี้ซีถูกเขาทำให้เธอสงสัยชีวิต
อึ้งอยู่นาน ถึงได้พูดขึ้น “ถ้าหากนายรักษาเหมียวเหมียวหาย พรหมจรรย์ของฉันก็ให้นายได้ แต่ต่อไปฉันจะหย่าร้าง นายดูแลเธอดีๆ ก็พอ”
“เธอไม่เต็มใจให้ ฉันไม่เอา”
เจียงเหยียนหอบผ้าห่มเตรียมจะออกไปนอนข้างนอก
ท่าทางนี้ทำให้โจวจี้ซีตะลึงงัน เป็นฝ่ายยอมอุทิศตัวเองเจียนเหยียนกลับไม่เอา?
“วันเกิด 60 ปีของพ่อฉัน นายจะไปจริงเหรอ?” เธอถามลองเชิงเสียวเบา
“งานวันเกิด 60 ปี ฉันที่เป็นลูกเขยใหญ่จะไม่ไปได้อย่างไร? พรุ่งนี้ฉันดูร้าน เธอไปซื้อเสื้อผ้าสวยๆ ให้ตัวเองสักชุด อย่าอับอายขายหน้าต่อหน้าแม่เลี้ยงกับน้องสาวน้องชาย ของขวัญล้ำค่าที่ฉันจะให้พ่อเธอ เพียงพอที่จะทำให้ญาติพี่น้องพ้องเพื่อนทั้งหมดที่อยู่ในงานตกตะลึง กอบกู้ความกล้ำกลืนที่ไม่เป็นธรรมและศักดิ์ศรีกลับมา”
โจวจี้ซีนอนลงบนเตียง นอนไม่หลับทั้งคืน
ตั้งแต่พ่อเป็นอัมพาต เธอก็เคยเจอเพียงครั้งเดียว แม่เลี้ยงก็ไม่ให้เยี่ยมแล้ว
หลังจากนั้นก็โทรวิดีโอคุยกันไม่กี่ประโยคก็ต้องวางสาย
ตอนนี้บนโลก เหลือเพียงคนที่รักเธอเพียงคนเดียว พูดว่าไม่คิดถึงเป็นการโกหก
วันรุ่งขึ้น โจวจี้ซีเตรียมลุกขึ้นจากเตียง ก็ได้กลิ่นหอม
เมื่อออกมาดู เจียงเหยียนกลับทำบะหมี่มะเขือเทศผัดไข่ให้เธอกับเหมียวเหมียว
นี่จะเพียงแค่ทำให้ตกตะลึงอ้าปากค้างได้อย่างไร นี่มันทำให้เธอรู้สึกสงสัยในชีวิตเลยต่างหาก
เธอป้อนไข่ให้เหมียวเหมียวไปด้วย ถามเสียงเบาไปด้วย “นายว่าฉันใช้เงินเท่าไหร่ในการซื้อชุด”
เงินนี้เจียงเหยียนเป็นคนหากลับมาได้ เธอจำเป็นต้องถามความยินยอมจากเขา เพื่อที่ถึงเวลาจะได้ไม่โมโห จับหัวเธอชนกับผนัง
“งานวันเกิด 60 ปียิ่งใหญ่มาก ในเมื่อเป็นการเลือกทายาทสืบทอดบริษัทของตระกูล ดังนั้นเธอเอาเงินหนึ่งแสนเก้าหมื่นที่เหลือเอาไปใช้ให้หมดเลย ซื้อชุดดีๆ ให้เหมียวเหมียวสักชุด จะให้เธอขายหน้าไม่ได้อีกแล้ว”
“หนึ่งแสนเก้าหมื่นใช้หมดเลย?” โจวจี้ซีตกตะลึง คิดว่าตัวเองฟังผิด
ในดวงตาโตคู่สวยของเธอ แฝงไปด้วยความหวาดกลัว
เมื่อสองสัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อแย่งเงิน 1200 หยวน เจียงเหยียนตบเธอล้มกับพื้นต่อหน้าเหมียวเหมียว
เดิมทีเธออยากจะใช้เงินแค่หนึ่งถึงสองพันซื้อเสื้อผ้า ไม่ขายหน้าก็พอ ถึงเวลาหลบครอบครัวแม่เลี้ยงหน่อย
แถมยังอยากจะยื่นขอเจียงเหยียน ใช้เงินหนึ่งหมื่นกว่าซื้อรถเข็นอัจฉริยะนำเข้าให้เป็นของขวัญคุณพ่อ
แค่นี้ก็เป็นกังวลว่าเจียงเหยียนจะไม่ยินยอม หรือแม้กระทั่งเขาจะโมโห
ไม่เคยคิดเลยว่า เขาจะใจกว้างขนาดนี้