ความหวังในเงามืด 2/2
วันรุ่งขึ้น เสี่ยวจูเตรียมตัวออกเดินทาง นางแต่งกายเรียบง่ายและสะพายย่ามเล็กๆ ที่บรรจุน้ำและขนมไว้เพียงเล็กน้อย ก่อนจะเริ่มเดินเข้าสู่ป่าที่อยู่ท้ายเมือง เส้นทางที่นางได้ยินคนเล่าให้ฟัง นางเดินตามเส้นทางนี้ด้วยความหวังว่านางจะพบกับหมอพเนจรผู้ลึกลับ และขอร้องให้เขาช่วยรักษาน้องชายของนาง
หลังจากเดินทางผ่านป่าเขียวชอุ่มเป็นเวลากว่าครึ่งชั่วยาม ในที่สุดเสี่ยวจูก็มองเห็นเรือนหลังเล็กๆ ตั้งอยู่ที่ท้ายป่าลึกอย่างโดดเดี่ยว เรือนหลังนั้นดูเรียบง่ายแต่สะอาดสะอ้าน นางเชื่อว่าเรือนนี้ต้องเป็นของหมอพเนจรเหวินจิ้งผู้นั้นอย่างแน่นอน นางเดินเข้าไปใกล้เรือนและเคาะประตูด้วยหัวใจที่เต้นระรัวด้วยความตื่นเต้น
ประตูเรือนเปิดออก เผยให้เห็นชายหนุ่มรูปงามในชุดสีฟ้าแซมขาว เขาคือชายหนุ่มคนเดียวกับที่เสี่ยวจูเคยพบที่สวนบุปผา ชายที่นางเฝ้าคิดถึงและฝันถึงตลอดเวลา แม้ว่าใบหน้าของเขาจะดูสงบนิ่ง แต่แววตาของเขากลับซ่อนความรู้สึกที่ซับซ้อนบางอย่างอยู่ภายใน
"แม่นางนั่นเอง มาหาข้าถึงที่นี่ มีเรื่องอันใดหรือ?" เหวินจิ้งเอ่ยถามเสียงนุ่ม แววตาของเขายังคงนิ่งสงบแต่เต็มไปด้วยความสงสัย
เสี่ยวจูที่ตกตะลึงกับการพบเขาอีกครั้งแทบพูดไม่ออก นางรู้สึกได้ถึงความร้อนที่ขึ้นมาแผ่ซ่านทั่วใบหน้า นางหายใจติดขัดก่อนจะรวบรวมความกล้า "ข้า...ข้ามาขอความช่วยเหลือเจ้าค่ะ" นางพูดตะกุกตะกัก ใบหน้างามของเขาทำให้หัวใจของนางเต้นระรัวอย่างไม่เป็นจังหวะ
"เชิญแม่นางเข้ามาก่อน" เหวินจิ้งกล่าวพร้อมผายมือเชื้อเชิญให้นางเข้าไปในเรือน นิ้วมือเรียวยาวและผิวขาวผ่องของเขาช่างเข้ากันกับความงดงามของร่างกายที่สง่างาม นางจึงเดินตามเขาเข้าไปด้วยความเกร็งเล็กน้อย
ภายในเรือนหลังเล็กนั้นตรงข้ามกับที่นางคาดคิด มันดูเรียบง่ายจากภายนอก แต่ภายในกลับสะอาดตาและอบอุ่น กลิ่นหอมอ่อนๆ ของดอกไม้และสมุนไพรอบอวลอยู่ในอากาศ สร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลายและสงบ เครื่องเรือนภายในมีเพียงไม่กี่ชิ้น แต่ทุกชิ้นล้วนทำจากไม้เนื้อดีและมีลวดลายแกะสลักอย่างประณีต งดงามจนเสี่ยวจูรู้สึกทึ่ง
ภาพวาดภูเขาและแม่น้ำที่แขวนอยู่บนผนังด้านหนึ่งงดงามราวกับมีชีวิต ส่วนอีกด้านเป็นชั้นวางหนังสือที่เต็มไปด้วยตำราแพทย์และสมุนไพร บ่งบอกถึงความรู้และความเชี่ยวชาญของเหวินจิ้งในด้านการแพทย์ ทุกสิ่งทุกอย่างในเรือนถูกจัดวางอย่างเป็นระเบียบ สร้างความรู้สึกสงบและผ่อนคลาย
“เชิญนั่งก่อน” เหวินจิ้งผายมือไปยังเก้าอี้ไม้ที่ตั้งอยู่ข้างโต๊ะเตี้ย เสี่ยวจูนั่งลงด้วยความประหม่าเล็กน้อย นางรู้สึกตื่นเต้นที่ได้อยู่ใกล้ชายหนุ่มรูปงามเช่นนี้
เหวินจิ้งรินชาใส่ถ้วยสองใบ ก่อนจะถามด้วยน้ำเสียงสุภาพ “ว่ามาสิ แม่นางมีเรื่องอะไรถึงมาหาข้าถึงที่นี่?”
เสี่ยวจูสูดหายใจเข้าลึกๆ นางรวบรวมความกล้าก่อนจะเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับน้องชายที่ป่วยหนักของนาง ความสิ้นหวังที่ครอบครัวของนางเผชิญมาตลอดหลายวัน และการที่นางออกตามหาหมอพเนจรผู้ลึกลับเพื่อขอความช่วยเหลือในการรักษาน้องชาย
เหวินจิ้งฟังอย่างตั้งใจ แววตาของเขาเต็มไปด้วยความสงสัย สายตาของเขาเหลือบเห็นปานรูปดอกไม้ที่อยู่หลังหูของเสี่ยวจู ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ที่คุ้นเคยสำหรับเขา ความทรงจำบางอย่างแวบเข้ามาในหัวของเขา แต่ก็ดูเหมือนเลือนหายไปอย่างรวดเร็ว
"แม่นางเป็นใครกัน?" เหวินจิ้งถามด้วยความสงสัย นางคือใคร ทำไมถึงมีสัญลักษณ์ที่เขาคุ้นเคยติดตัว