2/1 พรหมลิขิต
2
พรหมลิขิต
ปอนเดินทางก่อนกำหนดที่บอกกับปัทมาหนึ่งวัน เพราะเขาต้องการทำให้ยายแปลกใจ และไม่อยากให้ยายเตรียมต้อนรับเขา
เมื่อถึงเมืองไทยชายหนุ่มรีบเดินทางไปยังตัวจังหวัดที่เขาเกิด ตั้งใจจะหาหาอาหารไทยอร่อยๆกินก่อนที่จะเข้าบ้าน
“ร้านนี้ดีกว่า จัดร้านสวยดี”
ร้านอาหารไทย ที่ขายทั้งอาหาร กาแฟ และขนมไทยและต่างประเทศ ตกแต่งอย่างสวยงามดูเป็นธรรมชาติ ถูกใจชายหนุ่มที่เพิ่งกลับมาจากอเมริกายิ่งนัก เขาจึงเดินเปิดประตูเข้าไปยังข้างใน
“เอาข้าวผัดกระเพราหมูไม่เผ็ดและต้มจืดเต้าหู้หมูสับครับ”
ปอนหยิบรายการอาหารขึ้นมาดูเพื่อมองหารายการอาหารที่เขาอยากกินมานาน เมื่อรู้ว่าที่นี่มีจึงได้กินสมใจ
ระหว่างที่นั่งกินอาหาร คนที่เพิ่งกลับจากอเมริกา ก็นั่งชมบ้านเมืองจังหวัดของตัวเอง ผ่านกระจกหน้าร้าน ทุกอย่างดูเปลี่ยนไปหมด มีบ้านเรือนร้านค้าเพียงไม่กี่ที่ ที่ยังเหมือนเดิม พอให้เขาจับจุดได้ ว่าเขากำลังอยู่ตรงส่วนไหนของที่นี่
ก่อนจะเรียกคิดเงิน ปอนเดินไปเข้าห้องน้ำที่อยู่หลังร้าน เจ้าของจัดบรรยากาศให้ดูเหมือนกำลังอยู่ในสวนกล้วยไม้ ชายหนุ่มหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาถ่ายดอกกล้วยไม้ที่มีรูปร่างแปลกและเขาไม่เคยเห็น
“คิดเงินด้วยครับ”
เมื่อเดินกลับมายังโต๊ะ ชายหนุ่มก็เรียกคิดเงินค่าอาหาร ยังไม่ทันที่หญิงสาวที่ทำหน้าที่เป็นพนักงานเก็บเงินเดินมาถึง ปอนก็ทำท่า ร้อนรนควักกระเป๋ากางเกงทั้งสองข้าง และก้มหน้าก้มตาค้นในกระเป๋าเป้ที่เขาสะพายมา
“หาอะไรเหรอคะ” พนักงานสาวถาม
“กระเป๋าใส่เงินผมหาย” ชายหนุ่มตอบโดยที่ยังไม่ยอมเงยหน้ามามองหญิงสาวที่กำลังยืนคุยกับเขาอยู่
“คุณลืมพกมาหรือทำล่วงที่ไหนหรือเปล่าคะ”
ชายหนุ่มเงยหน้า เพื่อจะตอบคำถามพนักงานในร้าน ที่กำลังคุยกับเขาอยู่
“ฉันว่าคุณตั้งใจไม่จ่ายหรือเปล่าคะ มุกแบบนี้เขาเล่นกันบ่อยแล้วค่ะ”
เมื่อแป้งเห็นหน้าลูกค้า ที่กำลังบอกกับเธอว่าเขาหากระเป๋าใส่เงินไม่เจอ หญิงสาวก็รู้สึกไม่ถูกชะตาทันที เธอรู้สึกว่าผู้ชายคนนี้หน้าคุ้นๆ และแววตาแบบนี้เหมือนเธอเคยเห็น มันเหมือนแววตาของคนที่เจ้าเล่ห์
“ท่าทางของผม มันเหมือนคนขี้โกงเหรอ คุณถึงได้มาพูดจาดูถูกกันแบบนี้”
ชายหนุ่มทำท่าโมโห แต่ลึกๆกับรู้สึกถูกชะตากับหญิงสาวตรงหน้า เพราะรู้สึกเหมือนเคยเห็นหน้ากันมาก่อน
“ก็ต้องคิดในแง่ร้ายไว้ก่อน คนสมัยนี้มันไว้ใจกันไม่ได้” แป้งยังคงไม่ยอมเชื่อ
“เสียงดังอะไรกัน”
เจ้าของร้านเดินออกมาจากครัว เพราะได้ยินเสียงคนกำลังทะเลาะกันเสียงดัง
“ผู้ชายคนนี้เขาไม่มีเงินจ่ายค่าอาหารค่ะ ” พนักงานสาวรายงาน
“ผมไม่ได้ไม่มีเงินจ่าย แต่ผมหากระเป๋าใส่เงินไม่เจอ” ชายหนุ่มเถียงกลับ
“เอาอย่างนี้ค่ะ คุณคิดว่าตอนเข้ามาที่ร้านมันยังอยู่ไหมคะ” เจ้าของร้านพยายามช่วยหาทางออก