บทที่ 3 เจ้านายจอมเผด็จกาาร (1)
บทที่ 3
เจ้านายจอมเผด็จการ
“เกิดอะไรขึ้น” ภัทรนัยมองหน้าพาชิตทีนึง มองหน้าอินทุภาทีนึง ก่อนที่สายตาจะมาหยุดลงตรงมือเรียวของอินทุภาที่จับแขนพาชิตอยู่
“เลขาของคุณน่ะสิ อยู่ดีๆก็มาลวมลามผม”
“จะบ้าเหรอ” อินทุภารีบปล่อยแขนของพาชิตทันที อีตานี่กล้าพูดมาได้ไงว่าเธอจะลวนลาม
“คุณมีธุระอะไร” ภัทรนัยที่ทำหน้าคล้ายๆคลื่นไส้นิดหนึ่ง ถามพาชิตด้วยเสียงขรึมๆ
“ผมจะมาพาเนริสาไปทานข้าวกลางวัน” พาชิตตอบ แต่ลูกกะตาที่มีขนตางอนช้อยเป็นแพเหมือนใส่ขนตาปลอมเหล่มามองทางอินทุภาอย่างมีความหมาย
“คุณเนริสาไปเป็นเลขาให้คุณมงคลอยู่ชั้นที่4” ภัทรนัยบอก รู้สึกขัดหูขัดตากับท่าทางกระลิ้มกระเหลี่ยของพาชิตขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก
“ครับๆ งั้นผมไปก่อนนะครับ” พาชิตยิ้มนิดๆอย่างที่คิดว่าหล่อแล้ว ก่อนจะเดินเอานิ้วเกี่ยวหูกางเกงจากไปอย่างมีมาด
“เขาเต็มหรือเปล่าคะ” อินทุภาหันมาถามภัทรนัย ในขณะที่ชายหนุ่มยักไหล่แล้วตอบมาหน้าตายว่า
“ผมไม่รู้”
“เดี๋ยวผมจะให้พี่ก้อยมาช่วยสอนงานให้คุณนะ สักสองวันคุณก็คงพอทำได้”
“พี่ภัทรขา” น้ำเสียงแหลมๆดังขึ้น พร้อมกับร่างสูงระหงในชุดสีแดงแสบตากระโปรงทรงแคบสั้นแค่เข่าจะเดินเข้ามาเกาะแขนเขา
“อ้าว ลิ้นจี่” ภัทรนัยเลิกคิ้วขึ้นสูงอย่างที่เขาชอบทำอยู่เสมอ พลางยกแขนขึ้นโอบบ่ามนของรินลตาพาเข้าห้องทำงานไปทันที
“ตกลงว่านั่นเป็นห้องทำงานหรือห้องนอนกันแน่ หึ” อินทุภาเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันตามหลัง ร่างบางค่อยๆจรดปลายเท้าอย่างแผ่วเบาไปยืนที่หน้าประตูอย่างเงียบกริบก่อนจะแนบใบหูลงกับประตู
“คุณมาที่นี่ทำไม” เสียงภัทรนัยถามรินลตา
“ก็ลิ้นจี่อยากเจอหน้าพี่ภัทรนี่คะ”
“คราวหน้าคุณก็มาเอารูปผมไปสักใบนึงนะ จะได้เห็นตลอดเวลา ไม่ต้องมาหาผมถึงที่ทำงานก็ได้” ได้ยินคำตอบของภัทรนัยแล้ว อินทุภาก็ยกมือขึ้นสะกดเสียงหัวเราะเอาไว้แทบไม่ทัน
“ไม่เอาหรอกค่ะ เพราะรูปน่ะ...มันจับต้องไม่ได้” เสียงฝ่ายหญิงเริ่มยั่วยวน
“เฮ้ย คุณจะลูบอะไรผมนะ ปล่อยนะ”
“!!” อินทุภาตาโตเท่าไข่ห่านทันที สมองอันแสนจะปราดเปรื่องที่เป็นอัจฉริยะด้านความฟุ้งซ่านเริ่มคิดลึกไปถึงไหนต่อไหน
ผ่าง
ประตูถูกเปิดออกอย่างรวดเร็ว ทำให้อินทุภาที่เอาหูแนบประตูอยู่ต้องหน้าทิ่มไปข้างหน้าทันที
“ว้าย!” หญิงสาวแหกปากลั่น แต่ยังดีที่คนที่เป็นฝ่ายเปิดประตูออกมาอ้าแขนรับร่างเธอได้ทันพอดี หน้าเล็กๆตัวบางๆปะทะอกกว้างแต่แข็งกระด้างอย่างเหมาะเจาะ
“แอบฟังเหรอไง ยัยเลขาจอมจุ้น” ภัทรนัยกระซิบถาม
“อ๊าย!! พอๆๆพอเลยนะ ลิ้นจี่ทนดูไม่ได้” รินลตากรีดร้องเมื่อเห็นภาพบาดตาเข้าจังๆ ก่อนที่เธอจะรีบเดินรี่ๆมาดึงอินทุภาออกจากอ้อมกอดของภัทรนัย
“นังนี่เป็นใครกันคะ”
“อินทุภาเป็นเลขาของผม”
“เป็นเลขาแล้วต้องกอดกันด้วยเหรอคะ”
“คุณก็รู้ว่ามันเป็นอุบัติเหตุ” ภัทรนัยถอนหายใจเฮือก ก่อนจะยกมือเกาท้ายทอยตัวเองแกรกๆอย่างหงุดหงิด โดยไม่ทันสังเกตเห็นดวงตาวิบวับของอินทุภาที่มองตรงมา
“คุณภัทร” อินทุภาเรียก ทำเอาธีรภัทรต้องหันมามอง และโดยที่ยังไม่ทันได้ตั้งตัว หญิงสาวก็โน้มคอเขาลงมา แล้วเขย่งปลายเท้าและยื่นหน้าไป...จุ๊บ
“กรี๊ดดดด” รินลตากรีดร้องก่อนจะกระทืบเท้าเร่าๆแล้วเดินกระฟัดกระเฟียดออกไปจากห้องอย่างโมโห
“คุณ..” ภัทรนัยเรียกหญิงสาวในลำคออย่างอึ้งๆ
“เอา...มือคุณออกไปนะยัยบ้า” ว่าพลาง เขาก็กระชากมือเธอออกอย่างรวดเร็ว ในขณะที่อินทุภาหัวเราะออกมาเสียงดังลั่น
ก็เมื่อครู่นี้น่ะ เธอยื่นหน้าไปทำเหมือนจะจูบเขา แต่เธอเอานิ้วหัวแม่โป้งปิดปากภัทรนัยไว้ แล้วเธอก็จุ๊บปากลงบนหัวแม่มือของตัวเองอีกทีหนึ่ง แล้วรินลตาที่ยืนอยู่เยื้องๆไปทางด้านหลังของภัทรนัยจึงมองไม่ออกว่าอินทุภาไม่ได้จูบที่ปากของภัทรนัยจริงๆ
“คุณจะหัวเราะอีกนานมั๊ย” ภัทรนัยถามด้วยน้ำเสียงที่เริ่มออกแววโหด แต่อินทุภายังไม่มีทีท่าว่าจะสำนึก เพราะเธอยังคงหัวเราะต่อไปอย่างกลั้นไม่อยู่
“ฮ่าๆๆๆก๊ากกกกก” หญิงสาวทรุดลงไปนั่งกุมท้องหัวเราะต่อบนพื้น เล่นเอาภัทรนัยแทบอยากจะดีดเลขาตัวแสบออกนอกบริษัท
“ถ้าคุณยังหัวเราะต่อ ผมจะไล่คุณออก” คำขู่นี้ได้ผล เพราะหญิงสาวเงียบกริบราวกับปิดสวิตซ์ลง
...
.......
ทั้งคู่ต่างพากันเงียบชั่วระยะหนึ่ง ก่อนที่อินทุภาจะลุกขึ้นยืน จัดกระโปรงตัวยาวของตัวเองให้เรียบร้อย แล้วตีหน้าขรึม ทั้งๆที่แววตายังเต้นระริกอยู่ และก็ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน ... ชายหนุ่มถึงรู้สึกหงุดหงิดกับลูกตาเหมือนกำลังสนุกสนานของเธอนัก
“วันนี้เป็นวันทำงานวันที่สองของผม และเป็นวันทำงานวันแรกของคุณ พรุ่งนี้คุณค่อยเริ่มทำงานอย่างจริงจังนะ วันนี้เรามาเริ่มปรับเปลี่ยนบุคลิกของคุณใหม่ก่อนดีกว่า” ภัทรนัยพูดขึ้นเมื่อกวาดตามองชุดที่แสนจะเรียบร้อยและแสนมิดชิดของเธอจนทั่ว
“เปลี่ยนบุคลิกเหรอคะ” หญิงสาวจับกระโปรงตัวเองยกสูงขึ้น เธอไม่เห็นว่าบุคลิกของเธอจะเสียหายตรงไหน แล้วทำไมเขาถึงอยากให้เปลี่ยน
“จำไว้นะยัยห่าน ว่าอย่า...ขัดใจเจ้านายอย่างผม” เขาก้มลงขู่กระซิบเสียงต่ำ ส่วนเธอก็พูดลอดไรฟันกลับไปว่า
“รับทราบค่ะ เจ้านาย..” จอมเผด็จการ หญิงสาวแอบต่อให้ในใจ ก่อนจะอุทานออกมาเมื่อมือแข็งๆคว้าข้อมือของเธอลากออกไป
“จะพาอินไปไหนคะ”
“พาไปซื้อชุดใหม่สำหรับใส่เวลามาทำงานกับผมไงล่ะ!!”