บท
ตั้งค่า

บทที่ 2 เลขาคนใหม่ และ จูบครั้งแรก (2)

“อื้อ” อินทุภาตั้งท่าจะผลักอกเขา แต่แล้วมือเล็กๆก็เปลี่ยนเป็นขยุ้มเนคไทของเขาเอาไว้แทน และในขณะที่ภัทรนัยกำลังเคลิบเคลิ้มไปกับรสจุมพิตหวานล้ำอย่างที่เขาเองก็ไม่เคยเจอมาก่อนจากผู้หญิงคนไหน เท้าเล็กๆในรองเท้าส้นเตี้ยก็ถูกยกขึ้นก่อนจะกระทืบลงไปบนเท้าใหญ่ที่ถูกซุกซ่อนอยู่ภายใต้รองเท้าหนังคู่หนาเต็มแรง

ชายหนุ่มถอนปากออกจากปากนุ่มพลางขมวดคิ้วแล้วถามว่า

“คุณทำอะไรน่ะ”

“กระทืบเท้าของผอ.โรคจิตอย่างคุณไง” อินทุภากระชากเสียงตอบด้วยใบหน้าแดงก่ำ ถึงเธอจะรู้สึกแปลกๆกับรสจุมพิตของเขา แต่เธอก็ไม่อยากจะเป็นคนที่ง่ายในสายตาของผู้ชายคนนี้!

“กระทืบเหรอ?” คิ้วเข้มเลิกขึ้นสูงอย่างยียวน พลางพูดต่อว่า “ นึกว่าสะกิดเสียอีก”

“คุณ!!” อินทุภาเค้นเสียงลอดไรฟัน นึกอยากจะตบหน้าหล่อๆนั่นสักที

“ว่าไงครับ” คราวนี้คิ้วเข้มถูกยกขึ้นทั้งสองข้าง ก่อนจะยกนิ้วขึ้นถูคางตัวเองไปมา

“ปากคุณ..หวานเป็นบ้า”

“อ๊ายยย ไอ้ๆๆ” อินทุภาออกอาการติดอ่าง ใบหน้าสวยๆแดงก่ำมากขึ้นกว่าเดิมก่อนจะยกมือขึ้นถูปากตัวเองแรงๆ

“แต่ปากคุณน่ะ..ขมที่สุด”

“จริงเหรอ” เขากระพริบตาแล้วเอียงคอถามอย่างไร้เดียงสา

“เกิดอะไรขึ้นคะ” เนริสาที่เอาหูแนบประตูห้องด้วยท่าทางสอดรู้สอดเห็นมาพักนึง รีบเปิดประตูผ่างออกมาเมื่อได้ยินเสียงโวยวายของอินทุภา

ที่เธอเอาหูแนบประตู ไม่ได้เป็นเพราะว่าเธอสอดรู้สอดเห็นนะ เนริสารีบแก้ตัวให้กับตัวเองในใจ

แต่ที่ต้องแอบฟังก็เพราะว่า...เธอเป็นห่วงกลัวว่าเจ้านายของเธอจะโดนอินทุภาจับปล้ำต่างหากล่ะ!!

ชิ้ง..

ทันทีที่เนริสาเปิดประตูเข้ามา สายตาของอินทุภากับภัทรนัยก็พากันจับจ้องมองไปที่เธอ ก่อนที่ภัทรนัยจะกระแอมขึ้นมาแล้วพูดว่า

“ผมจะให้คุณอินทุภาเป็นเลขา”

“เรื่องนั้นเนรี่รู้ดีค่ะท่านผอ.ขา” เนริสาพูดเสียงหวาน ดวงตาจิกมองอินทุภาแล้วสะบัดหน้าไปอีกทาง

“ผมจะให้คุณอินทุภามาเป็นเลขาของผม” ชายหนุ่มกล่าวต่อเรียบๆ แต่ประโยคเรียบๆประโยคนี้นี่แหละที่ทำเอาเนริสาต้องเต้นผาง

“แล้วๆๆๆ แล้วเนรี่ล่ะคะ ผอ.จะให้เนรี่ไปทำอะไร”

“คุณก็ไปเป็นเลขาผู้จัดการฝ่ายการตลาดแทนคุณอินทุภาไงครับ”

“วะ ว่าไงนะคะ” เนริสาทำท่าเหมือนจะไม่เชื่อหูตัวเอง ลูกเป็ดขี้เหร่แต่งตัวเฉิ่มๆอย่างอินทุภาจะมาสู้เธอที่แสนจะเพอร์เฟกต์แต่งตัวมีรสนิยมสมกับเป็นเลขาของผู้อำนวยการใหญ่ได้ไงกัน

หรือว่า...อินทุภาจะยั่วภัทรนัย?

“ตกลงตามนี้นะครับ”

“ไม่ได้นะคะคุณภัทรนัย คุณจะมาสั่งย้ายเนรี่ไม่ได้” เนริสาเริ่มตวาดแหวด้วยความไม่พอใจ แต่เสียงของชายหนุ่มที่เค้นออกมาเสียงดังกว่าอีกทั้งยังแฝงไปด้วยความเฉียบขาด

“แต่คำสั่งผมใหญ่ที่สุด!!”

หลังจากเนริสาเดินคอตกกลับไปเก็บข้าวของบนโต๊ะเลขาหน้าห้องของตัวเองเพื่อย้ายลงไปทำงานเป็นเลขาของคุณมงคลแทนแล้ว อินทุภาก็หันมายกมือเท้าเอวต่อหน้าชายหนุ่มทันที

“ไหนคุณบอกว่าจะให้ฉันไปเป็นเลขาผู้จัดการฝ่ายผลิต”

“ผมจะให้คุณเป็นเลขาของใคร มันก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของผม อยู่ต่อหน้าผมคุณกล้าเท้าเอวเชียวเรอะ” ภัทรนัยขมวดคิ้ว นึกอยากจะจับแขนเรียวๆบิดให้หักคามือ

“จะเท้าเอวหรือจะทำยังไง มันก็เป็นสิทธิส่วนตัวของฉันนะคะ”

“แต่ตอนนี้คุณมาทำงานให้ผม คุณควรจะเลิกนิสัยเคยชินของคุณซะที” พูดจบ เขาก็จับแขนที่เธอยกขึ้นเท้าเอว ดึงร่างบางมาชิดลำตัวแล้วจรดปลายจมูกโด่งลงที่ข้างแก้มนวล

เพี๊ยะ!!

“จอมฉวยโอกาส” หญิงสาวว่าเขาเสียงดัง หลังจากที่ตวัดหลังมือลงที่ข้างแก้มของเขาแล้ว

“โอกาสแบบนี้ คุณอยากได้อยู่แล้วไม่ใช่หรือไง” เขายกมือขึ้นลูบแก้มตัวเองป้อยๆ ริมฝีปากงอหงิกเหมือนเด็กที่ถูกขัดใจ

“ฉันอยากใกล้ชิดคุณ แต่ฉันไม่ได้ง่ายขนาดที่จะปล่อยเนื้อปล่อยตัวให้คุณง่ายๆ”

“ยอมรับแล้วใช่มั๊ย ว่าอยากเข้าใกล้ผม” คิ้วเข้มเลิกขึ้นอย่างยียวน ก่อนจะก้าวถอยหลังไปสองก้าว ดวงตาคมกวาดมองเธอไปจนทั่วร่าง

“มองอะไร” อินทุภากระชากเสียงถาม เมื่อรู้สึกร้อนวูบๆวาบๆไปทั่วตัวราวกับว่ากำลังถูกดวงตาคมปลดเปลื้องเสื้อผ้าของเธอออกด้วยสายตา

“มองห่าน”

“อะไรนะ”

“ก็บอกว่ามองห่านอยู่ไง”

“คุณว่าใครเป็นห่านมิทราบ”

“แล้วผมมองใครอยู่ล่ะ”

อ๊ากๆๆ หญิงสาวอยากจะกรีดร้องแล้วซัดใบหน้าหล่อๆของภัทรนัยสักทีสองที ข้อหากวนประสาทมากเกินไป แต่เธอก็ไม่อาจทำได้ รอให้เธอไปอยู่ในห้องน้ำก่อนเถอะ จะระบายความอัดอั้นออกมาให้หมด

ภัทรนัยหมุนตัวหันหลังเดินไปทรุดลงนั่งบนเก้าอี้ผู้บริหาร แล้วหยิบแฟ้มงานขึ้นมาเปิดๆดู โดยไม่สนใจอะไรเธออีก ปล่อยให้อินทุภาต้องยืนรันรีหันขวาอยู่คนเดียวที่กลางห้อง

5นาทีผ่านไป

ชายหนุ่มก็ยังคงก้มหน้าก้มตาอ่านแฟ้มงาน จนหญิงสาวที่ยืนอยู่ชักจะเริ่มยุกยิก ยืนอยู่ไม่เป็นสุข

“คุณภัทรนัยคะ” หญิงสาวเรียกเบาๆ ทำให้ชายหนุ่มต้องเงยหน้าขึ้นมามอง

“แหะๆๆ” ก่อนอื่น เธอก็ต้องฉีกยิ้มกว้างจนเห็นฟันครบ32ซี่ให้เขาก่อน แล้วค่อยพูดต่อว่า

“จะให้ฉันทำงานยังไงคะ”

“ห้ามเรียกผมว่าภัทรนัย ให้เรียกผมว่าเจ้านายคะ ไหนคุณลองพูดใหม่สิ”

อินทุภากัดฟันกรอด แต่ก็จำต้องทำตามที่ชายหนุ่มต้องการ

“เจ้านายคะ จะให้ฉันทำงานยังไงคะ”

“เรียกตัวเองด้วยชื่อเล่นของคุณด้วย”

อินทุภาจิกสายตามองคนเจ้าปัญหาด้วยสายตาแค้นเคือง แต่ก็ยอมพูดออกมาแต่โดยดี

“เจ้านายคะ จะให้อินทำงานยังไงคะ”

“ก็ออกไปทำสิครับ ป่านนี้เนริสาคงขนของของเขาลงไปชั้นล่างหมดแล้ว คุณไปทำงานต่อจากเธอได้เลย”

“ค่ะ” อินทุภารับคำ ก่อนจะหันหลังเดินออกจากห้องไป

หลังจากลับร่างบางแล้ว ภัทรนัยก็ปิดแฟ้มเอกสารลงพลางยกมือขึ้นเท้าคางตัวเอง สายตามีแต่ร่องรอยความคิด

อยากอยู่ใกล้ชิดเขา แต่กลับหวงเนื้อหวงตัว

รอยยิ้มตรึงใจที่เจ้าหล่อนชอบส่งมาให้เขา ช่างดูคุ้นตาเหลือเกิน เหมือนกับรอยยิ้มของใครบางคนที่เขาคุ้นเคยเป็นอย่างดี..

อินทุภานั่งซบหน้าลงกับโต๊ะ เพราะเธอรู้สึกมึนหัวไปหมด เนื่องมาจากว่านี่เป็นงานครั้งแรกของเธอ เธอยังไม่รู้เลยว่าจะต้องทำงานอย่างไรบ้าง ทุกอย่างจึงดูสับสนและวุ่นวาย อยากจะเดินเข้าไปถามภัทรนัย เธอก็ยังไม่อยากมองหน้าเขาในเวลานี้

“อ้าว คุณเนริสาเลขาหน้าห้องคนเก่าหายไปไหนแล้วล่ะ” น้ำเสียงของผู้ชายคนหนึ่งถามขึ้น ทำให้เธอต้องเงยหน้าขึ้นไปมองโดยอัตโนมัติ ก่อนที่เธอจะส่งยิ้มให้เขาอย่างเป็นมิตร แล้วตอบกลับไปว่า

“คุณเนริสาย้ายลงไปเป็นเลขาของผู้จัดการฝ่ายการตลาดแล้วค่ะ”

“เหรอ เปลี่ยนผอ.คนใหม่ เลขาก็เปลี่ยนด้วยเหรอเนี่ย” พาชิตพาร่างสันทัดที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามของตัวเองมายืนตรงหน้าโต๊ะทำงานของหญิงสาว พลางก้มลงจ้องหน้าเธออย่างพินิจแล้วพูดว่า

“จะว่าไป.. คุณก็น่ารักไม่ใช่เล่นเลยนะ” เขาชมขึ้นมาอย่างง่ายๆ ดวงตาจับจ้องไปที่หน้าอกอวบที่โตเกินตัวของเธอด้วยประกายตาวาววาม

“มองอะไรคะ” หญิงสาวถามอย่างไม่พอใจ แต่อีกฝ่ายกลับตอบไม่ตรงคำถาม

“คุณน่าจะใส่ชุดที่วาบหวิวมากกว่านี้สักหน่อย” พาชิตแนะนำด้วยใบหน้าที่ส่อแววหื่น

มือแข็งๆเอื้อมมือมาตรงหน้า แต่ยังไม่ทันจะถึงหน้าอกของเธอ อินทุภาก็คว้าข้อมือของเขาไว้ได้ทันก่อนจะบิดโดยแรง

“อ๊ากกก” พาชิตร้องลั่นแหกปากโวยวาย และคนที่รีบโผล่ออกมาดูเป็นคนแรกก็คงหนีไม่พ้น...ภัทรนัย!!

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel