9 ความประทับใจ
หลังจากทานข้าวและทานยาแล้วแพทย์เจ้าของไข้ก็เข้ามาตรวจพอดี
แพทย์วัยกลางคนแจ้งให้เมญาวีทราบว่าถ้าบ่ายนี้เธอไม่มีไข้ก็คงจะได้กลับบ้านในตอนเย็น
“เมยอยู่คนเดียวได้ไหม รินว่าจะลงไปหาอะไรกินหน่อยเริ่มหิวแล้ว” รินรดาที่นั่งอยู่บนเตียงผู้ช่วยพูดขึ้นหลังจากที่ทุกคนออกไปกันหมดแล้ว
“ได้สิ แล้วไม่ต้องซื้ออะไรขึ้นมานะ แค่อาหารของโรงพยาบาลเมยก็อิ่มจะแย่แล้ว”
“ถ้ารินเจอขนมอะไรที่เมยชอบรินจะซื้อขึ้นมาให้ก็แล้วกันนะ หรือถ้าเมยนึกได้ว่าอยากกินอะไรก็ไลน์ไปบอกนะ”
“อือ รีบไปเถอะ เดี๋ยวจะหิวจนเป็นลมเอานะ”
“มีอะไรรีบโทรหาเลยนะ อ้อ แล้วถ้าเจ้านายเมยมาบอกเขาด้วยนะว่ารินอยากเจอ”
“จ้า”
ประตูห้องเปิดออกอีกครั้งแต่คนที่เดินเข้ามาไม่ใช่รินรดาอย่างที่คิด
“คุณเวย์”
“เป็นยังไงบ้าง สีหน้าดูดีแล้วนี่ ยังปวดหัวอยู่หรือเปล่าแล้วเช้านี้มีไข้ไหม” คนมาใหม่ถามทีเดียวหลายคำถาม
“ให้เมยตอบคำถามไหนก่อนดีคะ”
“สั้น ๆ เลย ตอนนี้คุณโอเคไหม”
“ค่ะ เมยไม่เป็นอะไรแล้ว เช้านี้ไม่มีไข้ ไม่ปวดหัวแล้วค่ะ คุณเวย์ไม่ต้องลำบากมาเยี่ยมก็ได้” เมญาวีดีใจที่เขามาเยี่ยมแต่ก็ยังรู้สึกเกรงใจ
“ไม่ได้ลำบากอะไร ปกติวันเสาร์ผมก็ไม่ได้ไปไหนอยู่แล้ว คุณทานอะไรหรือยัง ผมไม่รู้ว่าต้องซื้ออะไรมาเยี่ยม แต่จำได้ว่าคุณชอบทานเค้กเผือกก็เลยแวะซื้อมาให้ หมอไม่ได้ห้ามใช่ไหม” เพราะไปทานอาหารด้วยกันบ่อยเวหาจึงรู้ว่านอกจากเมญาวีจะทานอาหารได้เกือบทุกชนิดแล้วสิ่งที่เธอมักสั่งมาทานตลอดก็คือเค้กเผือก
“ไม่ได้ห้ามค่ะ แต่เมยทานข้าวไปแล้วตอนนี้ยังอิ่มอยู่เลย”
“เดี๋ยวผมแช่ตู้เย็นไว้นะ จะทานตอนไหนก็บอก” เขาเดินเอาเค้กไปเก็บและกลับมานั่งเล่นโทรศัพท์อยู่บนโซฟา
เมญาวีเพิ่งสังเกตว่าวันนี้เจ้านายของเธอไม่ได้ใส่สูทเหมือนวันทำงาน เขาสวมเสื้อเชิ้ตคอจีนสีครีมกับกางเกงยีนสีซีดดูดีไปอีกแบบ หญิงสาวเผลอมองเขาอยู่นานจนกระทั่งรินรดาเข้ามา
เวหาเงยหน้าขึ้นมามองคนที่เพิ่งเดินเข้ามาแล้วยิ้มอย่างเป็นมิตร
“รินนั่นคุณเวหาเจ้านายของเมย คุณเวหาคะนี่เพื่อนเมยค่ะชื่อรินค่ะ”
“สวัสดีค่ะคุณเวหา ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ”
“เช่นกันครับ”
“มานานแล้วเหรอคะ”
“เพิ่งมาเมื่อครู่ครับ”
“ขอบคุณนะคะที่เมื่อคืนอยู่เป็นเพื่อนเมย คุณคงลำบากแย่”
“ไม่เป็นไรครับ ผมไม่ได้ลำบากอะไรเลย”
“เมยโชคดีนะคะที่มีเจ้านายอย่างคุณเวหา”
“คงเรียกว่าโชคดีอะไรหรอกครับ เราทำงานด้วยกันก็ต้องห่วงใยกันเป็นธรรมดา”
“ค่ะ แต่ยังไงก็ต้องขอบคุณนะคะ ทั้งเรื่องที่พาเมยมาโรงพยาบาล ทั้งนอนเฝ้า แล้วยังจะช่วยจ่ายค่ารักษาพยาบาลอีก”
รินรดาไปติดต่อที่แผนกการเงินแล้วตอนที่มาถึง แต่เขาแจ้งว่าเวหาลงชื่อเป็นเจ้าของไข้และจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมดเอง
“คุณเวย์คะ เรื่องค่ารักษาเดี๋ยวเมยจะจ่ายคืนนะคะ”
“ผมบอกตอนไหนว่าจะเอาคืน”
“แต่เมยเกรงใจ”
“รินว่าเงินแค่นี้เจ้านายของเมยขนหน้าแข้งไม่ร่วงหรอก ถ้าเมยอยากตอบแทนก็แค่ตั้งใจทำงานเท่านั้น รินพูดถูกไหมคะคุณเวหา”
“ถูกต้องเลยครับ ผมว่าเพื่อนคุณพูดจาได้น่าฟังมากเลยทีเดียว”
“รินว่าเราสองคนไปหากาแฟดื่มกันดีไหมคะ เมยจะได้นอนพัก”
“ดีเหมือนกันครับ” เวหารีบตอบตกลง ไม่ใช่เพราะอยากไปดื่มกาแฟแต่เพราะอยากรู้จักผู้ช่วยของตัวเองให้มากกว่านี้ผ่านทางเพื่อนของเธอ
ร้านกาแฟที่อยู่ชั้นล่างสุดของโรงพยาบาลผู้คนค่อนข้างพลุกพล่าน ทั้งสองคนยังโชคดีที่มีโต๊ะว่างอยู่ พอสั่งกาแฟกับพนักงานแล้วรินรดาก็เริ่มชวนชายหนุ่มผู้เป็นเจ้านายของเพื่อนคุย
“ปกติคุณเวหาใจดีกับลูกน้องอย่างนี้เสมอเหรอคะ เมื่อคืนคุณถึงได้เฝ้าเธอ”
“ก็เธอเป็นลูกน้องของผมนี่ครับ อีกอย่างที่เธอไม่สบายก็เพราะผม”
“เหรอคะ เมยไม่เห็นบอกว่าเพราะคุณ”
“ผมมีธุระก็เลยไม่ได้ไปส่งเธอ ทำให้เธอต้องตากฝน”
“มันเป็นเหตุสุดวิสัยนี่คะ เมยเองก็ไม่ได้ว่าอะไรคุณสักหน่อย”
“ครับ ยิ่งเธอไม่ว่าผมก็ยิ่งเกรงใจและรู้สึกผิดครับ”
“แค่เกรงใจเองเหรอคะ”
“หมายความว่ายังไงครับ”
“เมยเป็นคนซื่อค่ะ ถ้าคุณทำดีกับเธอเพราะเกรงใจหรือรู้สึกผิดก็อย่าทำเลย เธออาจจะตีความหมายผิดได้”
เวหาเงียบเพราะกำลังใช้ความคิด ชายหนุ่มหยิบแก้วกาแฟที่บริกรเพิ่มจะนำมาเสิร์ฟขึ้นมาจิบ ก่อนจะพูดความรู้สึกออกไป
“ถ้าผมบอกว่าประทับใจเธอล่ะครับ”
“ประทับใจเหรอคะ”
“เพื่อนของคุณเป็นคนจิตใจดี ทำงานเก่งครับ อีกอย่างคือเธอไม่เคยบ่นหรือรำคาญเวลาที่ผมต้องรีบกลับบ้านไปทานอาหารเย็นกับแม่ บางครั้งเธอยังคอยเตือนให้ผมรีบกลับ แม้ว่างานที่ทำอยู่จะต้องช่วยกันสองคน แต่เมญาวีก็ไม่เคยบ่นที่ต้องอยู่ทำงานคนเดียว”
“คุณใช้คำได้แปลกดีนะคะ”
“แปลกยังไงครับ”
“ก็คุณบอกว่าประทับใจ แทนที่จะบอกว่ารู้สึกดีหรือชอบ”
เป็นอีกครั้งที่เวหานิ่งเงียบ ผู้หญิงคนนี้เหมือนจะรู้ทันเขาไปเสียทุกเรื่อง
“จะผิดไหมถ้าผมจะชอบเธอ ผมกับเมยทำงานมาด้วยกันเป็นเดือนแล้ว แต่ผมไม่เคยรู้เรื่องอะไรของเธอเลย เธอไม่เคยเล่าเรื่องส่วนตัวให้ฟัง”
“คุณกำลังจะถามว่าเมยมีแฟนหรือยังใช่ไหมคะ”
“แล้วคำตอบคืออะไรล่ะครับ”
“ยังค่ะ เมยไม่เคยมีแฟน”
“เป็นไปได้ยังไงเธอเป็นผู้หญิงที่สวยมาก”
“มันเป็นไปแล้วค่ะ”
รินรดาไม่ได้บอกว่าที่เมญาวีไม่ยอมมีแฟนเพราะยังยึดติดกับเรื่องราวในอดีต เพื่อนของเธออยากเจอพี่ชายที่แสนดี อยากถามว่าเขายังจำสัญญาได้ไหม ถ้าเขาจำไม่ได้หรือมีครอบครัวไปแล้ว นั่นแหละเธอถึงจะยอมหลุดพ้นจากคำสัญญา
เรื่องนี้รินรดาไม่เห็นด้วย แต่ที่ผ่านมาคนที่เข้ามาจีบเพื่อนสาวนั้นไม่มีใครเข้าตาเหมือนกับคุณเวหาคนนี้เลย เพราะฉะนั้นรินรดาคิดว่าถ้าผู้ชายคนนี้ชอบเพื่อนของเธอจริง ๆ รินรดาจะช่วยให้เขากับเมญาวีได้ลองเปิดใจคบหากันเผื่อว่าเขาจะทำให้เพื่อนของเธอยอมทิ้งสัญญาในอดีตลงไปได้
“แปลกนะครับ”
“ไม่แปลกเลย เมยเป็นเด็กเรียนค่ะ เรื่องมีแฟนเลยไม่อยู่ในหัว แต่ตอนนี้เธอเรียนจบแล้วก็คงเริ่มเปิดใจบ้าง”
“ฉันไม่ได้บอกให้คุณจีบเธอนะคะ”
“ถ้าผมจะจีบล่ะครับ”
“นั่นมันเรื่องของคุณค่ะ”
“คุณคงไม่ห้าม”
“ถ้าคุณคิดจะจีบเล่น ๆ เอาไว้ควงแก้เหงาก็อย่าเลยค่ะ แต่ถ้าคุณคิดจะจริงจังค่อยจีบนะคะ รินไม่อยากให้เพื่อนเสียใจค่ะ”
เวหาไม่ตอบรับหรือปฏิเสธเพราะเขากำลังคิดว่าความรู้สึกที่มีต่อผู้ช่วยนั้นมันมากถึงขั้นคิดจะจริงจังหรือแค่เพราะเขาประทับใจในตัวเธอเท่านั้น บางทีเขาควรหาโอกาสใกล้ชิดกับเมญาวีมากขึ้นอีกสักหน่อย เพื่อฟังเสียงหัวใจของตัวเองว่ามันต้องการแบบไหน
รินรดาเองก็ไม่ได้คาดคั้นเอาคำตอบเพราะเรื่องอย่างนี้มันต้องค่อยเป็นค่อยไป
“วันนี้คุณไม่มีธุระไปไหนเหรอคะ”
“ไม่ครับ ปกติวันเสาร์เป็นวันพักผ่อน”
“ถ้าอย่างนั้นรินรบกวนให้คุณอยู่เป็นเพื่อนเมยได้ไหม พอดีว่ารินมีธุระต้องไปทำค่ะ”
“ได้ครับ ผมก็ตั้งใจมาอยู่เป็นเพื่อนเธออยู่แล้ว”
“ถ้าหมออนุญาตให้กลับบ้านได้รบกวนคุณโทรบอกรินนะคะ”
“ผมคิดว่าผมปส่งเธอเองจะดีกว่า คุณจะได้ไปทำธุระให้เรียบร้อย ดีไหมครับ”
“จะรบกวนคุณมากไปหรือเปล่า”
“ไม่หรอกครับ”
“งั้นก็รบกวนด้วยนะคะ มื้อนี้รินขอเลี้ยงคุณเวหานะคะ เป็นการขอบคุณที่คุณช่วยดูแลเพื่อนรักของริน”
“ขอบคุณครับ เอาไว้ครั้งหน้าผมคงได้เลี้ยงคุณบ้าง”
“ยินดีค่ะ ครั้งหน้าเราไปกันสามคนนะคะ”
“ครับ”
รินรดาเดินลุกออกแล้วแต่เวหายังนั่งอยู่ที่เดิม เขามองดูนาฬิกา แล้วกลับขึ้นไปบนห้องเพราะคิดว่าป่านนี้เมญาวีคงพักผ่อนเต็มที่แล้ว
ชายหนุ่มเปิดประตูห้องเข้าไปเบาๆ เพราะรู้ว่าอีกคนในนั้นกำลังพักผ่อนอยู่หรือเปล่า
เวหาเดินเข้ามาใกล้เตียงผู้ป่วย เมญาวียังคงนอนหลับตานิ่ง เขาเลยลากเก้าอี้มานั่งข้าง ๆ
ชายหนุ่มนั่งมองหน้าผู้ช่วยที่ตอนนี้ยังคงหลับสนิท ใบหน้าสวยนั้นไม่ได้ถูกเติมแต่งด้วยเครื่องสำอางแต่มันยังคงสวยงามจนเขาเผลอนั่งมองอย่างไม่รู้เบื่อ นานแล้วที่ไม่ได้นั่งมองหน้าใครแบบนี้มาก่อน
พอหญิงสาวขยับตัวเวหาก็รีบหันหน้าไปทางอื่น
“คุณเวย์ แล้วรินล่ะคะ” เธอมองหาเพื่อนที่บอกว่าลงไปดื่มกาแฟกับเวหา
“เพื่อนคุณมีธุระด่วนครับ”
“เหรอคะ แย่จัง” เมญาวีอยากให้เพื่อนไปส่งที่ห้องเพราะไม่อยากนั่งแท็กซี่กลับคนเดียว แม้เธอจะไม่มีไข้แล้วแต่ก็รู้สึกเพลีย ๆ อยู่เลยไม่อยากกลับคนเดียว
“มีอะไรหรือเปล่า”
“เปล่าค่ะ”
“ถ้าเป็นเรื่องกลับบ้านเดี๋ยวผมไปส่งเอง” เวหารีบอาสาเพราะเขาตั้งใจจะไปส่งเธอยู่แล้ว
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะแค่นี้ก็รบกวนคุณมากแล้ว”
“ไม่รบกวนอะไรเลย ที่คุณไม่สบายก็เพราะผม”
“ไม่เกี่ยวกับคุณเวย์เลยนะคะ เมยใจร้อนเองไม่ยอมเรียกแท็กซี่”
“แต่ถ้าผมไปส่งคุณถึงที่คุณก็คงไม่ต้องเปียกฝน”
“อย่าโทษตัวเองเลยค่ะ คุณมีความจำเป็นเมยเข้าใจค่ะ”
“ขอบคุณนะครับที่เข้าใจผม เพราะฉะนั้นแล้ววันนี้คุณก็ควรให้ผมไปส่งที่บ้าน”
“ไม่ใช่บ้านหรอกค่ะ มันเป็นหอพัก”
“นั่นแหละครับให้ผมไปส่งคุณคะ”
“ก็ได้ค่ะ”