10 คนตัวโตกับห้องเล็กๆ
แพทย์ของไข้มาตรวจอีกครั้งในตอนบ่าย เขาอนุญาตให้หญิงสาวกลับบ้านได้ แต่ก็กำชับให้เธอทานต่ออีกจนครบห้าวันและถ้ากลับไปแล้วยังมีไข้หรือมีอาการผิดปกติก็ต้องรีบกลับมาพบแพทย์
“ผมจะไปชำระเงินก่อนระหว่างนี้คุณก็เตรียมเปลี่ยนชุดรอเลยนะครับ ผมลืมถามเลยว่าคุณมีชุดสำหรับใส่กลับบ้านไหม”
“มีค่ะ รินเตรียมมาให้แล้ว”
“ถ้าเปลี่ยนชุดแล้วก็รอผมอยู่ตรงนี้ก่อนนะ”
“ค่ะ”
เวหาออกจากห้องไปแล้วเมญาวีก็รีบเข้าห้องน้ำ ชุดที่เพื่อนของเธอเตรียมมาให้นั้นเป็นเดรสแขนระบายสีฟ้า มีลายดอกไม้เล็กที่ปลายกระโปรงซึ่งยาวคลุมเข่ามาเล็กน้อย
เมญาวีรีบแต่งตัวอย่างรวดเร็ว ใบหน้าหวานตอนนี้ปราศจากเครื่องสำอาง แต่มันก็ดูไม่โทรมเท่าไหร่ คงเพราะเธอได้นอนพักอย่างเต็มที่ เมญาวีมัดผมเป็นหางม้าอย่างเดิมก่อนจะออกมานั่งรอเวหาที่โซฟาตัวยาว
รถยนต์คันหรูจอดที่หน้าอาคารพาณิชย์สี่ชั้นแห่งหนึ่งด้านล่างเป็นร้านอาหารตามสั่งและร้านซักรีด ส่วนด้านบนแบ่งพื้นที่เป็นหอพักให้เช่า
“ขอบคุณนะคะที่มาส่ง”
“ห้องคุณอยู่บนตึกนั้นเหรอครับ”
“ใช่ค่ะ ด้านล่างเป็นร้านค้า ด้านบนแบ่งเป็นหอพักให้เช่าค่ะ มันอาจจะดูเก่าไปหน่อยแต่ด้านในก็พออยู่ได้ค่ะ”
“ผมคิดว่าคุณจะอยู่ที่ดีกว่านี่เสียอีก เงินเดือนคุณก็มากอยู่นะ”
“ก็ตอนที่มาเช่าเมยยังไม่มีเงินเดือนนี่คะ”
“แล้วไม่คิดจะย้ายเหรอ”
“ก็คิดอยู่เหมือนกันค่ะ แต่ถ้าจะหาที่พักใหม่ให้ใกล้ที่ทำงานแบบนี้ก็คงยากอยู่เหมือนกันค่ะ”
“ก็จริงนะครับ ผมขอขึ้นไปข้างบนหน่อยได้ไหม อยากเห็นว่าผู้ช่วยของผมอยู่ยังไง”
“อย่าเลยค่ะ ห้องเมยรกมาก เอาไว้โอกาสหน้านะคะ”
“เหรอครับ งั้นผมส่งแค่นี้นะครับ”
“ขอบคุณอีกครั้งนะคะ”
เมญาวียืนมองรถเจ้านายออกไปจนลับตา เป็นครั้งแรกที่มีผู้ชายมาส่งถึงที่พักแบบนี้ มันรู้สึกตื่นเต้นและก็ประหม่าไม่น้อย โชคดีที่เวหาไม่เซ้าซี้จะขึ้นมาข้างบนห้อง ถ้าไม่อยากนั้นเธอได้ขายขี้หน้าแน่ ๆ
หลังจากได้นอนพักมาตลอดทั้งวันเมญาวีก็มีแรงเก็บกวาดห้องพัก เพราะกลัวว่าวันใดวันหนึ่งเวหาจะขอขึ้นมาบนห้องของเธอวันไหน เธอไม่รู้ว่าเจ้านายคนอื่นเขาขอขึ้นมาดูความเป็นอยู่ของลูกน้องเหมือนกับเจ้านายของหรือเปล่า แต่เพื่อความสบายใจเมญาวีจึงทำความสะอาดห้องเรียกเหงื่อจนชุ่ม ก่อนจะลงไปทานข้าวที่ร้านอาหารตามสั่งข้างล่าง จากนั้นก็ขึ้นมาทานยา
ดูเวลาแล้วยังหัวค่ำอยู่หญิงสาวจึงโทรศัพท์ไปหารินรดาเพราะคิดว่าเวลานี้เพื่อนคงจะทำธุระเสร็จและกลับถึงบ้านแล้ว
“ริน ทำธุระเป็นไงบ้างเรียบร้อยดีไหม”
“อือ เรียบร้อยดี แล้วเมยเป็นไงบ้าง”
“หายดีแล้วล่ะ ขอบใจรินมาก”
“จะขอบใจทำไม รินแค่เอาชุดไปให้แค่นั้นเอง”
“ก็นั่นแหละ ถ้าไม่มรินเมยก็ไม่มีใครแล้ว”
“บอกแม่หรือยังว่าไม่สบาย”
“ยังเลย คิดว่าคงไม่บอก ไม่อยากให้เป็นห่วงน่ะ รินก็อย่าเผลอบอกแม่”
“รินไม่บอกหรอกน่า รินกลัวแม่จะพาเมยกลับโคราช”
“เมยก็กลัวอย่างนั้น”
“แล้วคุณเวหาไปส่งเมยใช่ไหม”
“อือ เมยคิดว่ารินบอกเขาให้มาส่งเมย”
“เปล่าเลย รินแค่บอกว่าถ้าหมอให้กลับบ้านก็ให้เขาโทรบอก รินจะมารับแต่เขาบอกเองว่ะมาส่งเมย”
“อือ”
“เมย เจ้านายของเมยทั้งหล่อทั้งนิสัยดี เมยคิดอย่างนั้นไหม”
“อือ คุณเวหาใจดี”
“โสดด้วยนะ”
“นี่รินถามเขาเหรอ”
“ไม่ได้ถาม แต่ดูก็รู้ว่าโสด”
“ดูออกเหรอ”
“แน่นอนสิ ถ้าเขามีแฟนแล้วเขาจะมีเวลามาห่วงลูกน้องของตัวเองในวันหยุดแบบนี้เหรอ สู้เอาเวลาไปอยู่กับแฟนก็ไม่ได้ จริงไหมล่ะ”
“คงงั้นมั้ง”
“เมยก็โสด คุณเวหาก็โสด”
“แล้วยังไง จะยุให้เมยจีบเจ้านาย”
“กล้าไหมล่ะ”
“เมยว่าไม่ดีกว่า เมยกลัวเขาจะไม่พอใจ เมยยังไม่อยากตกงานทั้ง ๆ ที่ยังไม่ผ่านโปรนะ”
“โอเค ไม่จีบก็ไม่จีบ แต่ถ้าเขาจีบเมยล่ะ”
“คงไม่หรอกมั้ง”
“เปิดใจหน่อยสิ ลืมเรื่องในอดีตให้หมด”
“แล้วถ้าเมยเกิดเจอพี่เขาขึ้นมาล่ะ”
“ผ่านมากี่ปีแล้วเมยยังไม่เคยเจอแล้วคิดเหรอว่าจากนี้จะได้เจอกันอีก บางทีเขาคนนั้นอาจลืมสัญญาไปแล้วก็ได้”
“เมยจะลองคิดดูนะ”
“อย่าคิดนานนะ”
วางสายจากเพื่อนแล้วเมญาวีก็โทรกลับไปหามารดา คุยเรื่องทั่ว ๆ อีกพักใหญ่ก่อนจะเข้านอน
เช้าวันอาทิตย์ทเมญาวีรู้สึกว่าตัวเองหายดีเต็มร้อย เธอลงมาทานข้าวที่ร้านประจำจากนั้นก็กลับขึ้นห้อง ปกติแล้ววันอาทิตย์เธอมักจะออกไปเดินเที่ยวหรือไม่ก็ไปซื้อของใช้ แต่เพราะกลัวตัวเองจะกลับมาป่วยอีกสัปดาห์นี้เลยนอนเล่นดูซีรีส์อยู่ที่ห้อง
ขณะกำลังง่วงเต็มที่เสียงสมาร์ทโฟนก็แจ้งเตือนว่ามีคนไลน์มาหา
เมญาวีเห็นข้อความจากเจ้านายแล้วก็รีบลุกขึ้น เปลี่ยนเสื้อผ้าจากกางเกงขาสั้นเสื้อยืด เป็นกระโปรงผ้าฝ้ายตัวยาวกับเสื้อแขนกุดสีเขียวอ่อนอย่างรวดเร็ว ก่อนจะลงไปยังด้านล่างซึ่งตอนนี้มีรถเจ้านายของเธอจอดรถอยู่
“สวัสดีค่ะคุณเวย์ มีธุระอะไรกับเมยหรือเปล่าคะ”
“ไม่มีธุระหรอกครับ แค่อยากมาดูให้แน่ใจว่าคุณหายดีแล้ว”
“ค่ะ เมยหายดีแล้ว”
“ผมซื้ออาหารกลางวันมาด้วยนะครับ คิดว่าคุณคงยังไม่ได้ทานข้าว”
“ค่ะ ขอบคุณนะคะแล้วคุณเวย์ทานหรือยังคะ”
“ยังเลยครับ ผมซื้อมาทานพร้อมคุณ”
เพราะเขาพูดแบบนั้นเมญาวีเลยต้องยอมให้เจ้านายขึ้นไปบนห้อง
เวหาเดินตามเจ้าของห้องมาติด ๆ พอเธอเปิดประตูห้องเขาก็ไม่เห็นว่ามันจะรกตรงไหน ห้องขนาดเล็กแต่จัดทุกอย่างไว้เป็นระเบียบ กลางห้องมีโซฟาตัวเล็ก อีกมุมเป็นโต๊ะทานข้าว ซึ่งตอนนี้เจ้าของห้องกำลังจัดการกับอาหารที่เขาซื้อมา
“น่าทานจังนะคะ”
“ครับ ร้านนี้อร่อยมากผมกับแม่ชอบมาทานเป็นประจำ”
“แล้ววันนี้คุณเวย์ไม่ต้องทานข้าวกับท่านเหรอคะ”
“วันนี้คุณพ่ออยู่บ้านครับ ผมอยากให้ท่านอยู่กันตามลำพังบ้าง”
อันที่จริงแล้วเขาไม่อยากอยู่ฟังท่านสองคนทะเลาะกันต่างหาก
เขาควรอยู่คอยประสานรอยร้าวให้กับทั้งสองท่าน แต่ตอนนี้เวหาเหนื่อยเกินกว่าจะทำหน้าที่นั้น เขาอยากอยู่เงียบๆ และพอเห็นว่ามารดามีเพื่อนแวะมาเยี่ยมที่บ้าน เวหาเลยถือโอกาสนั้นรีบชิ่งออกมา
“เป็นไงครับ อร่อยใช่ไหม”
“ค่ะ อร่อยมาก แต่ถ้าทานแบบนี้ทุกมื้อมีหวังว่าต้องซื้อชุดทำงานใหม่แน่ ๆ เลยนะคะ”
“คงไม่ขนาดนั้นมั้งครับ คุณตัวเล็กอย่างนี้ผมว่าทานได้อีกเยอะ เอาไว้คราวหลังผมจะพาไปทานที่ร้านนะครับ มีอีกหลายเมนูที่ผมอยากให้คุณลอง”
“ค่ะ เดี๋ยวตรงนี้เมยจัดการเองคุณไปนั่งรอตรงโซฟาเถอะค่ะ”เธอรีบบอกเจ้านายเมื่อเห็นว่าเขาทำท่าจะเก็บจานไปล้าง
“ครับ”
เมญาวีล้างจานเสร็จแล้วเธอหันไม่มองเจ้านายที่ตอนนี้นั่งอยู่บนโซฟาตัวเล็กแล้วก็อดยิ้มไม่ได้ ห้องของเธอมันก็ไม่ได้เล็กมากเท่าไหร่ เธออยู่คนเดียวได้แบบสบาย ๆ แต่พอมีผู้ชายตัวโตมานั่งอยู่แล้วมันดูตลกยังไงชอบกล
หญิงสาวทานยาหลังอาการ จากนั้นก็ชงกาแฟไปให้เวหาที่ตอนนี้เขากำลังนั่งดูโทรศัพท์อยู่อย่างสบายใจ
“กาแฟค่ะ”
“ขอบคุณครับ แล้วของคุณล่ะ”
“เมยยังต้องทานยาค่ะ เลยไม่ดื่มดีกว่า”
“อ้อ”
เขายกกาแฟขึ้นมาจิบแล้วก็หันมาชวนเจ้าของห้องคุย
“ปกติแล้ววันอาทิตย์คุณทำอะไรครับ”
“ส่วนใหญ่ก็ไปซื้อของบ้าง ออกไปดูหนังกับรินบ้างแล้วแต่โอกาสค่ะ”
“งั้นวันนี้ผมมากวนคุณหรือเปล่า”
“ไม่เลยค่ะ วันนี้เมยตั้งใจไว้แล้วว่าจะไม่ออกไปไหน กลัวจะไม่สบายอีก ไม่อยากลางานค่ะ”
“ถ้าคุณยังไม่หายดี วันจันทร์ก็ลาได้นะครับ”
“ไม่ดีกว่าค่ะ เมยหายดีแล้ว”
“ถ้าคุณยืนยันอย่างนั้นผมก็ไม่ว่าอะไร แต่ถ้าไม่ไหวก็บอก อย่าทำให้ต้องเป็นห่วงเหมือนเย็นวันศุกร์อีก”
“ค่ะ คุณเวย์เป็นห่วงเมยด้วยเหรอคะ” เธอดีใจจนเผลอยิ้ม
“อ้าว เรามีกันแค่นี้ถ้าไม่ห่วงคุณแล้วผมจะห่วงใครล่ะ เกิดคุณไม่สบายต้องนอนโรงพยายาลนาน ๆ มีหวังผมทำงานคนเดียวไม่ได้แน่ ๆ”
“ค่ะ เมยเข้าใจแล้ว” ตอนได้ยินว่าเขาเป็นห่วงเธอก็ดีใจจนหน้าบานแต่พอประโยคต่อมาที่เขาพูดก็ทำเอาสีหน้าระรื่นเมื่อครู่ถอดสี
เวหาแอบยิ้มที่มุมปาก อันที่จริงเขาก็ห่วงเธอนั่นแหละ ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องงานเลย แต่ที่พูดไปก็เพราะอยากเห็นว่าเธอจะทำหน้ายังไง และพอเห็นแล้วก็รู้สึกดี อย่างน้อยเมญาวีก็คงคิดอะไรกับเขาบ้างแค่สักนิดก็ยังดี
เขาไม่อยากให้ความสัมพันธ์ระหว่างตัวเองและผู้ช่วยพัฒนาเร็วจนเกินไป ชายหนุ่มอยากให้ทุกอย่างค่อยเป็นค่อยไป เวหาอยากรู้จักเธอให้มากขึ้นและก็อยากเธอรู้จักเขาให้มากขึ้นกว่านี้อีกสักหน่อย