11 ช่วยแม่หน่อยนะ
เวหากลับมาถึงบ้านของตัวเองก่อนเวลาอาหารเย็นเพียงเล็กน้อย
มารดาของเขาดูอารมณ์ดีขึ้นมาก คงเพราะได้คุยกับเพื่อน ๆ ชายหนุ่มอยากเห็นภาพยิ้มแย้มแบบนี้ทุกวัน แต่คิดว่ามันคงเป็นไปได้ยาก แต่เขาก็จะพยายามทำให้เธอมีความสุขที่สุด
“แม่ครับ เราออกไปทานข้าวข้างนอกกันดีไหมครับ” เวหาไม่อยากให้แม่ต้องอารมณ์เสียเพราะวันนี้พ่อของเขาอยู่บ้าน ชายหนุ่มไม่อยากให้ทั้งสองปะทะคารมกันบนโต๊ะอาหารเหมือนเมื่อวาน
“ได้สิ เวย์ไปร้านไหนล่ะลูก ร้านเดิมดีไหม”
“แม่ครับเราไปทานสเต๊กดีไหมครับ มีร้านเปิดใหม่ไม่ไกลจากบ้านเราเลยนะครับ”
เวหาไม่อยากไปไกลจากบ้านเพราะรู้ว่ามารดาต้องรีบกลับมาทานยาและพักผ่อนตามเวลา
“แม่ตามใจเวย์ แต่ขอแม่ไปเปลี่ยนชุดก่อนได้ไหม”
“แม่ครับ ชุดนี้ก็สวยอยู่แล้วไม่เห็นต้องเปลี่ยนเลย” ชายหนุ่มเดินเข้ามาหามารดาพร้อมกับสวมกอด ผู้หญิงคนนี้ไม่ว่าจะอยู่ในชุดไหนก็สวยสำหรับเขาเสมอ
“ไม่ได้หลอกแม่ใช่ไหม” วราพรก้มมองตัวเองอย่างไม่มั่นใจ
“ไม่เลยครับ ผมว่าเรารีบไปกันเถอะ พอพูดถึงอาหารผมก็เริ่มหิวขึ้นมาแล้ว”
พอได้ออกมาทานอาหารนอกบ้านมารดาของเขาก็ทานได้เยอะกว่าปกติ และดูมีความสุขมากกว่าทานกับบิดาด้วยซ้ำ เวหาไม่เข้าใจว่าถ้าอยู่ด้วยกันแล้วไม่มีความสุขมารดาของเขาทนอยู่ทำไม ถ้าเป็นแต่ก่อนก็คงทนอยู่ด้วยกันเพราะเขายังเด็ก แต่ตอนนี้เวลามันผ่านมานานแล้ว ชายหนุ่มอยากให้ท่านทั้งสองปล่อยวาง อยากเห็นทุกคนมีความสุข
“เวย์ คิดอะไรอยู่เหรอลูก” วราพรเห็นว่าลูกชายเอาแต่นั่งเขี่ยอาหารในจานเหมือนคนกำลังใช้ความคิด
“แม่ครับ ตอนนี้แม่มีความสุขดีใช่ไหมครับ”
“ใช่จ้ะ แม่มีความสุข”
“ผมดีใจที่เห็นแม่มีความสุข แม่อยากไปเที่ยวที่ไหนบ้างไหมครับ ผมจะพาแม่ไปทุกที่เลย” เขาไม่อยากเห็นมารดาเอาแต่อุดอู้อยู่ในบ้าน
“แม่ไม่อยากไปเลย แค่ได้อยู่กับเวย์แบบนี้แม่ก็มีความสุขมากแล้ว”
“ผมก็มีความสุขที่ได้อยู่กับแม่ ถ้าแม่คิดออกว่าอยากไปเที่ยวที่ไหนหรืออยากได้อะไร แม่บอกผมได้เลยนะครับ ผมยินดีทำให้แม่ทุกอย่าง”
“น่ารักจังลูกชายของแม่ มีอย่างหนึ่งที่แม่อยากให้เวย์ทำให้”
“อะไรครับแม่”
“เอาไว้เรากลับไปคุยกันที่บ้านดีกว่าไหม ตอนนี้รีบทานก่อนเถอะ”
“ก็ได้ครับแม่”
เวหาส่งมารดาที่ห้องแล้ว เขาเองก็อาบน้ำ ปิดไฟกลางห้องเหลือไว้แต่ที่หัวเตียงเพื่อเตรียมเข้านอน แต่แล้วเสียงเคาะประตูก็ทำให้เขาต้องปิดไฟอีกครั้ง
“แม่ครับ มีอะไรหรือเปล่า”
“แม่ขอคุยด้วยได้ไหม”
“ครับแม่” เขาหลีกทางให้มารดาเดินเข้ามา เธอนั่งลงบนเก้าอี้บุนวมตัวหนาที่เขามักเอาไว้นั่งอ่านหนังสือ
“เวย์ ปีนี้เวย์อายุเท่าไหร่แล้ว”
“28 แล้วครับ อย่าบอกนะว่าแม่จำอายุลูกชายตัวเองไม่ได้”
“จำได้สิ ที่แม่ถามก็อยากให้เวย์รู้ว่าตอนนี้ตัวเองอายุมากแล้ว เวย์ควรหาใครสักคน”
“ผมยังไม่คิดเรื่องนั้นเลยนะครับแม่” เขาตอบแบบนั้นแต่ตอนที่ได้ยินภาพผู้ช่วยก็แวบเข้ามาในหัว
“วันนี้แม่ได้คุยกับเพื่อนหลายคน ลูก ๆ ของพวกเขาต่างมีครอบครัวกันไปหมดแล้ว”
“ก็ช่างเขาสิครับแม่”
“แม่อยากให้เวย์มีครอบครัวนะ แต่รู้ว่าตอนนี้เวย์แทบไม่มีเวลาจะหาใครสักคนก็คงยาก”
“ครับแม่ ผมงานยุ่งมาก” เวหารีบตอบรับ
“แม่ก็เลยอยากช่วยหาใครสักคนให้เวย์”
“แม่ครับ”
“ไม่ต้องตกใจขนาดนั้น แม่แค่อยากแนะนำให้เวย์ได้รู้จักเท่านั้น จากนั้นเวย์จะคบกับเธอต่อหรือจะปล่อยให้เป็นแค่คนรู้จักแม่ก็ไม่ว่าอะไร”
“ผมขอเวลาหน่อยได้ไหมครับแม่”
“นานไหมลูก แม่อยากอุ้มหลาน”
“ขอสักสองปีได้ไหมครับ ขอให้ผมทำงานให้เต็มที่ก่อน จากนั้นผมจะยอมรับข้อเสนอของแม่”
“ได้สิ ถึงตอนนั้นหนูนาน่าก็คงกลับมาพอดี”
“ใครนะครับแม่”
“ก็หนูนาน่าไงลูก”
“แม่ครับ ผมกับนาน่าเคยคบกัน แต่นั่นมันนานมาแล้วและผมก็ไม่อยากจะกลับไปคบกับเธออีก”
นาน่าหรือลลนาเคยคบหากับเขาตอนที่เรียนอยู่ต่างประเทศ แต่ก็เลิกกันไปนานแล้วเพราะเวหาจับได้ว่าลลนาไม่ได้มีแค่เขาเพียงคนเดียว เธอโทษว่าเป็นความผิดของเขาที่ไม่มีเวลาให้เธอ จากนั้นทั้งสองก็ไม่ได้เจอกันอีก
“ทำไม่ละลูก เธอทั้งสวยทั้งเก่ง ถ้าเธอกลับมาก็คงจะมาบริหารโรงพยาบาลต่อจากพ่อของเธอ ดูแล้วฐานะก็สมกับบ้านเรานะลูก”
“แม่ครับ คนเราจะคบกันจะรักกันมันไม่เกี่ยวกับฐานะนะครับแม่ มันต้องรักและซื่อสัตย์ต่อกันถึงจะอยู่กันรอด”
“เวย์ กำลังพูดถึงพ่อกับแม่ใช่ไหม”
เวหาแทบอยากจะกัดลิ้นตัวเอง ไม่น่าพูดออกไปแบบนั้นเพราะดูเหมือนว่าตอนนี้มารดาของเขาจะเครียดขึ้นมาอีกแล้ว
“แม่ครับ ผมขอโทษ ผมไม่ได้หมายถึงแม่นะครับ” เขากล่าวอย่างรู้สึกผิด
“เวย์ แม่ก็ไม่ได้อยากให้เรื่องมันเป็นแบบนี้ แต่เพราะพ่อของเวย์ไม่รู้จักพอ”
“แม่เคยคิดจะหย่ากับพ่อไหมครับ”
“ไม่มีทาง แม่ไม่ยอมให้พ่อของแกออกไปมีความสุขกับผู้หญิงคนนั้นอย่างแน่นอน” เสียงของเธอฟังดูเคียดแค้นอย่างเห็นได้ชัด
เวหาไม่เคยเห็นผู้หญิงของพ่อ และไม่เคยได้ยินพ่อพูดถึง เขาไม่แน่ใจว่าผู้หญิงคนนั้นมีตัวตนจริง ๆ หรือมารดาแค่ระแวงไปเอง
“แม่ครับ ผู้หญิงคนที่แม่พูดถึงเธอมีชื่อไหมครับ”
“ลูกคิดว่าแม่โกหกอย่างนั้นเหรอ แสดงว่าลูกยังไม่ได้ดูเอกสารนั่นใช่ไหม”
“ครับผมยังไม่ได้ดู” เวหาไม่อยากทำให้มารดาลำบากใจเลย เขาเอาซองนั้นไปเก็บไว้ แต่ไม่คิดจะเปิดดูเพราะไม่อยากก้าวก่ายเรื่องของบิดา
“ถ้าลูกได้ดู ก็จะรู้เองว่าแม่ไม่ได้คิดไปเองพ่อของแกโอนเงินไปให้นังนั่นทุก ๆ เดือน”
เมื่อใดก็ตามที่แม่เรียกเขาว่าแก เวหารู้ได้ทันทีว่าตอนนี้เธอกำลังจมดิ่งลงไปกับเรื่องราวในอดีต
“ถ้าแม่อยู่กับพ่อแล้วไม่มีความสุข ผมว่า หย่ากันก็ดีนะครับ แม่จะได้ไม่ต้องทุกข์แบบนี้”
“หย่า แล้วให้พ่อของแกกลับไปหานังนั่น กลับไปมีความสุขกับมันน่ะเหรอ เวย์คิดเหรอว่าแม่จะทนเห็นเขามีความสุขได้”
“แม่ครับ ผมว่าเวลามันผ่านมานานแล้ว บางทีผู้หญิงคนนั้นอาจแต่งงานหรือมีครอบครัวแล้วก็ได้นะครับ” เขาหาทางพูดให้อีกคนใจเย็นลง
“ถ้าแต่งงานไปจริงพ่อแกจะโอนเงินไปทำไม”
“ผมบางทีพ่อก็อาจจะไม่รู้ว่าเธอแต่งานและมีครอบครัวไปแล้ว เลยยังโอนเงินไปให้”
“เวย์ช่วยแม่หน่อยนะลูก ช่วยสืบว่านังนั่นแต่งงานไปหรือยัง พ่อของแกจะได้ตาสว่างสักที”
“ครับ แม่ ผมสัญญาจะตามเรื่องนี้ให้ ระหว่างนี้ผมอยากให้แม่ใจเย็นก่อน อย่าเพิ่งพูดอะไรนะครับ ถึงผมจะโตแล้วแต่ก็ไม่อยากเห็นพ่อกับแม่ทะเลาะกันนะครับ” ชายหนุ่มขอร้อง
“แม่จะพยายามนะเวย์”
“ผมเข้าใจครับ ผมว่าคืนนี้แม่ไปพักผ่อนก่อนดีไหมครับ เดี๋ยวผมไปส่งนะ”
เวหาเดินไปส่งมารดาถึงห้องนอน จากนั้นก็กลับมายังห้องของตัวเอง เปิดลิ้นชักที่โต๊ะข้างเตียงแล้วหยิบซองสีน้ำตาลออกมาดู
ทั้งหมดเป็นรายการโอนเงินออกของบิดาให้กับบัญชีหนึ่งซึ่งชื่อเจ้าของบัญชีคือ เมธินี ทวีกุลรัตน์ เวหาทบทวนชื่ออีกครั้ง เขาจะต้องตามสืบเรื่องของผู้หญิงคนนี้รู้ว่าเธอเป็นใครและอยู่ที่ไหน และที่สำคัญเขาอยากรู้ว่าเธอแต่งงานมีครอบครัวไปหรือยัง
ชายหนุ่มภาวนาให้เป็นอย่างหลัง เพราะถ้าเธอมีครอบครัวไปแล้ว บิดาของตนเองจะได้ตาสว่างและการหย่าร้างก็อาจไม่เกิดขึ้น