14 เดทแรก
จากที่คิดว่าจะตื่นสายสักหน่อยเพราะไม่อยากให้หน้าของตัวเองโทรแต่เมญาวีก็ทำแบบนั้นไม่ได้เพราะเธอชินกับการตื่นเช้าไปเสียแล้ว
เหลือเวลาอีกหลายชั่วโมงกว่าจะถึงเวลาที่นัดไว้เมญาวีเลยทำความสะอาดห้องและเปลี่ยนผ้าปูที่นอนก่อนจะนำลงส่งที่ร้านซักรีดที่อยู่ชั้นล่างสุดของหอพัก
จากนั้นก็แวะทานอาหารกลางวันแล้วจะขึ้นมาอาบน้ำ แต่งตัวอย่างไม่รีบร้อน เธอสำรวจตัวเองหน้ากระจกอีกครั้งก่อนที่เวหาจะมารับ
วันนี้เมญาวีสวมเสื้อครอปปาดไหล่สีขาวแขนสามส่วนกับกางเกงผ้าขาสั้นเหนือเข่า จากนั้นสวมรองเท้าผ้าใบสีขาวแต่งลายสีม่วงพาสเทลเตรียมพร้อมที่จะออกจากห้อง
พอถึงเวลานัดเจ้านายหนุ่มก็โทรขึ้นมาตาม เธอรีบเดินลงมาจากหอพักด้วยใจที่เต้นแรง นี่เป็นครั้งแรกที่ออกไปไหนด้วยกันในวันหยุด
“คิดไว้หรือยังว่าจะดูเรื่องอะไร” เวหาถามเมื่อเห็นว่าหญิงสาวคาดเข็มขัดนิรภัยเรียบร้อยแล้ว เขาแอบมองดูการแต่งตัวของเธอไปด้วยในขณะที่พูด
วันนี้ผู้ช่วยของเขาแต่งตัวได้น่ารักสมวัยกว่าทุกวันที่ไปทำงาน
“คุณเวย์มองอะไรคะ”
“ผมว่าเมยแต่งตัวแบบนี้น่ารักดีนะครับ”
“มันเหมือนเด็กใช่ไหมคะ” เธอเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่าชุดที่ตัวเองเลือกนั้นจะเหมาะกับการไปดูหนังกับเขาหรือเปล่า
“ไม่หรอกครับ ผมว่าน่ารักเหมาะกับคุณดี”
เมญาวีไม่รู้ว่าเขาแกล้งชมหรือชมจากใจจริง แต่หญิงสาวก็ไม่อยากคิดมาก เมื่อเวหาเริ่มมีสมาธิกับการขับรถเธอเลยแอบสำรวจการแต่งกายของเขาบ้าง
เจ้านายของเธอแต่งตัวเหมือนกับวันที่ไปรับเธอกลับจากโรงพยาบาล นี่คงเป็นสไตล์ที่เขาชอบ กางเกงยีนกับเสื้อเชิ้ตคอจีนและรองเท้าผ้าใบ ซึ่งต่างจากวันทำงานเป็นอย่างมาก
แต่ไม่ว่าชายที่นั่งอยู่หลังพวงมาลัยจะแต่งตัวแบบไหนเขาก็ยังดูดีในสายตาของเธอเสมอ
หนังที่ทั้งสองเลือกดูวันนี้เป็นหนังตลกซึ่งคนที่เลือกไม่ใช่เมญาวีหากแต่เป็นเวหา ตลอดเวลาที่ดูหนังด้วยกันหญิงสาวเลยได้ยินเสียงหัวเราะของเจ้านายในแบบที่ไม่เคยได้ยินมาก่อน
พอออกจากโรงหนังทั้งสองก็ชวนกันไปทานอาหารซึ่งร้านก็ตั้งอยู่อีกชั้นในศูนย์การค้า
“เมยไม่คิดเลยนะคะว่าคุณเวย์จะชอบดูหนังแบบนี้” เธอชวนเขาคุยระหว่างรออาหารมาเสิร์ฟ
“ทำไมครับ มันไม่สนุกเหรอ เอาไว้ครั้งหน้าผมให้คุณเลือกนะว่าจะดูเรื่องอะไร”
“ไม่ใช่อย่างนั้นค่ะ เมยแค่คิดว่าคุณเวย์น่าจะชอบพวกหนักแอ็คชั่นมากกว่า”
“จริง ๆ แล้วผมดูได้ทุกแนวแหละครับ แต่ช่วงนี้งานค่อนข้างเครียดเลยอยากดูอะไรที่มันผ่อนคลายเท่านั้นเอง”
“ก็จริงนะคะ ถ้าดูหนังแล้วเครียดไปตามหนังอีกคงแย่”
“แล้วปกติคุณชอบดูหนังแบบไหนครับ”
“ทุกแนวค่ะ ยกเว้นหนังผีค่ะ”
“กลัวเหรอครับ”
“ค่ะ” เธอยอมรับไปตามตรง เพราะถ้าดูหนังผีแล้วกลับมาอยู่คนเดียวที่หอพักเชื่อได้เลยว่าเธอจะต้องนอนไม่หลับหลายคืนแน่ ๆ
“แล้วอย่างนี้เวลาอยู่หอคนเดียวไม่กลัวแย่เหรอครับ”
“ไม่ค่ะ ถ้าอยู่ในสถานที่ที่คุ้นเคยจะไม่กลัวค่ะ แต่ถ้าแปลกที่ก็มีบ้างที่จะกลัว”
“ผมมีเพื่อนบางคนก็กลัวผีเหมือนคุณ เขาต้องเปิดไฟนอนเลยนะครับ”
“ค่ะ บางคนก็เป็นแบบนั้น แต่เมยปิดไฟนอนได้ค่ะ ขอแค่มีอะไรกันไว้ข้างหลัง เช่นตุ๊กตาหรือหมอนข้างแค่นั้นเองค่ะ”
การคุยเรื่องกลัวผีต้องหยุดลงไปแค่นั้นเพราะตอนนี้อาหารกำลังทยอยมาเสิร์ฟแล้ว
หลังมื้ออาหารเวหาก็ชวนหญิงสาวไปเดินเล่นเพราะยังไม่อยากจะพาเธอไปส่งที่หอ
“เมยอยากซื้ออะไรไหมครับ” เดินผ่านมาหลายร้านเขาก็ไม่เห็นว่าเธอจะสนใจอะไรเป็นพิเศษ
“ไม่ค่ะ คุณเวย์ล่ะคะ อยากซื้ออะไรไหม”
“ผมอยากให้คุณไปช่วยเลือกน้ำหอม”
“ได้คะ”
ทั้งสองคนเดินมายังเคาน์เตอร์น้ำหอมแบรนด์ดัง ซึ่งมีพนักงานเข้ามาทักทายอย่างสุภาพ
“คุณเลือกให้ผมสักขวดนะ ผมขอไปคุยธุระเดี๋ยวกลับมาครับ”
เมญาวีไม่เคยเลือกน้ำหอมให้ผู้ชายมาก่อน เธอจึงปรึกษาพนักงานว่าแต่ละกลิ่นเหมาะกับผู้ชายแบบไหน สุดท้ายแล้วเธอก็ได้น้ำหอมมาหนึ่งขวด กลิ่นของมันหอมสดชื่น แต่ไม่ถึงกับฉุนมากแต่ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย หญิงสาวคิดว่ากลิ่นนี้เหมาะกับผู้ชายอย่างเวหามากที่สุด
“กลิ่นนี้โอเคไหมคะ” เธอถามเมื่อเขาเดินกลับเข้ามาอีกครั้ง
“โอเคเลย สดชื่นดี ขอบคุณครับ”
“จะขอบคุณทำไมคะ เมยแค่เลือกคุณเป็นคนจ่ายเงิน”
“ก็ขอบคุณที่เมยช่วยเลือกให้ไงครับ”
เขายิ้มตาเป็นประกาย จากนั้นทั้งสองก็พากันเดินดูของไปเรื่อย
“เมย ผมอยากได้ผ้าพันคอไปฝากแม่ คุณช่วยเลือกหน่อยได้ไหม” เขาถามหญิงสาวข้างกายเมื่อเดินผ่านร้านจำหน่ายเสื้อผ้าและเครื่องแต่งกายสำหรับผู้หญิง
“แม่คุณชอบสีอะไรคะ”
เวหายิ้มแห้ง ๆ เขาไม่เคยรู้ว่ามารดาของตัวเองชอบสีอะไร
“ผมคงเป็นลูกที่แย่มาก เพราะผมไม่รู้ว่าแม่ตัวเองชอบสีอะไร”
“โธ่คุณเวย์ แค่ไม่รู้ไม่ได้หมายความว่าคุณไม่รักท่านนี่คะ อีกอย่างคนเราก็เปลี่ยนสีที่ชอบไปตามวัย อย่างตอนเด็กเมยเคยชอบสีชมพู พอโตขึ้นก็เปลี่ยน”
“แล้วคุณชอบสีอะไรล่ะครับ”
“สีม่วงค่ะ”
“อ้อ” เขาพยักหน้า
“ท่านจะใช้ที่เมืองไทยหรือใช้ตอนไปเที่ยวต่างประเทศคะ เมยจะได้เลือกถูก”
“เอาที่ใช้ต่างประเทศดีกว่าครับ เดือนหน้าแม่จะไปเที่ยวญี่ปุ่นกับเพื่อน”
เมญาวีเลือกผ้าพันคอที่ค่อนข้างหนาและให้ความอบอุ่นขึ้นมาสองผืนจากนั้นก็ให้เวหาเป็นคนเลือกว่าจะเอาผืนไหน แต่ชายหนุ่มก็ตัดสินใจไม่ได้สักที เขาเลยตกลงซื้อทั้งสองผืน
หลังจากเดินซื้อของจนเหนื่อยแล้วเวหาก็มานั่งทานไอศกรีมต่อ เขายังไม่อยากแยกกับเธอตอนนี้เพราะรู้สึกว่าการออกมากับเมญวีทำให้เขารู้สึกผ่อนคลายและมีความสุขมากที่สุดตั้งแต่กลับมาเลยก็ว่าได้
“คุณเวย์มีอะไรหลายอย่างที่ทำให้เมยประหลาดใจนะคะ”
“บอกได้ไหมว่าประหลาดใจยังไง”
“เมยพูดได้ใช่ไหมคะ”
“ได้สิครับ”
“ถ้าเมยพูดไม่ถูกใจจะโดดปลดออกจากตำแหน่งผู้ช่วยไหมคะ เมยยังไม่อยากตกงานค่ะ”
“วันนี้คุณไม่ได้มาในฐานะผู้ช่วยนะครับ คุณกับผม วันนี้เราก็เป็นแค่คนธรรมดาที่ออกมาเที่ยวด้วยกัน” เวหายังไม่อยากใช้คำว่าแฟนเพราะเขาเองยังไม่เคยขอคบกับเธออย่างจริงจังเลยสักครั้ง
“งั้นเมยไม่เกรงใจนะคะ”
“บอกมาเลยครับ” เวหานั่งทานไอศกรีมไปด้วยสายตาก็จับจ้องอยู่ที่ริมฝีปากบางขณะขยับขึ้นลงตามจังหวะการพูดอย่างเพลิดเพลิน
“คุณเวย์ในวันนี้ต่างจากตอนทำงานค่ะ ดูคุณผ่อนคลายมากขึ้น ยิ้มมากขึ้น ชอบทานไอติมเหมือนเด็ก และก็ยังแต่งตัวเหมือนวัยรุ่นด้วยค่ะ” เธอบอกเขาไปตามที่คิด
“ก็ผมยังไม่แก่นี่ครับ อีกอย่างผมออกมากับวัยรุ่นก็ควรทำตัวตามวัยรุ่นไม่ใช่เหรอครับ”
“เมยขอโทษ เมยไม่ได้ว่าคุณแก่นะคะ”
“ผมขอโทษที่แปลความหมายผิด เอาเป็นว่าผมก็เป็นผมแบบนี้แหละครับ แต่ในที่ทำงานบางครั้งก็ต้องทำตัวให้ดูน่าเชื่อถือสักหน่อย คุณเป็นคนเดียวในบริษัทเลยนะครับที่เห็นผมในมุมนี้”
“เหรอคะ เมยว่าลุคนี้คุณก็ดูดีไปอีกแบบ”
“แล้วคุณชอบลุคไหน”
“ดูดีทุกลุกค่ะ”
“เมย คุณตอบไม่ตรงคำถามนะครับ” ทั้งน้ำเสียงและสีหน้าของเวหาตอนนี้ทำให้เมญาวีรู้สึกหัวใจเต้นแรงขึ้น อันที่จริงเธอก็ใจเต้นแรงมาเกือบตลอดทั้งวันเพราะมีเขาอยู่ใกล้ แต่พอเขาจ้องแบบนี้มันก็ทำตัวไม่ถูก
“ต้องตอบเหรอคะ” หญิงสาวเงยหน้ามองตาคนพูด
“ใช่ครับต้องตอบ”
“ถ้าไม่ตอบล่ะคะ”
“ถ้าไม่ตอบก็แสดงว่าคุณชอบทั้งสองลุค”
“ถ้าอย่างนั้นเมยขอไม่ตอบดีกว่าค่ะ”
เมญาวีก้มหน้าทานไอศกรีมต่อเพราะกลัวเขาจับได้ว่าเธอนั้นชอบเขาทั้งสองลุคอย่างที่เขาพูด
เวหาเห็นหญิงสาวหน้าแดงก็เลิกถามเพราะกลัวว่าเธอจะเขินอายเขาไปมากกว่านี้
ชายหนุ่มขับรถมาส่งเธอที่บ้านในเวลาสี่ทุ่ม
“ขอบคุณนะครับที่วันนี้ออกไปเที่ยวกับผม”
“ขอบคุณเช่นกันค่ะ”
“นี่ของคุณครับ หวังว่าจะชอบและใช้มันนะครับ”
“ของเมยเหรอคะ” เมญาวีเห็นเขาถือถุงกระดาษแบรนด์หรูตั้งแต่ตอนอยู่ในร้านน้ำหอม เธอคิดคงเป็นของส่วนตัวที่เขาแอบไปซื้อ ไม่คิดเลยว่าของในถุงนั้นจะเป็นของที่เขาตั้งใจซื่อให้
“ขอบคุณนะคะ คุณเวย์ไม่เห็นต้องลำบากซื้อให้เมย”
“ไม่ลำบากเลยผมอยากซื้อให้ วันนี้ผมมีความสุขมาก แล้วเราออกไปเที่ยวด้วยกันอีกนะครับ”
“ค่ะ” เมญาวีตอบรับอย่างง่ายดายเพราะวันนี้เธอเองก็มีความสุขมาก
เวหาอ้อยอิ่งอยู่นานกว่าจะยอมกลับ ชายหนุ่มอยากยืดเวลาของความสุขออกไปให้นานที่สุด