บท
ตั้งค่า

ยินดีที่ได้รู้จัก

“นี่ก็สายแล้ว เขาไม่ไปทำงานรึไงนะ”

รติกาลวางจดหมายลงบนโต๊ะด้านหน้าหลังอ่านมันจบ ข้อความสั้นๆ จากจีนส์ไม่ได้บอกอะไรมากนอกจากชื่อของเธอ

“ญาดางั้นเหรอ ชื่อน่ารักดีนี่”

ว่าแล้วเขาก็ยกข้อมือมาดูเวลาอีกทีด้วยความเคยชิน รติกาลถอดนาฬิกาวางไว้บนโต๊ะแล้วออกกำลังกายเล็กน้อย เพื่อสร้างกล้ามเนื้อให้ดูดีอยู่เสมอ

พอเหงื่อเริ่มออกเขาก็ลุกขึ้นเดินไปอาบน้ำ ชายหนุ่มชะเง้อดูเธอ ก็เห็นว่าเธอยังหลับอยู่ เลยถอดเสื้อคลุมวางไว้บนชั้นวางของ แล้วดึงผ้าขนหนูเพียงผืนเดียวพาดไหล่ รติกาลเดินโทงเทงเข้าไปอาบน้ำอย่างสบายใจ

เสียงโทรศัพท์ดังอยู่นานทำให้หญิงสาวงัวเงียตื่นขึ้น ใช้มือลูบคลำหาสมาร์ตโฟนของเธอบนที่นอน เมื่อไม่เจอเธอจึงยันตัวลุกขึ้นนั่ง หรี่ตามองหาว่าเสียงโทรศัพท์ดังมาจากทิศทางไหน เธอเห็นว่ากระเป๋าของเธอตั้งอยู่บนชั้นวางของข้างตู้เสื้อผ้า ข้างๆ กระเป๋ามีกองผ้าสีขาววางอยู่หญิงสาวลงจากเตียงด้วยอาการยังไม่พร้อมที่จะตื่น เธอห่อไหล่เดินโอนเอน ยกมือเกาหัวแกรกๆ

“ใครโทรมาแต่เช้าเนี่ย วันนี้วันหยุดไม่ใช่เหรอ ห้าว..”

เธออ้าปากหาวกว้าง ล้วงมือค้นหาโทรศัพท์ในกระเป๋า โดยไม่ได้สนใจเสียงรอบข้าง

ซู่ๆๆ!!

เสียงฝักบัวในห้องน้ำและเสียงฮัมเพลงของรติกาลดังอยู่เอื่อยๆ เขายังคงอาบน้ำสระผมอย่างสบายอกสบายใจ

“ฮัลโหลคุณญาดา วันนี้ไม่เข้าออฟฟิศเหรอคะ” เสียงต้นสายถามหญิงสาว

“ห๊ะ!!!? วันนี้วันอะไรอ่ะ” เธอถามแบบงงงวย

“วันเสาร์ค่ะ” เสียงอีกฝั่งในสายโทรศัพท์ตอบ

“เอ้าตายแล้วกี่โมงแล้วเนี่ย”

เธอพูดพลางเหลือบตามองนาฬิกาที่ติดอยู่ตรงผนังห้องเหนือทีวี

“ตายจริง มีประชุมบ่ายนี่นา โอเคค่ะ เดี๋ยวดาไป”

เธอตอบพลางจับผ้าสีขาวผืนนั้นยกขึ้นดูก็เห็นว่ามันเป็นเสื้อคลุมอาบน้ำ

“นี่เรากองผ้าไว้แบบนี้เหรอ”

เธอพูดคนเดียวในขณะที่พิจารณาเสื้อคลุมอยู่ แต่ต้นสายดัน

ได้ยินแล้วถามกลับมา

“คุณญาดาว่าอะไรนะคะ”

“อ๋อ เปล่าๆ แค่นี้ล่ะค่ะ ดาขอตัวไปอาบน้ำก่อนเดี๋ยวจะรีบไปให้ทันเวลา”

“โอเคค่ะ” มีเสียงตอบรับจากคนที่โทรมาแล้วก็วางสายไป

แกร๊ก!!!

เสียงบิดลูกบิดแล้วดึงเปิดประตูออก รติกาลก้าวเท้าออกจากห้องน้ำ มืออีกข้างยังดึงประตูตามหลังเพื่อจะปิดมันขณะเดียวกันนั้น

ญาดาหันกลับไปจ๊ะเอ๋กับชายหนุ่มพอดีทั้งสองชะงักกึก หญิงสาวเบิกตาโพลง ความทรงจำของเมื่อคืนก่อน มันไหลย้อนมาแต่ก็ยังปะติดปะต่ออะไรไม่ได้มาก

“กรี๊ด!!! ไอ้บ้าๆๆ แกเข้ามาได้ยังไงออกไปให้พ้นนะ ออกไปๆ

เธอกรี๊ดลั่นสนั่นห้อง มือน้อยๆ ของเธอรัวทุบหน้าอกเปลือยเปล่าของรติกาล

“เดี๋ยวก่อนสิครับคุณ ใจเย็นๆ ครับ ใจเย็นก่อน นี่ผมยังไม่ได้ทำอะไรคุณเลยนะครับคุณผู้หญิง โอ๊ยๆ”

เธอไม่ฟังที่เขาพูดทั้งทุบทั้งไล่ เขายกมือขึ้นปัดป่ายป้องกันกำปั้นจากมือเล็กของเธอเอาไว้ ชายหนุ่มถอยร่นเข้าห้องน้ำอย่างเสียไม่ได้

ญาดาลืมตัวไล่ทุบเขาเข้าไปในห้องน้ำ

ช่วงชุลมุนอยู่ๆ หญิงสาวก็ลื่นล้มหงายหลัง ขาเธอลอยขึ้นทั้งสองข้าง ส่งเธอให้ลอยตัวสูงญาดาตกใจหน้าเหวอ

“อ๊ะ!!!”

ก่อนร่างของหญิงสาวจะตกกระแทกพื้นฝ่ามือใหญ่พุ่งมาดึงเธอด้วยความเร็วเขาพลิกตัวลงประคองตัวเธอด้วยแขนทั้งสองข้าง

ผลั๊ก!! อั๊ก!! เสียงแผ่นหลังชายหนุ่มกระทบพื้นอย่างแรง

“โอ๊ย.. เจ็บๆๆ”

เขาร้องขึ้นอย่างเจ็บปวด ใบหน้าของหญิงสาวซุกอยู่กลางหน้าอกของเขา ญาดาหลับตาปี๋เพราะคิดว่าตัวเองคงล้มหัวฟาดพื้นแรงจนสู่ขิต ดวงจิตล่องลอยขึ้นสวรรค์ไปแล้ว เธอยกมือคลำหัวตัวเอง

“ไม่เจ็บแฮะการตายมันง่ายปานนี้เลยเหรอ”

เธอพูดพลางค่อยๆ ลืมตาขึ้น พลันเสียงชายหนุ่มก็แว่วมา

“เจ็บตรงไหนหรือเปล่าครับคุณ” เขาถามด้วยความห่วงใย

“ไม่เจ็บนะ” เธอตอบยังนึกว่าตัวเองอยู่บนสวรรค์

“ไม่เจ็บงั้นเหรอครับ” เขาอมยิ้มกรุ้มกริ่ม “แบบนั้นมันก็ดีแล้วผมใจหายหมดเลย คุณไม่เป็นอะไรก็ดีแล้วล่ะ”

“ฮึ!!!?”

เธออุทานเบาๆ ในลำคอ ค่อยๆ เงยหน้าขึ้นตาเธอประสานตาเขาชั่วขณะ

“ว้าย”

เธอตะเกียกตะกายลุกขึ้นอย่างทุลักทุเล แถมหัวเข่าของเธอยังไปทับเข้ากับต้นขาใกล้ๆ เป้าของชายหนุ่มโดยไม่ได้ตั้งใจ

“โอ๊ย!!!” ถึงมันไม่โดนจังๆ ก็ทำเขาเจ็บปวดแบบสุดๆ

“อะไรครับเนี่ยใจเย็นๆ สิครับ คุณญาดา เดี๋ยวก็ลื่นล้มอีกหรอก”

รติกาลเผลอเรียกชื่อเธอออกมา แต่พูดยังไม่ทันขาดคำ เธอก็ลื่นเซถลาไปด้านหลังอีกครั้ง คราวนี้ชายหนุ่มคงรับเธอไม่ทันเขาทำได้ดีที่สุดคือคว้าข้อมือของเธอเอาไว้ แล้วดึงเธอกลับมาหาตัวเอง รติกาลอ้าแขนรอรับตัวเธอ ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความตื่นตระหนกและแววตาที่เป็นห่วงเธอมันแสดงออกอย่างชัดเจน แค่ชั่วเสี้ยววินาที หญิงสาวแอบสังเกตเห็นในขณะที่กำลังถลาเข้าหาเขาอีกครั้ง

ครั้งนี้ ทำเอาหญิงสาวอาย หน้าแดงก่ำเพราะปากเธอดันไปชนปากเขาพอดี เธอดันตัวขึ้นเล็กน้อย แต่เขากลับกอดเธอไว้แน่น ทั้งสองมองหน้ากันตาประสานตา

“อีกแล้วนะผมตกใจหมด”

“ปะ ปล่อยได้แล้วมั้งคะ ฉันหายใจไม่ออก”

เธอพูดด้วยความเขินอายอยู่ใกล้ขนาดนี้ทำให้เธอใจเต้นข้ามจังหวะ

“อุ๊ย เอ่อ.. ขอโทษทีครับ”

เขาคลายอ้อมแขนเพื่อปล่อยตัวเธอ

“ค่อยๆ ลุกนะครับ ไม่ต้องห่วง ผมไม่ทำอะไรคุณหรอก”

เมื่อเธอได้ยินเช่นนั้น ก็ทำให้เธอรู้สึกวางใจในตัวชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าเธอขึ้นมาบ้าง

“เอ่อ ฉ่ะ ฉัน... ขอโทษเช่นกันค่ะ”

เธอลุกออกจากตัวเขา เขาเองก็ยันกายลุกขึ้นเช่นกัน ในขณะที่ทั้งสองกำลังเงอะงะอยู่นั้นปมผ้าเช็ดตัวเจ้ากรรมก็ดันหลุดผึงออกจากกัน หญิงสาวเห็นดังนั้นก็รีบหันหลังให้ทันที เขาตกใจมาก แต่ก็ยังคว้าผ้าเอาไว้ทันด้วยสัญชาตญาณ

“เอิ่ม ขอโทษครับ หลุดได้ไงเนี่ย แหะๆ”

เขาพูดพลางหัวเราะแก้เขิน

“ว่าแต่คุณจะไปไหนหรือเปล่าครับวันนี้”

เขาถามหญิงสาวที่ยืนตรงหน้า

“อ๊ะ..เอ่อ ว่าจะเข้าออฟฟิศค่ะ ตายแล้วต้องรีบแล้วสิขอตัวอาบน้ำก่อนนะคะ”

เธอหันไปดันตัวเขาออกจากห้องน้ำก้มหน้างุดๆ ด้วยความเขินอายแล้วรีบปิดประตูห้องน้ำตึงตัง

ซู่ๆๆ

เธออาบน้ำสระผม ล้างเนื้อล้างตัวให้สะอาด ใจก็เฝ้าคิดถึงตอนปากสัมผัสกันกับเขาเธอยกมือขึ้นลูบริมฝีปากตนเองระลึกถึงริมฝีปากที่แดงระเรื่อและนุ่มนวล รวมทั้งใบหน้าที่สวยแต่ยังดูคมคายของเขา เธอหน้าแดงรู้สึกร้อนผ่าวไปทั้งตัว

‘อะไรกันเนี่ย นี่เรากำลังคิดอะไรอยู่’

เธอสับสนกับท่าทีของตัวเองที่กำลังละเมอถึงชายแปลกหน้า เธอรีบเอามือลงอาบน้ำต่อในใจก็ยังคิดถึงชายหนุ่มเขาเป็นใครกันนะ

แกร๊ก!!

เธอดึงเปิดแง้มประตูชะเง้อออกมาจากห้องน้ำ ไม่เจอใครจึงก้าวขาออกมาแล้วรีบแต่งตัว ตอนนี้ก็สิบเอ็ดโมงกว่าใกล้จะเที่ยงแล้วเธอต้องรีบที่สุด

พอแต่งตัวเสร็จ เธอก็เดินไปยังขอบเตียงเพื่อเช็กดูว่าลืมอะไรหรือเปล่า ในขณะที่กำลังใช้ผ้าขนหนูผืนเล็กเช็ดผม และปั้นบีบให้น้ำในผมออกจนหมาด แล้วสายตาของเธอก็ดันเหลือบไปเห็นชายหนุ่มนอนอยู่ใต้ผ้าห่มในชุดเสื้อคลุมอาบน้ำผืนนั้นที่เคยวางไว้ข้างกระเป๋าของเธอในตอนแรก เขาหลับตาปุ๋ยสองแขนวางไว้แนบอกตรงข้างๆ ฝั่งที่เธอนอน เมื่อคืน

“ว้าย!!! ทำไม่ยังไม่แต่งตัวล่ะเนี่ย นี่คุณคิดอะไรอยู่แล้วขึ้นไปนอนตรงนั้นทำไม”

เมื่อชายหนุ่มได้ยินเสียงเธอ ก็ค่อยๆ ลืมตา เลิกคิ้วมองไปที่เธอ

“ก็เสื้อผ้าผมยังอยู่ห้องซักรีดนี่ครับ และนี่..ที่จริงแล้วก็เตียงผม ผมก็ว่าจะนอนต่อสักหน่อย”

ชายหนุ่มพูด พอหญิงสาวได้ยินก็หลุบตาคิด

“เอ่อ.. คือ.. ฉัน..”

เธอกำลังจะกล่าวคำขอโทษ แต่เธอก็ยังลังเล เพราะความไม่แน่ใจในสถานการณ์ตรงหน้า แล้วเขาก็เอ่ยขึ้นก่อน

“คุณจะรีบไปทำงานไม่ใช่เหรอครับ

เขาถามเชิงเตือนสติ ให้รีบไป

“อ๊ะ เอ่อจริงด้วยสิฉันคงต้องไปแล้ว เอิ่ม เรื่องเมื่อคืนนี้ คือว่า”

“เดี๋ยวมีโอกาสเราค่อยคุยกันก็ได้ครับ” เขาเอ่ย

“อ๋อค่ะ แล้วคุณคือ... เอ่อ...”

“ผมชื่อรติกาลครับ แต่หลายคนเรียกกันว่า กาล กาล ที่แปลว่าเวลาน่ะครับ”

หนุ่มรูปงามอธิบายเพิ่มพร้อมกับส่งยิ้มให้เธอ

“อ๋อ ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ ฉัน.. ญาดาค่ะ”

เธอตอบแล้วหน้าก็เริ่มแดง หญิงสาวรู้สึกเขินอายผู้ชายที่นอนอยู่ตรงหน้ามากๆ

“ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันครับคุณญาดา ชื่อน่ารักดีนะครับ”

ชายหนุ่มหยอดคำหวาน ญาดายิ้มตอบหลบตาก้มหน้าลง

“ขอบคุณค่ะ ชื่อคุณก็เพราะดีนะคะ งั้นไว้โอกาสหน้าค่อยเจอกันนะคะ ว่าแต่ฉันจะติดต่อคุณได้ยังไงถ้าเกิดว่า.. ฉัน.. อยากจะเลี้ยงข้าวเพื่อเป็นการขอโทษคุณสักมื้อกับเรื่องในวันนี้แล้วก็ถือโอกาสขอบคุณ คุณด้วยที่ช่วยฉันเอาไว้” เธอกล่าว

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel