รักสุดท้ายของกาลญาดา

78.0K · ยังไม่จบ
ฟางฉี/น่าน นคราช์/วิญญาณไพร
40
บท
1.0K
ยอดวิว
9.0
การให้คะแนน

บทย่อ

เขาเป็นลูกครึ่งปีศาจใช้ชีวิตปะปนอยู่กับมนุษย์หลายร้อยปี เฝ้าตามหาคู่ครองแต่ไม่มีใครรับไอปิศาจของเขาได้ทุกคนล้วนเกือบตายเมื่อยามแนบชิด จนได้มาเจอหญิงสาวที่มีกลิ่นกายไม่เหมือนหญิงอื่น เขาตัดสินใจลองจีบดูหลังช่วยเธอไว้ชายหนุ่มคิดเพียงว่าหากเธอทนไอปีศาจของตนไม่ได้ก็จะขอดูแลเธอไปจนถึงวินาทีสุดท้าย

นิยายรักโรแมนติกนิยายแฟนตาซีนิยายรักคนธรรมดาผู้ชายอบอุ่นจอมมารฟินๆแฟนตาซี

ชื่อของผม คือ รติกาล

บรื้นๆ เสียงเร่งเครื่องดังกึกก้อง มุ่งหน้าสู่ตัวเมืองในยามราตรี ของหนุ่มหล่อลูกผสมระหว่างมนุษย์และปีศาจโดยกำเนิด

เขาผู้ไม่ชอบใช้ชีวิตในเวลาตอนกลางวันที่ต้องเจอแสงแดดจ้าและร้อนเกินไป เลยเลือกที่จะทำงานยามค่ำคืนเป็น DJ ตามผับบาร์ แหล่งท่องเที่ยวยามค่ำคืน

เขาชอบที่จะเห็นผู้คนกระตือรือร้นในปาร์ตี้ เชยชมเรือนร่างของสาวงามเต้นระริกเล่นกับสีสันของแสงไฟ และขับรถชมจันทร์ รับลมเย็นๆ ยามค่ำคืน

ด้วยความที่เขาเป็นคนรูปร่างหน้าตาดี สูงโปร่ง ใบหน้าคมคาย แต่บางมุมก็หน้าหวานจนผู้ชายด้วยกันแอบมอง อัตลักษณ์ภายนอก และบุคลิกท่าทาง ผนวกเข้ากับพลังของปีศาจที่แฝงอยู่ในตัว

ทำให้เสน่ห์ของเขายิ่งดึงดูดความสนใจ จากทั้งหญิงและชาย สาวแก่ แม่ม่าย ที่ได้พบเจอ ล้วนมีความปรารถนาในตัวเขา ทั้งอยากจะลองกินดูสักครั้ง ทั้งอยากเก็บไว้กินคนเดียว

“ชื่อของผม คือ รติกาล”

นี่คือชื่อ ที่เขาแนะนำตัวกับสาวๆ ที่เขาเล็ง การตกเหยื่อของเขาไม่เคยพลาด ขอแค่เมื่อใดก็ตาม ที่ร่างกายของเขาต้องการ

การที่จะหาสาวเข้ารีสอร์ตจิ้งหรีดหรือโรงแรมหรูสักที่ ไม่ได้ยากเลยสำหรับเขา ไม่ว่าจะ outdoor หรือจะ indoor เขาได้หมด แต่ส่วนใหญ่แล้วพวกหล่อนจะเป็นฝ่ายเข้าหาเขาก่อน

บรื้น… ชายหนุ่มจอดรถบิ๊กไบค์สีดำขลับ เมื่อถึงหน้าผับชื่อดังในย่านแหล่งท่องเที่ยว ของนักท่องราตรีที่มีทั้งไทยและต่างชาติในตัวเมือง

รติกาลบิดลูกกุญแจดับเครื่องยนต์ดึงกุญแจออกแล้วเก็บลงกระเป๋ากางเกง เสียงเบิ้ลรถของเขาทำให้ดึงดูดสายตาหลายคู่ของคนที่นั่งอยู่แถวนั้นต้องหันมามอง

รติกาล ถอดหมวกกันน็อกสีดำแบบเต็มใบออก สะบัดหัวเล็กน้อย ผมสีดำขลับของเขาสะบัดไปมา รติกาลวางหมวกกันน็อกลงบนถังน้ำมัน ยกมือขึ้นเสยปอยผมที่ปิดหน้าผากอยู่ จัดทรงนิดหน่อย เผยให้เห็นใบหน้าที่ได้รูปคมคาย คิ้วหนาเข้มเป็นทรงรับกับสันจมูกโด่งสวยและดวงตารียาว ปากแดงธรรมชาติไร้สีแต่งเติม ตัดกับผิวขาวสะท้อนแสง ทำให้สาวน้อยสาวใหญ่มองชายหนุ่มตาเป็นมัน

เมื่อเขาเงยหน้าขึ้นมองกลับไปทางสาวๆ พวกหล่อนถึงกับหน้าแดงเก้อเขินทำตัวไม่ถูก บางคนก็หลบตาแทบไม่ทัน หลายคนที่รู้จักเขา จากชื่อเสียงความหล่อเหลาและความสุภาพกับสาวๆ ที่บอกต่อกันแบบปากต่อปาก จนหลายคนต้องตัดสินใจมาเยือนผับนี้สักครั้ง

และสาวๆ หลายคนก็ติดใจจนมากันบ่อยๆ เมื่อพวกหล่อนเห็นชายหนุ่มเดินเข้ามาใกล้ ก็หันไปกระซิบกระซาบกัน

ว๊าย!!! เขามาแล้วๆ เรารีบเข้าข้างในกันเถอะ สาวๆ แสดงท่าทีกระดี๊กระด๊า กรี๊ดกันเบาๆ ในกลุ่มของตน บางคนที่คุ้นเคยต่างเรียกชื่อเขาเพื่อหวังให้เขาหันไปมอง

“รติกาล มาแล้วเหรอ”

ถึงจะหล่อหนัก สาวกรี๊ดเยอะปานดาราดัง แต่เขาไม่เคยหยิ่งยโส เขาหันไปโบกมือแล้วโค้งตัวทักทายทุกคนอย่างสุภาพ

“มาแล้วคร้าบ พร้อมเข้าข้างในรึยังเอ่ย” เขาถาม

“เดี๋ยวตามไปน้า”

พวกหล่อนตอบเสียงยานคางและโปรยยิ้มหวานให้กับชายหนุ่มหญิงสาวเหล่านั้นล้วนเคยต้องการในตัวเขา แต่รติกาลก็ใช่ว่าจะเล่นใครสุ่มสี่สุ่มห้า เขาจะเลือกเอาคนที่ดูแข็งแรงสุขภาพดี ด้วยความที่รู้ดีว่าพวกหล่อนจะเป็นยังไงหากโดนเขาจัดหนัก

จากประสบการณ์กว่าหลายร้อยปีที่ผ่านมา ตัวเขารู้ดีว่าผลของมันจะออกมายังไงหากฝืนเล่นเสียวกับเขา โดยที่ตัวเองร่างกายไม่พร้อมและไม่แข็งแรงพอ

แต่ถึงแม้ว่าพวกหล่อนจะมีร่างกายที่แข็งแรงดี หากได้อยู่กับเขานานเกินไปพวกเธอจะเริ่มป่วย และทรุดโทรมลงเรื่อยๆ รติกาลจึงวางตัวดี ไม่รุ่มร่ามเป็นสุภาพบุรุษพอ กับคนที่เขาไม่อยากเล่นด้วย หรือไม่อยากมีสัมพันธ์เกินเลย เขาจะไม่อ่อยหรือให้ความหวังกับพวกเธอ เพราะหากสุ่มสี่สุ่มห้ากินมั่วซั่ว มีหวังต้องย้ายเมืองหนีกันบ่อยๆ พอดี ชายหนุ่มไม่ชอบมันเอาซะเลย

ถึงแม้เขาจะสามารถทำให้เจ้าหล่อนลืมเขาได้ แต่ใช่ว่าเพื่อนๆ ของพวกเธอจะนิ่งเฉยหากเห็นเพื่อนรักไปกับเขา ส่วนมากแล้ว One Night Stand จะเกิดขึ้นบ่อยมากๆ พวกเธอแค่อยากนอนกับเขา เพื่อสนองความต้องการในใจสักครั้งก็แค่นั้น แม้ว่าหลังจากนั้นจะมีบางคนติดอกติดใจจนก่อปัญหาเพราะเขาลืมล้างความทรงจำก็ตามเถอะ

ยังไงก็แล้วแต่ เขาจะป้องกันตลอด เมื่อเข้าสู่โลกสมัยใหม่ สาวๆ เริ่มหัวแข็ง และยอมทำทุกอย่างหากต้องการได้มาซึ่งการครอบครองแม้ไม่เล่นด้วยการตามตื๊อก็บังเกิดบางคนอาการหนักเขาก็พาไปเลี้ยงข้าวแล้วก็ทำให้พวกเธอลืม บางคนเขาก็แค่ไม่สนใจจนคนเหล่านั้นเลิกไปเอง

ยังไงก็เถอะ นั่นไม่ใช่ปัญหาหลัก เพราะหากผู้หญิงคนไหนได้ร่วมหลับนอนกับเขามักจะไม่มีใครจดจำค่ำคืนที่เร่าร้อนระหว่างเขากับพวกหล่อนได้สักคน หากว่าเขาไม่ต้องการให้จำรติกาลแค่ไม่อยากมีทายาทลูกเสี้ยวอสูรก็เท่านั้น หากยังไม่เจอคนที่เหมาะสม

“เอาล่ะสาวๆ ของผม พร้อมจะปลดปล่อยอารมณ์กันรึยังคร้าบ”

เขาตะโกนเมื่อก้าวเข้าสู่ที่ทำงานที่เขาคุ้นเคย นั่นคือ บูธ DJ ที่วางมิกซ์อย่างดีไว้ให้เขาเปิดเพลงมันๆ มอบความสนุกสุดเหวี่ยงให้กับสาวๆ ได้เต้นกัน ทั้งสแครชแผ่นปะปนกับหยอกล้อลูกค้าของเขาจนครบชั่วโมง จากนั้นเขาต้องพักเบรก เพื่อให้นักร้องวงอื่นขึ้นแสดงต่อ

รติกาล มีคิวเล่นแค่ 2 คิวในผับนี้ รอบ 3 ทุ่ม พักเบรก 4 ทุ่ม และเริ่มอีกครั้ง 5 ทุ่ม จนจบงานตอนเที่ยงคืน จากนั้นจะต้องรีบไปต่ออีกผับหนึ่งที่ตั้งอยู่ในส่วนท้ายของซอย เริ่มเที่ยงคืนครึ่งถึงตีหนึ่งครึ่ง

โดยส่วนใหญ่แล้วเขาจะเลือกตกสาวๆ ที่นั่น เพราะมันเป็นเวลาเลิกงาน และผับท้ายซอยลูกค้าจะค่อนข้างเป็นผู้ใหญ่มีประสบการณ์ ไม่เกาะแกะเขาแจจนน่ารำคาญ

และเขาไม่อยากดึงลูกค้าจากผับแรกให้ตามเขามาผับที่สอง มันคงไม่ดีต่อทั้งสองผับที่เขาทำงานอยู่ และเขาไม่เคยบอกลูกค้าด้วยซ้ำว่าเขาทำงานอีกที่ ยังไงทั้งสองผับก็ควรเป็นลูกค้าคนละกลุ่ม

แกร๊ก

รติกาลเปิดประตูผับออก เพื่อเดินออกไปสูดอากาศข้างนอก พอดีกับมีหญิงสาวคนหนึ่งเดินสวนเขาเข้ามา

กลิ่นกายเธอทำให้เขาต้องหันมอง มันไม่ใช่กลิ่นน้ำหอมแต่ว่านั่นเป็นกลิ่นหอมเฉพาะตัว และที่เขาแปลกใจคือเธอคนนี้ไม่สนใจเขาเหมือนคนอื่นเลยเธอแค่เดินผ่านไปก็เท่านั้น หลังจากพักเบรก 1 ชั่วโมง เขาก็เข้ามาทำหน้าที่ DJ ต่อ ระหว่างเปิดเพลงเขาก็เหลือบเห็นผู้หญิงคนนั้นกำลังก้มหน้างุดๆ กดโทรศัพท์ดูอย่างเคร่งเครียดรติกาลก็แซวเธอไปหนึ่งกรุบ

“หากใครกำลังเคร่งเครียดกับมือถืออยู่ วางมันลงแล้วมาสนุกกันก่อนนะครับ”

เขากล่าวแต่เธอก็ไม่ได้สนใจ

“อะไรเนี่ย เรตติ้งผมตกเหรอ แม้แต่สาวๆ ก็สนใจโทรศัพท์มากกว่าผมซะอีก”

เขาเย้าต่อ เธอจึงเงยหน้าขึ้นชะงักไปสักครู่เหมือนกำลังคิด

‘นี่เขาพูดถึงเราหรือเปล่า’

คิดแล้วเธอก็ก้มหน้าต่อ หญิงสาวเอาแต่ง่วนอยู่กับการตอบแชทเจ้านายและรับคำสั่งสำหรับงานคืนนี้และวันพรุ่งนี้ เมื่อรติกาลเห็นเช่นนั้นก็แซวไปอีกหนึ่งรอบ

“โธ่เอ๊ย เรตติ้งผมตกจริงๆ”

พอสาวๆ ได้ยินเช่นนั้น ทุกคนต่างกรี๊ดขึ้น

“อร๊าาาาย เธอคือคนเดียวในใจฉันรติกาล”

เสียงกรี๊ด ของผู้หญิงเหล่านั้น ทำให้หญิงสาวที่ง่วนอยู่กับการกดมือถือต้องสะดุ้งแล้วหันไปมองในทันที เธอเห็น DJ กำลังส่งยิ้มหวานและโปรยเสน่ห์ให้พวกหล่อนที่อยู่ด้านหน้าบูธ เธอมองเขาโยกตัวไปกับเสียงเพลงสักพักแล้วก็ก้มลงกดโทรศัพท์ต่อ

พอเสร็จงานที่ผับนี้ เขาก็รีบโกยอ้าวไปอีกที่ต่อทันทีจนลืมเรื่องหญิงสาวตัวหอมไป เขาทิ้งรถไว้ที่เดิมจะได้ไม่มีใครผิดสังเกต และคิดว่าเขายังอยู่ในผับ พอจบงานที่ท้ายซอยนั่นค่อยเดินกลับมาเอา

รติกาลทำแบบนี้เป็นประจำ บางทีก็ออกหลังร้านหรือเดินเลี่ยงไปข้างร้าน แล้วโทรให้เด็กในผับท้ายซอยขับรถออกมารับ เมื่อถึงที่ทำงานตรงท้ายซอยเขาก็เดินเข้าไปลงชื่อเหมือนพนักงานคนอื่นและรอ 10 นาที เพื่อขึ้นเปิดเพลงหลังจากวงดนตรีก่อนหน้านี้เล่นจบ

จากนั้นก็ลงมานั่งพัก วันนี้เขาได้คุยกับเจ้าของผับและหุ้นส่วนคนอื่นๆ นิดหน่อยก่อนที่เด็กบริกรจะเดินถือจดหมายน้อยมายื่นให้เขา

“พี่กาลครับ คุณผู้หญิงโต๊ะ 10 ซื้อไวน์พร้อมแพ็กเกจครับ”

รติกาลรับกระดาษจากเด็กบริกร จากนั้นเด็กหนุ่มก็เดินออกไป เขาคลี่อ่านบิลที่ระบุเอาไว้ว่า

‘ไวน์พร้อมแพ็กเกจพิเศษ โต๊ะ 10’

แล้วยิ้มน้อยๆ ก็ปรากฏใจเขาลิงโลดเลือดสูบฉีด

“ผม ขออนุญาตไปหาลูกค้าแล้วขอตัวกลับเลยนะครับพี่”

เจ้าของผับพยักหน้าอย่างเข้าใจและตกลงให้เขาไปทันที

“สวัสดีครับ คุณผู้หญิง”

ชายหนุ่มกล่าวเมื่อเดินมาถึง เขาเห็นแขกคนนี้ นั่งอยู่คนเดียวที่โต๊ะวีไอพี เสื้อผ้าเธอยังเป็นชุดทำงานออฟฟิศอยู่เลย เธอดูสง่าในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวกระโปรงสั้นและถุงน่องดำ เสื้อสูทสีดำของเธอวางอยู่ข้างๆ ในมือกำลังควงแก้วไวน์วนไปมาและกวาดสายตาไปรอบๆ เธอชะงักกึก แล้วค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมองเขา ทำทีพินิจพิเคราะห์ เหมือนกำลังคิดว่า

‘นี่ใคร’

โดยไม่ต้องถามมากมายชายหนุ่มก็แนะนำตัว

“ผมคือ รติกาล ครับ”

เขากล่าวพร้อมส่งยิ้มอ่อนๆ ให้เธอ

“คุณผู้หญิงซื้อแพ็กเกจพิเศษใช่ไหมครับ”

“อ๋อ เชิญนั่งค่ะ ทำตัวตามสบายเลยนะคะ ช่วยอยู่เป็นเพื่อนคลายเหงาให้พี่หน่อยนะ”

“ด้วยความยินดีครับผม”

เขาตอบรับแล้วนั่งลงข้างๆ หล่อน ทั้งสองคุยกันอยู่ไม่ถึง 10 นาที ก็รู้สึกถูกคอ ฝ่ายหญิงที่กรึ่มๆ จากฤทธิ์ไวน์ อยู่แล้วก็เริ่มวางมือไม้รุ่มร่ามยั่วยวนเขาโปรยยิ้มอ่อนหวานน้อยๆ ให้รติกาล

“เรา..ไปต่อกันที่โรงแรม..ดีไหม” เธอกระซิบข้างหูรติกาลเบาๆ

“ได้สิครับ”

เขาตอบตกลง ส่งยิ้มหวานให้เธอ หลังจากคุยกันอยู่ไม่นาน

เขารู้ว่าผู้หญิงคนนี้มาจากต่างจังหวัดเพื่อมาผ่อนคลายโดยเฉพาะ

และพรุ่งนี้เธอจะกลับบ้าน ชายหนุ่ม จึงยอมตกลงไปกับเธอ แบบว่าง่าย เธอได้จองโรงแรม ไว้ 1 ห้อง ที่เป็นเตียงคู่ เธอมาที่เมืองนี้เพียงคนเดียว เมื่อทั้งสองออกจากผับเธอก็เอากุญแจรถยนต์ให้เขาเป็นคนขับ

“กาล ฉันเมาแล้วช่วยขับรถทีนะ” เธอยัดกุญแจใส่มือชายหนุ่มและแกล้งเซถลาเข้าหาเขา

“อุ๊บ.. ระวังหน่อยนะครับ เดี๋ยวล้มเอา ตัวจะช้ำเปล่าๆ ผมอยากให้คุณช้ำเพราะผมมากกว่า”

ชายหนุ่มหยอดคำหวานหลังจากคว้าตัวเธอมาประคองเอาไว้ หญิงสาวยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เมื่อได้ยินเช่นนั้น เขาเปิดประตู ส่งเธอเข้าไปนั่งรอในรถตรงเบาะที่นั่งข้างคนขับ จากนั้นชายหนุ่มจึงเดินอ้อมไปนั่งฝั่งคนขับ แล้วก็สตาร์ทรถขับออกไป

พอขับรถเข้าจอดโรงแรมเรียบร้อย รติกาล เปิดประตูก้าวเท้าและขายาวๆ ออกมาปิดประตูเข้าแล้วเดินอ้อมไปเปิดประตูอีกฝั่งเพื่อรับเธอจากนั้นทั้งสองก็เดินเข้าโรงแรมไปพร้อมกัน ทั้งคู่เดินเข้าลิฟต์ กดชั้นที่เธอจองห้องเอาไว้