ตอนที่ 3 การพบกัน
นานะรีบเดินก้มหน้าออกจากบริษัททันทีขณะลอนผมสีน้ำตาลปกคลุมใบหน้าด้านข้างทั้งสอง เธอไม่อยากให้ใครเห็นเธอร้องไห้ คนอื่นซึ่งเดินผ่านร้องถามด้วยความแปลกใจที่เห็นเธอกลับเร็วผิดปกติ แต่เธอก็ไม่พูดกับใครทั้งสิ้น นานะเดินไปเรื่อยเปื่อยด้วยท่าทีเลื่อนลอย จวบจนกระทั่งมาถึงยังริมแม่น้ำที่อยู่ติดกับทางเข้าสวนสาธารณะ
เธอตัดสินใจนั่งลงบนพื้นหญ้าและเหม่อมองสายน้ำที่ไหลเอื่อยๆ ในสมองมีแต่ภาพของเคนกับเซระวนเวียนซ้ำไปซ้ำมา จนไม่ทันเห็นว่ามีคนกำลังวิ่งตรงมาทางเธอด้วยความเร็วสูง
โครม!!!
“โอ๊ย!!!” ผู้ชายคนหนึ่งวิ่งเข้ามาชนนานะอย่างแรง และพากันล้มกลิ้งพร้อมกันบนพื้น
“ตาบ้าเอ๊ย!!! วิ่งมาได้ไม่ดูตาม้าตาเรือเลย” นานะผลักตัวผู้ชายคนนั้นออกทันทีหลังจากตั้งตัวได้ เธอรู้สึกหัวเสียมาก
“อะไรกัน เธอนั่นล่ะ! มานั่งขวางทางอะไรอยู่ตรงนี้” ชายคนนั้นมีท่าทางโมโหไม่แพ้กัน เขาเสยผมสีน้ำตาลที่ปรกหน้าขึ้น เผยให้เห็นดวงตาสวยดูอ่อนโยน
นานะอดไม่ได้ที่จะเผลอจ้องมองแวบหนึ่ง ก่อนจะรู้สึกตัวและด่าเขาออกไป
“นี่นาย!! วิ่งมาชนฉันก็เป็นฝ่ายผิดอยู่แล้ว ยังมีหน้ามาว่าฉันอีก” เธอลุกขึ้นปัดฝุ่นออกจากเสื้อผ้า
“นี่เธอ แหกตาดูซะบ้างนะ ตรงนี้มันริมทางเดินนะ เธอมานั่งขวางทางแบบนี้แล้วยังมาว่าฉันอีก” เขาเถียงกลับและลุกขึ้นปัดฝุ่นเช่นกัน
ว้าว… หมอนี่สูงจังแฮะ สูงกว่าเคนอีก เชอะ! แต่ยังไงก็หล่อสู้เคนของฉันไม่ได้หรอก ถึงนานะจะคิดอย่างนั้น ลึกๆ ก็รู้ดีว่าผู้ชายที่ยืนอยู่ตรงหน้ารูปร่างหน้าตาเป็นนายแบบได้สบายๆ เลย
“แล้วทำไมนายไม่ดูให้ดีซะก่อนล่ะว่ามีคนนั่งอยู่รึเปล่า” นานะเถียงอย่างไม่ยอมแพ้
“ฮ่าๆๆ ใครจะไปรู้ได้ล่ะว่ามีคนนั่งอยู่ตรงนี้ ในเมื่อตัวเธอน่ะเล็กเสียจนมองไม่เห็นอยู่แล้วววว” เขาพูดพลางมองสำรวจ
“นี่นาย! ฉันไม่อยากเถียงกับนายแล้ว” นานะค้อนขวับใส่เขาทีหนึ่งก่อนจะหันหลังทำท่าเดินจากไป
“โอ๊ะ! แย่แล้ว” เขาอุทานออกมาเมื่อมองไปทางด้านหลังนานะ
เธอสงสัยเลยมองตามไป แม้ระยะจะไกลพอสมควร แต่เธอก็เห็นคนสองสามคนกำลังเดินตรงมายังทางที่เธอและเขายืนอยู่
“นี่เธอ!! หลบเร็ว!!” หนุ่มหน้าตาเหมือนนายแบบไม่พูดเปล่า ดึงมือนานะหลบเข้าข้างต้นไม้ใหญ่ที่อยู่แถวนั้นกะทันหัน ทำให้เธอเกือบหน้าคะมำเพราะตั้งตัวไม่ทัน
“อะไรของนาย อุ๊บ!!”
“ชู่ว! อย่าส่งเสียงไป” เขากระซิบข้างหูนานะหลังจากเอามือปิดปากเธอ นานะยืนตัวแข็งทื่อและไม่ส่งเสียงใดๆ ออกมา พลางนึกสงสัยว่าเขาเป็นพวกหลบหนีหรือทำความผิดอะไรมารึเปล่า สักพักคนพวกนั้นก็เดินมาถึงตรงที่ซึ่งเมื่อครู่พวกเขาสองคนยืนอยู่
“ไปไหนแล้ว ตะกี้ยังเห็นอยู่แถวๆ นี้เลย” ผู้ชายหนึ่งในนั้นพูดขึ้นอย่างแปลกใจ
“คงหนีไปไหนไม่ได้ไกลหรอก ถ้าหนีไปได้ หัวหน้าเล่นงานเราแย่แน่” ชายอีกคนพูดออกมาด้วยท่าทางเป็นกังวล
“เฮ้ย! พูดมากน่า รีบๆ ตามหากันเถอะ เรื่องจะได้จบๆ” ชายคนที่สามสรุปและออกเดินนำทั้งสองคนไปจากตรงนั้นทันที
งั่ม!!
“โอ๊ย!!” เสียงร้องของหนุ่มหน้าตาเหมือนนายแบบดังขึ้นด้วยความเจ็บปวด
“นี่เธอ!! กัดมือฉันทำไมเนี่ย มันเจ็บรู้มั้ย” เขาโอดครวญพลางสะบัดมือไปมา พร้อมกับจ้องมองนานะด้วยสายตาตำหนิ
“อย่าเข้ามานะ ฉันสู้นะ จะบอกให้!!” นานะขู่ฟ่อๆ ตั้งการ์ดเตรียมสู้
“หึๆ! เธอจะบ้าเหรอ ฉันไม่ทำอะไรเธอหรอกน่า” เขาหัวเราะออกมาเบาๆ เมื่อเห็นท่าทางของเธอ
“อ้อ…แล้วไป” นานะลดการ์ดอย่างโล่งอก แต่ก็ยังคงมองเขาไม่วางตาเหมือนไม่ไว้ใจ
“แล้วนายน่ะ ไปทำอะไรผิดมาหรือไง ทำไมพวกนั้นถึงต้องตามหานายล่ะ”
“ฉันไม่ได้ทำอะไรผิดนะ ฉันน่ะ…” เขาเปลี่ยนใจหยุดพูดกะทันหัน
“นายทำไม ไม่ต้องกลัวน่า ฉันไม่ส่งนายให้ตำรวจหรอก” นานะขมวดคิ้วเล็กน้อยด้วยความสงสัย
“ฉันไม่ใช่ ‘นาย’ นะ ฉันชื่อทากามูระ ชิน ทำงานเป็นพนักงานออกแบบของบริษัทจิวเวลรี่ ไอ้พวกนั้นมันเป็นพวกของบริษัทคู่แข่ง มันจะซื้อตัวฉันแต่ฉันไม่ยอม ก็เลยจะลักพาตัวไปที่บริษัทมันให้ได้ ฉันหนีจนมาเจอเธอนี่แหละ”
“งั้นเหรอ…แล้วทำไมนาย เอ๊ย! ทากามูระคุงไม่แจ้งตำรวจล่ะ” นานะลากเสียงยาวพร้อมกับกลอกตาไปมา
“เรียกว่าชินก็ได้ ไม่ต้องเรียกทากามูระคุงหรอก” ชินบอกด้วยท่าทางเป็นกันเอง “ที่ฉันไม่แจ้งตำรวจก็เพราะว่ามันอาจส่งผลถึงบริษัทให้เสียชื่อได้น่ะสิ”
“อ๋อ เป็นพนักงานที่รักบริษัทนี่เอง” นานะลากเสียงเป็นเชิงล้อ
“แน่นอนสิคร้าบ ยัยตัวเล็ก”
“อย่ามาเรียกฉันแบบนั้นนะ!!”
ตี๊ด ตี๊ด!! เสียงโทรศัพท์มือถือของชินดังขึ้นขัดจังหวะพอดี เขามองหน้านานะยิ้มๆ อย่างมีชัยก่อนจะรับโทรศัพท์ นานะเลยได้แต่ฮึดฮัดขัดใจที่ทำอะไรชินไม่ได้
“ฮัลโหล…อ้อ นายเหรอ ได้ๆ จะไปเดี๋ยวนี้ล่ะ บาย” ชินปิดโทรศัพท์และมองไปที่นานะ “ฉันต้องไปก่อนนะ ยัยตัวเล็ก” ชินยังคงไม่เลิกล้อเธอ
“นี่นาย!! ฉันไม่ได้ชื่อตัวเล็ก ฉันชื่อมาคิมูระ นานะย่ะ!!”
“ฮึๆ โอเคคร้าบ มาคิมูระ…โอ๊ะ ไม่ใช่สิ นานะจัง แล้วเจอกันใหม่นะ” ชินพูดแหย่นานะ ก่อนจะฉวยโอกาสหอมแก้มเธออย่างรวดเร็วและรีบวิ่งจากไป
“นี่นาย!!!!” นานะตะโกนเรียกเขาเสียงดังด้วยความโมโห
“เป็นการตอบแทนที่เธอกัดมือฉันไง” ชินตะโกนตอบขณะวิ่งหายไปในกลุ่มคนที่เดินผ่านไปมาแถวนั้น ทิ้งให้นานะยืนลูบแก้มตัวเองด้วยความเจ็บใจ