บทที่ 4
“แล้วยังไงต่อไปล่ะ?” เสียงเลสถามอย่างหงุดหงิด
“เอ้อ..คือฉันรู้สึกว่ามันออกจะยากอยู่นะเลส เขาหัวแข็งชะมัดเลย พูดจากันไม่รู้เรื่อง ท่าทางยโส เอาแต่ใจตัวเองก็เท่านั้น แถมยังพูดจาดูถูกคนง่ายๆ อีก..”
“เอ๊ะ..ฟังเข้าท่าดีนี่” เลสพูดปนหัวเราะ
“บ้าเลือดน่ะไม่ว่า ฉันไม่สนุกกับการทำงานชิ้นนี้เลยนะเลส ฉันว่าเราเลิกล้มความคิดดีกว่า เพราะมันมีความเป็นไปได้ว่า บางที ท่านนายพลผู้เฒ่าอาจจะเจ็บหนักจนไม่สามารถให้เราสัมภาษณ์ก็เป็นได้นะ..อีกอย่างหนึ่งเกี่ยวกับเรื่องสุขภาพของเขาอาจจะไม่ตรงต่อความเป็นจริงเลยเป็นไปได้อย่างมากเลยละ ว่าเขาอาจไม่สามารถเล่ารายละเอียดต่างๆ อย่างที่เราต้องการรู้ให้เราฟัง.. หรือไม่..เขาก็อาจจะพูดไม่ได้แล้ว..คุณจะว่ายังไงถ้าฉันคิดว่าเราควรจะเลิกล้มเรื่องนี้แล้วให้ฉันกลับไปทำอย่างอื่นดีกว่า?”
“แอนดี้คนสวย.. คุณเกิดเป็นอะไรขึ้นมา.. หรือว่ามันมีอะไรเกิดขึ้นกับคุณที่นั่นงั้นหรือ.. ถามจริงๆ เถอะ ไอ้แสงแดดแรงกล้าในเท็กซัสมันเผาสมองคุณจนฝ่อหมดแล้วหรือไง?”
เธอสามารถมองเห็นภาพใบหน้าของเลสได้อย่างชัดเจนขึ้นมาทันที เขาจะต้องเลื่อนเก้าอี้กลับมา เอาศอกยันโต๊ะสีหน้าท่าทางเต็มไปด้วยความกระตือรือร้นอย่างเห็นได้ชัดเขาจะต้องเลื่อนแว่นสายตากรอบเรียวแหลมขึ้นไว้บนผมสีแดง หรือไม่ก็อาจจะถอดออกแล้วก็เอาวางไว้บนกองกระดาษที่เกลื่อนไปทั้งโต๊ะหาอะไรไม่ค่อยเจอ และเธอก็กำลังตกเป็นเหยื่อของแววเย็นชาในดวงตาคู่สีฟ้า ขนาดพูดกันทางโทรศัพท์เธอยังสามารถมองเห็นภาพใบหน้าของเขาได้อย่างชัดเจนเลย
“นี่คุณคงจะไม่ยอมให้เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ เพียงแค่นี้มาเป็นอุปสรรคในการทำงานของคุณหรอกใช่ไหม คุณน่ะเคยเจอเรื่องเลวร้ายกว่านี้มากมาแล้ว จำเรื่องการประท้วงของสหภาพแรงงานที่ข่มขู่ช่างภาพของเรา แถมยังจะเอากระบองฟาดให้อีกได้ไหมล่ะ ขนาดนั้นคุณยังสามารถทำให้พวกเขาเข้ามาเลียมือคุณภายในสองนาทีได้เลย..เพราะอะไร.. ก็เพราะมันหลงใหลรูปร่างหน้าตาคุณ.. แต่ผมเห็นผู้ชายส่วนมากพอเห็นคุณเข้าก็เป็นแบบนั้นกันทั้งนั้น”
“เลส..เลิกพูดอะไรพรรค์นั้นเสียทีเถอะ”
เธอกับเลส แทรพเพอร์ และโรเบิร์ต มาโลน เป็นผู้ริเริ่มทำธุรกิจเคเบิ้ล ทีวี เป็นบริษัท เล็ก ๆ ขึ้นด้วยกัน เลสเป็นผู้บริหารรายการข่าว โรเบิร์ตเป็นผู้สื่อข่าว ส่วนแอนดี้ทำหน้าที่เป็นผู้ประกาศข่าวภาคค่ำ
แม้ภายหลังเมื่อเธอกับโรเบิร์ต มาโลน แต่งงานกันแล้วมิตรภาพก็ยังคงเหมือนเดิม ตอนที่โรเบิร์ตถูกว่าจ้างให้ไปทำข่าวใหญ่ ๆ นั้น เขาจะต้องอยู่ห่างบ้านครั้งละนาน ๆ ฝากฝังเธอไว้กับเลส แต่ถึงอย่างไร ความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเลส ก็ยังตั้งอยู่บนพื้นฐานของความเป็นเพื่อนเท่านั้น
เธอยังจำได้ดี ถึงคืนที่เลสมาหาเธอที่บ้านกลางดึกและแจ้งข่าวร้าย ว่าโรเบิร์ตเสียชีวิตในกัวเตมาลา ตอนนั้นเขาถูกส่งไปทำข่าวแผ่นดินไหวและได้เสียชีวิตลงอย่างไม่คาดฝัน และเลสได้อุทิศเวลาช่วงนั้นอยู่เป็นเพื่อนเธอหลายสัปดาห์ทีเดียว รับภาระในทุกเรื่องที่สภาพจิตใจของเธอไม่สามารถรับได้ และยังอีกหลายเดือนหลังจากนั้นที่เธอใช้เขาเป็นประหนึ่งเกราะกำบังตัวเธอไว้จากโลกภายนอก ซึ่งเลสก็สำนึกในหน้าที่ของผู้ให้ความคุ้มครองได้อย่างดี
แต่มิตรภาพก็ยังคงตั้งอยู่บนพื้นฐานของความเป็นเพื่อนที่ดีของกันและกันอยู่นั่นเอง และทุกวันนี้ก็ยังคงทำงานร่วมกันอยู่ เธอรู้จักวิธีการใช้คำพูดของเขาอย่างดีจนเกินกว่าจะถือเป็นจริงเป็นจัง เพราะผู้ชายแบบเลส ไม่เคยเลยที่จะขาดผู้หญิง..เขามีผู้หญิงรายล้อมอยู่รอบตัวและพร้อมสำหรับเขาเสมอ..
เลสมีความรักแท้จริงอยู่เพียงอย่างเดียวเท่านั้น คือ “งาน” เขาเป็นชายหนุ่มที่มีความทะเยอทะยานสูง เขายินดีที่จะแลกกับทุกสิ่งทุกอย่างขอแต่เพียงให้ได้ข่าวกับงานที่ดีออกมา ยิ่งนานวัน เขาก็ยิ่งเพิ่มความร้ายกาจในเรื่องนี้ขึ้นและบ่อยครั้งที่คาดคั้นเอากับแอนดี้อย่างเอาเป็นเอาตายทั้งเขายังเป็นคนพูดจาก้าวร้าว แถมอารมณ์ยังแปรปรวนเอาแน่ไม่ได้อีกด้วย
แต่ถึงอย่างไร เขาก็ยังคงเป็นเพื่อนที่ดีของเธออยู่นั่นเอง และเป็นเจ้านายอีกต่างหาก เพราะฉะนั้น เธอควรจะใช้ความคิดที่จะทำอะไรบางอย่างให้เร็วกว่านี้
“แล้วถ้าฉันเกิดทำให้เขายินยอมให้เราสัมภาษณ์พ่อเขาได้ล่ะ.. แล้วสมมุติว่าเขา.. ”
“ไอ้หมอนั่นมันโง่อย่างกับอะไรดี ถ้ามันจะยอมให้เราสัมภาษณ์บอกมันไปก็แล้วกันว่า เราไม่สนใจมันหรอก คนที่เราต้องการสัมภาษณ์คือพ่อมันต่างหาก และเราต้องการจะสัมภาษณ์เขาตอนนี้ก่อนที่เขาจะตายด้วย ถ้าคุณได้สัมภาษณ์ท่านนายพลคนนี้รับรองว่าดังแน่แอนดี้ อีกอย่างหนึ่ง.. คุณยังอยากทำงานกับสถานีใหญ่อยู่ไม่ใช่หรือ?”
“แน่นอน..ยิ่งกว่าอะไรทั้งหมดเลยละ”
“ถ้ายังงั้น คุณก็เลิกบ่น เลิกเดินพล่านอยู่อย่างนี้ได้แล้ว” หางเสียงของเลสอ่อนลงมาก “ฟังนะแอนดี้ คุณเป็นคนมีสมอง มีทั้งไหวพริบและสติปัญญาความสามารถเหนือกว่านักข่าวคนไหน ๆ ของวงการเสียด้วยซ้ำนอกจากนั้น คุณยังสาวกว่า สมาร์ทกว่า มีทั้งดวงตาคู่เซ็กซี่แล้วก็ยังรูปร่างยั่วยวนกวนกิเลส เอาทั้งหมดนั่นมาใช้ให้เป็นประโยชน์สิ..หว่านเสน่ห์ใส่ไอ้โคบาลหนุ่มนั่นเข้าไป แล้วก็.. ”
“เลส.. !”
“น่า..ผมไม่ลืมหรอกว่ากำลังพูดอยู่กับผู้หญิงที่เย็นชาที่สุดในโลก แต่ฟังนะแอนดี้ คุณจะเก็บรูปร่างหน้าตาแบบนี้ไว้ให้ใคร.. ผมน่ะรู้อยู่แก่ใจดีกว่าใครทั้งหมดว่าไม่ใช่ผมแน่ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าจะทำให้ผมละความพยายามหรอกนะ ผมรู้เสียยิ่งกว่ารู้อีกว่า นับแต่วันที่โรเบิร์ตตายลงจนถึงวันนี้คุณก็ยังคงใช้ชีวิตแบบแม่ชีอยู่นั่นเอง แต่ว่านี่เรื่องมันก็ผ่านมาตั้งสามปีแล้วนะ เพราะฉะนั้น ผมว่าคุณหย่อนสายป่านลงบ้างดีกว่า ลองกะพริบขนตางอนงามให้มันถี่ๆ หน่อยเวลารับฟังไอ้โคบาลนั่นพูด พนันกันได้เลยว่าแค่พริบตาเดียวมันจะต้องเข้ามาอยู่ในกำมือคุณอย่างไม่ต้องสงสัย”
เธอเกือบระเบิดเสียงหัวเราะออกมาให้ดังลั่น เพราะรู้อยู่ว่าคนอย่างไลอ้อน แรทลิฟฟ์ น่ะหรือ จะยอมตกอยู่ในกำมือใคร แต่ที่ทำได้ก็เพียงแค่ถอนใจเบา ๆ ถึงอย่างไรเธอก็จำต้องยอมรับ ว่าคำพูดของเลสมีส่วนจริงอยู่มาก เธอไม่เคยมีชีวิตอื่นนอกจากชีวิตที่มอบให้กับงานเพียงอย่างเดียว บางที อาจจะเป็นเพราะโรเบิร์ตต้องตายลงขณะปฏิบัติหน้าที่ แต่มันก็มีความเป็นไปได้ที่ว่า..เพราะพ่อของเธอได้ชื่อว่าเป็นนักหนังสือพิมพ์ผู้มีชื่อเสียงโด่งดังคนหนึ่งอันเป็นสิ่งที่จุดประกายให้แอนดี้บังเกิดความใฝ่ฝันที่จะเดินตามรอยเท้าพ่อบ้าง
แต่การที่จะทำให้ตนเองมีชื่อเสียงระดับนั้นขึ้นมาได้เธอจำเป็นจะต้องสร้างชื่อเสียงให้ได้พอสมควรเสียก่อนและการที่ได้มีโอกาสสัมภาษณ์พลเอก ไมเคิล แรทลิฟฟ์ น่าจะเป็นหลักประกัน ว่าเธอจะได้รับความสนใจจากผู้บริหารของสถานีโทรทัศน์ใหญ่แห่งใดแห่งหนึ่ง
“ก็ได้ค่ะเลส ถึงแม้ว่าฉันจะไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่คุณพูดมาสักเท่าไหร่ แต่ในเมื่อผลในขั้นสุดท้ายมันตรงต่อความต้องการของฉันอยู่แล้ว เพราะฉะนั้น ฉันก็จะลองใช้ความพยายามดูอีกสักครั้ง
“เยี่ยม..! ตอนนี้ มุมมองเริ่มชัดขึ้นแล้วใช่ไหมล่ะ..คิดว่าจะใช้ต่อมฮอร์โมนให้เป็นประโยชน์ได้บ้างหรือยัง?”
“นี่..อย่าปัญญาอ่อนให้มันมากนักเลย คุณไปจัดการกับต่อมในตัวคุณเองเถอะ”
“เฮ้ย.. ผมไม่เคยจัดการกับมันได้สำเร็จสักครั้ง รู้แต่เพียงว่าจะเอามันไปใช้ยังไงเท่านั้น”
“สวัสดีนะเลส”
“สวัสดี.. อย่าลืมว่าผมรักคุณนะ”
“ฉันก็รักคุณค่ะ.. สวัสดีอีกครั้ง”
เธอใช้เวลาในช่วงบ่ายให้หมดไปกับการทอดร่างอยู่ในเก้าอี้ริมสระว่ายน้ำทันสมัยของโมเต็ล มีความรู้สึกเหมือนตัวเองได้พักงานครึ่งวัน แม้จะไม่มีร่องรอยในภายนอกเรือนร่างที่ห่อหุ้มไว้ด้วยบิกินี่ ที่แสดงให้เห็นว่าเธอตรากตรำทำงานมาอย่างหนัก กระนั้น ก็ยังรู้สึกอ่อนอกอ่อนใจจนไม่อยากหยิบจับอะไรทั้งสิ้น