

บทที่ 5 นัดหมายดูตัว
บทที่ 5 นัดหมายดูตัว
ทั้งสองพูดคุยกันในระหว่างรับประทานอาหารอยู่สักพัก ก่อนจะพากันไปซื้อเสื้อผ้าต่อตามที่ได้ตกลงกันเอาไว้เมื่อครู่ แต่ทว่ามันกลับไม่สามารถทำให้ความกังวลในใจของพายอาร์เลือนหายไปได้อยู่ดี ในหัวของเธอยังคงใช้ความคิดอย่างหนัก ว่าวันพรุ่งนี้จะมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นกันแน่ ทำให้ตอนนี้ความกังวลยังคงฉายชัดออกมาทางสีหน้าจนพราวมุกสังเกตเห็น
“ยัยพาย นี่แกยังไม่เลิกคิดมากเรื่องนั้นอีกเหรอ?” พราวมุกสังเกตเห็นสีหน้าอันไม่สู้ดีของเพื่อนรัก ก็อดไม่ได้ที่จะเอ่ยถามขึ้นมา
“อืม ฉันรู้สึกแปลกๆ ยังไงก็ไม่รู้ เพราะแม่ใช้คำว่าผู้ใหญ่อีกฝั่ง มันหมายความว่าต้องเป็นเรื่องใหญ่แน่ ๆ และคงไม่ใช่แค่เรื่องของคนในครอบครัวเดียวกันน่ะ” พายอาร์พูดถึงสิ่งที่เธอกังวลออกมา
“ก็เป็นไปได้นะ แต่ก็อาจจะเป็นเรื่องธุรกิจก็ได้นิ จริงไหม?” พราวมุกพยักหน้าอย่างเห็นด้วย แต่เธอมองไปอีกทาง
“ยิ่งถ้าเป็นเรื่องธุรกิจยิ่งเป็นไปไม่ได้เลย เพราะที่บ้านฉันไม่ค่อยเอาฉันเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องหน้าที่การงาน พวกเขาอยากให้ฉันเรียนรู้ด้วยตัวเอง ไม่มีเส้นสายหรืออะไรทั้งนั้น” พานอาร์ส่ายหน้าไปมาอย่างไม่เห็นด้วยกับความคิดนี้ของเพื่อนรัก
ไปๆ มาๆ คำพูดของพายอาร์ก็ทำให้พราวมุกเริ่มคิดหนักไม่แพ้กัน แน่นอนว่าเธอเป็นห่วงเพื่อนรัก ไม่อยากให้ต้องคิดมาก แต่ก็เข้าใจอยู่ดีว่าเรื่องแบบนี้มันห้ามกันไม่ได้ง่ายๆ
“เห้อ แล้วมันจะเป็นเรื่องอะไรไปได้ล่ะ ฉันเองก็นึกไม่ออกแล้วเหมือนกัน” พราวมุกถอนหายใจออกมาอย่างหนักใจไปกับเพื่อนด้วย
“ก็นั่นน่ะสิ นึกไม่ออกเลยจริงๆ”
“งั้นแกก็รอพรุ่งนี้ไม่ดีกว่าเหรอ มัวแต่มานั่งคิดมากอยู่แบบนี้ ก็คงไม่ได้ทำอะไรกันพอดี”
“โอเค ขอโทษนะแก วันนี้เสียมู๊ดหมดเลย แถมยังต้องมาคิดมากเป็นเพื่อนฉันอีกเนี่ย” พายอาร์เห็นสีหน้าของเพื่อนรักเริ่มมีความกังวลแทนเธอ ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกผิด จึงรีบขอโทษขอโพยเพื่อนอย่างไม่ลังเล
“ไม่เป็นไร แกน่ะอย่าคิดมากเลย เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็ได้รู้เองแหละว่ามันเรื่องอะไรกันแน่ ถึงตอนนั้นรีบมาบอกฉันให้รู้ด้วยนะ ชักจะคาใจเข้าแล้ว” พราวมุกบอกเพื่อนออกไป แต่ไม่วายกำชับให้เพื่อนมาเล่าให้ฟังอีกที
“อืม บอกแกอยู่แล้วแหละ แต่ว่าวันนี้ ฉันขอกลับก่อนนะ ไว้เจอกัน” พายอาร์พยักหน้ารับ และขอตัวกลับก่อน
“ได้ กลับดีๆ นะ มีอะไรก็โทรมาได้ตลอดเวลาเลย โอเคไหม?” ด้วยความเป็นห่วงเพื่อนสนิท พราวมุกจึงเอ่ยทิ้งท้ายประโยคดังกล่าวเอาไว้ อย่างน้อย หากพายอาร์ไม่มีใครให้ความช่วยเหลือ ก็ยังมีเธอที่พร้อมช่วยอยู่เสมอ และถึงช่วยอะไรไม่ได้ ช่วยรับฟังก็ยังดี
“โอเค กลับก่อนนะ”
“อื้ม”
บทสนทนาของพวกเธอจบแต่เพียงเท่านั้น ก่อนที่ทั้งสองจะต่างคนต่างแยกย้ายกันกลับบ้านเพื่อไปพักผ่อน
ซึ่งเมื่อกลับมาถึงห้อง พายอาร์ก็จัดการเคลียร์เอกสารการฝึกงานอยู่สักพักใหญ่ๆ ก่อนจะตัดสินใจโทรหาพี่ชายของตัวเอง เพื่อถามถึงเรื่องนัดทานข้าวของวันพรุ่งนี้
“พี่พีคะ พายมีเรื่องจะถาม” พายอาร์รีบเข้าประเด็นอย่างรวดเร็ว
[ว่าไงพาย จะถามอะไรเหรอ] เสียงชายหนุ่มดังขึ้น
“พรุ่งนี้แม่ได้นัดพี่พีไปกินข้าวกับผู้ใหญ่อีกฝั่งไหมคะ?”
[ผู้ใหญ่อีกฝั่งเหรอ ฝั่งไหนล่ะ พี่ไม่เห็นรู้เรื่องอะไรเลย อีกอย่างพี่ไม่ได้คุยกับแม่มาเป็นอาทิตย์แล้วนะ] พีรดลเอ่ยถามกลับด้วยความแปลกใจ เพราะด้วยความที่เขาบริหารงานของครอบครัวหนักมาก พ่อกับแม่จึงไม่ค่อยได้มายุ่งวุ่นวายอะไรสักเท่าไหร่นัก
“แบบนี้แสดงว่าแม่มาบังคับหนูคนเดียวสินะ” พายอาร์พูดขึ้นอย่างไม่พอใจ
[พายยังไม่ชินอีกเหรอ พี่ว่าเราควรจะชินได้แล้วนะ พี่เองไม่ได้โดนบังคับก็ยังรู้สึกว่าไม่อยากไปเถียงกับพวกท่านเลย]
“ก็จริงค่ะ แต่ก็ช่างมันเถอะ ไว้เดี๋ยวหนูมาเล่าให้ฟังนะคะ วันนี้น่าจะต้องนอนเร็ว ไว้คุยกันนะคะพี่พี” พายอาร์รู้ว่าพี่ชายคงช่วยอะไรไม่ได้มากนัก จึงตัดบทและขอตัวไปนอนเพื่อจะได้รับศึกหนักพรุ่งนี้
[โอเคครับ ถ้ามีอะไรโทรมาหาพี่นะ]
“โอเคค่ะ”
ทันทีที่สายถูกตัดไป หญิงสาวเจ้าของเรือนผมสีน้ำตาลเข้มก็หย่อนตัวลงนั่งบนโซฟาในห้องนั่งเล่นด้วยความเหนื่อยใจ นั่งพักสมองอยู่ไม่นาน ก็เข้าไปอาบน้ำชำระร่างกาย เตรียมตัวเข้านอนตามปกติ
แต่ด้วยความเป็นกังวล หลังจากที่ปิดไฟและข่มตาลงนอน พายอาร์กลับยังคงคิดไม่ตกเกี่ยวกับเรื่องนัดในวันพรุ่งนี้ เธอพลิกไปพลิกมาอยู่แบบนั้น จนกระทั่งความอ่อนเพลียทำให้เธอเผลอหลับไม่โดยไม่รู้ตัว...
เช้าวันต่อมา...
อาจเป็นเพราะว่าเมื่อคืน พายอาร์มัวแต่คิดมาก กว่าจะหลับสนิทก็ดึกมากแล้ว เช้าวันนี้เธอเลยตื่นสาย
“ไอ้พาย สายแล้วเนี่ย” หญิงสาวบ่นพึมพำอยู่กับตัวเอง ก่อนจะรีบดีดตัวออกจากเตียงนอน ตรงดิ่งไปอาบน้ำแต่งตัวทันที
ใช้เวลาในการแต่งตัวอยู่เกือบ ๆ ครึ่งชั่วโมง จากนั้นพายอาร์ก็ออกเดินทางไปยังสถานที่นัดหมายด้วยความเร่งรีบ แต่ด้วยความที่ตื่นช้ากว่าที่ตัวเองตั้งนาฬิกาปลุกเอาไว้ จึงทำให้การจราจรบนท้องถนนค่อนข้างที่จะติดขัด ไม่เป็นไปตามที่คาดไว้เลยสักอย่าง
เธอรู้สึกหัวเสียเล็กน้อย เพราะคิดว่าเวลานี้ทุกคนก็คงจะทยอยถึงร้านอาหารที่นัดหมายไว้กันหมดแล้ว เหลือก็แต่เธอที่เพิ่งจะออกมาจากคอนโดได้ไม่นาน...เพื่อความรวดเร็ว เธอจึงเดินทางด้วยรถไฟฟ้า เพราะร้านอาหารก็อยู่ใกล้ๆ กับสถานีรถไฟฟ้านั่นเอง
