บท
ตั้งค่า

บทที่ 4 พายอาร์

บทที่ 4 พายอาร์

ขณะนี้เป็นเวลาเกือบ ๆ เจ็ดโมงเช้า เสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้นมาท่ามกลางความเงียบสงบของห้องนอน จึงส่งผลให้หญิงสาวที่ขดตัวอยู่บนเตียงนอนจำต้องขยับเขยื้อนร่างกายเล็กน้อยเพื่อเอื้อมมือไปปิดเสียงนั้น เพราะมีเสียงรบกวนนั้นดังมาจากบริเวณโต๊ะข้างหัวเตียงถ้ายังปล่อยให้ดังต่อไป เธอนอนต่อไม่ได้แน่

เมื่อเสียงนาฬิกาปลุกเงียบลง เธอก็มุดตัวนอนอยู่ใต้ผ้าห่มต่อ

ด้วยความขี้เซาจึงทำให้ พายอาร์ เลือกที่จะหลับตานอนต่อโดยลืมไปว่าตัวเองจะไปตามนัดของเพื่อนสายได้ถ้ายังไม่ลุกขึ้นอาบน้ำตอนนี้ เธอยังนอนอย่างมีความสุขต่อไป แต่ทว่าอยู่ ๆ เสียงสายเรียกเข้าจากโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น ครั้งนี้พายอาร์เริ่มที่จะหมดความอดทน เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู เพื่อที่จะได้ต่อว่าได้ถูกคน ก่อนจะเห็นเต็มสองตาว่าต้นสายคือผู้เป็นแม่ จึงจำเป็นที่จะต้องตื่นขึ้นมารับสายอย่างปฏิเสธไม่ได้

“ว่าไงคะแม่...” น้ำเสียงงัวเงียของหญิงสาวร่างบางถามขึ้นด้วยความสงสัยว่ามีเรื่องอะไรที่ทำให้แม่โทรมาหาเธอได้แต่เช้าตรู่ขนาดนี้ ก่อนจะค่อยๆ หยัดกายขึ้นนั่ง เพื่อหวังให้ตัวเองตื่นตัวเสียที

[พาย ตื่นหรือยังลูก?] เสียงอ่อนโยนถามออกมาจากโทรศัพท์

“ตื่นพอดีค่ะแม่ มีอะไรหรือเปล่าคะ ทำไมถึงได้โทรมาหาพายเช้าขนาดนี้” หญิงสาวพยายามทำเสียงให้สดชื่นขึ้นเมื่อต้องคุยกับแม่

[แม่จะโทรมาบอกพายว่าวันพรุ่งนี้บ้านเรามีนัดทานข้าวกับผู้ใหญ่ช่วงเช้าน่ะลูก พายน่าจะว่างใช่ไหมลูก?] น้ำเสียงที่ถามมาเหมือนจะดูอ่อนโยนตามแบบฉบับคนเป็นแม่ แต่มีความกดดันอยู่ในนั้นด้วย

“จริง ๆ ก็น่าจะไม่ค่อยว่างนะคะแม่ พายกำลังจะยื่นเรื่องฝึกงาน ก็เลยมีหลายอย่างที่ต้องเคลียร์ให้เรียบร้อยน่ะค่ะ” พายอาร์เลือกที่จะปฏิเสธนัดในครั้งนี้อย่างไม่ลังเล เพราะเธอเองก็รู้ดีอยู่แก่ใจว่าการนัดทานข้าวแต่ละครั้งของผู้เป็นแม่ มักจะทำให้เธอหัวเสียแทบทุกครั้งเลยก็ว่าได้

[แวะมาแค่แป๊บเดียวเอง ไม่ได้เสียเวลาอะไรมากมายขนาดนั้นสักหน่อย อีกอย่างแม่รับปากผู้ใหญ่อีกฝั่งไว้แล้วด้วยว่าจะพาลูกไป จะให้เสียหน้าไม่ได้หรอกนะลูก] แม่ยังคงพยายามเกลี้ยกล่อมต่อ

“ก็คือ...ยังไงพายก็ต้องไปใช่ไหมคะ?” พายอาร์คิดสักครู่แล้วถามออกไป เผื่อว่าจะมีทางเลี่ยงบ้าง

[ก็ใช่นั่นแหละ ทำเพื่อแม่หน่อยได้ไหม? นะพายนะลูก]

“ก็ได้ค่ะ งั้นไว้พรุ่งนี้ตอนเช้าเจอกันนะคะ” พายอาร์ตอบตกลงกลับไปที่จะไปพบแม่ที่บ้านใหญ่อยู่อีกฟากหนึ่งของกรุงเทพ เพราะตอนนี้เธอแยกออกมาอยู่คนเดียวที่คอนโดใกล้มหาวิทยาลัยแทนเพื่อความสะดวก

[แม่ส่งแผนที่ไปให้ทางไลน์ แม่รอเจอลูกนะ] เสียงของแม่สดใสขึ้นมาทันทีที่ได้รับคำตอบที่ถูกใจจากลูกสาว

“ค่ะแม่” พายอาร์ตอบรับแม่ ก่อนจะตัดสายไป แล้วโยนโทรศัพท์ไปที่โต๊ะข้างเตียงอย่างไม่ไยดี

พายอาร์นั่งถอนหายใจออกมาด้วยความอึดอัด ใจจริงเธอเองก็ไม่ได้อยากไป แต่ด้วยความแม่บังคับและเธอเองก็ไม่อยากโต้เถียงไปมา เพราะรู้ดีว่าต่อให้เถียงไปก็เสียแรงเปล่า สุดท้ายไม่ว่าอย่างไรเธอก็ต้องตามใจพ่อและแม่ผู้ให้กำเนิดเหมือนอย่างที่ผ่านมา

หลังจากที่ได้คุยกับแม่ พายอาร์ก็หลับต่อไม่ลง เธอลุกออกมาจากเตียงนอน แล้วอาบน้ำแต่งตัว เตรียมจะออกไปพบปะกับเพื่อนสาวคนสนิทอย่างพราวมุกตามที่ได้นัดหมายกันเอาไว้ล่วงหน้าเมื่อวานนี้

หนึ่งชั่วโมงต่อมา...

พายอาร์มาถึงร้านอาหารที่นัดเอาไว้ได้ทันเวลานัด ก่อนจะได้พบกับเพื่อนสนิท ซึ่งมาถึงก่อนและกำลังสั่งอาหารอยู่พอดี

“อ้าว พาย แกมาพอดีเลย อยากกินอะไรเป็นพิเศษหรือเปล่า สั่งได้เลยนะ” พราวมุกเงยหน้าขึ้นยิ้มให้เพื่อนและถามออกไปด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม

“ไม่อะ ฉันไม่ค่อยหิว แกสั่งเลยพราว” พายอาร์กระแทกก้นนั่งลงแล้วตอบกลับไปอย่างหงุดหงิด จนมองมาจากดาวอังคารพราวมุกก็ว่าเธอกำลังอารมณ์ไม่ดี

“เป็นอะไรหรือเปล่าเนี่ย หน้าบึ้งมาเชียว” พราวมุกเห็นสีหน้าและท่าทางของพายอาร์ก็ถึงกับต้องถามขึ้นมาด้วยความสงสัย

“ก็เมื่อเช้า แม่ฉันโทรมาน่ะสิแล้วบอกว่า นัดให้ฉันไปทานข้าวกับผู้ใหญ่ แต่ฉันไม่อยากไปเลยอ่ะ” พายอาร์พูดขึ้นมาอย่างหงุดหงิด ก่อนจะพูดต่อเมื่อมองหน้าเพื่อนสาวตรงหน้า “แก...ว่างไหม ไปเป็นเพื่อนฉันหน่อยสิ”

“ฉันจะไปด้วยได้ยังไงกันเล่า ฉันน่ะคนนอก แกต้องไปน่ะถูกแล้ว” พราวมุกรีบปฏิเสธทันที ใครจะอยากไปอยู่ในบรรยากาศที่น่าอึดอัดแบบนั้น

“แต่ฉันว่าพ่อกับแม่ต้องหาเรื่องมาให้ฉันปวดหัวอีกแน่ๆ เลย อันที่จริงฉันก็ปฏิเสธไปแล้วนะ แต่แม่ก็ไม่ยอม บังคับให้ฉันรับปากว่าจะไปตามนัดจนได้” พายอาร์ตอบเพื่อนรักด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความไม่สบอารมณ์

ลำพังการที่ต้องจัดเตรียมเอกสารในการฝึกงานก็ยุ่งวุ่นวายมากพออยู่แล้ว แต่พ่อกับแม่ของเธอก็ดันหาเรื่องมาให้เธอต้องปวดหัวมากขึ้นไปอีกไม่เว้นแต่ละวัน ต่อต้านก็ไม่ได้ ไม่แปลกที่เธอจะรู้สึกหัวเสียและมานั่งหงุดหงิดอยู่แบบนี้

“เอาน่า ท่านเองก็คงหวังดีน่ะ แต่จะเรื่องอะไรก็ต้องดูหน้างานกันอีกที” พราวมุกปลอบใจเพื่อนสาว

“เชื่อฉันเถอะ ว่ามันต้องเป็นเรื่องไร้สาระ ที่ทำให้ฉันปวดหัวแน่นอน” พายอาร์พูดออกมาอย่างรู้จักพ่อแม่ของตัวเองดี

“แกก็ใจเย็นๆ ก่อนสิ อย่าเพิ่งคิดไปเอง มันอาจจะดีแล้วก็สำคัญกับแกมากๆ เลยก็ได้นะ” พราวมุกพูดออกไปเพราะคิดว่าพ่อแม่หวังดีกับลูกเสมอ

“อืม หวังว่าจะเป็นแบบที่แกคิด ถึงจะรู้ว่ายังไงก็ไม่ใช่” หญิงสาวเจ้าของใบหน้าสวยกล่าวพลางลอบถอนหายใจเฮือกใหญ่ออกมาอย่างลืมตัว

“อย่าเพิ่งคิดมากไปเลย กินข้าวกันดีกว่า จะได้พาแกไปชอปปิงต่อด้วย” พราวมุกยิ้มให้เพื่อน พร้อมกับตักอาหารให้อย่างเอาใจ

“ก็ได้...”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel