บทที่ 6
WARNING 6 แปรปรวน
"เป้ย.." นามิที่เพิ่งได้เจอกับเพื่อนเป็นครั้งแรกหลังจากเข้ามาทำงานในยามากุชิรีบโบกมือทักทายเพื่อนรัก เป่าเป้ยเองก็ดีใจจนลืมไปว่าตัวเองไม่ได้อยู่คนเดียว เผลอตะโกนตอบกลับไปเสียงดัง รุ่นพี่ที่อยู่ด้วยกันหันมาถลึงตาใส่หญิงสาวเป็นการเตือน
"ขอโทษค่ะรุ่นพี่"
"เธอนี่มันจริง ๆ เลย อยากทำงานที่นี่นาน ๆ ก็สำรวมหน่อย"
"ค่ะ เป้ยจะไม่ทำแบบนี้อีก" เป่าเป้ยก้มหน้ารู้สึกผิดแล้วเดินไปหานามิ ทั้งสองกอดกันด้วยความคิดถึงและเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ให้กันฟังว่าเข้ามาทำงานที่นี่เจออะไรบ้าง
"ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมคนที่เขาอยู่ที่นี่ถึงรวยเอารวยเอา งานก็มีหนักบ้างเบาบ้าง ที่แน่ ๆ คือไม่ต้องเสียเงินสักบาท ข้าวฟรี ที่พักฟรี ดีสุด ๆ เท่าที่เคยทำงานมา" นามิพูดขึ้น เป่าเป้ยพยักหน้าเห็นด้วยแล้วหันมาเอ่ยถามเพื่อน
"นามิเคยเห็นท่านโอยะบุนไหม"
"หึ ไม่เคยเลย ฉันจะไปเห็นได้ยังไง ทำงานอยู่คนละที่เลยอะ ฉันสิต้องถามเธอ เห็นคนคนนั้นบ้างไหม"
"ใครเหรอ" เป่าเป้ยเอียงคอถามเสียงใส นามิกวักมือเรียกหญิงสาวเข้ามาใกล้ ๆ แล้วกระซิบบอก
"ก็โอยะบุนสูงสุดไง ได้ยินข่าวมาว่าเขาโหดเหี้ยมมากเลยนะ"
"ระ.. เหรอ แต่เมื่อเช้าเป้ยเข้าไปเอากุญแจที่ลืมไว้ในห้องน้ำ ท่านใจดีมากเลยนะ"
"ฮะ! เป้ยเข้าไปเจอท่านในห้องน้ำเหรอ" นามิกระซิบถามอีกครั้ง
"ใช่ ท่านไม่ได้ว่าอะไรเลย หยิบกุญแจให้ด้วย" นามิทำหน้าตกใจพลางหันมองซ้ายมองขวาด้วย "ทำไมเหรอ" เป่าเป้ยเอ่ยถามเมื่อเพื่อนมีท่าทีลุกลี้ลุกลน
"เธอเห็นอะไรบ้าง เขาหล่อมากไหม"
"ไม่เห็นอะไรเลย ไม่กล้ามองหน้า เป้ยยังไม่เคยเห็นหน้าท่านเลย แต่.. ก็เห็นแผ่นหลังท่านแล้ว กล้ามแบบ.." เป่าเป้ยทำท่าให้นามิดูและทั้งสองก็หลุดยิ้มพร้อมกัน "ขนาดหลังยังดูดีมาก ๆ ไม่ต้องพูดถึงหน้าตาเลย คงหล่อเหมือนเทพบุตรมาจุติแน่"
"อยากเห็นแบบนั้นจัง อยากอยู่ที่นั่น" นามิทำหน้าเคลิ้มฝันแล้วหันไปมองหัวหน้าแม่บ้านที่กำลังเดินทำหน้าตึงมาทางพวกเธอ เป่าเป้ยโบกมือลาแล้วรีบออกมาจากตรงนั้น
"ลืมบอกนามิไปเลย ว่าท่านตัวหอมมาก ๆ" เด็กสาวยิ้มกรุ้มกริ่มแต่ก็ต้องชะงักค้างเมื่อเคนจิเดินสวนมา ชายหนุ่มหยุดยืนอยู่ตรงหน้าทำให้เธอไปไหนไม่ได้เพราะทางมันค่อนข้างแคบ
"เธอ"
"คะ.. พี่สุดหล่อ"
"เลิกเรียกฉันแบบนั้น ไม่ชอบ"
"…"!
"ห้ามเข้าใกล้.. เอ่อ.. ห้ามพูดคุยกับพี่คนหล่อมาก" ทันทีที่สรรพนามนั้นหลุดออกจากปากเคนจิ เป่าเป้ยก็หลุดขำพรืดใหญ่ "เธอ! หัวเราะอะไร" เคนจิคาดโทษเด็กสาวทางสายตาแต่เป่าเป้ยกลับไม่หยุดขำง่าย ๆ จนกระทั่งเขาเปิดเสื้อสูทออกให้เห็นด้านปืนที่เหน็บอยู่เอว เป่าเป้ยสะอึกและปิดปากเงียบกริบ
"พะ.. พี่สุดหล่อ"
"ห้ามทำตัวสนิทสนมกับพี่คนหล่อ และห้ามเข้าไปก่อกวนเขาในสวนต้องห้ามอีก เข้าใจไหม"
"เข้าใจค่ะ แต่ถ้าพี่คนหล่อให้เป้ยไปหา พี่สุดหล่อจะทำยังไง" เรื่องนี้เขาไม่ได้คิดมาด้วยสิ แต่นายคงไม่เรียกหาเด็กคนนี้แน่นอน ที่เจอกันเพราะเธอจุ้นจ้านเองต่างหาก
"ถ้าไม่จำเป็นก็ไม่ต้องไป จำที่ฉันบอกไว้ให้ดี"
"ค่ะ พี่สุดหล่อรับเป้ยเป็นน้องสาวได้ไหมคะ เป้ยอยากมีพี่ชายจริง ๆ นะ ถึงพี่จะชอบดุก็เถอะ แต่มันเหมือนพี่ชายกำลังดุน้องสาว" ว่าจบก็คลี่ยิ้มกว้าง คนที่ถูกเร้าหรือถอนหายใจเบา ๆ แล้วเดินออกมาโดยไม่พูดอะไรเลย เป่าเป้ยยู่ปากเข้าหากันแต่ทว่าหางตากลับเหลือบเห็นแผ่นหลังกำยำของคนคนหนึ่ง เดินเข้าไปในสวนต้องห้ามเธออมยิ้มแล้วเดินเรียบ ๆ มาหยุดยืนอยู่หน้าสวน
"เจ้าเป็นใครกัน!" เสียงสั่นเครือของคนที่อยู่ด้านหลังเป่าเป้ยดังขึ้น เด็กสาวสะดุ้งตัวโยนรีบหันมามอง "มาทำอะไรที่นี่ พื้นที่หวงห้ามเจ้าไม่รู้อะไรเลยรึ" ผู้อาวุโสชิระเค้นเสียงลอดไรฟันถามเด็กสาวคนตรงหน้า เป่าเป้ยตัวสั่นเทาราวกับลูกนกแต่ทว่ากลับมีเสียงหนึ่งดังออกมาจากสวน
"เอะอะอะไรกัน ฉันกำลังอ่านหนังสือ"
"รีบออกไป! ท่านโอยะบุนบอกไม่ได้ยินหรือไง" ลูกน้องหนุ่มคนหนึ่งที่ยืนอยู่ด้านหลังผู้อาวุโสชิระเอ่ยบอกเป่าเป้ยพลางใช้สายตาออกคำสั่ง เธอรีบก้มศีรษะทำความเคารพแล้วเดินออกมาก่อน ผู้อาวุโสมองตามอย่างครุ่นคิด
"นายน้อย.."
"ครับ" อชิลุกออกมาพยุงตัวผู้อาวุโส พาท่านไปนั่งลงบนศาลาเหมือนที่เคยทำ ชายหนุ่มมองหน้าผู้อาวุโสเพียงนิด
"เดี๋ยวนี้นายน้อยเอาแต่หมกตัวอยู่ในสวนไร้กังวล นายน้อยไม่เหงาบ้างเหรอครับ"
"ไม่เหงาเลยครับ วันนี้มีซ้อมดาบด้วย.. ท่านคงไม่ได้มาหาผมเพราะเรื่อง.."
"วันนี้ท่านผู้อาวุโสตระกูลฮาจะพาลูกสาวมาที่นี่ ผมอยากให้นายน้อยพาเธอเที่ยวชมบ้านเรา" อชิไม่ได้ปฏิเสธแต่แววตาเขาก็บอกชัดเจนแล้วว่าไม่อยากทำเรื่องแบบนี้ "ฮารุกะ เธอเป็นเด็กน่ารัก"
"แต่.." ชายหนุ่มพ่นลมหายใจออกหนัก ๆ ก่อนจะก้มศีรษะให้ผู้อาวุโสแล้วรับปาก
"เมื่อครู่มีเด็กคนหนึ่ง ยืนด้อม ๆ มอง ๆ อยู่หน้าสวน ผมไม่แน่ใจว่าเธอตั้งใจมาที่นี่หรือแค่เดินผ่านมา" อชิรู้ทันทีว่าคนที่ผู้อาวุโสกล่าวถึงคือเป่าเป้ย
"เธอเป็นคนดูแลพื้นที่ตรงนี้ครับ เธอเพิ่งเข้ามาทำงานที่นี่"
"ปกติเด็กใหม่จะไม่มีสิทธิ์มาที่นี่ แต่นางทำผิดกฎเราต้องตักเตือนและลงโทษ"
"ผมจะทำ ขอตัวก่อนนะครับ" อชิเดินออกมาจากสวนด้วยสีหน้าเรียบเฉยไร้รอยยิ้ม ลูกน้องอีกสี่คนเดินประกบหลังมาติด ๆ เขาต้องจัดการกับตัวเองเพื่อเตรียมพร้อมรับแขกที่จะมาวันนี้
"เด็กคนนั้นชื่ออะไร ไปสืบมาให้ฉัน"
"ครับผม"
ชิระถอนหายใจเบา ๆ ก่อนจะออกมาจากสวน เขามองเห็นเป่าเป้ยอยู่ไกล ๆ เธอมีรอยยิ้มสดใสเหมือนคนคนหนึ่งที่เคยรู้จัก
"เฮ้อ~" อชิยืนกางแขนอยู่ท่ามกลางคนดูแลกำลังสวมใส่ชุดยูกาตะสีกรมมีลายนกกระเรียนสีขาว มันเป็นเรื่องน่าเบื่อสำหรับเขามาก ๆ "ออกไป" เมื่อแต่งตัวเสร็จชายหนุ่มก็นั่งลงบนเก้าอี้พลางเหลือบตามองเคนจิ
"เธอคงมาไม่นานหรอกมั้งครับ"
"ขอให้เป็นแบบนั้น" อชิยกถ้วยน้ำชาขึ้นจิบเพื่อรอเวลา และไม่นานก็มีคนมารายงานว่าตระกูลฮามาถึงห้องโถงใหญ่แล้ว เขาสะบัดแขนเสื้อเล็กน้อยและเดินอาด ๆ ออกมาจากห้องพัก เหล่าแม่บ้านและลูกน้องหลายสิบคนที่อยู่บริเวณนั้นต่างหยุดนิ่งและทำความเคารพผู้เป็นนาย รวมถึงเป่าเป้ยด้วย เด็กสาวเม้มริมฝีปากเข้าหากันแน่นอยากจะเงยหน้าขึ้นมามองแต่กลับถูกรุ่นพี่ดึงแขนไว้ก่อน
"ถ้าไม่อยากคอขาด ห้ามมองหน้าท่าน"
"ค่ะพี่" เธอตอบกลับเสียงสั่น
'เราต้องอยู่รอด เราต้องไม่ทำอะไรเสี่ยงตายที่นี่ เราต้องรวยก่อน'
เธอคิดในใจแล้วลุกออกมาทำงานกับรุ่นพี่อีกคนทางด้านหลังบ้าน
"ท่านโอยะบุน.." ผู้อาวุโสฮาทำความเคารพอชิที่อายุน้อยกว่า ชายหนุ่มรีบก้มศีรษะเคารพกลับ เด็กสาวหน้าตาจิ้มลิ้มส่งยิ้มมาให้เขาก่อนจะเอ่ยทักทายอย่างสนิทสนม
"พี่อชิ.."
"ครับ.. ฮารุกะ"
ผู้เป็นพ่อยิ้มไม่หุบที่ได้พาลูกสาวมาที่นี่ นี่ไม่ใช่การมาเที่ยวชมบ้านหากแต่เป็นการนัดหมายดูตัวที่ทางผู้อาวุโสเห็นดีเห็นงามกันที่จะให้อชิมีคู่หมายต่างหาก
"ฮารุกะเรียกพี่อชิได้ไหมคะ ไม่อยากเรียกนายท่าน มันดูแก่ไป"
"ได้" ชายหนุ่มตอบกลับเสียงเรียบ ก่อนจะผายมือไปที่ทางเดินเพื่อจะพาเธอไปชมรอบตัวบ้าน ทั้งสองเดินออกมาพร้อมกันโดยที่อชิไม่ยอมเอามือออกจากการไพล่หลังเลย ริมฝีปากหนาขยับพูดกับฮารุกะแต่สายตากลับมองไปทางอื่น เธอไม่ได้รับความสนใจจากอชิเลย
"อ้าว พี่คนหล่อนี่"
"เธอ.."
"จะไปไหนเหรอคะ" เป่าเป้ยเดินเข้ามาถามอย่างสนิทสนมทำเอาฮารุกะรู้สึกไม่พอใจมาก ๆ กับการไม่ให้ความเคารพของเป่าเป้ย เธอไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงจริง ๆ
"เธอเป็นใคร!"
"อ๊ะ.. พะ.. พี่คนนี้เป็นใครกันเหรอคะ เป็นแม่บ้านที่นี่เหมือนกันเหรอพี่คนหล่อ"
"เธอ!"
เพียะ!
"อ๊ะ!" เป่าเป้ยล้มลงกับพื้น เธอถูกฮารุกะตบอย่างแรงจนพวงแก้มนวลแดงระเรื่อขึ้นมาทันที อชิขมวดคิ้วยุ่งแล้วรีบคว้ามือฮารุกะไว้ทัน แรงบีบข้อมือทำเธอหน้าเสียและร้องออกมาด้วยความเจ็บ
"เธอคิดจะทำอะไร!" อชิเค้นเสียงถามอย่างเดือดดาล
"ฮารุกะจะสั่งสอนคนไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง"
"เธอไม่มีสิทธิ์มาสั่งสอนคนของฉัน!" อชิสะบัดมือฮารุกะแล้วพยุงเป่าเป้ยลุกขึ้น ในตอนนั้นเคนจิก็เข้ามาพอดี เขารีบรับตัวเป่าเป้ยมาและพาออกมาจากตรงนั้น
"พี่อชิปล่อยไปได้ยังไงคะ"
"นั่นมันเรื่องของฉัน เธอไม่มีสิทธิ์มาแตะต้องคนของฉันแม้แต่ปลายเล็บก็ไม่มีสิทธิ์"
"พี่อชิ.."
"กิริยาเธอช่างต่ำช้ากว่าอะไร สมควรแล้วหรือที่จะมาเป็นคู่ครองฉัน หยุดคิดและรีบไสหัวไปก่อนที่ฉันจะไม่ไว้หน้าพ่อเธอ"
"พะ.. พี่อชิ"
อชิหันหลังเดินออกมาทันที เขากำหมัดแน่นจนแขนสั่นเทา น่าแปลกที่เขารู้สึกโกรธกับเรื่องแค่นี้ ทั้งที่เมื่อก่อนไม่เคยแคร์ด้วยซ้ำว่าใครจะเป็นจะตายยังไง