รักต้องห้าม

215.0K · จบแล้ว
ฅนบนดอย
107
บท
4.0K
ยอดวิว
8.0
การให้คะแนน

บทย่อ

Warning รักต้องห้าม -อชิ- ลูกชายคนเดียวของเบก้าอดีตโอยะบุนสูงสุดของแก๊งยากูซ่าที่ยกตำแหน่งให้ลูกชายคนเดียวดูแลแทน เพราะเขาศัทธาในอุดมการณ์ แต่เหตุการณ์ในอดีตที่เกิดขึ้นกลับกำลังจะเกิดขึ้นซ้ำอีกรอบ ความแค้น และ ความรักที่ไม่น่าเกิดขึ้น... นิสัยส่วนตัวอชิ เย็นชา นิ่ง และโหดเหี้ยม -เป้าเป้ย- เด็กสาวผู้อาภัพ เธอเสียพ่อและแม่ไปตั้งแต่จำความไม่ได้ ต้องซ่อนตัวอยู่กับครอบครัวที่ไม่เคยยอมรับเธอเลย แต่เธอกลับเป็นคนคนเดียวที่ทุกคนรอคอยอย่างมีความหวัง  เธอคือความหวัง  นิสัยส่วนตัวเป่าเป้ย สดใส ช่างพูด และเธอมีใบหน้าที่สวย รอยยิ้มหวานละมุน คำเตือน นิยายเรื่องนี้มีเนื้อหาและฉากรุนแรง มีคำพูดหยาบคาย ทำให้แตกแยก โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน เนื้อหาในนิยายกลั่นกรองออกมาจากจินตนาการของผู้เขียนเอง  ห้าม ห้ามดัดแปลงเนื้อหาในนิยาย หากพบเจอจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด!! โปรดอ่าน ฝากกดหัวใจและกดเพิ่มเข้าชั้นด้วยนะคะ อย่าลืมกดหัวใจใหเกันด้วยนะ...

นิยายรักนิยายปัจจุบันดราม่าคนรับใช้โรแมนติก18+

บทนำ

บทนำ

เปรี้ยง!

เสียงฟ้าร้องดังสนั่นหวั่นไหวที่มาพร้อมกับสายฝนกระหน่ำเทลงมาอย่างหนัก น้ำที่ขังอยู่ตามร่องถนนขรุขระกระเซ็นออกเมื่อยามที่เท้าของสองแม่ลูกเหยียบลง ทั้งสองเร่งฝีเท้าอย่างเร็วโดยไม่หวั่นเกรงว่าทางข้างหน้าจะมีเศษแก้วหรือขวากหนามไหม

“เป้ย.. วิ่งลูกอย่าหยุด” เด็กน้อยวัยสี่ขวบวิ่งหน้าตั้งตามที่แม่บอก เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าสิ่งที่ทำอยู่หมายความว่ายังไง เรียวแขนถูกฝ่ามือของแม่จับไว้แน่นคล้ายว่ากระชากตัวเธอให้วิ่งด้วยซ้ำ

“มะ.. แม่คะ เราวิ่งทำไมเหรอ” เป่าเป้ยหันมาถามแม่เสียงติดหอบและมองไปทางด้านหลัง เธอทำหน้าตกใจไม่น้อยที่มีกลุ่มชายฉกรรจ์วิ่งตามมา ทุกคนมีดาบในมือดูน่ากลัวมาก “คุณแม่ พวกเขาวิ่งตามเราทำไม” ด้วยความที่เธอยังเด็กและไม่รู้ประสาจึงหยุดวิ่งและรั้งมือแม่ไว้

“ไม่ได้นะลูก หนี เราต้องหนีไปจากที่นี่”

“ค่ะ” เด็กน้อยตั้งหน้าวิ่งต่อจนหลุดพ้นสายตาชายกลุ่มนั้นได้ แต่เธอถูกแม่พามาที่ที่หนึ่ง “มะ.. แม่คะ แม่ทำอะไรคะ”

“ลูกต้องซ่อนตัว อยู่ตรงนี้นะอย่าออกมาเข้าใจไหม”

“แม่..”

“อย่าออกมา เข้าใจที่แม่บอกไหม!”

“ค่ะ..”

“เดี๋ยวแม่มา” เด็กน้อยนั่งกอดเข่าอยู่ข้างถังขยะใบใหญ่ก่อนที่แม่ของเธอจะนำถุงดำหลาย ๆ ถุงมาวางรอบตัวเธอเพื่ออำพรางไม่ให้ใครเห็น เป่าเป้ยมองตามหลังแม่ตาปริบ ๆ แต่ก็ต้องตกใจเกือบหลุดเสียงร้อง เธอยกมือขึ้นมาปิดปากตัวเองไว้แน่น แม่ถูกชายฉกรรจ์จับตัวไว้ในขณะที่แม่หันมามองเธอด้วยใบหน้าเปื้อนน้ำตา สิ่งที่เป่าเป้ยเห็นคือรอยสักที่ข้อมือของคนกลุ่มนั้นที่มีกันทุกคน

“กล้ามาก..” สิ้นเสียงปลายดาบซามูไรเล่มยาวก็แทงเข้าที่ท้องแม่ของเธอ เด็กน้อยน้ำตาไหลพรากแต่ไม่กล้าร้องออกมาด้วยกลัวจะถูกจับตัวไป ภาพสะเทือนใจคิดตาเธอ เธอเห็นแม่ถูกผู้ชายพวกนั้นลากออกไปอย่างไม่ใยดี

“มะ.. แม่~”

สิบห้าปีต่อมา

“เฮ้อ~” เสียงหอบหายใจดังขึ้นภายในห้องซ้อมดาบ อชิตวัดดาบคู่กายที่ได้รับจากปู่ไปตรงหน้าคู่ซ้อมวันนี้จนปลายดาบสัมผัสที่คาบ หยาดเหงื่อของคู่ซ้อมหยดลงจนเกิดเสียง “อีกสักยก”

“แต่นายครับ.. ผมไม่ไหวแล้ว” เหมือนคำพูดเขาไม่เป็นผลกับผู้เป็นนาย ยากูซ่าหนุ่มก้าวเข้าไปซ้อมดาบกับลูกน้องอย่างหนักจนปลายดาบเฉือนถูกหลังมือลูกน้องเลือดออกมากมาย หยาดเลือดสีแดงสดกระจายทั่วพื้นสีขาวพาลทำให้ชายหนุ่มไม่สบอารมณ์

“รายงานมา” อชิหันหลังเดินเอาดาบไปเก็บเข้าฝักก่อนที่จะคว้าขวดน้ำดื่มมากระดกเข้าปากอึกใหญ่

“กบฏพวกนั้นถูกเราตามเก็บเกือบหมดแล้วครับ”

“เกือบหมด.. แต่ก็ยังเหลือ เฮ้อ~” เสียงพ่นลมหายใจออกดังขึ้นพร้อมร่างสูงใหญ่ชุ่มเหงื่อที่เดินเข้ามาหาลูกน้อง ก่อนที่อชิจะยื่นมือไปบีบคอหนาสุดแรงด้วยความเดือดดาล “เข้าใจความรู้สึกของสมาชิกที่สละชีวิตเพื่อเราไหม คำว่าเกือบหมด.. มันเหมือนเสี้ยนหนามคอยตำใจฉันไม่หยุด เก็บมันให้หมดอย่าให้เหลือแม้แต่คนเดียว ใครที่มันให้ความร่วมมืออย่าเอามันไว้!”

“อึก.. คะ.. ครับนาย” ลูกน้องหนุ่มกระตุกเกร็งจะขาดอากาศหายใจตายจนวินาทีสุดท้าย อชิปล่อยมือแล้วเดินกลับไปหยิบเสื้อคลุมมาสวมทับร่างกายท่อนบนที่ไม่มีสิ่งใดปกปิดมัดกล้ามเนื้อกำยำ

“นายครับ.. มีรายงานมาว่า กบฏซากิมีลูกคนหนึ่งครับ และเขาคือบุคคลสำคัญอาจจะเป็นภัยแก่ยามากุชิเราในภายภาคหน้า”

“ลูก?”

“ครับ ไม่ทราบว่าเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย แต่ผู้อาวุโสบางท่านบอกมาว่าเขาคนนั้นมีปานที่หนึ่งเป็นรูปดอกซากุระ”

“มันอายุเท่าไหร่”

“ตอนนี้น่าจะสิบเก้าปีแล้วครับ”

“หามันให้เจอ ก่อนที่คนพวกนั้นจะเจอก่อน และฆ่ามันซะ”

“ครับนาย”

“อย่าให้เหลือรอดแม้แต่คนเดียว กบฏยังไงก็คือกบฏ” มือหนากำหมัดแน่นจนสั่นเทิ้ม เหตุการณ์ในอดีตเมื่อครั้งที่พ่อและปู่ขึ้นเป็นโอยะบุนเขาจำได้ดีว่า วันนั้นมีคนล้มตายกี่คน ภาพเลือดสีแดงสดนองพื้นยังติดตาเขาไม่เคยเลือนหาย เสียงกรีดร้องโหยหวนขอชีวิตในวันนั้นยังตามหลอกหลอนตลอดเวลา

“เฮ้อ~” อชิพ่นลมหายใจออกหนัก ๆ เพื่อปรับอารมณ์ที่กำลังพลุ่งพล่าน มือหนายังไม่คลายออกจากกันด้วยความโกรธที่เพิ่มพูนขึ้นตอนนี้ ลมหายใจร้อนถูกระบายออกมาอย่างหนัก

“นายน้อยคะ ป้าเตรียมของว่างไว้ให้แล้ว จะนั่งพักก่อนหรือเข้าห้องเลยคะ” แม่นมที่เลี้ยงอชิมาตั้งแต่แบเบาะเดินเข้ามาถามด้วยใบหน้าเปื้อนรอยยิ้ม พาลทำให้เขาอารมณ์ดีขึ้นบ้าง

“ผมขอตัวก่อน แล้วจะไปที่สวน”

“ค่ะ ท่านผู้อาวุโสถามหานายน้อยด้วย”

“ครับ ชิไม่ว่างเจอใครตอนนี้” อชิปฏิเสธเสียงแข็ง เดินผ่านหน้าแม่นมไปพร้อมกับลูกน้องคนสนิท เมื่อเข้ามาในห้องพักส่วนตัวแล้วเขาคลายมือออกแล้วนั่งลงบนเก้าอี้เพื่อสงบสติอารมณ์ “เคนจินายไปสืบมา เด็กคนนั้นมันอยู่ที่ไหน”

“ครับ”

“อย่าให้ใครรู้”

“ครับนาย”

“ออกไปได้แล้ว” เคนจิก้มศีรษะเล็กน้อยรับคำสั่งแล้วหันหลังเดินออกมา แต่ในตอนที่เดินออกมา เขากลับเจอผู้อาวุโสชิระ เคนจิหยุดและทำความเคารพทันที

“ผู้อาวุโสมีธุระกับนายเหรอครับ”

“อืม.. เจ้าจะไปไหน”

“ผมจะออกไปทำธุระครับท่าน”

“อืม.. ไปได้” ชิระสะบัดมือให้เคนจิแต่ในตอนที่หันหลังให้เขาก็เอ่ยขึ้นเสียงเบา “อย่าลืม..”

“…” เคนจิหยุดนิ่งแล้วเงยหน้าขึ้น ก่อนที่จะหันมามองผู้อาวุโสชิระแล้วทำความเคารพและเดินออกไปในทันที

“นายน้อย..”

“ผู้อาวุโสชิระ” อชิรีบลุกขึ้นมาประคองท่านพาไปนั่ง

“นายน้อยเอาแต่ซ้อมหนักจนไม่มีเวลาเจอกันเลย”

“ครับ”

“ช่วงนี้ทุกอย่างยังเงียบ”

“ครับ.. ตอนนี้ที่สภาไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง อีกทั้งปู่ก็กำลังเข้าสู่ช่วงพักผ่อน เลยไม่มีงานเท่าไหร่”

“ครับ ผมเข้าใจ”

“ถ้ามาคุยเรื่องเมื่อสิบปีก่อน ตอนนี้ผมไม่พร้อมที่จะพูดคุยกับใคร ต้องขออภัยด้วยนะครับ”

“เปล่า.. ผมไม่ได้มาหานายน้อยเพราะเรื่องนั้น แต่จะมาบอกว่าเราจะเปิดรับสมัครคนเข้ามาทำงานในยามากุชิแล้วนะครับ”

“อ๋อ.. ครับ”

“นายน้อย…”

“ถ้าเป็นเรื่องหาคู่ครอง ตอนนี้ผมไม่สะดวกเลย และ.. ไม่ต้องส่งผู้หญิงคนไหนมาให้ดูตัว เพราะไม่มีใครถูกใจเลย” ว่าจบอชิก็ลุกเดินออกมาจากตรงนั้นอย่างเสียมารยาท ชิระยิ้มกรุ้มกริ่มให้กับความเอาแต่ใจของเจ้านาย หลายเดือนมานี้พวกเขาพยายามหาคู่ครองให้อชิตลอด และไม่มีใครที่ถูกเลือกเลย แม้จะเป็นลูกสาวคนใหญ่คนโตแค่ไหน มีฐานะเงินทองมากมายแต่อชิไม่มองพวกเธอเลย บ้างก็ถูกแกล้งจนไม่กล้ากลับมาที่ยามากุชิอีก บ้างก็ร้องไห้คร่ำครวญออกไปเหตุเพราะถูกอชิปฏิเสธและทำเย็นชาใส่

“นายน้อยนะนายน้อย..”