บทที่ 5
WARNING 5 ตีสนิท
อชิขบกรามแน่นแล้วเดินไปที่ตู้เอกสารสำคัญ พบว่ามันถูกรื้อออกมาหมด เอกสารหลายอย่างกระจัดกระจายเต็มห้องเขาและมีของอย่างหนึ่งหายไปจากตู้
"เคนจิไปไหน!" เขาตะเบ็งเสียงถามลูกน้องพร้อมกับเก็บดาบเข้าฝัก
"ลูกพี่ตามผู้อาวุโสชิระเข้าสภาครับนาย"
"อืม.." เขาปรายตามองรอยเลือดที่หยดไปเป็นทางก่อนจะเดินออกมาจากห้องนอนอย่างหัวเสีย
ร่างหนาเดินอาด ๆ เข้ามาในสวนไร้กังวลพลางกวาดสายตามองไปรอบ ๆ ก่อนจะสบถคำอย่างหัวเสีย
"อย่าคิดจะมาตลบหลัง เพราะถ้าฉันจับได้โทษของแกคือตาย!" เขาเอ่ยขึ้นโดยไม่คิดอะไรมาก ก่อนจะพ่นลมหายใจออกหนัก ๆ เพื่อระงับอารมณ์พลุ่งพล่านตอนนี้ นานหลายนาทีกว่าที่มันจะเย็นลงได้
หนึ่งชั่วโมงต่อมา
"เฮ้อ~" อชินั่งขัดสมาธิและหลับตาแน่น เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้เขาไม่สามารถควบคุมอารมณ์ตัวเองให้เย็นลงได้เลย นี่ก็ดึกมาแล้วและที่สำคัญเขายังไม่ได้ออกไปจากสวนไร้กังวล ความเงียบเท่านั้นที่จะช่วยให้เขาสงบนิ่งได้
ไม่นานร่างหนาก็เอนตัวนอนลงพลางนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่กลับน่าแปลกใจมากเมื่อภาพรอยยิ้มสดใสของเป่าเป้ยแทรกเข้ามาในความคิดจนอชิต้องเปิดเปลือกตาขึ้น มุมปากหนาค่อย ๆ ปรากฏรอยยิ้มเอ็นดู
"หึหึ.." เขาหัวเราะออกมาเบา ๆ ก่อนที่จะพักสายตาจนถึงเช้าของวันใหม่
เช้าวันต่อมา
เคนจิเดินหน้าตั้งเข้ามาในสวน แต่ก็ต้องชะงักค้างที่เห็นอชินั่งดื่มชาอยู่บนศาลาพร้อมกับเป่าเป้ย(?)
"เธออีกแล้วเหรอ!"
"เอาน่า เธอแค่เดินผ่านมาฉันเลยให้เข้ามาที่นี่ เพราะเจ้านายบอกให้เข้ามาทำความสะอาด"
"…" เคนจิขบกรามแน่นขณะที่เด็กสาวก้มหน้างุดไม่กล้าสบตา "เป็นอะไรไหมครับ" เคนจิเอ่ยถามออกไปตรง ๆ แต่กลับไม่ได้รับคำตอบจากอชิ ยากูซ่าหนุ่มตวัดสายตามองลูกน้องเพียงนิดแล้วหันมามองเป่าเป้ย
"เธอเข้ามาที่นี่เพราะฉันอนุญาต ไม่ต้องกลัวว่าจะถูกลงโทษหรอก"
"แต่ทำไมพี่คนหล่อถึงเข้ามาที่นี่ได้คะ"
"ฉัน.. ได้รับอนุญาตจากเจ้านายน่ะ"
"แบบนี้นี่เอง แต่หนูขอถามอะไรได้ไหมคะ" เป่าเป้ยเอ่ยถามเสียงเบาแม้เคนจิจะส่งสายตาดุดันมาก็ตาม "พี่เคยเห็นท่านโอยะบุนไหมคะ"
"เลิกถามได้แล้ว ไปทำงาน!" เคนจิดุเธอก่อน ทำให้เป่าเป้ยรีบลุกออกมาแล้วถือชามใส่น้ำไปอีกที่ เธอถูพื้นและเก็บเศษใบไม้ที่ร่วงลงมาบนศาลา อชิส่ายหน้าไปมาเป็นเชิงห้ามลูกน้อง
"ไปทำความสะอาดกัน"
"วะ.. ว่าอะไรนะครับ"
"นายไปกวาดใบไม้ เดี๋ยวฉันเก็บหนังสือเอง" อชิหันไปยิ้มให้เด็กสาวจนเป่าเป้ยยกนิ้วให้เมื่อมีคนช่วย เคนจิมองใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มของเด็กสาวแล้วหงุดหงิดใจมาก ๆ เขาถอนหายใจยาว ๆ เดินไปหยิบไม้กวาดไปกวาดเศษใบไม้ตามที่เจ้านายสั่ง ส่วนอชิเก็บหนังสือที่ตนเองเอาออกมาอ่านจนเรียบร้อย
"ฟู่.. ขอบคุณมาก ๆ นะคะที่ช่วยหนู ไม่งั้นคงไม่เสร็จง่ายแน่"
"อืม.." ชายหนุ่มปัดชุดเล็กน้อยพลางตอบรับในลำคอแต่ทว่ากลับมีมือน้อย ๆ ยื่นมาจัดชุดให้เขา ดวงตาของอชิปรากฏเงาสะท้อนเป่าเป้ย "เธอทำอะไร"
"ก็ปัดฝุ่นให้ไงคะ แล้วก็จัดระเบียบชุดให้พี่ด้วย พี่รู้ตัวไหมว่าใส่ชุดยูกาตะแล้วหล่อมาก ๆ เลย"
"อืม.. ขอบใจ" อชิเดินออกมาจากศาลา เป่าเป้ยรีบเดินมาประกบ
"ตีสนิท!" เคนจิพูดขึ้น
"ไม่เอาน่า นายทำหน้าเครียดตั้งแต่เช้า เดี๋ยวก็แก่เร็วหรอก"
"…" ลูกน้องหนุ่มทำได้เพียงถอนหายใจหนัก ๆ ครั้งแล้วครั้งเล่า และยอมให้เป่าเป้ยทำในสิ่งที่ขัดหูขัดตาเขา
"พี่สุดหล่อ เป้ยเรียกพี่แบบนี้ได้ไหมคะ" เป่าเป้ยเอ่ยถามเคนจิอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ แต่อชิกลับหลุดขำกับสีหน้าเขา "ไม่ได้ใช่ไหมคะ"
"จุ้นจ้าน! ตีสนิท!"
"งั้นเป้ยเรียกพี่ว่าพี่สุดหล่อนะคะ แล้วนี่ก็พี่คนหล่อ"
"หึหึ.. เอาตามที่เธอถนัด ฉันไม่มีปัญหา" อชิตอบกลับเสียงเรียบแล้วเดินออกมาจากสวน "เธอ.. ไม่ต้องกลัวจะถูกลงโทษ"
"พี่จะช่วยเหรอคะ"
"เปล่า.. พี่สุดหล่อจะช่วย" อชิพูดอย่างยิ้ม ๆ
"ขอบคุณค่ะ~" เป่าเป้ยคลี่ยิ้มและเอ่ยขอบคุณเคนจิ
"เด็กน้อย.. ฉันขอตัวก่อน"
"พี่ยังไม่ตอบคำถามหนูเลยนะคะ"
"…"?
"พี่เคยเห็นท่านโอยะบุนไหมคะ"
"เคย.."
"ท่านเป็นยังไงคะ"
"หึ.." อชิหันหลังเดินออกไปจากตรงนั้นโดยที่ไม่ตอบอะไร เคนจิพ่นลมหายใจออกแล้วเดินมาหยุดยืนตรงหน้าเป่าเป้ย
"อย่าล้ำเส้นให้มาก ฉันไม่ชอบ.. และอย่ามาตีสนิท"
"แต่เป้ยไม่ได้ตีสนิทเลยนะคะ เป้ยอยากมีพี่ชายแบบพี่สุดหล่อ"
"เฮ้อ~ เด็กหน้ามึนอย่างเธอ พูดอะไรไปก็ไม่จำใส่สมองหรอก น่ารำคาญจริง ๆ" เคนจิส่ายหน้าไปมาเบา ๆ ก่อนที่จะเดินตามผู้เป็นนายไปที่หอนอน เป่าเป้ยยู่ปากเข้าหากันแล้วรีบกลับไปทำงานต่อ
"เมื่อวานนายไปที่สภามาใช่ไหม"
"ครับ ขออภัยที่ไม่ได้แจ้งนายก่อน"
"ไม่เป็นไร นายคงรู้เรื่องแล้ว"
"ครับ ผมสมควรได้รับโทษที่ทำให้นายตกอยู่ในอันตราย"
"แล้วนายคิดว่าโทษนายควรได้รับแบบไหนดีล่ะ"
"…" เคนจิเงียบแล้วก้มศีรษะพร้อมรับโทษ
"ตัดมือ? ตัดลิ้น? หรือตัดหัวก่อนดี?" อชิแสยะยิ้มมุมปากเมื่อได้หยอกล้อเพื่อนสนิทคนเดียว "หึหึ.. ฉันจะลงโทษนายได้ยังไง นายไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย"
"นายโปรดให้อภัยในความบกพร่องของผม"
"เอาเถอะ แต่เมื่อวานคมดาบฉันทำมันบาดเจ็บ และฉันแน่ใจว่ามันเป็นคนในยามากุชิ ไม่งั้นคงไม่รู้ทางเข้าออกดีขนาดนี้"
"ครับนาย"
"จัดการให้เรียบร้อย"
"ครับ" เคนจิเดินออกมาจากห้องนอนผู้เป็นนาย เมื่อไร้ลูกน้องแล้วอชิจึงถอดชุดยูกาตะออก เหลือเพียงกางเกงขายาวผ้าฝ้ายอย่างดีที่ปกปิดร่างกายท่อนร่าง ชายหนุ่มเดินอาด ๆ ไปที่ห้องน้ำและก้าวลงไปแช่น้ำในอ่าง
"อ๊า~" เคนจิเอามือกุมท้องเดินออกมาและนั่นก็ทำให้เป่าเป้ยที่กำลังทำงานอยู่อีกฝั่งสังเกตเห็นเขา
"พี่สุดหล่อเป็นอะไร"
"กุญแจเปิดประตูห้องสมุดอยู่ที่ไหนเป้ย"
"คะ?" เป่าเป้ยทำหน้าตกใจกับคำถาม เธอลุกลี้ลุกลนหากุญแจในกระเป๋าเสื้อ เพราะวันนี้เธอรับผิดชอบถือพวงกุญแจใหญ่ที่ใช้เปิดห้องสำคัญ "หะ.. หายแล้วค่ะ"
"หาย! หายไปไหน" รุ่นพี่พูดเสียงลอดไรฟันด้วยสีหน้าตกใจไม่แพ้กัน
"เป้ยลืม ตะ.. ตายแล้ว เป้ยลืมไว้ในถาดใส่ผ้าขนหนูในห้องน้ำของทะ.. ท่านโอยะบุน"
"ตายแล้วยัยเป้ย ตายแน่ ๆ" รุ่นพี่หน้าเสียเหมือนถูกมีดมาจ่อคอ เป่าเป้ยหน้าถอดสี
"เดี๋ยวเป้ยไปเอามาให้นะคะ แป๊บเดี๋ยว นายท่านคงยังไม่เข้าอาบน้ำหรอก เดี๋ยวมานะคะ" ว่าจบเด็กสาวก็รีบวิ่งสลับกับเดินเร็วไปที่ห้องน้ำส่วนตัวผู้เป็นนาย
เธอสูดลมหายใจเข้าปอดเฮือกใหญ่เรียกความมั่นใจแล้วจึงเปิดแง้มประตูเข้ามาช้า ๆ เสียงเปิดประตูทำให้อชิเปิดเปลือกตาขึ้น
"อ๊ะ! นะ.. นายท่าน" เป่าเป้ยรีบคุกเข่านั่งลงทันทีและก้มหน้าลง
"เธอเข้ามาได้ยังไง!" อชิทำเสียงดุใส่แล้วลุกขึ้น ชายหนุ่มหยิบผ้าขนหนูมาพันรอบเอวสอบก่อนจะเดินเข้ามาใกล้ ๆ เด็กสาว "เธอเป็นใคร!" น้ำเสียงเข้มจัดทำเป่าเป้ยตัวสั่นเทาด้วยความกลัว
"นะ.. หนูขะ.. เข้ามาเอากุญแจที่ลืมไว้ค่ะ"
"อยากตายเหรอ"
"…" เด็กสาวน้ำตาคลอแต่ไม่ทันได้ไหล กุญแจพวงใหญ่ก็วางลงบนหน้าตักเธอ "เอ๊ะ..?"
"อย่าเข้ามาสุ่มสี่สุ่มห้าอีก คมดาบฉันไม่เคยเลือกว่าใครควรตายก่อนหรือหลัง"
"ค่ะนายท่าน" ด้วยน้ำเสียงเข้มจัดทำให้เป่าเป้ยไม่รู้ว่าคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าคืออชิ เด็กสาวหันหลังแล้วคลานดุ๊กดิ๊กออกมา แต่ในตอนที่จะปิดประตูก็แอบเหลือบตามองแผ่นหลังกำยำผู้เป็นนายด้วย แต่ทว่าเธอเห็นในตอนที่เขากำลังจะปลดผ้าขนหนูเธอก็รีบเบือนหน้าหนีและรีบออกมาจากตรงนั้น
"จุ้นจ้านจริง ๆ หึ.."