บท
ตั้งค่า

บทที่ 2

WARNING 2 เด็กใหม่

สองวันต่อมา

เคนจิเดินเข้ามาสวนต้องห้ามพร้อมกับรายงานผลการสอบให้ผู้เป็นนายฟัง

"การสอบคัดเลือกคนเข้ามาทำงานในยามากุชิจบลงแล้วครับนาย ได้คนมาทำงานทั้งหมดห้าสิบคนและเป็นหญิงยี่สิบห้าคนเป็นชายยี่สิบห้าคนครับ พรุ่งนี้คนงานใหม่จะเข้ามาพบนายและทำการลงชื่อเข้ารับการทำงานและเซ็นสัญญากันที่นี่ครับ"

"อืม.. นั่งสิ" อชิรินน้ำชาให้เคนจิพลางเลื่อนสายตาขึ้นมองหน้าลูกน้องหนุ่มที่ยังยืนนิ่งไม่ไหวติง เมื่อถูกสายตาดุดันมองมาเป็นเวลานานคล้ายว่าจะกดดันเคนจิก็รีบนั่งลง

"นายครับ.. ผมว่ามันไม่ควร"

"นายเอาอะไรมาวัด ว่าอันไหนควรไม่ควร" อชิเอ่ยถามเสียงเรียบพลางยกแก้วชาขึ้นจิบเล็กน้อย "ที่ตรงนี้มีแค่นายกับฉันเท่านั้นที่เข้ามาได้"

"ผมรู้ครับ แต่.."

"ดื่มชาเถอะ หากเย็นไปกว่านี้รสชาติมันคงเปลี่ยน" เคนจิพ่นลมหายใจออกอย่างยอมแพ้แล้วยกแก้วชาขึ้นจิบเล็กน้อย พื้นที่ตรงนี้เป็นที่ต้องห้ามของอชิ ไม่มีผู้ใดกล้าเข้ามาหากไม่ได้รับอนุญาต มีแต่เคนจิคนเดียวเท่านั้นที่สามารถเข้าออกได้โดยไม่ต้องขออนุญาตก่อน

"นายครับ เรื่อง.."

"ทำยังไงก็ได้ หามันให้เจอแล้วฆ่ามันซะ" อชิเอ่ยตอบเสียงเรียบแล้วรินน้ำชาให้ลูกน้องอีก "สิ่งที่น่าเบื่อที่สุดของการเป็นโอยะบุนคือการไม่มีเวลาเป็นของตัวเอง ที่แห่งนี้เปรียบเสมือนที่ของฉัน มันไร้พันธนาการและไร้ความกังวล ฉันถึงตั้งชื่อให้มันว่าสวนไร้กังวลยังไงล่ะ"

"ครับ นาย"

"มีธุระก็ไปจัดการเถอะ ฉันขออ่านหนังสือก่อนแล้วจะออกไป" อชิหันไปมองหนังสือที่ตนเองหยิบมาแล้วค่อย ๆ เอนหลังพิงเบาะรองนอน เขาอ่านหนังอยู่คนเดียวภายในสวนไร้กังวล ความเงียบและความสงบทำให้จิตใจเขาสงบนิ่งและรู้สึกดีอย่างน่าประหลาด จึงเป็นที่มาของสวยต้องห้ามแห่งนี้

•••

"เฮ้อ.. ไปสืบมาได้ความว่ายังไงบ้าง"

"ตอนนี้ผมได้ไปถามชาวบ้านแถวนั้นแล้ว ทุกคนบอกว่าเธอกับลูกออกมาจากหมู่บ้านนั้น"

"ตามหาให้เจอ ก่อนที่นายน้อยจะเจอเธอก่อน"

"ครับ.." ร่างสูงใหญ่หันหลังเดินออกมาทันทีเมื่อรับคำเสร็จ

วันต่อมา

อชินั่งอยู่ในห้องโถงใหญ่ เขาแต่งกายด้วยชุดยูกาตะสีดำเช่นเดียวกันกับเคนจิ ไม่นานลูกน้องก็พาคนงานใหม่เข้ามาด้านในห้องโถง ทุกคนก้มหน้าไม่มีใครเงยหน้าขึ้นมาสบตาสักคนเพราะถูกเตือนก่อนเข้ามาว่าห้ามมองหน้าหรือเงยหน้าเด็ดขาด

"ขอให้ทุกคนทำงานที่นี่อย่างเต็มที่และซื่อสัตย์ซื่อตรง ขอให้มีความสุข.." เมื่อกล่าวคำอวยพรเสร็จอชิก็เดินออกมา เขาเดินผ่านคนกลุ่มนั้นไปสายตาเหลือบเห็นเด็กสาวสองคนที่กำลังจะเงยหน้าขึ้นแต่กลับถูกลูกน้องเดินเข้ามาขัดก่อน

'กลิ่นน้ำหอมนั้น…เหมือนวันที่ผู้ชายคนนั้นเดินผ่านเลย'

เป่าเป้ยคิดในใจแล้วหันมองตามหลัง เธอเห็นแผ่นหลังกว้างของผู้ชายคนนั้น วันนี้เขาอยู่ในชุดยูกาตะสีดำทมิฬน่าเกรงขาม

"เอาล่ะ ต่อไปนี้คือการแบ่งแยกพื้นที่ที่ต้องดูแล จะมีพี่เลี้ยงพาไปดูงานที่ต้องทำและสอนงานให้ทุกท่าน"

เป่าเป้ยพ่นลมหายใจออกเพื่อระบายความเครียดที่เกิดขึ้น ทำงานที่นี่ไม่ได้ง่ายเลย และสุดท้ายเธอกับนามิก็ได้แยกกันไปทำคนละที่ จะเจอกันก็ตอนที่ฟ้ามืดแล้วเท่านั้น

16:00

"เฮ้อ~ ปวดหลังจัง" เป่าเป้ยเดินเข้ามานั่งลงบนเก้าอี้หินอ่อนด้านหน้าสวนแห่งหนึ่ง เธอบีบนวดแขนและขาเพื่อไล่ความเมื่อยล้าจากการทำงานวันแรก ยอมรับเลยว่านี่เป็นงานแรกที่เคยทำ เธอรู้สึกประหม่าไม่น้อยเลย กฎระเบียบก็เยอะจนไม่กล้าทำอะไรแม้กระทั่งการเดินหรือการพูดก็ต้องระวัง หากทำผิดไปอาจจะโดนลงโทษ การลงโทษที่นี่ยังใช้วิธีโบราณคือการเฆี่ยนตีด้วยไม้หวายเพื่อให้หลาบจำและจดจำสิ่งที่เคยทำผิดพลาด

"เธอ!"

"อ๊ะ!" เป่าเป้ยรีบลุกขึ้นโดยเร็ว ใบหน้าสวยแสดงออกถึงความกลัวสุดขีด

"ห้ามมาเพ่นพ่านที่นี่ ไม่มีใครบอกเธอรึไงว่าห้ามมาที่สวนแห่งนี้!"

"ขะ.. ขอโทษค่ะ ฉันไม่ทราบว่าที่นี่เป็นที่หวงห้าม ขอโทษค่ะ" เธอรีบขอโทษขอโพยด้วยความกลัว แต่ชายหนุ่มคนตรงหน้ากลับเงียบไป

"เธอเป็นเด็กใหม่ใช่ไหม"

"คะ.. ค่ะ"

"ฉันจะไม่บอกพี่เลี้ยงเธอ รีบออกไปซะ" เป่าเป้ยรีบกุลีกุจอออกไปจากตรงนั้นด้วยความกลัวอย่างหนัก เนื้อตัวสั่นเทิ้มราวกับนกน้อยนั่งตากฝนเพราะหางตาเหลือบเห็นดาบซามูไรที่ชายหนุ่มคนเมื่อครู่ถือไว้ข้างกาย

"เอะอะอะไรกัน" อชิเอ่ยถามลูกน้องโดยไม่หันมาสบตากับเคนจิ

"มีเด็กใหม่มาเพ่นพ่านหน้าสวนครับนาย เลยไล่ให้ไปแล้ว"

"เธอมาเพ่นพ่านแถวนี้ได้ ก็แสดงว่าเธอทำงานที่ตรงนี้สิ?"

"ครับ เขตรับผิดชอบเธออยู่ที่พักของนาย"

"เอาเถอะ เธออาจจะยังไม่รู้กฎเกณฑ์ที่นี่ อย่าถือสา" อชิเงยหน้าขึ้นมาสบตากับเคนจิ ลูกน้องหน้าก้มศีรษะทำความเคารพแล้วจึงนั่งลงบนเก้าอี้ข้างศาลา "รายงานเรื่องของนายมา"

"ผมไปตามสืบแล้วครับ สองแม่ลูกนั้นหายไปนานหลายปี บ้างก็มีคนบอกว่าทั้งคู่ตายแล้ว บ้างก็บอกว่าเห็นเดินเก็บขยะขายตามข้างทาง แต่.."

"อะไร"

"มีหญิงชราคนหนึ่ง บอกว่าเด็กคนนั้นเป็นผู้หญิงครับนาย"

"ผู้หญิงงั้นเหรอ" อชิปิดหนังสือที่กำลังอ่าน หันมามองหน้าลูกน้องด้วยความสนใจ "ซากิ.. มีลูกสาวงั้นเหรอ"

"ครับ"

"จัดการต่อ เงียบ ๆ .."

"ครับนาย" เคนจิหันหลังเดินออกมาจากสวนทันที

"เด็กคนนั้น.." อชิกำหมัดแน่นและมองรอยแผลเป็นบนต้นแขนตัวเองด้วยความโกรธแค้น

เป่าเป้ยเดินคอตกเข้ามาในห้องนอนส่วนตัว เธอยังตกใจกับเหตุการณ์เมื่อไม่กี่นาทีที่แล้วอยู่ หัวใจดวงน้อยกระตุกวูบหลายต่อหลายครั้ง

"เราจะอยู่รอดถึงตอนที่รวยแล้วไหมนะ แค่นี้หัวใจก็จะวายตายแล้ว" กำปั้นน้อย ๆ ทุบหน้าอกข้างซ้ายของตัวเองเบา ๆ ก่อนจะเดินไปหยิบผ้าขนหนูแล้วไปอาบน้ำชำระร่างกาย

หลายนาทีต่อมา

เป่าเป้ยนั่งเช็ดผมอยู่หน้ากระจกบานใหญ่ ความเงียบที่เกิดขึ้นทำให้เธอรู้สึกอ้างว้างในใจขึ้น น้ำตาเอ่อคลอเบ้าอย่างง่ายดายเมื่อภาพเหตุการณ์ในอดีตย้อนกลับมา

"อึก.. ฮือ~" เด็กสาวร้องไห้ออกมาด้วยความเจ็บปวดใจ ภาพสุดสะเทือนใจยังติดตาแม้พยายามลืมเท่าไหร่แต่เหมือนยิ่งจำ ลบล้างออกไปจากความทรงจำไม่ได้เลย "แม่~" เธอร้องหาแม่เหมือนเด็กน้อยคนหนึ่ง แต่เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าหนัก ๆ ของคนคนหนึ่งก็รีบปาดน้ำตาแล้วเปิดประตูออกมาดู "ฮะ.." เป่าเป้ยรีบยกมือปิดปากเมื่อเห็นชายชุดดำคนหนึ่งเดินไปทางสวนต้องห้าม ด้วยความกล้าเธอจึงเดินออกมาพร้อมกับเทียนจุดให้แสงสว่างหนึ่งเล่ม ด้วยเพราะที่นี่ยังคงความเป็นดั่งเดิมไม่ค่อยนำเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาใช้มากนัก

"ใคร" เสียงเข้มของชายคนหนึ่งดังขึ้น หัวใจดวงน้อยกระตุกวูบไปอยู่ปลายเท้า เทียนในมือดับไปด้วยสายลมที่พัดมากระทบใบหน้า เป่าเป้ยค่อย ๆ หันกลับมามองเจ้าของคำถามนั้น

"คะ.. ใครคะ"

"ฉันถามว่าเธอเป็นใคร"

"ปะ.. เป้ยค่ะ เป็นเด็กใหม่"

"เป้ย.." อชิค่อย ๆ ก้าวออกมาจากความมืดจนมาหยุดยืนตรงหน้าเด็กสาว เป่าเป้ยเงยหน้าขึ้นสบตากับชายหนุ่มภายใต้แสงสลัวของตะเกียงที่แขวนนอกระเบียง

"พี่ทำงานที่นี่เหมือนกันเหรอคะ"

"อืม.."

"ขอโทษนะคะที่มารบกวน หนูจะรีบกลับห้องตอนนี้เลยค่ะ" เป่าเป้ยรีบเดินกลับไปยังห้องนอนตัวเอง อชิหันกลับไปมองเด็กสาวผมประบ่าแล้วกระชับเสื้อคลุม แล้วเดินเข้ามาในสวนไร้กังวล

"ฟู่.. เกือบแล้ว"

'ผู้ชายคนนั้น.. เขาดูดีมาก ๆ เลย มัดกล้ามเนื้อเรียงสวย.. จมูกโด่งคม'

"แต่เราก็ไม่เห็นหน้าพี่เขาชัดอยู่ดี" เป่าเป้ยพ่นลมหายใจออกเบา ๆ แล้วเข้านอนเพราะพรุ่งนี้เธอต้องตื่นตั้งแต่ตีสี่เพื่อไปเตรียมน้ำให้ท่านโอยะบุนสูงสุดอาบ เธอค่อนข้างประหม่ามาก ๆ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel