ตอนที่ 7 - เรียนจบอย่างที่ตั้งใจ
ช่วงเวลาของการเป็นนักศึกษาก็ได้จบลง พลอยใสเรียนจบปริญญาตรีด้วยเกียรตินิยมอันดับหนึ่งของคณะ เธอพยายามตั้งใจเรียนเพื่อให้ยายของเธอภาคภูมิใจ และอีกหนึ่งเหตุผลก็คือกวิน คำลาที่เขาบอกให้เธอตั้งใจเรียน บอกให้เธอเป็นเด็กดี แล้วเขาจะกลับมาหา วันนี้เธอทำได้แล้ว แล้วเมื่อไรกวินจะกลับมาหาเธอสักที
วันรับปริญญาเธอได้ถ่ายรูปร่วมกับเพื่อนๆ ไปแล้ว และตอนนี้ก็เป็นเวลาของคุณยายของเธอ
“ยายยินดีด้วยนะลูก เรียนจบแล้วแถมยังได้เกียรตินิยมอันดับหนึ่งอีกด้วย ยายภูมิใจในตัวหนูจริงๆ” ผู้เป็นยายยิ้มจนแก้มแทบปริ หลานสาวที่เฝ้าทะนุถนอมเลี้ยงดูกันมา วันนี้ก็เรียนจบอย่างที่ตั้งใจเอาไว้แล้ว หญิงชราภูมิใจในตัวหลานสาวคนนี้เป็นอย่างมาก
“ขอบคุณค่ะยาย ถ้าไม่มียายก็ไม่มีหนูในวันนี้ค่ะ” พลอยใสสวมกอดยายของเธอ ยายผู้เป็นที่รักและที่พึ่งหนึ่งเดียวที่เหลืออยู่ แล้วก็หอมแก้มอีกฟอดใหญ่
“กลับบ้านกันเถอะ เดี๋ยวยายทำกับข้าวเลี้ยงฉลองกัน”
“ค่ะยาย”
กลับเข้าบ้านยายมณีก็เข้าครัวลงมือทำมื้อเย็นด้วยตัวเองโดยที่มีป้าแหวนคอยช่วยอยู่ห่างๆ ส่วนลุงฝันพอไปรับกลับจากมหาวิทยาลัยตอนนี้ก็มัวแต่ไปล้างรถอยู่ที่โรงจอดรถ
ค่ำวันนี้ยายมณีให้ป้าแหวนกับลุงฝันร่วมโต๊ะด้วย บ้านของเราเหลือกันแค่สี่ ป้าแหวนเป็นแม่บ้านเก่าแก่ตั้งแต่ยายของเธอยังเป็นสาวๆ ส่วนลุงฝันก็เป็นสามีของป้าแหวน และยังเป็นคนขับรถพ่วงคนสวนของบ้านหลังนี้
ทุกต่างแสดงความยินดีกับบัณฑิตป้ายแดง อาหารมื้อค่ำนี้แม้จะไม่ได้หรูหราอะไรมาก แต่รอยยิ้มอิ่มเอมใจของทุกคนก็ทำให้มื้อนี้เป็นมื้อที่แสนพิเศษได้
พลอยใสใช้เวลาพักผ่อนและหาข้อมูลในการเตรียมตัวสมัครงาน หลังจากพักอยู่บ้านได้ประมาณสองอาทิตย์เธอก็เริ่มเดินสายหางานทำ
พลอยใสส่งเรซูเมไปให้บริษัทนับสิบแต่ก็ไม่มีบริษัทไหนตอบกลับมาเลย และอีกหลายๆ บริษัทที่ไม่ได้ส่งประวัติไปเพียงเพราะเหตุผลที่ว่าไม่รับนักศึกษาจบใหม่
เวลานับสิบกว่าวันที่เดินหน้าหางานทำมันไม่ง่ายเลย เพียงเพราะเธอไม่มีประสบการณ์ในการทำงาน บริษัทต่างๆ ที่อยู่ใกล้บ้านเลยไม่มีที่ไหนรับเข้าทำงาน
พลอยใสเปิดเข้าค้นหาข้อมูลการรับสมัครงานในอินเตอร์เน็ตต่อ จนมาพบเว็บไซต์รับสมัครงานของโรงแรมแห่งหนึ่ง
จากข้อมูลที่แสดง โรงแรมแห่งนี้เปิดกิจการมาได้ประมาณสี่ปีแล้ว และยังอยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร พร้อมกันนั้นยังรับนักศึกษาจบใหม่ แม้สาขาที่เธอเรียนมาจะไม่ได้เกี่ยวข้องกับการโรงแรมโดยตรง แต่แผนกที่เปิดรับคือแผนกฝ่ายขาย รายละเอียดที่ลงไว้คือเปิดรับคนที่จบการศึกษาระดับปริญญาตรี สาขาการตลาดและสาขาที่เกี่ยวข้อง ซึ่งสาขาที่เธอเรียนคือการจัดการ เธอคิดว่ามีสิทธิ์ที่จะได้งานนี้เลยส่งเรซูเมไปให้ทางอีเมล
และสิ่งที่เธอคิดมันก็ดันเป็นจริง เพราะช่วยบ่ายของวันต่อมา โรงแรมดังกล่าวก็ได้ส่งอีเมลตอบกลับให้เธอเข้าไปสัมภาษณ์งานที่โรงแรมอีกครั้งในอีกสองวันถัดไป
วันนี้เป็นวันที่เธอมีนัดสัมภาษณ์ พลอยใสตื่นตั้งแต่เช้าตรู่เพื่อลุกมาเตรียมข้าวต้มไว้สำหรับเธอและยายมณีและทำเผื่อป้าแหวนกับลุงฝันด้วย
ชุดที่เธอเลือกใส่วันนี้เป็นกระโปรงสีดำ และวันนี้ก็เป็นวันศุกร์เธอจึงเลือกหยิบเสื้อเชิ้ตสีฟ้าอ่อนมาใส่คู่กัน เหมาะกับลุคสาวหวานในวัยทำงานเป็นอย่างยิ่ง
“คุณหนู วันนี้แต่งตัวสวยจังเลยนะคะ” ป้าแหวนที่ตื่นเช้ากว่าเธอและกำลังกวาดบ้านอยู่ชั้นล่างเอ่ยถาม
“วันนี้หนูมีสัมภาษณ์งานค่ะ” พลอยใสตอบกลับด้วยรอยยิ้ม เธอคิดว่ายังไงก็ต้องได้ทำงานที่นี่อย่างแน่นอน ไม่รู้ว่าเพราะอะไร แต่เซนส์มันบอกอย่างนั้น
“แล้วนี่คุณหนูอยากกินอะไรคะ เดี๋ยวป้าทำให้” ป้าแหวนถือไม้กวาดแล้วเดินตามพลอยใสที่เดินกำลังจะเข้าไปในครัว
“หนูว่าจะทำข้าวต้มค่ะ ป้าแหวนหุงข้าวรึยังคะ” พลอยใสมองหาหม้อหุงข้าวก็เห็นว่าเสียบปลั๊กและมีไฟแสดงการทำงานของเครื่องขึ้นอยู่
“ป้าหุงแล้วค่ะ นี่ก็น่าจะสุกพอดี คุณหนูไปนั่งรอนะคะ เดี๋ยวป้าทำให้”
“วันนี้พลอยใสอยากทำเองค่ะ ป้าแหวนไปกวาดบ้านเถอะ พลอยใสทำแค่แป๊บเดียวก็เสร็จแล้วค่ะ” พลอยใสทำหน้าอ้อนแล้วผลักร่างของแม่บ้านเก่าแก่เบาๆ เพื่อให้ออกไปจากห้องครัว
“ก็ได้ค่ะ ถ้ามีอะไรให้ป้าช่วยก็เรียกได้เลยนะคะ เดี๋ยวป้าไปกวาดบ้านก่อน” ป้าแหวนทำตามที่คุณหนูของบ้านต้องการ
พลอยใสใช้เวลาในครัวประมาณยี่สิบนาทีข้าวต้มร้อนๆ ก็ได้ถูกตักใส่ถ้วยแล้วนำมาวางไว้ที่โต๊ะอาหาร ยายมณีก็เดินลงมาได้จับจังหวะที่ทำเสร็จแล้วพอดี สองยายหลานเลยนั่งกินข้าวด้วยกัน
ก่อนจะออกจากบ้านผู้เป็นยายก็ได้ให้พรหลานสาว “ยายขอให้หนูได้งานนี้นะลูก จะได้ไม่ต้องเหนื่อยไปสมัครงานหลายที่”
“ขอบคุณค่ะยาย”
เมื่อได้รับพรแล้วก็ไม่ลืมที่จะสวมกอดแล้วหอมแก้มไปอีกฟอดใหญ่ ได้รับกำลังใจดีแบบนี้ สัมภาษณ์งานครั้งนี้คงไม่ยากเกินเอื้อม
พลอยใสขอออกจากบ้านมาเอง เธอเดินมาเรียกรถแท็กซีที่หน้าหมู่บ้าน ใช้เวลาเดินทางประมาณสี่สิบนาที เพราะโรงแรมอยู่ห่างจากบ้านของเธอยี่สิบห้ากิโลเมตร ที่ใช้เวลานานเพราะกรุงเทพฯ รถค่อนข้างจะติดในช่วงเช้าและตอนเย็นหลังเลิกงาน
และแล้วเธอก็ได้มายืนอยู่หน้าโรงแรมสุดหรู ที่มีป้ายชื่อของโรงแรมขนาดใหญ่ตั้งอยู่ตระหง่านอยู่ตรงปากทางเข้ามาและติดที่หน้าตึกของโรงแรม เธอหายใจเข้าออกลึกๆ เงยหน้าขึ้นมองแผ่นป้ายตัวหนังสือขนาดใหญ่ที่มีคำว่า โรงแรมแกรนด์ดีซี แบงค็อก โฮเทล ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ แล้วคลี่รอยยิ้มหวานเพื่อเรียกขวัญและกำลังใจให้กับตนเอง