บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 4 - ลาก่อนเด็กน้อย

กวินใช้เวลาสามวันในการจัดเก็บกระเป๋าและของใช้จำเป็นที่จะนำติดตัวไปประเทศอังกฤษ การย้ายที่อยู่ในครั้งนี้ก็เหมือนกับการไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ เขาพยายามคิดแต่ในแง่ดีเพื่อปรับตัวตั้งแต่เนิ่น ๆ แต่มันก็ไม่ได้ทำให้รู้สึกดีขึ้นมาบ้างเลย

และแล้ววันนี้ก็เป็นวันที่ต้องออกเดินทาง เขาขอเวลาแม่ของเขาเพื่อไปบอกลาน้องสาวข้างบ้านและยายของเธอ

ตลอดเวลาที่ผ่านมา สองยายหลานก็เสมือนเป็นครอบครัวของเขาเช่นเดียวกัน บ่อยครั้งที่ไปขอฝากท้องที่บ้านหลังนั้น ไหนจะเด็กสาวที่ชื่อว่าพลอยใส ก็รักและชอบเขาเหมือนพี่ชายคนหนึ่ง

“คุณยายครับ ผมมาลาครับ” กวินเดินเข้าไปในตัวบ้าน เดินเข้าไปหายายมณีที่กำลังนั่งทำขนมอยู่ในครัว

“ทำไมมาลาล่ะ กวินจะไปไหนเหรอลูก” หญิงชรายังไม่ทราบเรื่องจึงได้ถามขึ้น

“ผมจะย้ายไปอยู่อังกฤษแล้วครับ”

“ไปวันนี้เลยเหรอ แล้วพ่อกับแม่เราล่ะ”

“ไปด้วยกันนี่แหละครับ พวกเราย้ายไปอยู่กับลุงที่อังกฤษ ผมไปเรียนต่อที่นั่น ส่วนพ่อก็ไปรักษาตัวที่นั่นเหมือนกันครับ” กวินเอ่ยกับหญิงชราด้วยน้ำเสียงอ่อนใบหน้าไร้รอยยิ้ม

“กวินไปแล้วพลอยใสคงจะคิดถึงมากแน่ ๆ เลย แล้วนี่เราได้บอกกับน้องรึยัง”

“ยังเลยครับ แล้วพลอยใสล่ะครับ ผมกะจะมาบอกเธออยู่พอดี”

“พลอยใสอยู่บนห้องจ้ะ ขึ้นไปหาน้องสิ หรือว่าจะให้ยายขึ้นไปเรียกให้” คุณยายชี้ขึ้นไปข้างบน กวินเกรงใจเลยเลือกที่จะเดินขึ้นไปหาพลอยใสเอง

“เดี๋ยวผมไปเองก็ได้ครับ”

“จ้ะ ขึ้นไปเถอะ”

หลังจากยายมณีอนุญาต กวินก็ขึ้นไปหาพลอยใสที่บนห้อง เขายืนเคาะประตูเรียกอยู่สองสามครั้งก่อนที่เธอจะเปิดประตูออกมา

“พี่กวิน” เด็กสาวคลี่ยิ้มกว้างดีอกดีใจที่ได้เห็นหน้าของเขา

“พลอยใส”

“คะ” พลอยใสขานรับแล้วรอฟังว่าเขาจะพูดอะไรต่อ

“ต่อไปพี่ไม่ได้ไปโรงเรียนพร้อมกับพลอยใสแล้วนะ พี่จะย้ายไปอยู่อังกฤษแล้ว พลอยใสต้องเป็นเด็กดี เชื่อฟังคุณยายนะเข้าใจมั้ย”

“ไปเที่ยวเหรอคะ ไปนานมั้ย แล้วจะกลับมาเมื่อไร” พลอยใสยังคงไม่เข้าใจ เธอคิดว่าเขาแค่ไปเที่ยว แล้วก็คงจะกลับมาในเร็ววัน

“พี่ไม่ได้ไปเที่ยว พี่ไปอยู่ที่นั่นเลย และคงไม่ได้กลับมาแล้วล่ะ” พอประโยคนี้จบลง เด็กสาวก็คว่ำปากทำท่าจะร้องไห้ แล้วก็ปล่อยโฮออกมา

“ไม่ ฮึก พลอยใสไม่ให้พี่ไป ฮือ…” เธอเอ่ยเสียงกระท่อนกระแท่นกอดแขนของเขาไม่ยอมปล่อย

“ไม่ร้องนะเด็กดี” กวินดึงตัวเด็กสาวเข้ามากอดพร้อมกับเอ่ยปลอบ

“พี่จำเป็นต้องไป พี่สัญญาว่าพี่จะคิดถึงพลอยใส ไว้พี่เรียนจบแล้วพี่จะรีบกลับมาหาพลอยใสเลย โอเคมั้ย”

“สัญญาแล้วนะคะ ฮึก”

“อื้ม พี่สัญญา” พูดจบกวินก็ชูนิ้วก้อยไปรอเกี่ยวกับนิ้วน้อยๆ ของอีกฝ่ายเพื่อให้คำมั่นสัญญาต่อกัน แม้ตัวเขาเองก็ยังไม่รู้ว่าจะได้กลับมาอีกหรือไม่ แต่เพื่อให้พลอยใสสบายใจแล้วหยุดร้องไห้ เขาจึงจนใจต้องทำแบบนี้

กวินยืนรอพลอยใสหยุดร้องไห้แล้วเช็ดคราบน้ำตาให้แห้งสนิท ทั้งสองคนจึงพากันลงไปชั้นล่างของบ้าน พลอยใสกอดแขนของกวินเอาไว้แน่นเพราะไม่อยากจะปล่อยมือ

“พลอยใสมาหายายนี่มา พี่เขาต้องไปแล้วลูก” ยายมณีกวักมือเรียกหลานสาว เธอรู้ว่าพลอยใสคงไม่ยอมปล่อยกวินกลับบ้านไปแน่

“ไม่ค่ะ” พลอยใสเอ่ยปฏิเสธเสียงแข็ง

“ไม่ดื้อนะพลอยใส เชื่อฟังคุณยายนะ แล้วพี่จะกลับมาหา” กวินให้คำมั่นกับเธออีกครั้ง พลอยใสถึงยอมปล่อยมือ

“กลับมาจริงๆ นะคะ แล้วพลอยใสจะรอ พลอยใสจะตั้งใจเรียน พลอยใสจะเชื่อฟังคุณยาย พี่กวินต้องรีบกลับมาหาพลอยใสเลยนะคะ” เด็กสาวร่ายประโยคยืดยาวเพื่อต่อรองกับพี่ชายที่แสนดีของเธอ

พลอยใสไม่อยากให้กวินจากไปนาน ถ้าเธอเป็นเด็กดีอย่างที่เขาต้องการ เขาจะต้องกลับมาหาเธอตามที่สัญญากันเอาไว้

“อื้ม” กวินขานรับเด็กสาว ก่อนจะหันไปพูดกับหญิงชรา “คุณยายครับผมไปก่อนนะครับ สวัสดีครับ” แล้วก็ยกมือไหว้ลาอีกครั้ง

“พี่ไปละนะพลอยใส ลาก่อนเด็กน้อย”

“ลาก่อนค่ะพี่กวิน” พลอยใสคลี่ยิ้มจางๆ ให้พี่ชายของเธอ ก่อนที่แผ่นหลังของเขาจะลับหายไปจากประตูบ้าน

ครอบครัวของกวินเดือนทางมาถึงประเทศอังกฤษเป็นที่เรียบร้อยแล้ว คนงานในบ้านไม่มีใครตามมาด้วยเลยแม้แต่คนเดียว เพราะทุกคนต่างคิดเห็นเหมือนกันว่าไม่อยากจากบ้านเกิดไปไหนไกล

ทั้งสามคนพักอาศัยอยู่ในบ้านหลังใหญ่ร่วมกับกรันย์เจ้าของบ้านและกันต์ธีลูกชายของเขา

ในคฤหาสน์หลังใหญ่ถูกแบ่งออกเป็นสองฝั่ง ฝั่งซ้ายเป็นห้องพักของกวินและกันต์ธี ส่วนฝั่งขวาเป็นห้องของเจ้าของบ้านอย่างกรันย์ และห้องของลักขณาและกฤติน

ส่วนห้องตรงกลางที่ขึ้นบันไดไปก็เจอเป็นห้องแรก เป็นห้องทำงานของกรันย์

ลักขณาเลือกที่จะทำงานดูแลบ้านแทนที่จะไปทำงานที่โรงแรม จะได้มีเวลาดูแลสามีของเธอได้อย่างสะดวก แม้ว่าจะมีพยาบาลพิเศษที่กรันย์จ้างมาดูแลอยู่แล้ว แต่เธอก็ยังอดห่วงสามีไม่ได้ เธออยากเฝ้าดูเขาในทุกช่วงเวลา เผื่อว่าวันไหนเขาฟื้นขึ้นมาจะได้เห็นเธอเป็นคนแรก

กรันย์ได้จัดการเรื่องเรียนให้กวินเป็นที่เรียบร้อยแล้ว รอวันเปิดเทอมก็ไปเรียนพร้อมกับลูกชายของเขาได้เลย เพราะโรงเรียนของทั้งคู่อยู่ไม่ไกลกันมาก

“ไฮโบร” กันต์ธีเอ่ยทักทายเป็นภาษาอังกฤษ ในขณะที่เขาถือวิสาสะเข้ามาในห้องของกวิน

“อืม”

กวินย้ายมาอยู่ที่ประเทศอังกฤษได้หนึ่งอาทิตย์แล้ว แต่เขากลับกลายเป็นคนพูดน้อยและไม่ค่อยร่าเริงเหมือนแต่ก่อน

“คิดถึงบ้านเหรอครับ”

“อืม” กวินส่งเสียงในลำคออย่างขอไปที

“งั้นผมไม่กวนพี่ละ บาย” กันต์ธีเห็นว่ากวินไม่ค่อยคุยด้วยเลยรีบออกจากห้องไป

เขาเองก็สงสารกวินเหมือนกัน คงจะมีเรื่องให้คิดมาก จากพี่ชายที่ชอบคุยเล่นกับเขาได้อย่างสนุกสนานเฮฮา เดี๋ยวนี้กลายเป็นคนนิ่งขรึม พูดน้อย เดาความคิดไม่ถูก

กันต์ธีเลยเลือกที่จะออกจากห้อง ปล่อยให้กวินอยู่คนเดียวไปก่อน นานวันเข้าถ้ากวินเริ่มคุ้นชินกับบ้านหลังนี้แล้ว ก็อาจจะกลับมาเป็นพี่ชายคนเดิมของเขาก็ได้

พอถึงวันเปิดเทอมกวินก็ออกจากบ้านไปพร้อมกับกันต์ธีโดยมีคนขับรถของที่บ้านคอยไปรับไปส่ง

และโรงเรียนที่พวกเขาสองคนเข้าเรียนนั้นก็เป็นโรงเรียนเอกชนที่ดีที่สุดในรัฐแห่งนี้

กันต์ธีมีอายุสิบสี่ปี โรงเรียนที่อังกฤษถือเป็นนักเรียนระดับมัธยมศึกษาหรือ ไฮ สคูล

ส่วนกวินที่มีอายุสิบหกย่างเข้าสิบเจ็ด เดิมทีเขาจะต้องมาเรียนซ้ำในระดับมัธยมศึกษาอีกหนึ่งปีเพื่อปรับพื้นฐานก่อนจะสอบเข้าระดับอาชีวศึกษา ในประเทศไทยจะนับเป็นระดับมหาวิทยาลัย แต่ด้วยความสามารถในการเรียนของกวินอยู่ในระดับดีเยี่ยม และเขาเองก็มั่นใจได้ว่าจะสามารถสอบเข้าได้ กรันย์เลยเลือกที่จะตามใจหลานชาย แล้วเขาก็สอบผ่านเข้ามหาวิทยาลัยได้อย่างที่พูดเอาไว้

กวินเลือกเรียนหลักสูตร BBA หรือบริหารธุรกิจ เขาใช้เวลาเรียนอยู่สามปีก็เรียนจบการศึกษาตามหลักสูตร เขาได้รับปริญญาบัตรด้วยวัยเพียงยี่สิบปี

ลักขณาแม่ของเขาได้เสียชีวิตลงหลังจากที่กวินเรียนจบปริญญาตรีไปได้เพียงแค่สองเดือน เธอตรวจเจอมะเร็งในลำไส้ระยะสุดท้าย หมอไม่อาจรักษาได้ กวินเสียใจเป็นอย่างมาก แต่เขาก็ต้องก้าวเดินต่อไปข้างหน้า แม้ว่าแม่ของเขาจะจากโลกนี้ไปแล้ว แต่เขาก็ยังมีพ่อที่ต้องดูแลอยู่อีกคน

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel