ตอนที่ 9 ข่าวดีที่ว่าคืออะไร
ช่วงบ่ายชิชาถึงรู้สึกตัวขึ้น เธอค่อยๆขยับตัว
ร่างกายเธอเจ็บปวด ร้าวระบมไปทั้งตัว
และยังรู้สึกมึนหัวอ่อนเปลี้ยเพลียแรงไปหมด
เธอค่อยๆแบกร่างบอบช้ำลุกขึ้น เดินไปยังบันได
สองมือน้อยๆจับราวบันไดพยุงร่างที่บอบช้ำไปทั่วทั้งร่างกายและจิตใจเดินขึ้นบันไดอย่างยากลำบาก
เธอค่อยๆเดินขึ้นไปช้าๆ กว่าจะถึงห้องความรู้สึกคล้ายขึ้นเขาหนึ่งลูก
เธอผลักประตูเข้าไปแล้วเดินเข้าไปในห้องน้ำ
รีบชำระร่างกาย เสร็จแล้วก็เดินออกมาใส่เสื้อผ้าแล้วนอนพักบนเตียง
มิตานั่งเล่นอยู่หน้าบ้านแล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาคนๆหนึ่ง เอ่ยถามขึ้นว่า
" แกไม่ได้ทิ้งร่องรอยอะไรให้ใครสงสัยใช่มั้ย "
ทางปลายสายก็เอ่ยตอบว่า
" ไม่ครับ ไม่มีใครรู้ว่าคุณท่านถูกวางยา ตอนนี้บ้านของคุณท่านถูกปิดแล้ว
พวกคนใช้ก็ถูกไล่ออกไปจนหมดรวมถึงบ้านโน้นที่คุณชิชาอยู่ด้วยครับ ไม่มีคนใช้แล้วสักคน "
" แกทำได้ดีมาก ฉันจะโอนเงินไปให้ แล้วแกก็พาครอบครัวของแกไปอยู่ต่างประเทศ แล้วไม่ต้องกลับมาอีก เข้าใจมั้ย "
" เข้าใจครับ "
พ่อบ้านของคุณท่านลู่เอ่ยตอบ จากนั้นเขาก็วางสายไป
แล้วข้อความแจ้งเตือนก็เด้งขึ้นเงินเข้ามาในบัญชีเขาเรียบร้อยเป็นจำนวนสิบล้าน
จากนั้นเขาก็มองเข้าไปในบ้านคุณท่านลู่แล้วเอ่ยอย่างรู้สึกผิด
" คุณท่านผมขอโทษ หากผมไม่ทำลูกเมียผมก็ไม่ปลอดภัย ผมจำเป็นจริงๆ
ผมขอให้ท่านได้พบเจอกับคุณผู้หญิง
และคุณผู้ชายจระกูลจันทร์บนสวรรค์นะ
บาปกรรมที่ผมได้ทำไว้กับพวกท่านขอพวกท่านอโหสิกรรมให้ผมด้วยนะครับ "
เอ่ยจบเขาก็ก้มลงกราบหน้าบ้านของคุณท่านลู่แล้วเดินออกจากบ้านคุณท่านลู่ไป
ก่อนหน้านี้ลูกเมียของเขาอยู่ในมือของมิตา
มิตาคอยทรมานลูกเมียเขาตลอด
ตั้งแต่มิตามาปรากฏตัวในบ้านตระกูลคัง
ลูกเมียของเขาก็ถูกเธอจับตัวไป
เขากับลูกเมียก็ไม่ได้เจอหน้ากันอีกเลย
และเขาก็ตกเป็นเครื่องมือของเธอนับแต่นั้นมา
เพื่ออิสรภาพของลูกเมียเขาต้องทำให้มือเปื้อนเลือดฆ่าคนถึงสามคน
จะมอบตัวกับตำรวจลูกเมียก็ตาย ทางเดียวคือหนีไปให้ไกลสุดขอบฟ้าพวกเขาถึงจะรอด
ทางด้านตรัยคุณพอเลิกงานเขาก็กลับมาหามิตาที่บ้านทันที
มิตาเห็นเขากลับมา เธอก็เดินเข้าไปกอดแขนเขาแล้วเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงอ่อนหวาน
" คุณกลับมาพอดี มื้อเย็นเตรียมไว้บนโต๊ะเรียบร้อยแล้วค่ะ วันนี้ฉันมีข่าวดีจะบอกคุณด้วยนะคะ "
ตรัยคุณมองมิตาด้วยแววตาตื่นเต้นแล้วเอ่ยถามขึ้นด้วยความอยากรู้
" หือ...ข่าวดีอะไรครับ คุณบอกผมก่อนสิ
ผมอยากรู้แล้ว "
มิตายิ้มออกมาอย่างอ่อนโยนแล้วเอ่ย
" ไม่ได้ค่ะ ไปทานข้าวกันก่อน เดี๋ยวข้าวก็เย็นหมดหรอกค่ะ "
" ก็ได้ครับ คุณว่ายังไงผมก็ว่าอย่างงั้นแหละ "
ทั้งสองเดินกอดแขนกันเข้าไปในห้องอาหาร
แล้วนั่งทานข้าวกันอย่างมีความสุข
พอทานข้าวเสร็จ ตรัยคุณก็เอ่ยถามขึ้นอย่างอ่อนโยน
" ทีนี้คุณบอกผมได้หรือยังครับ
ว่าข่าวดีที่ว่าคืออะไร "
มิตายิ้มแล้วเอ่ยว่า
" ฉันท้องแล้วค่ะ "
ตรัยคุณได้ยินดังนั้นก็ดีใจอย่างมาก
จึงเข้าไปกอดมิตา แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น
" ในที่สุดคุณก็ท้องอีกครั้งแล้ว ผมดีใจที่สุดเลยๆเราจะมีลูกด้วยกันอีกครั้ง "
ในขณะที่ตรัยคุณดีใจ มิตากลับทำหน้าเศร้า
แล้วเอ่ย
" แต่เรายังไม่ได้แต่งงานกันเลยนะคะ ถ้าลูกคลอดออกมาเขาก็เป็นเพียงลูกนอกสมรสของคุณ "
ตรัยคุณมองหน้ามิตาแล้วเอ่ยขึ้นอย่างหนักแน่น
" คุณอย่ากังวลไปเลยนะ ผมจะไปจดทะเบียนสมรสกับคุณเร็วๆนี้แน่นอน "
มิตาจ้องหน้าตรัยคุณด้วยสีหน้าซึมๆแล้วเอ่ย
" คุณหย่าคุณชิชาเหรอคะ เธอไม่เหลือใครแล้วนะคะ ถ้าคุณทำแบบนั้นมันจะไม่ดูใจร้ายไปหน่อยเหรอคะ
ฉันไม่อยากเห็นเธอในสภาพน่าสงสารแบบนั้นเลยค่ะ "
" มิตาคุณจิตใจดีเกินไปแล้ว เธอทำกับเราขนาดนี้คุณยังจะไปเห็นใจเธออีก
ผมไม่เข้าใจคุณปู่เลยที่มองไม่เห็นความดีของคุณเลย ชื่นชมแต่คนหน้าซื่อจิตใจเห็นแก่ตัวอย่างชิชา
ผมขอโทษนะที่พาคุณมาลำบาก เจอแต่เรื่องแย่ๆ
ขอบคุณที่ยังอยู่ข้างผมไม่ทิ้งผมไปไหนนะ "
เมื่อเอ่ยถึงคุณท่านลู่สีหน้าของตรัยคุณก็เศร้าหมองลงทันที
" คุณขึ้นไปอาบน้ำเถอะค่ะ อย่าคิดมากอีกเลย "
" ครับ "
ตรัยคุณลุกจากโต๊ะอาหารเดินขึ้นไปบนห้อง
มิตานั่งนึกถึง เหตุการณ์ก่อนหน้า ก่อนที่คุณท่านลู่จะเสีย
คุณท่านลู่ได้เรียกให้ตรัยคุณเข้าไปพบ
พอตรัยคุณเข้าไปในห้อง คุณท่านลู่ก็เอ่ยว่า
" ตรัยคุณ หากแกยังอยากจะเป็นผู้สืบทอดมรดกทั้งหมด แกต้องเลิกยุ่งเกี่ยวกับผู้หญิงคนนั้นซะ หากแกทำไม่ได้ ฉันจะยกทุกอย่างให้หนูชิชา "
มิตาแอบตามตรัยคุณมา พอได้ยินแบบนั้น
ก็ไม่พอใจและโกรธแค้นมากขึ้น
แววตาที่เคยอ่อนหวานฉายแววความดุร้ายอย่างน่ากลัว
ตรัยคุณโกรธที่คุณปู่บังคับให้เขาเลิกกับมิตา
ถึงขั้นขู่จะไม่ยกสมบัติให้
แต่เพราะเขารักมิตามากจึงยอมที่จะสละสมบัติทั้งหมดแล้วเลือกมิตาอย่างไม่ลังเล
" ผมรักมิตา ผมเลือกเธอ ผมไม่เอาสมบัติอะไรก็ได้ ในเมื่อผมมีสมองและสองมือ ผมจะสร้างทุกอย่างด้วยตนเอง
แต่ผมจะไม่เลิกกับมิตาเด็ดขาด คุณปู่อยากยกสมบัติให้ใครก็เชิญเลยครับ "
ตั้งแต่มิตาเข้ามาความสัมพันธ์ของทั้งสอง
มีแต่ระหองระแหงทะเลาะกันเกือบทุกครั้งไป
คุณท่านลู่ได้ยินดังนั้นก็โกรธมากแล้วเอ่ยเสียงกร้าวตวาดใส่ตรัยคุณเสียงดังลั่น
" ตรัยคุณ แกมันโง่ แกมันตาบอด หลงมันจนมองไม่เห็นธาตุแท้ของมัน สักวันแกจะเสียใจ
แกออกไปจากบ้านฉันเลย ฉันจะไม่ยกอะไรให้แกทั้งนั้น ดูสิว่ามันจะยังทนอยู่ข้างกายแกมั้ย "
เมื่อถูกไล่ตรัยคุณก็เดินออกจากห้องไป มิตาที่แอบฟังอยู่กำมือแน่นด้วยความเกลียดแค้น
[ แก่จะลงโลงอยู่แล้วยังมาโอหังอีก ในเมื่อไม่ชอบฉันนักก็อย่าอยู่ร่วมโลกกันอีกเลย ]
จากนั้นมิตาก็เดินออกมาไปหาพ่อบ้าน
คนที่เธอเคยจ้างให้ไปตัดสายเบรครถยนต์
ของตระกูลจันทร์
ซึ่งเป็นพ่อบ้านคนเดียวกันกับที่วิ่งเข้ามาแจ้งเหตุในงานแต่งเธอ
ตอนนั้น เธอคิดไว้แล้ว ถ้าตระกูลจันทร์ประสบเหตุงานแต่งจะล่มแล้วตรัยคุณก็จะเกลียดชิชาไปตลอด
เมื่อคนของเธอมารายงานว่าตระกูลจันทร์มางานแต่ง เธอจึงวางแผนกับพ่อบ้านตระกูลคังไว้
แล้วทุกอย่างก็เป็นไปตามแผนที่เธอวางไว้
แม้มันจะทำให้ตรัยคุณกับชิชาได้แต่งงานกัน
แต่เธอก็ไม่สนใจ เพราะใจของตรัยคุณอยู่ที่เธอ
พอพ่อบ้านเห็นว่ามิตามาหา เขาจึงเดินเข้าไปหาเธอแล้วเอ่ย
" คุณมิตามีอะไรจะใช้ผมเหรอครับ "
มิตายื่นเงินสดให้พ่อบ้านห้าพันแล้วเอ่ยด้วยสีหน้าร้ายกาจอย่างน่ากลัวเต็มไปด้วยไอสังหาร
" ไปซื้อยาให้คุณปู่หน่อย เอาชนิดที่หายขาดไปตลอดชีวิต นายคงไม่ต้องให้ฉันอธิบายเพิ่มเติมนะว่าต้องทำยังไง "
พ่อบ้านอึ้งไปด้วยความตกใจจนมือสั่น
เอ่ยขึ้นอย่างติดๆขัดๆ
" คะ คุณ คุณมิตา มะ มัน มัน ไม่ดีมั้งครับ "
" แกจะทำหรือไม่ทำ หรือแกอยากจะให้มันเกิดกับลูกเมียแก "
พ่อบ้านกลัวจนสั่นลูกห่วงเมียก็ห่วง
จึงทำได้แค่ไปซื้อยา
มิตาจ้องเขาด้วยแววตาสังหารแล้วเอ่ย
" ทำให้สำเร็จล่ะ ฉันจะรอดูผลงานแกเย็นนี้หากพลาด แกเตรียมใส่ชุดดำเลย "
พ่อบ้านผงกหัว แล้วมิตาก็กลับเข้าไปในบ้าน
พ่อบ้านก็ไปซื้อยาจากข้างนอก
พอมื้อเที่ยงของคุณท่านลู่เขาก็วางยาลงในอาหาร
พอคุณท่านลู่ทานอาหารเข้าไป พิษก็เข้าสู่ร่างกายทันที
สามชั่วโมงต่อมาคุณท่านลู่ก็เริ่มหายใจไม่ออก
จนหน้าซีดปากเขียวไปหมดแล้วเขาก็เสียชีวิตไปทันที
พอตรัยคุณรู้ข่าวก็ช็อกไปด้วยความตกใจ
และเสียใจอย่างมาก
มิตาเข้ามาหาเขาแล้วเอ่ยปลอบใจโดยใช้อุบายและเล่ห์เหลี่ยมเกลี้ยกล่อมตรัยคุณให้คล้อยตาม
" คุณทำใจดีๆนะคะ การเสียชีวิตของคุณปู่ดูมีเงื่อนงำคล้ายถูกพิษ
คนทำพุ่งเป้าไปที่คุณปู่แสดงว่าเขาต้องรู้ว่าคุณปู่มีอิทธิพลต่อคุณ
ดังนั้นการลงมือกับคุณปู่ก็เหมือนกับการตัดเส้นเลือดใหญ่ของคุณทิ้ง
ดังนั้นงานศพของคุณปู่เราต้องจัดให้เงียบที่สุดจะให้คนนอกรู้ไม่ได้ว่าคุณปู่เสียแล้ว
ไม่งั้นคนที่อยู่ในที่ลับอาจจะฉวยโอกาสสร้างความวุ่นวายให้บริษัทในช่วงที่จัดงานศพคุณปู่ก็ได้ค่ะ "
" แต่คุณปู่ไม่เคยมีศัตรูที่ไหนเลยนะ "
" ฉันรู้ค่ะ แต่คุณคิดเหรอคะว่าทุกคนจะเห็นคุณปู่เป็นมิตร
ทุกคนล้วนทำเพื่อผลประโยชน์ของตัวเองกันทั้งนั้น ในด้านธุรกิจทุกคนคือคู่แข่งไม่มีมิตรแท้หรอกค่ะ "
ตรัยคุณเห็นด้วยกับคำพูดของมิตาสุดท้ายงานศพของคุณท่านลู่ก็ถูกจัดขึ้นอย่างเงียบๆตามแผนของมิตา