ตอนที่ 10 ยินดีชดใช้ให้หมดๆไป
หนึ่งอาทิตย์ต่อมา.....
ชิชาอยู่ในบ้านหลังใหญ่เพียงลำพัง ร่างกายที่เคยอวบอิ่มสดใสมีชีวิตชีวา กลับซูบผอมลงทุกวันๆ
เธอไม่ต่างอะไรจากคนที่รอวันตายในคฤหาสน์หลังใหญ่บนเขา
ช่วงนี้เธอรู้สึกไม่สบายตัว มีอาการเวียนหัว คลื่นไส้ อาเจียน แทบจะไม่มีแรงเดินแล้ว
แต่เธอก็ยังลากร่างที่ป่วยลงมาต้มน้ำช่วยเหลือตัวเอง
เธอรู้สึกหิวจึงไปเปิดตู้เย็นหยิบเอาเนื้อหมูที่หมดอายุและเน่าเสียมาล้างแล้วสับเป็นชิ้นเล็กๆใส่ลงในหม้อข้าวต้ม แล้วโรยเกลือลงไป
พอข้าวต้มสุกเธอก็ตักมานั่งทานบนพื้นเพราะลุกเดินไปไหนไม่ไหวแล้ว
เธอฝืนกินข้าวต้มที่ไร้รสชาติมีกลิ่นหมู่เน่าผสมเข้าไปประทังความหิวให้อยู่รอดไปอีกวัน
เธอกินเข้าไปทั้งน้ำตา
เธอร้องให้สะอื้นสงสารตัวเองน้ำตาไหลอาบแก้มร่วงลงมาเป็นสาย
ความโกรธแค้นในใจได้ก่อตัวขึ้นมาอีกครั้งในแบบที่ไม่มีคำว่าอภัยอีกต่อไป
เธอพึมพำคุยกับตัวเองในใจอย่างเข้มแข็ง
[ ชิชา เธอต้องมีชีวิตอยู่ เธอต้องรอดเพื่อไปมีชีวิตใหม่ให้ได้ เธอจะยอมแพ้ไม่ได้ ]
ตอนนี้อาหารในตู้เย็นก็เริ่มหมดลง บางอย่างก็เน่าเสีย
วันๆเธอเอาแต่ต้มข้าวกับเกลือประทังชีวิตประทังความหิว
เพราะข้าวสารก็เหลือเพียงครึ่งกระสอบ ในตู้เก็บอาหารแห้งก็ไม่มีอะไรแล้ว
เธอจึงต้องกินเพียงข้าวต้มเท่านั้น ร่างกายเธอก็เริ่มขาดสารอาหารเต็มที
ตรัยคุณขับรถเข้ามาในคฤหาสน์เปิดประตูลงจากรถ แล้วหยิบกุญแจมาเปิดประตูบ้าน
จากนั้นก็เดินเข้ามาในห้องโถงใหญ่
คำรามหาชิชาเสียงดัง
" ชิชา ชิชา! เธออยู่ไหน "
ชิชาที่นั่งขดตัวซดข้าวต้มอย่างน่าสงสาร
ได้ยินเสียงตรัยคุณเธอก็วางถ้วยข้าวต้มลง
แล้วดันร่างที่เป็นไข้หนาวสั่นลุกขึ้นเดินไปหาเขาทันที
ใบหน้าและริมฝีปากที่ขาวซีดฝืนยิ้มขึ้นมา
แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงปกติ
" ฉันอยู่นี่ค่ะ ชิชาไม่คิดว่าพี่ตรัยคุณจะมาเลยไม่ได้เตรียมตัวอะไร "
ตรัยคุณมองใบขาวซีดด้วยแววตาเกลียดชัง
แล้วเอ่ย
" ขึ้นไปอาบน้ำล้างตัวให้สะอาดซะ แล้วเปิดน้ำไว้ให้ฉันด้วย "
" ค่ะ "
ชิชาตอบรับอย่างเชื่อฟัง แล้วเธอก็ฝืนทำร่างกายให้ปกติที่สุด ฝ่ามือเล็กๆจับราวบันไดแล้วเดินขึ้นไปทั้งน้ำตา
ตรัยคุณไปเปิดทีวีดูในห้องนั่งเล่น เลื่อนดูอะไรแก้เบื่อไปอย่างเงียบๆ
แล้วรู้สึกคิดถึงคุณปู่ที่จากไปนึกถึงคำพูดของคุณปู่ที่เคยสั่งสอนเขาในวัยเด็ก
" ตรัยคุณหลานคือผู้สืบทอดมรดก หลานควรเลือกภรรยาที่คอยส่งเสริมบารมีนะ
อย่าเลือกคนที่จะมาดึงหลานให้ล่มจม มองคนมองให้ขาดมองให้ทะลุปรุโปร่งเข้าใจมั้ย "
" ครับคุณปู่ "
ตรัยคุณรู้สึกคิดถึงคุณปู่มาก วันนี้เขาออกมาจากบ้านโดยโกหกมิตาว่ามีงานด่วน
เขาไม่อยากให้มิตาเห็นเขาโศกเศร้า
เพราะกลัวเธอจะไม่สบายใจ
เมื่อนึกถึงลูกในท้องของมิตา เขาก็ดึงใบหย่าออกมาวางบนโต๊ะ
ชิชาเดินลงบันไดมาแล้วเอ่ยขึ้น
" พี่ตรัยคุณ ชิชาเปิดน้ำอุ่นไว้ให้แล้วค่ะ
พี่จะขึ้นไปอาบน้ำเลยมั้ยคะ "
เขาเงยหน้ามองไปยังชิชาที่สีหน้าดูสดใสขึ้น
แล้วเอ่ยเสียงเย็นชาด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
" ลงมานี่ "
ชิชาเดินลงบันได เข้ามาหาเขาแล้วหย่อนกายนั่งลงบนโซฟาข้างๆเขา
ตรัยคุณเห็นดังนั้นก็ผลักเธอลงไปบนพื้นอย่างแรงแล้วเอ่ยเสียงกร้าวด้วยสีหน้าดุดัน
" ชิชาฉันอนุญาตให้เธอมานั่งข้างๆฉันเหรอ
คนน่ารังเกียจอย่างเธอไม่คู่ควรที่จะมานั่งใกล้ฉันจำไว้! "
ชิชาหน้ามืดมองไม่เห็นอะไรแวบหนึ่ง เธอหยุดนิ่งไปสักพักแล้วก็เริ่มกลับมามองเห็นอีกครั้ง
กัดฟันเอ่ยอย่างอดทนต่อความเจ็บปวดทั้งทางกายและทางใจ
สะกดกลั้นอารมณ์ไว้ให้อยู่ในส่วนลึกสุดของใจแล้วเอ่ย
" ชิชาขอโทษค่ะ พี่ตรัยคุณอย่าโมโหเลยนะคะ ต่อไปชิชาจะจำไว้ให้ดีค่ะ "
ใช่ เธอจะจำไว้ ถ้าเธอรอดออกไปจากที่นี่ เธอจะจำทุกการกระทำของตรัยคุณไว้ตลอดกาล
ตรัยคุณมองต่ำลงมาที่เธออย่างรังเกียจ
แล้วเอ่ยเสียงดุดัน
" เซ็นชื่อลงในใบหย่าซะ มิตากำลังท้องลูกของฉันอยู่ "
ชิชาฝืนยิ้มขึ้นด้วยความปวดใจแล้วฝืนเอ่ย
" ยินดีด้วยนะคะ หากพี่ตรัยคุณอยากหย่า ก็พาฉันไปหย่าที่สำนักงานค่ะ "
ตรัยคุณยื่นมือมาบีบคางเธอแน่นจนเธอรู้สึกเจ็บแล้วตรัยคุณก็คำรามออกมาเสียงกร้าวด้วยแววตาดุดัน
" ชิชาเธอคิดว่าเธอยังสามารถต่อรองกับฉันได้อีกเหรอ พ่อแม่ของเธอตายแล้ว คุณปู่ที่คอยหนุนหลังเธอก็ไม่อยู่แล้วเธอคิดว่าฉันไม่กล้าฆ่าเธอหรือไง "
ชิชาจ้องตาตรัยคุณแล้วเอ่ย
" พี่ตรัยคุณไม่ฆ่าชิชาหรอกค่ะ "
" นี่เธอท้าฉันเหรอชิชา! "
ตรัยคุณคำรามขึ้นเสียงดัง จากนั้นก็เอ่ย
" มานี่! ฉันจะทำให้เธอรู้ว่าตายทั้งเป็นมันเป็นยังไง "
แล้วตรัยคุณก็กระชากลากแขนของชิชาให้ขึ้นไปข้างบน
ชิชาถูกกระชากแรงจนหน้ามืดอีกครั้งแต่เธอยังมีสติอยู่จึงเดินตามแรกกระชากไปทั้งทีมองไม่เห็นไม่ต่างอะไรกับคนตาบอดเลย
พอเข้าไปในห้องตรัยคุณก็ผลักเธอลงบนเตียงสติเธอเริ่มขาดหายและไม่รับรู้อะไรอีก
ตรัยคุณฉีกทึ้งเสื้อผ้าบนร่างไร้สติอย่างบ้าคลั่ง เธอตัวอ่อนปวกเปียกไปตามแรงกระชากของเขา
จนเขาสังเกตเห็นความผิดปกติจึงหยุดการกระทำแล้วเอ่ยเสียงกร้าว
" ชิชา! เธอไม่ต้องมาเสแสร้งแกล้งทำเป็นหมดสติไปหรอกนะ ชิชา! "
เขาเอามือไปแตะหน้าเธอเบาๆก็ถึงกับตกใจ
เมื่อหน้าเธอร้อนราวกับไฟ
แล้วเขาก็ลองเอาหลังมือไปแตะหน้าผากเธอเบาๆ
" ตัวร้อน นี่เธอเป็นไข้เหรอ หาวิธีหนีตายสินะ ฝันไปเถอะฉันไม่อนุญาตให้เธอตายง่ายๆหรอก "
ตรัยคุณเอ่ยออกมาอย่างเยือกเย็นด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความเกลียดชัง
จากนั้นเขาก็อุ้มร่างของชิชาไปวางลงในอ่าง
แล้วเอาน้ำเย็นสาดใส่หน้าเธออย่างไม่ปราณี
จากนั้นเขาก็ไม่สนใจเธออีก ลุกขึ้นมาถอดเสื้อผ้าของตัวเองแล้วอาบน้ำข้างๆเธอ
อาบน้ำเสร็จเขาก็เดินออกมาจากห้องน้ำมาเป่าผม พอผมแห้งก็มานอนรอชิชาฟื้นอย่างเลือดเย็น
หนึ่งชั่วโมงผ่านไป ชิชาเริ่มรู้สึกตัวขึ้นมา
แพขนตาและเปลือกตาค่อยๆขยับลืมตาขึ้นมองไปรอบๆ
พอได้สติดีถึงรู้ว่าตัวเองอยู่ในน้ำ เธอจึงค่อยๆยันกายลุกขึ้นมาด้วยอาการมึนตัว
ก้าวออกจากอ่างอาบน้ำแล้วหยิบผ้าเช็ดตัวมาห่อตัวเดินกลับเข้าไปในห้องด้วยสีหน้าซีดเซียว
ตรัยคุณมองร่างผอมบางที่เดินออกมาจากห้องน้ำแล้วแสยะยิ้มขึ้น เอ่ยอย่างเย็นชาว่า
" ก็ยังไม่ตายหนิ ในเมื่อฟื้นขึ้นมาแล้วก็มาปรนนิบัติฉันดีๆ "
คำพูดของเขาทำให้ชิชาเจ็บจี๊ดในใจ
น้ำตาตกในออกมาอย่างเงียบๆ
แล้วเธอก็เดินเข้าไปหาเขาในใจกลับเอ่ยว่า
[ หากยังมีวาสนาต่อกัน มีเวรมีกรรมต่อกัน ฉันก็ยินดีชดใช้ให้หมดๆไป
เมื่อไหร่ที่หมดวาสนาต่อกัน หมดเวรหมดกรรมต่อกัน ฉันก็คงจะได้จากพี่ไปด้วยวิธีใดวิธีหนึ่ง ]
ไม่ตายก็คงไหนหนีจากไปไกลๆโดยไม่ได้พบกันอีก
เธอคลานเข้าไปหาเขาอย่างระมัดระวังในใจเต็มไปด้วยความขมขื่นที่ไม่สามารถระบายออกมาได้ด้วยความสิ้นหวัง
และยอมรับในชะตากรรมของตัวเองเพราะเธอเต็มใจแต่งงานกับเขาเอง