บท
ตั้งค่า

๑.๒ ปัญหาหัวใจของเพื่อนรัก

“อาการเดียวกับซานเชสแหงๆ” เฮกเตอร์เปรยออกมาเบาๆ ไม่ต้องการให้ใครได้ยิน

ด้านอีธานก็ชำเลืองสายตาคมปลาบไปทางเพื่อนหนุ่มสายเลือดอาหรับอีกครั้งอย่างนึกเป็นห่วงมากขึ้น... เออจริง เพื่อนเขาคงมีเรื่องไม่สบายใจที่หนักหนาสาหัสเป็นแน่ ไม่งั้นคงไม่อยากจะชวนเพื่อนออกมาก๊งกันแบบนี้ พวกเขาก็ดันเอาอารมณ์ส่วนตัวมาเป็นที่ตั้งทำให้เพื่อนทุกข์ใจเข้าไปอีก คิดได้แบบนั้นร่างสูงใหญ่ขนาดไล่เลี่ยกันก็ขยับขึ้นนั่งตัวตรง เบนความสนใจทั้งหมดไปที่สปอร์ตแมนทันที

“ขอโทษนะโว้ย ซานเชส”

“ฉันต่างหากต้องขอโทษ ที่เรียกพวกนายมาแบบกะทันหันแบบนี้ ซ้ำยังไม่ถามสักคำว่าพวกนายว่างไม่ว่างหรือติดภารกิจอะไร เอาแต่ความคิดตัวเองเป็นที่ตั้ง จนทำให้พวกนายอารมณ์เสียกันไปหมด”

“ไม่เป็นไรหรอกน่า เพื่อเพื่อนเรื่องแค่นี้จิ๊บๆ ตกลงมีเรื่องอะไรหรือเปล่าถึงเรียกพวกฉันมาถึงนี่” เฮกเตอร์เอ่ยขึ้น หลังจากที่ทั้งหมดพากันนิ่งไปเป็นครู่ คล้ายจะบอกให้รู้ว่าเขาเป็นคนเดียวที่ยังไม่มีปัญหาแน่นอกที่ต้องยกออกในตอนนี้

ซานเชสหลิ่วตามองคนพูดเพียงนิด จากนั้นก็หันไปสบตากับเพื่อนๆ แต่ละคนอีกรอบ ก่อนจะถอนใจออกมาอีกครั้งยาวเหยียดพลางตัดสินใจพูดบางอย่างที่ไม่อยากพูดออกมา

“ฉันไม่รู้ว่าสิ่งที่ฉันทำมันผิดหรือถูก”

ประโยคดังกล่าวทำเอาแมธทิวคิ้วขมวด “เรื่องอะไรล่ะ?”

“อย่างที่ฉันเคยเปรยให้พวกนายฟัง เอเดนพี่ชายของธัญญ่าก่อเรื่องเอาไว้กับฉัน”

“ใช่ พวกเรารู้ และก็รู้ดีด้วยว่าที่นายทำกับคุณธัญญ่าแบบนั้น ก็เพราะนายอยากเอาคืนพี่ชายของเธอ แล้วยังไง… มีอะไรผิดพลาดไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่เศรษฐีน้ำมันอย่างนายวางเอาไว้งั้นเหรอ” แมธทิวเอ่ยถามอย่างรู้ข้อมูลเหล่านี้ดีไม่ต่างจากเพื่อนคนอื่นๆ เพราะซานเชสโทรศัพท์ไปเล่าเรื่องราวของตนกับหญิงสาวนามว่าธัญญ่าให้เพื่อนๆ รับรู้อยู่บ้างแล้ว

“คือ ฉัน…” ซานเชสพูดไม่ออกเหมือนคนติดอ่าง เมื่อความผิดพลาดที่ว่าคือสิ่งที่เขาไม่กล้ายอมรับออกมาตรงๆ ต่อหน้าใคร โดยเฉพาะกับเพื่อนของตัวเอง แต่ทว่า…

“นายผิดเต็มประตู!” เฮกเตอร์โพล่งเสียงออกมา ทำเอาทุกสายตาของสามหนุ่มมองไปที่เขาเป็นจุดเดียว เจ้าของกาสิโนและสายการบินชื่อดังนิ่งชั่วอึดใจเพราะเรื่องนี้เขารู้ดีกว่าเพื่อนอีกสองคนที่เหลือ เนื่องจากนายเอเดนคนนั้นเป็นลูกค้าขาประจำระดับวีไอพีของกาสิโนเขาเลยก็ว่าได้ ซึ่งเขาเองก็ไม่ได้สนิทกับอีกฝ่ายเป็นการส่วนตัวและไม่รู้ด้วยว่าเอเดนเป็นพี่ชายของผู้หญิงที่เพื่อนตัวเองกำลังถูกใจอยู่ในขณะนี้

ลูกน้องที่กาสิโนโรยัลของเขารายงานมาว่า หมอนั่นเสียพนันและขอเครดิตจากบ่อนเพิ่มเป็นจำนวนหลายร้อยล้าน ไม่ใช่เฉพาะแต่กับบ่อนของเขาเท่านั้น หากแต่เอเดนยังไปหยิบยืมจากคนสนิทจนเป็นหนี้ก้อนโต โดยเมื่อสะสมรวมกันกับหนี้ของเขาแล้วก็มีมูลค่าร่วมพันล้านเห็นจะได้

ซึ่งเพื่อไม่ให้เสียกฎเขาจึงสั่งระงับวงเงินที่อีกฝ่ายขอกู้มาให้หยุดนิ่งอยู่แค่นั้น และรอจนกว่าเอเดนจะหาเงินมาใช้หนี้ได้เขาถึงจะให้เล่นอีกครั้ง เขาเช็กประวัติของนายเอเดนอย่างละเอียดจนรู้มาว่าอีกฝ่ายเป็นคนยังไง แต่ก็ไม่ได้คิดบอกเล่าให้ใครฟัง เพราะปัญหาแบบนี้ในกาสิโนของเขาถือว่าเป็นเรื่องปกติธรรมดาทั่วไป ใครเป็นหนี้ก็หามาใช้ หาไม่ได้เขาก็มีวิธีจัดการในแบบฉบับของเขา แต่ในกรณีของเขาหากเอเดนสามารถหาเงินมาใช้หนี้ได้ พญาเหยี่ยวแดงไม่สนใจที่มาของเงินว่าอีกฝ่ายจะหามาได้ด้วยวิธีไหน ขอเพียงมาใช้ครบตามจำนวนเท่านั้นเขาก็แฮปปี้แล้ว

และความจริงเรื่องมันน่าจะจบไปตั้งแต่ตอนนั้น ถ้าเขาไม่รู้อะไรบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับผู้ชายคนนี้เข้าหูตัวเองอีกรอบ และเขาอาจไม่สนใจเลยด้วยซ้ำถ้าผู้หญิงที่เพื่อนรักจับเธอมาทรมานไม่ใช่น้องสาวของคนที่เขาเพิ่งเคลียร์หนี้สินที่มีท่วมหัวไปไม่กี่วันก่อน ความจริงที่ได้รับรู้จากปากเพื่อนสนิททำเอาเขาอึ้งกิมกี่ เรื่องสองเรื่องถูกนำมาปะติดปะต่อจนมันแปรความหมายเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้ นอกจากนายเอเดนนั่นร่วมมือกับคนในบริษัทของเพื่อนยักยอกเอาน้ำมันดิบออกไปจำหน่ายโดยพลการ

ซานเชสคงหวังที่จะเอาตัวธัญญ์นิชามาเล่นงานพี่ชาย แต่ดูเหมือนว่าทุกอย่างจะไม่เป็นไปตามที่คาด เพราะตอนนี้คนที่ทำท่าจะแย่ก็คือเจ้าพ่อบ่อน้ำมันนั่นเอง ส่วนแพะรับบาปและคนที่โชคร้ายก็คือธัญญ์นิชาเพียงผู้เดียว เธอไม่รู้อีโหน่อีเหน่อะไรกับพี่ชายตัวเองด้วยเลย แต่กลับต้องมารับผลพวงของการกระทำนี้อย่างไม่ยุติธรรม เฮกเตอร์คิดอย่างเข้าใจความรู้สึกของหญิงสาวและสงสารอีกฝ่ายจากใจจริง

“นายรู้ได้ไงวะเฮกเตอร์!” แมธทิวรีบถาม

“ก็ลองถามมันดูสิ ว่าฉันพูดถูกหรือเปล่า… ว่าไงซานเชส?” ประโยคสุดท้ายเขาหันไปทางเจ้าของเรื่องที่นั่งหน้าเคร่งขรึมมาตั้งแต่ต้นจนถึงเวลานี้ก็ยังเป็นแบบนั้นเช่นเดิม

“อืม…อาจจะถูกอย่างที่นายว่า” น้ำเสียงที่เคยทรงพลังอำนาจของหนุ่มอาหรับแผ่วต่ำลงอย่างเห็นได้ชัด

เฮกเตอร์มองสบตาเพื่อนรักอย่างเข้าใจถึงหัวอก พลางนึกดีใจที่ตัวเองไม่ได้คิดจะยกหัวใจให้ใคร มีรักแล้วมันปวดหัวแบบนี้นี่เอง เขาคิดพร้อมกับเลื่อนสายตาไปทางว่าที่ท่านประธานใหญ่ของค่ายรถยนต์ชื่อดังกับผู้นำทางด้านระบบรักษาความปลอดภัยขั้นสูงอีกครั้ง สองคนนี้ดูท่าคงอยากรู้เรื่องราวทั้งหมดใจจะขาดแล้วกระมัง ถึงได้นั่งหน้าเหวอจ้องนิ่งมายังเขาตาไม่กะพริบแบบนี้ เหยี่ยวแดงอยากหัวเราะออกมาดังๆ แต่ก็กลัวเพื่อนทั้งสองจะกระโดดถีบยอดอกเข้าให้ จึงตัดสินใจบอกเล่าเรื่องที่ตัวเองรู้มาทั้งหมดออกไปอย่างหมดเปลือก

“งานนี้คุณธัญญ่าเธอไม่รู้ไม่เห็นอะไรด้วย พี่ชายของเธอคนเดียวที่ร่วมมือกับกิ๊กของมันที่ทำงานในเรนโซ่ ออยล์ ของนายขโมยน้ำมันดิบออกไปขาย การที่นายทำแบบนั้นกับเธอฉันถือว่าหนักเกินไปและนายควรขอโทษและปล่อยเธอไปซะ แล้วจึงไปจัดการเอากับคนที่ทำผิดต่อนายจริงๆ มากกว่าจะไปลงที่แพะอย่างเธอ”

เฮกเตอร์สรุปออกมาในตอนท้ายหลังเล่าเรื่องราวต่างๆ นานามากมายที่กำลังกลายเป็นปัญหาหัวใจของพ่อค้าน้ำมันหนุ่มให้เพื่อนรักทั้งสองฟัง

ซานเชสที่ได้ยินก็ยังตกใจที่อีกฝ่ายรู้เรื่องทุกอย่างดีไม่ต่างจากเขาขนาดนี้ แต่พอนึกขึ้นมาได้ว่าเพื่อนคนนี้เป็นเจ้าของกาสิโนชื่อดัง ซ้ำยังเป็นสถานที่ที่พี่ชายตัวแสบของเธอเข้าไปก่อหนี้สินจนต้องมาขโมยของของเขาไปขายอย่างน่าไม่อายขนาดนี้ก็ให้เข้าใจและไม่คิดซักถามอะไรออกมาอีก

“ปล่อยงั้นเหรอ…” ซานเชสทวนคำนั้นช้าๆ สายตาเลื่อนลอยมองแต่ที่ขวดเหล้านิ่ง

“ใช่” น้ำเสียงอันหนักแน่นของหนุ่มลูกครึ่งอเมริกันเซอร์เบียเอ่ยย้ำ

“ฉันเห็นด้วยกับเฮกเตอร์” แมธทิวเสริมขึ้นทันที

“ฉันก็ด้วยว่ะ” ตามมาด้วยหนุ่มดัตช์ผู้หล่อเหลาซึ่งมีความเห็นไม่ต่างจากเพื่อนทั้งสองที่เสนอไปก่อนหน้า

ความคิดเห็นที่เป็นไปในทิศทางเดียวกันบังคับใบหน้าคมคายที่ก้มนิ่งก่อนหน้าให้เงยขึ้นทันที นัยน์ตาสีแห่งรัตติกาลที่แสนอ่านยากมองเพื่อนรักทั้งสามนิ่งอีกครั้งก่อนจะโพล่งออกมาว่า

“ไอ้ขอโทษน่ะฉันพอจะทำได้อยู่หรอกนะ แต่ไอ้ปล่อยเธอไปนี่สิ… เห็นทีฉันคงทำไม่ได้”

“แต่ลูกเขามีพ่อมีแม่นะโว้ยซานเชส นายจะมาทำแบบนี้กับเธอต่อไปไม่ได้ ที่ผ่านมานายก็ทำกับเธอมากเกินพอแล้ว ปล่อยเธอไปก่อน ส่วนนายจะสานต่อความสัมพันธ์กับเธอแบบไหนยังไงก็ค่อยว่ากันอีกที บัวจะได้ไม่ช้ำ น้ำจะได้ไม่ขุ่นไปมากกว่านี้” เฮกเตอร์แนะนำอย่างเป็นกลาง

“ถ้านายคิดจะจริงจังกับเธอ ฉันขอแนะนำให้นายทำตามที่เฮกเตอร์บอก จากนั้นก็ค่อยเริ่มต้นสานรอยร้าวใหม่แบบมีศิลปะ” อีธานเสริม สีหน้าจริงจังขัดถ้อยคำเล่นลิ้น

“ถูกต้อง... ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป” แมธทิวเอ่ยเป็นคนสุดท้าย และยังคงคล้อยตามเพื่อนทั้งสองตลอดเวลาจนคนฟังต้องขมวดคิ้วมุ่น

“พวกนายคิดอย่างนั้นเหรอ?” ซานเชสถามด้วยน้ำเสียงแบบเก่า

เฮกเตอร์จึงเอื้อมมือหนาไปตบบ่าเพื่อนรักเบาๆ แล้วพูดอย่างให้กำลังใจช้าๆ ชัดๆ

“มันเป็นสิ่งที่นายควรทำซานเชส ยุติเรื่องทุกเรื่องเอาไว้แค่นี้แล้วเริ่มต้นชีวิตใหม่กับคนที่นายรักด้วยความจริงใจ”

“แต่ว่า…”

“ฉันเชื่อว่าคนอย่างคุณธัญญ่าจะเข้าใจนายในไม่ช้า”

ซานเชสถอนใจออกมายาวเหยียดแทนคำตอบ หยิบขวดเหล้าขึ้นมาเทน้ำสีอำพันใส่แก้วเปล่าของตัวเองจนถึงครึ่ง จากนั้นก็สาดลงคอตัวเองรวดเดียวหมดแก้ว ท่ามกลางสายตาที่เบิกกว้างของเพื่อนทั้งสามที่กำลังจะห้ามแต่ก็ไม่ทันการ

“เฮ้ย! เบาๆ สิเว้ย เดี๋ยวก็ขับรถกลับโรงแรมไม่ได้พอดี” เจ้าของฉายาหนุ่มโรแมนติกทัดทาน

“ฉันไม่เมาหรอกน่ะ พวกนายล่ะทำไมไม่ดื่ม… ดื่มสิเป็นเพื่อนกัน หรือว่าเลิกเหล้าแล้ววะ” ซานเชสสวนขึ้น

“บ้าน่ะสิ! ใครจะไปเลิกได้ นี่มันของชอบของครอบครัวเชียวนะ ว่าแต่ฉันอยู่ดึกไม่ได้นะโว้ยขอบอกเอาไว้ก่อน” อีธานที่ออกอาการกระสับกระส่ายมานานนับตั้งแต่มาเป็นฝ่ายตอบแทนเสียเอง

“งั้นมัวรออะไรล่ะ เอ้า! ดื่ม...”

เฮกเตอร์ยกแก้วเหล้าของตัวเองที่บริกรนำมาเสิร์ฟไว้ให้นานแล้วขึ้นสูง และทั้งหมดก็ทำแบบเดียวกับเขา เสียงแก้วชนกันดังกริ๊กตามมาด้วยเสียงหัวเราะของหนุ่มทั้งสี่ ทำให้ทุกคนต่างรู้ดีว่าตอนนี้พ่อค้าน้ำมันรายใหญ่ได้กลับเข้าสู่สภาวะแบบเก่าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ที่มันเงียบไม่ตอบโต้อะไรออกมาอีกนั่นก็แสดงว่ามันจำนนด้วยเหตุผลของทุกคนรวมทั้งของตัวเองนั่นเอง

หลังจากนั่งดื่มต่อกันได้สักพักใหญ่แมธทิวและซานเชสก็ขอตัวกลับก่อน ต่อมาอีธานก็เอ่ยขอตัวกลับห้องพักบ้าง พญาเหยี่ยวแดงอย่างเฮกเตอร์ยิ้มมุมปากอย่างรู้ทัน ท่าทางลุกลี้ลุกลนของอีธานตั้งแต่มาถึงทำให้เขาชักอยากรู้ว่าไอ้หมอนี่มันซุกอะไรไว้

“เฮ้ย เดี๋ยวสิวะอีธาน” ชายหนุ่มรีบเรียกก่อนที่อีธานจะลุกออกจากโต๊ะ

“มีอะไรอีก?” พญาเหยี่ยวภูเขาถามอย่างหงุดหงิดเล็กน้อย ซึ่งนั่นยิ่งทำให้เฮกเตอร์อยากจะแกล้งและต้องรู้ให้ได้ว่าอีธานปิดบังอะไรเขาอยู่

“นายพักโรงแรมไหนวะ พอดีฉันยังไม่ได้เปิดห้อง ฉันเห็นนายมาช้าน่าจะจัดการเรื่องโรงแรมที่พักเสร็จแล้วใช่ไหม งั้นฉันไปพักโรงแรมเดียวกับนายนะ”

“เออ! ตามใจ ถ้าจะไปก็ลุกอย่าท่ามาก”

อีธานตอบตกลงคล้ายไม่เต็มใจนัก แต่มีหรือคนอย่างเฮกเตอร์จะสนใจ ถ้าอยากจะรู้อะไรก็ต้องรู้ให้ได้ มันเป็นวิสัยของพญาเหยี่ยวแดงที่ไม่เคยทิ้งความสงสัยเอาไว้นาน

เมื่อทั้งสองมาถึงโรงแรม เฮกเตอร์จึงจัดการเปิดห้องพักของตน แต่ทันทีที่ได้รับกุญแจห้องอีธานก็เอ่ยขอตัวแล้วรีบโกยอ้าวจากไปอย่างรวดเร็ว ปล่อยให้คนที่กำลังจะอ้าปากชวนขึ้นไปดื่มกันต่อบนห้องยืนงงอยู่อย่างนั้น

“มันจะรีบไปไหนของมันวะ อาการแบบนี้ ชักน่าสงสัย”

เฮกเตอร์เปรยกับตัวเองและยิ้มมุมปากอย่างพอจะเดาเหตุการณ์ออก เขาเข้าห้องพักของตัวเอง ปล่อยให้เวลาผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมงจึงเดินไปเคาะห้องเหยี่ยวภูเขา

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel