ระเริงไฟใต้ตะวัน

บทนำ

มายบัค แลนเดาเล็ต รถเปิดประทุนสุดหรูที่ผู้เป็นเจ้าของสั่งตรงจากเยอรมนีแล่นอย่างนุ่มนวลเข้าสู่คฤหาสน์หลังงามที่มีชื่อว่า ‘ฟลอร์ เดอ ลิส’ แม้จะถูกเชิญมางานเลี้ยงนี้เป็นประจำทุกปี หากแต่เหยี่ยวแดงนักล่าก็ไม่เคยคิดจะเบื่อหน่ายเพราะรู้ว่าในงานนั้นมี ‘เหยื่อ’ มากมายที่พร้อมจะให้เขาหอบหิ้วไปเคี้ยวเล่นเป็นอาหารจานดึก

เสียงเพลงบรรเลงไพเราะแว่วหวานจากวงออร์เคสตราก้องกังวานไปทั่วคฤหาสน์ ฟลอร์ เดอ ลิส ดอกไม้นานาพันธุ์ถูกนำมาจัดประดับตกแต่งเพิ่มความอ่อนช้อยให้กับคฤหาสน์ที่ถูกออกแบบและสร้างโดยมีแรงบันดาลใจจากพระราชวังแวร์ซายของพระเจ้าหลุยส์ที่สิบสี่ ดูสง่างามและวิจิตรบรรจงไปในคราวเดียว

ความหรูหราไฮโซเปล่งประกายเจิดจรัสจากเพชรเม็ดงามที่ประดับอยู่บนเรือนร่างของสาวในสังคมชั้นสูงที่เดินเฉิดฉายกันอยู่ทั่วงาน ออร์เคสตรา เพชร ดอกไม้ และไวน์ชั้นยอด ทั้งหมดนี่เป็นสัญลักษณ์ของงานเลี้ยงอันหรูหราที่จัดโดยพวกคนมีเงินซึ่งเรียกตัวเองว่า ‘ไฮโซ’

เดบูตองส์ คือชื่ออย่างเป็นทางการ ส่วนธีมในแต่ละที่นั้นก็จะแตกต่างกันออกไป เดบูตองส์ มีต้นกำเนิดจากประเทศเก่าแก่ที่ทรงมนต์ขลังแห่งเสน่ห์และเป็นผู้นำแฟชั่นของโลกอย่างฝรั่งเศส มันเป็นปาร์ตี้ที่จัดขึ้นเพื่อเปิดตัวเด็กสาวในตระกูลสูงสู่สังคมให้เป็นที่รู้จัก และก่อนที่พวกเธอจะได้มาเปิดตัวในงานปาร์ตี้นี้จะต้องผ่านการเรียนรู้หลักสูตรเตรียมความพร้อมที่จะเข้าสู่สังคมของผู้ใหญ่ ปาร์ตี้เดบูตองส์ถือเป็นเรื่องจำเป็นมากต่อครอบครัวชั้นสูง เพราะคือโอกาสที่ครอบครัวจะได้อวดโฉมลูกสาวของตระกูล และเด็กสาวที่กำลังจะก้าวสู่การเป็นหญิงสาวก็ต้องมาร่วมงานด้วยการวางตัวที่เพอร์เฟกต์ซึ่งมันเป็นการอวดหน้าตาของวงศ์ตระกูล ว่าพวกเธอถูกอบรมสั่งสอนให้เพียบพร้อมทั้งด้านการศึกษา ไหวพริบ เหมาะที่จะเป็นภรรยาของใครสักคนที่ฐานะเท่าเทียมกัน นอกเหนือทรัพย์สมบัติที่ตระกูลมีตกทอดกันมา

หนุ่มหล่อซึ่งเป็นหนึ่งในสี่ซาตานพญาเหยี่ยวไทคูนขับรถสุดหรูที่มีราคาถึง 1.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐไปยังลานจอดรถด้วยตัวเอง ก่อนจะเดินเข้าในงานโดยได้การต้อนรับอย่างนอบน้อมจากผู้ประสานงานเพราะทราบดีว่าบุรุษผู้งามสง่าคนนี้คือใคร

เพียงแค่ก้าวแรกที่เหยียบย่างเข้าในบริเวณคฤหาสน์หลังนั้น บรรดาเหล่าสตรีจากสังคมชั้นสูงที่ยืนจับกลุ่มคุยกันอยู่ตามจุดต่างๆ ก็ทิ้งสายตาให้เขาอย่างเชื้อเชิญ ราวกับจะปลุกเร้าสัญชาตญาณนักล่าเฉกเช่นเหยี่ยวแดงให้โฉบเอาพวกเธอไปเคี้ยวเล่นเป็นอาหารยังไงยังงั้น

“ไงเฮกเตอร์ ทำไมเดินเข้างานล่ะ” แมธทิวหนึ่งในสี่สหายพญาเหยี่ยวเอ่ยทักทันทีที่ร่างสูงสง่าเดินขึ้นบันไดมาเอื่อยๆ ท่าทางล้วงกระเป๋าแบบสบายๆ เรียกเสียงฮือฮาเล็กๆ จากสาวๆ ในละแวกนั้นได้ และเมื่อพวกเขาสองคนมายืนด้วยกันก็ยิ่งเป็นตัวเร่งให้เสียงกรี๊ดกร๊าดดังขึ้นราวกับนกน้อยแตกรัง

“ก็เหตุผลเดียวกันกับนายนั่นแหละ จะถามหาหอกอะไร”

เฮกเตอร์หัวเราะและยื่นมือมาทักทายเพื่อนรัก เขาเองก็ไม่ไว้ใจพวกเด็กรับรถให้มาควบขับลูกชายสุดหวงเหมือนกับแมธทิวนั่นล่ะ

เพราะความสนิทที่มีให้กัน ทำให้ชายชาตรีที่แมนทุกกระเบียดนิ้วมีบทสนทนาระหว่างกันที่อาจจะฟังดูไม่สุภาพไปบ้าง ทว่ามันกลับเร้าใจพวกสาวๆ จนแทบจะละลายดุจเทียนไขต้องเปลวไฟ พวกเธอพยายามกางเรดาร์ที่หูเต็มพิกัด ลอบฟังว่าหนุ่มสุดฮอตจะพูดอะไรกัน บางคนก็ทิ้งสายตาเชิญชวนให้กับพวกเขาอย่างมีความหมาย ความที่รวยทั้งรูปสมบัติ คุณสมบัติ ทรัพย์สมบัติ ทำให้ทั้งเฮกเตอร์และแมธทิวได้เห็นภาพเหล่านี้มาจนเอียน เขาเจอวิธีการไล่จับไล่ต้อนเพศผู้ของสตรีมาแล้วทุกรูปแบบ จนไม่เกิดความตื่นเต้นหรืออยากกระโจนเข้าใส่ พวกเขาทั้งสองคัดสรรเอาแต่ของที่มีคุณภาพคับแก้วเท่านั้น

“ไม่ยักรู้ว่านายรู้จักกับสตรีหมายเลขหนึ่งเป็นการส่วนตัว” เฮกเตอร์หลิ่วตาไปทางผู้หญิงที่เขาพาดพิงถึง

“ไม่หรอก แต่ท่านรู้จักกับแม่น่ะ ขืนไม่ทำตัวเป็นสุภาพบุรุษที่อ่อนน้อมต่อผู้ใหญ่ มีหวังได้โดนแม่บ่นไปสามเดือนหากภรรยาของท่านประธานาธิบดีไปฟ้องแม่”

“เออ แมธ ฉันอยากจะทดสอบระบบทั้งหมดของกาสิโนแห่งใหม่อาทิตย์หน้า” เฮกเตอร์กล่าวขึ้นขณะที่ทั้งคู่เดินผ่านตัวอาคารที่ประดับตกแต่งด้วยเครื่องเรือนแบบพระราชวังไปยังลานกว้างด้านหลัง ซึ่งเป็นสถานที่จัดพิธีเปิดตัวสาวๆ ในค่ำคืนนี้

“สำหรับอะไร?”

“ฉันรู้ว่าระบบของไอซิสเทคโนโลยีของนายน่ะเจ๋งอยู่แล้ว มันก็แค่ทดสอบตามแผนบีซีพี น่ะ อยากรู้ว่าเราจะกู้ระบบได้ทันตามกำหนดที่เขียนไว้ในแผนหรือเปล่า หากว่าระบบเครือข่ายล่มหรือห้องเซิร์ฟเวอร์ของกาสิโนเกิดความเสียหาย”

“ระบบกู้ทันอยู่แล้ว เพราะไอซิสเองมีดีอาร์ไซต์ แบบฮอตไซต์ อยู่กาสิโนของนายสามารถเปิดระบบต่อไปได้เพราะเราสำรองข้อมูลให้แบบแอ็กทีฟ แต่ถ้านายอยากเมกชัวร์นะเฮกเตอร์ ส่งกำหนดการและสถานที่มา ฉันจะส่งทีมวิศวกรระบบมือหนึ่งของไอซิสไป”

“ขอบใจนายมากแมธ จริงๆ ไม่ต้องเป็นมือหนึ่งก็ได้ ฉันรู้ประสิทธิภาพของพนักงานภายในกลุ่มบริษัทไอซิสเทคโนโลยีดี” ใช่… เขารู้ดีทีเดียว ขนาดเด็กฝึกงานบริษัทของแมธทิวยังแฮ็กเข้าฐานข้อมูลของสายการบินเขาได้ ตอนที่จ้างไอซิสมาตรวจสอบช่องโหว่ของระบบ ตอนนั้นจึงมีการวางระบบทั้งระบบและใส่รหัสความปลอดภัยใหม่จนไม่มีแฮ็กเกอร์หน้าไหนสามารถแฮ็กได้อีก

“ไม่เป็นไร เพื่อเพื่อนจะให้น้อยกว่านี้ได้ยังไง”

งานเดบูตองส์ประจำปีถือเป็นการนัดพบปะสังสรรค์เล็กๆ ระหว่างสี่ซาตานพญาเหยี่ยวไทคูน ซึ่งแต่ละคนมีธุรกิจรัดตัว ตารางเวลาแน่นเอี้ยดตลอดปีจนหาเวลาเจอกันได้ยากและแน่นอนว่าผู้หญิงสวยเป็นสิ่งที่มาพร้อมกับงานเลี้ยงเสมอ

แม้อากาศช่วงกลางคืนจะเย็นค่อนไปทางหนาวเนื่องจากอุณหภูมิช่วงใกล้คริสต์มาสนั้นลดต่ำลง ก็ไม่ได้ทำให้สาวๆ ในงานลดการแต่งกายประกวดประขันกันแต่อย่างใด แต่ละนางอยู่ในชุดราตรีที่เปิดเผยเนื้อหนังมังสาบางส่วนเพื่อเรียกน้ำลายหนุ่มๆ ในงานให้ไหลย้อย ก็ไม่ใช่ว่าบุรุษจะเป็นผู้ล่าเสมอไป ในยุคปัจจุบันสตรีบางคนก็ลุกขึ้นมากลายเป็นนักล่าเสียเอง

เสียงเพลงเริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ เมื่อสองหนุ่มก้าวเข้าสู่ลานกลางแจ้งไปสมทบกับเพื่อนสนิทในกลุ่มอีกสองคนที่ยืนรออยู่ก่อนแล้ว โดยเพื่อนที่ว่านั้นก็คือ เจ้าของบริษัทน้ำมันอารมณ์ร้าย และทายาทคนเดียวของเจ้าพ่อแห่งวงการยานยนต์ผู้เปี่ยมเสน่ห์

“ไง” คำทักทายสั้นๆ ที่ทั้งสี่เปล่งเสียงออกมาพร้อมๆ กัน มันเป็นเสียงที่ช่างไพเราะยิ่งกว่าบทเพลงบรรเลงในงานเป็นไหนๆ สาวสังคมที่ยืนประชันความสวยความเด่นกันอยู่ ต่างก็มองพวกเขากอดทักทายกันตาปรอย นึกอยากจะแทรกเรือนกายเข้ามาอยู่กลางวง พร้อมทั้งอุทิศตนเป็นอาหารแด่พญาเหยี่ยวทั้งหลาย

‘เพื่อน’ คำแสนสั้นแต่เต็มไปด้วยพลังแห่งความหมาย ไม่จำเป็นต้องมีการทักทายที่เยิ่นเย้อ ไม่จำเป็นต้องโทร.หากันจิ๊จ๊ะทุกวัน แต่ระหว่างสี่ซาตานพญาเหยี่ยวไทคูน ความสนิทสนม ความไว้วางใจที่มีให้แก่กันมันไม่เคยลดลง

ทั้งสี่หนุ่มได้ฉายาว่า ‘สี่ซาตานพญาเหยี่ยวไทคูน จอมอํามหิตแห่งวงสังคมชั้นสูง’ ซึ่งถ้าพวกเขาได้ลองหมายตานกน้อยตัวไหนมาเคี้ยวเล่นแล้วล่ะก็... ไม่เคยพลาดสักราย!

สี่หนุ่มเริ่มจับกลุ่มกันตอนศึกษาที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด แม้จะต่างคณะสาขาวิชา แต่ด้วยบุคลิกภาพและความเป็นทายาทของตระกูลที่ทรงอิทธิพลระดับโลก ทำให้พวกเขาค้นพบความลงตัวของคำว่า ‘เพื่อน’

ซานเชส ฟาเดลลี ซากี หนุ่มลูกครึ่งอเมริกัน-อาหรับ เจ้าของฉายา ‘เหยี่ยวดำ (Black kite)’ ที่โดดเด่นด้วยรูปร่างอันสูงใหญ่ นัยน์ตาคมสีนิล ผิวสีแทน เส้นผมสีดำขลับรับกับใบหน้าคมเข้มของบุรุษหนุ่มหล่อหมายเลขหนึ่งแห่งตะวันออกกลาง เจ้าของบริษัทน้ำมันรายใหญ่ของโลก เงียบขรึม รักอิสระ ชอบสันโดษ เกลียดความวุ่นวาย ไม่ชอบอะไรที่ได้มาง่ายๆ ใจร้อนแต่ไม่วู่วาม ร้ายกาจแต่ไม่โหดเหี้ยม เย็นชาและแข็งกระด้าง ไม่แคร์ใครถ้าคนนั้นไม่น่าแคร์พอ ไม่รอให้ปัญหาค้างคามักจัดการเดี๋ยวนั้นทันทีด้วยความเด็ดขาด

เขาเป็นสปอร์ตแมน ชอบเล่นกีฬาทุกประเภทโดยเฉพาะกีฬากลางแจ้งที่มีแสงแดดอ่อนๆ เนื่องจากเป็นคนเมืองร้อน และทุกๆ ที่ที่เขาไปไม่มีเหยื่อรายไหนที่เขาหมายตาแล้วไม่ได้สวาปาม ยิ่งกลางวันแสกๆ แปลกที่หน่อยๆ ก็ยิ่งทำให้กิจกรรมล่าพรหมจรรย์สาวของเขาเร้าใจมากขึ้น ไม่แปลกที่เขาจะรีบกินและรีบคายเนื่องจากสถานที่ที่ใช้ทำภารกิจล้วนเป็นที่หวาดเสียวเสี่ยงต่อคนมาพบเห็นได้ง่ายทั้งสิ้น ซึ่งสมกับฉายาของเขาที่ทุกคนต่างยกให้เป็นเหยี่ยวดำ ที่ชอบลากเหยื่อลงมาจิกกินบนพื้นดินหลังโฉบเฉี่ยวและงาบไว้ได้สำเร็จ

แมธทิว คอนลินลิเลียส เจ้าของกลุ่มบริษัทไอซิส เทคโนโลยี เขาเป็นคนโรแมนติกที่รักสนุก แต่ขณะเดียวกันก็โหดเหี้ยมไม่เห็นแก่หน้าใครไม่ว่าจะเป็นเรื่องงานหรือเรื่องเซ็กซ์ วินาทีหนึ่งเขายิ้มให้กับคู่ต่อสู้ในการประมูลงาน แต่วินาทีถัดมาเขาก็เชือดคอคนเหล่านั้นด้วยการยื่นตัวเลขให้ต่ำกว่าแค่ไม่กี่ดอลลาร์

ช่วงกลางวันเขาอาจจะเป็นนักคิดที่เต็มไปด้วยเล่ห์เหลี่ยม แต่ช่วงค่ำคืนเขาจะกลายเป็นนักรักที่ร้อนฉ่าช่ำชองชำนาญการ ด้วยความสูงตามมาตรฐานนักบาสเกตบอลของเอ็นบีเอ เรือนกายกำยำตามแบบฉบับควอเตอร์แบ็ก ใบหน้าคมคร้ามเซ็กซี่มีเสน่ห์ส่งผลให้ผู้หญิงค่อนโลกอยากจะพาตัวเองมาเป็น ‘ขนมขบเคี้ยว’ หลังอาหารเย็นของแมธทิว ทว่าสำหรับเจ้าพ่อไอทีแล้ว ผู้หญิงก็เป็นแค่ทอฟฟี่ที่ไว้เคี้ยวเล่นเพลินๆ ยามว่าง ไม่กินร่างกายก็ยังได้สารอาหารครบถ้วน กินมากไปก็ฟันผุ

ความว่องไวของแมธทิวสมกับฉายา ‘เหยี่ยวพีรีกริน (Peregrin Falcon)’ ไม่ว่าไปที่ไหนเวลาใดเขาผู้นี้ก็สามารถมองหาเหยื่อและล่าได้โดยใช้เวลาไม่กี่พริบตาเท่านั้น เขาฉลาด ปราดเปรียว ว่องไวและไร้หัวใจ ใช่! หัวใจของแมธทิวไม่เต้นมานานแล้ว ไม่ใช่เพราะผู้หญิงคนไหน แต่เป็นเพราะเขาเลือกเองที่จะทิ้งความรู้สึกงี่เง่าบ้าบอที่พวกผู้หญิงน่ารำคาญเรียกว่า ‘รัก’ ลงแม่น้ำฮัดสันไปตั้งแต่อายุสิบสี่ โลกนี้มีอะไรน่าสนใจมากกว่าการนั่งเพ้อฝันถึงเรื่องที่ไม่สามารถนิยามอีกตั้งเยอะ

อีธาน เบเนดิกท์ รอธ หนุ่มดัตช์ผู้หล่อเหลา เขาแฝงความเร่าร้อนในที่รโหฐานไว้ภายใต้ท่าทีเย็นชาต่อที่สาธารณะ จึงได้ฉายาว่า ‘เหยี่ยวภูเขา (Mountain Hawk)’ รูปร่างสูงสง่า ช่วงบ่ากว้าง แผงอกแน่นและไรขนดก ใบหน้าสมบูรณ์แบบ โดดเด่นด้วยแนวคิ้วดกยาวและดวงตาหวานคมสีน้ำตาลเข้มที่ส่องประกายเจิดจ้ายามล่าเหยื่อ บุคลิกสุขุมนุ่มนวลของเขาเปรียบได้กับแม่เหล็กที่ดึงดูดให้หญิงสาวลุ่มหลงแค่เพียงสบตา จนอยากถลาเข้าไปแนบชิด สาวๆ ในมหาวิทยาลัยและสังคมชั้นสูงต่างพูดถึงเขาเป็นเสียงเดียวกันว่า อีธานเหมือนภูผาสูงชันที่จะไม่มีสาวใดสามารถไต่ขึ้นไปถึงยอดหัวใจของเขาได้ แต่ถ้าแค่อยากไต่ขึ้นเตียงกับเขาล่ะก็... ไม่ยาก

ที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะถ้าสาวใดเสนอตัวให้เขากินฟรีๆ แบบอาหารจานด่วน เขาก็ไม่ใจร้ายพอที่จะปฏิเสธ ถ้าเจ้าหล่อนไม่ได้อัปลักษณ์จนถึงขั้นกระเดือกไม่ลง แต่ถ้ารูปร่างหน้าตาไม่ได้เรื่องแล้วยังกล้ามาขอไต่เตียงเทพบุตรอย่างเขา ก็อาจถูกดีดกระเด็นกลับไปด้วยถ้อยคำเจ็บแสบ แต่หากมื้อไหนที่เขานึกอยากเลือกหามากินเอง อีธานจะช่างเลือกและใจเย็นพอ เขาไม่ผลีผลามในการล่าสาว เหยื่อที่หมายตาจะถูกสำรวจตรวจตราจนเป็นที่พอใจก่อนจะเข้าจู่โจม กลืนกินจนหนำใจแล้วทิ้งซากไปอย่างไม่ไยดี เพราะสำหรับเขา ผู้หญิงมีไว้แค่สนองความอยากเท่านั้น

และเฮกเตอร์ อิวานโนวิช หนุ่มหล่อลูกครึ่งอเมริกัน-เซอร์เบีย ผู้ได้ฉายาว่า ‘เหยี่ยวแดง (Brahminy Kite)’ เร่าร้อนประดุจเปลวไฟที่พล่าผลาญพรหมจรรย์หญิงสาวมาแล้วนักต่อนัก เขามีผิวสีขาว ผมสีน้ำตาลแดง รูปร่างสูงสง่าขนาดนายแบบบนป้ายบิลบอร์ดบางคนยังหมองลงหากยืนใกล้ๆ เอกลักษณ์เฉพาะตัวของพญาเหยี่ยวแดงผู้นี้คือ ปากหวาน กะล่อน เอาแต่ใจตัวเองเป็นที่หนึ่ง ผู้หญิงสำหรับเขาก็เป็นแค่เครื่องบำเรอทางเพศเท่านั้น ชอบก็ฟัน ฟันเสร็จแล้วก็ทิ้งทันที เฮกเตอร์ไม่เคยสะกดคำว่า ‘รัก’ เพราะมันไม่มีในพจนานุกรมของเขาแต่อย่างใด

สาวๆ ในวงสังคมต่างยกให้หนุ่มหล่อผู้นี้เป็นเหยี่ยวเพลิงผลาญใจ แต่กระนั้นก็ไม่ได้ทำให้บรรดาสาวๆ หวาดหวั่นครั่นคร้ามแต่อย่างใด แม้รู้ว่าเขาคือกองไฟแต่บรรดาแมงเม่าน้อยใหญ่ก็พร้อมจะกระโจนเข้าใส่เพื่อให้ได้ลิ้มรสพิศวาสอันแสนเร่าร้อนแสนเลื่องชื่อของเขาสักครั้ง

บนเวทีด้านหน้าของ ซานเชส แมธทิว อีธาน และเฮกเตอร์ พิธีกรกำลังกล่าวร่ายยาวเพื่อนำทุกคนเข้าสู่ช่วงพิธีการ แต่ในสายตาของแขกผู้หญิงที่อยู่ด้านล่าง ภาพความสง่างามและทรงพลังทางเพศที่กลุ่มคนสุดร้อนแรงยืนอยู่รวมกันด้วยท่าทางขรึมและมีรอยยิ้มทางดวงตานั้นน่าชมกว่าเป็นไหนๆ

“การเร่ขายกำลังจะเริ่มต้นขึ้น” อีธานเปรยขึ้นอย่างหยันๆ

เพราะความเป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกัน จึงทำให้หนุ่มแสนล่ำสุดฮอตน่าฟัด มีแนวคิดอะไรบางอย่างเหมือนกัน และทัศนคติต่องานเดบูตองส์ก็เป็นหนึ่งในไม่กี่อย่างที่พวกเขาเห็นตรงกัน การเปิดตัวสาวๆ ให้เป็นที่รู้จักในวงสังคม ไม่ต่างอะไรจากตลาดเร่ขายผู้หญิงชั้นสูง เพราะครอบครัวจะประกาศคุณสมบัติของพวกเธอเหล่านั้น เพื่อให้นักลงทุนทั้งหลายได้รับทราบพร้อมกับรอเวลาให้พวกเธออายุพอเหมาะและใครบางคนตัดสินใจที่จะทาบทามลูกสาวของตนไปเป็นศรีภรรยา

หลังจากที่พิธีกรร่ายประวัติอันแสนสวยงามของหญิงสาวคนแรกจบ สายตาคมที่รวดเร็วประดุจเหยี่ยวพีรีกรินของแมธทิวก็ถูกดึงดูดด้วยอะไรบางอย่าง และโดยที่ไม่รอช้า เขารีบสะกิดอีธานเพื่อกระซิบกระซาบบางประโยค

“ไปก่อนนะ” เจ้าพ่อไอทีกล่าวสั้นๆ แล้วร่างสูงใหญ่กำยำของแมธทิวก็หายลับไปกับฝูงชน

เสียงปรบมือดังขึ้นกึกก้องเมื่อหญิงสาวบนเวทีแสดงความสามารถของตัวเองด้วยการสีไวโอลิน ซึ่งทำให้ซานเชสถึงกับเบ้ปาก

“หมาที่บ้านแม่ฉันยังทำได้ดีกว่าหล่อนเลย” เขาปรามาสแล้วก็ถามถึงเพื่อนที่หายไป “แมธล่ะ ไปแล้วหรือ”

“อือ” อีธานทำเสียงในลำคอตอบข้อสงสัย

“ไปไหนล่ะ” ซานเชสถาม

“หน้าฉันเหมือนเมียมันเหรอ” อีธานตอบแบบกวนๆ แต่ก็ยอมขยายความในสิ่งที่คิดว่าเพื่อนรู้อยู่แล้วลึกๆ ในใจ “คงเห็นใครน่าฟาด ก็เลยโฉบเหยื่อไปกินล่ะมั้ง”

“แมธนี่ไวเหมือนพีรีกริน ฉายาของมันเลยนะ” เฮกเตอร์หัวเราะในลำคอน้อยๆ พลันนัยน์ตาสีน้ำเงินก็เหลือบไปเห็นสาวสวยในชุดราตรีเกาะอกสีแดงเพลิงที่กำลังมองมาทางเขาพอดี นักล่าหนุ่มกวาดสายตามองเรือนร่างของหญิงสาวอย่างช้าๆ ตั้งแต่ริมฝีปากสีราสเบอร์รีลงมาถึงหน้าอกอวบอิ่มที่ซ่อนตัวอยู่ในชุดราตรีหรูหรางามบาดตา ผ้าเนื้อดีซึ่งตัดเย็บจากห้องเสื้อราคาแพงแนบลู่ไปกับรูปร่างที่เต็มไปด้วยส่วนเว้าส่วนโค้งสุดแสนจะยั่วยวน ความขาวกระจ่างของผิวพรรณบริเวณเนินอกและเรือนร่างน่าฟอนเฟ้นช่างโดดเด่นล้อแสงไฟสะท้อนวาบเข้ามาสู่ดวงตาคมกริบให้วิบไหว ท่าทางของเธอดูเหมือนจะอายนิดๆ ยามถูกเขาจับจ้อง แต่ให้ตายเถอะ! เขาแพ้สีแดงซะด้วยสิ และการเปลี่ยนสาวขี้อายให้เป็นสาวเร่าร้อนก็ไม่ใช่งานยากสักนิดสำหรับพญาเหยี่ยวแดงอย่าง ‘เฮกเตอร์’

และในอีกไม่กี่อึดใจต่อมาร่างของสาวสวยชุดแดงก็ตกอยู่ในอ้อมกอดของพญาเหยี่ยวแดงที่พาเธอขยับไปตามจังหวะดนตรีกลางฟลอร์เต้นรำ