บทที่2 ตอน "แค่เด็กฝึกงาน" 1
๒
แค่เด็กฝึกงาน
สองอาทิตย์ต่อมา ที่บริษัท…
ณ ห้องทำงานขนาดใหญ่ ภานุวัฒน์นั่งกุมขมับ ใบหน้าหล่อเหลาเปลี่ยนสีเป็นเคร่งเครียดเมื่อมองหางานที่สั่งให้เลขาฯ หน้าห้องทำแต่ก็ยังไม่เห็นแม้แต่เงา นี่ก็เลยเวลาที่จะตรวจเช็กแล้วด้วย ชายหนุ่มหงุดหงิดที่งานล่าช้าจึงลุกออกจากโต๊ะทำงานเดินออกจากห้อง
“คุณสายฝน”
ยิ่งหัวเสียมากขึ้นเมื่อเห็นงานที่ต้องการยังกองสุมเป็นภูเขา บริษัทมีพนักงานเยอะแยะ แต่งานกลับไม่เดินหน้า ชายหนุ่มจึงนึกในใจว่า ‘น่าไล่ออกซะให้หมด’
“คะ?” เลขาฯ หน้าห้องรีบลุกขึ้นเมื่อได้ยินเสียงเรียกชื่อตน ใจหวิวๆ เมื่อเห็นสีหน้าดุๆ ของเจ้านายหนุ่ม
“ผมต้องการเอกสาร! คุณทำเสร็จหรือยังครับ!”
“เอ่อ” ได้แต่อ้ำอึ้ง ไม่กล้าที่จะมองสบสายตาของเจ้านาย และยิ่งไปกว่านั้น เมื่อเหลือบมองหญิงสาวที่ตัวเองมอบงานให้ทำอยู่ข้างๆ สายฝนก็อยากจะเป็นลม งานเต็มโต๊ะ แต่แม่เด็กฝึกงานกลับนั่งอมยิ้มใจลอยไปไหนไม่รู้!
“แพรรักพี่วัฒน์ค่ะ” หล่อนเปรยเสียงแผ่วเบาให้ได้ยินเพียงคนเดียวราวกับตกในห้วงความฝันเมื่อคำพูดหวานหูของชายคนรักดังกระหึ่มในห้วงคิด กลบเสียงทรงอำนาจของชายร่างโตที่ยืนจังก้าอยู่หน้าโต๊ะทำงาน
แฟ้มเอกสารหลายฉบับที่กองอยู่บนโต๊ะทำงาน ไม่ได้ทำให้หญิงสาวที่กำลังหลงใหลได้ปลื้มไปกับสร้อยเส้นเล็กที่อยู่บนคอระหงได้สติ แพรพรรณเอาแต่นั่งใจลอย ริมฝีปากบางแต่งแต้มด้วยลิปสติกสีหวานยิ้มอ่อนๆ ดวงหน้านวลขึ้นสีแดงอมชมพูก้มมองมือที่ลูบคลำแหวนแทนใจที่ภานุวัฒน์ใส่ให้เธอเมื่อวันก่อน
“แพร!”
“...” เงียบไม่มีเสียงตอบรับ
“แพรพรรณ!” สายฝนรีบลุกออกจากเก้าอี้ เดินเข้าไปยืนชิดแล้วสะกิดให้หญิงสาวที่นั่งยิ้มอยู่คนเดียวรู้สึกตัว
“คะ ค่ะ”
คนถูกสะกิดยังงุนงง เงยหน้ามองเลขาฯ ของภานุวัฒน์ที่ยืนอยู่ข้างๆ ท่าทางของสายฝนช่างดูแปลกๆ
“ลุกขึ้นเดี๋ยวนี้!” สายฝนมองหน้าภานุวัฒน์ ยิ้มแห้งๆ พร้อมทั้งกัดฟันพูดบอกให้เด็กฝึกงานได้มองเจ้านายที่ยืนหน้าเหี้ยมอยู่หน้าโต๊ะทำงาน
กิตติศัพท์ความใจดีไม่ถือตัวกับลูกน้อง ทำให้ชายหนุ่มเป็นที่นับถือของทุกคนที่ได้ร่วมงานด้วย เขาเป็นเจ้านายที่ให้โอกาสกับคนที่ด้อยกว่าและใส่ใจให้เกียรติกับทุกคน ไม่ว่าจะเป็นแม่บ้านทำความสะอาดห้องน้ำหรือคนทำสวน แต่ถ้าใครที่ทำงานไม่ตรงต่อเวลาหรือ
ไม่ตั้งใจในหน้าที่การงาน ภานุวัฒน์จะไล่ออกทันที นี่คือฉายา ‘เจ้านายหน้าเหี้ยม’ สายฝนนึกถึงตรงนี้แล้วก็รู้สึกหนาวๆ ร้อนๆ อย่างไรไม่รู้
“พี่สายฝน มีอะไรเหรอคะ?” หญิงสาวยังตกอยู่ในห้วงเพ้อฝัน
“ฉันบอกให้ลุกขึ้น อยากตกงานหรือไงยะ!” หล่อนกลัวเหลือเกินกลัวว่าเจ้านายจะดุแม่สาวน้อยหน้าหวาน เพราะรับรู้มาว่าชายหนุ่มไม่นิยมคนที่มีนิสัยชอบอู้งาน
“พิ คุ คุณภานุวัฒน์” แพรพรรณตกใจเมื่อหันไปมองตามที่เลขาฯ สาวทำไม้ทำมือให้เธอดูที่หน้าโต๊ะ รีบลุกขึ้นยืนจนทำให้เก้าอี้ที่เธอนั่งล้มเสียงดัง
“คุณสายฝน คุณควรจะฝึกเด็กให้รู้จักรับผิดชอบหน้าที่การงานด้วยนะ ไม่ใช่นั่งอู้แบบนี้” เสียงของคนมีอำนาจออกคำสั่งกับเลขาฯ แต่สายตาของเขากลับจ้องมองหญิงสาวที่เอาแต่ยืนก้มหน้า ทำไมน้องน้อยไม่ตั้งใจทำงานนะ เขาไม่อยากที่จะใช้วาจาดุด่าเธอให้รุนแรง แต่ก็ไม่อยากให้ใครต่อใครสงสัยอะไรมากกว่านี้
“ดิ ฉันต้องขอโทษแทนเด็กด้วยนะคะ” สายฝนเปรยเสียงสั่นๆ ใบหน้าของหล่อนซีดขาว กลัวโดนหางเลขไปด้วย
“ผมต้องการดูเอกสารเดี๋ยวนี้นะ ไม่ใช่ชาติหน้า” ภานุวัฒน์จับแฟ้มเอกสารที่อยู่บนโต๊ะขึ้นมาดู เขาส่ายหน้าไปมา ยิ่งเห็นยิ่งหงุดหงิดมากขึ้นจึงโยนแฟ้มลงไปกองที่เดิม
“พะ แพรว่าไง งานไปถึงไหนแล้ว” สายฝนหายใจไม่ทั่วท้อง สีหน้าของหล่อนเหมือนคนใกล้ตายหันไปถามหญิงสาวที่ตนมอบงานให้ทำ
“พะ แพรขอโทษค่ะ” แพรพรรณโน้มตัวลง มือสั่นจับเก้าอี้ที่ล้มขึ้นมาตั้งไว้กับที่เหมือนเดิมแล้วยกมือไหว้ชายหนุ่ม ดวงตากลมโตก็เหลือบมองเขา แต่ก็ต้องรีบหลบงุดเมื่อเจอกับสายตาดุดันมองกลับมา ขณะนี้ ภานุวัฒน์แปรสภาพเป็นคนที่มีตำแหน่งหน้าที่การงานต้องรับผิดชอบสูง และเขาจะชอบออกคำสั่งเอากับเธอเสมอ!
“คุณสายฝน” ภานุวัฒน์ส่งสายตาตำหนิน้องน้อย แล้วเมินจากดวงหน้านวลหันไปเล่นงานเลขาฯ สาวแทน
