ตอน "เลี้ยงเด็ก" 4
“ฮือๆ”
“หยุดร้องไห้ได้แล้ว รู้ไหม น้ำตาของแพรมันทำให้พี่ปวดใจมากแค่ไหน พี่รักแพร เรียนจบแล้วแต่งงานกับพี่นะ” เอ่ยคำหวานผสมคำมั่นสัญญาเพื่อให้หญิงสาวหยุดสะอื้นไห้
“แพรก็รักพี่” ดวงหน้าหวานไร้เครื่องสำอาง มีเพียงแป้งฝุ่นเท่านั้นที่ทาทับผิวแก้มเงยมองหน้าชายคนรักที่หวังจะฝากชีวิตไว้ให้เขาดูแล แพรพรรณกำยาในมือไว้แน่น ไม่ยอมให้ชายหนุ่มเอาไปทิ้ง
“รักพี่ก็กินยาซะ”
“ค่ะ” แพรพรรณจะเชื่อฟัง จะทำตามคำพูดของชายหนุ่มทุกอย่าง
“ตั้งใจเรียนนะครับ อีกสองปี แพรก็จะจบปีสี่แล้ว”
ภานุวัฒน์เช็ดน้ำตาออกจากพวงแก้มนวล ส่วนมืออีกข้างจับมือเรียวสวยมากุมไว้แล้วก้มลงจูบผิวหลังมือหอมกรุ่นแผ่วเบา ชายหนุ่มถอดแหวนทองเกลี้ยงที่ด้านในสลักเป็นชื่อย่อและนามสกุลออกจากนิ้วกลางของตัวเอง
“พะ แพรจะกินยาคุม” แพรพรรณสะอื้นร้องไห้เมื่อชายหนุ่มชูสร้อยทองเส้นเล็กแกว่งไปมาตรงหน้า เขายิ้มให้แล้วใส่แหวนในสายสร้อย ทำเป็นจี้วงแหวนแทนใจ
“ใส่ไว้ อย่าถอดออกล่ะ” ภานุวัฒน์เปลี่ยนท่ามานั่งคุกเข่าตรงหน้าน้องน้อย เขาใส่สร้อยให้หล่อนพร้อมทั้งเอ่ยเสียงแหบแห้งกระซิบชิดลำคอระหง กลิ่นหอมของแป้งเด็กที่เธอชอบใช้ทำให้หัวใจของคนมีอายุอดไม่ได้ที่จะเชยชม ริมฝีปากหนาพรมจูบไล่เม้มไปผิวใต้ปลายคางมน ไต่เล็มชิมน้ำอุ่นร้อนบนผิวพวงแก้มจนไม่หลงเหลือแม้แต่คราบน้ำตา
“แพรขอโทษที่ดื้อกับพี่ค่ะ” แม่กระต่ายน้อยโดนพ่อมดเจ้าเล่ห์ร่ายมนตร์คาถาทั้งคำพูดและการกระทำ จนทำให้สาวเจ้าที่อ่อนต่อโลกเคลิบเคลิ้มหลงใหลไปกับมนต์แห่งความรักที่เขาพร่ำบอก
“เป็นเด็กดีของพี่นะ สาวน้อย” ภานุวัฒน์กระตุกยิ้มพึงพอใจที่น้องน้อยทำตามคำสั่ง เขารับแก้วน้ำจากมืองามแล้วลุกขึ้นยืนเดินเอาแก้วไปเก็บไว้หลังตู้เย็น
“ต่อไป แพรจะเป็นคนซื้อยามากินเอง” สาวเจ้าเขินอายจนดวงหน้าที่ยังเหลือคราบน้ำตาแดงระเรื่อเป็นสีชมพู
“ไม่เอา พี่อยากเป็นหมอคอยควบคุมให้แพรกินยาทุกประเภทด้วยตัวเองครับ เพราะดูเหมือนแพรจะแพ้ยาตัวหนึ่ง ดีที่ไม่เป็นอะไรมาก”
“แพรไม่เคยแพ้ยานะ กินได้ทุกชนิด” แพรพรรณเอาแต่นั่งจ้องหน้าชายหนุ่มตาปริบๆ ทบทวนว่าหล่อนแพ้ยาตัวไหนบ้าง
“แน่ใจนะว่าไม่แพ้ พี่เห็นแพรกินทีไรร้องโหยหวนครวญครางเสียงดังลั่นห้อง” โคแก่หน้าหนุ่มไม่ยอมหยุดหื่น อมยิ้มเจ้าเล่ห์พลางพูดจาแอบแฝง ซึ่งคนอ่อนต่อโลกได้แต่ทำหน้างุนงง ไม่รู้ความหมายที่เขาเอ่ย
“ยาตัวไหนคะ? ไม่มีนะ แพรกินได้ ไม่ร้องครวญครางอะไรด้วย”
“ยาบำรุงร่างกายเข็มใหญ่ไงครับ”
“พี่วัฒน์ฉีดให้แพรตอนไหนคะ?” สาวน้อยขมวดคิ้วจนเกิดรอยหยักตรงหน้าผาก
“โดนทุกคืน ร้องเสียงดังด้วยนะ” ภานุวัฒน์ยิ้มกรุ้มกริ่ม เดินเข้ามายืนชิดน้องน้อยที่ยังนั่งอยู่ที่เดิมบนโซฟา เขาโน้มตัวเข้าหาแม่กวางน้อย ใช้แขนทั้งสองข้างค้ำยันพนักวางแขนกักขังเธอไว้เหมือนนกน้อยที่ติดอยู่ในกรงทอง
“บ้า! พี่วัฒน์บ้า!” เมื่อรู้ว่ายาที่ตัวเองแพ้คืออะไร แพรพรรณก็รีบก้มหน้าอันผ่าวร้อนหนีเมื่อได้สบสายตาหื่นกระหาย เธอไม่อยากจะตกเป็นเหยื่อของเสือร้ายเจ้าเล่ห์ จึงยกมือขึ้นดันร่างโตให้หลีกพ้นทาง
“ฮ่าๆ ฮ่าๆ หิวยังครับ?” ภานุวัฒน์หัวเราะชอบใจเมื่อได้พูดเรื่องหื่นๆ ให้น้องเข้าใจความหมาย
“หิวสิคะ นี่ถ้าขืนช้า รับรองแพรกินพี่วัฒน์แน่ๆ”
แพรพรรณลุกเดินหนีไปยืนอยู่ตรงหน้าต่างประตูกระจกบานเลื่อนสีใส ดวงตากลมโตก็มองลงไปด้านล่างที่ไม่มีแม้แต่คนงานสักคน
“แพรแน่ใจเหรอว่าจะใส่ชุดนักศึกษาไปเที่ยวกับพี่” ร่างสูงใหญ่เดินตามแม่แมวน้อยมายืนแนบชิดแผ่นหลังนวล แขนทั้งสองข้างสอดโอบกอดเอวคอดกิ่วไว้อย่างรักใคร่หวงแหน เป็นเพราะแพรพรรณตัวเล็ก มีความสูงแค่ปลายคางเขา ภานุวัฒน์จึงวางคางเกยอยู่บนกระหม่อมเธอ
“ไม่ให้ไปชุดนี้ แล้วจะให้แพรใส่ชุดไหนไปคะ” ผลักตัวออกจากการกกกอดแล้วเดินหนีไปยืนอยู่กลางห้อง นึกหมั่นไส้คนที่ถาม จะให้เธอเอาชุดไหนใส่ละ ถ้าไม่ใช่ชุดที่ใส่มาทำงานเมื่อวานนี้
“งั้นวันนี้ พี่จะพาไปซื้อเสื้อผ้าสวยๆ เปลี่ยนชุดแล้วค่อยไปหาอะไรกินกันนะครับ” ภานุวัฒน์เดินไปจูงมือน้องพาไปยังประตูห้อง เขานั่งบนเก้าอี้มองหญิงสาวที่กำลังสาละวนใส่ถุงเท้าและรองเท้าให้ ดวงตาสีเข้มก็สำรวจมองร่างอรชรแล้วถอนหายใจแผ่วเบา ไม่อยากจะมองชุดนิสิตที่ปกคลุมร่างบางเลยสักนิด ซึ่งมองทีไรยิ่งดูเหมือนว่าเขาเป็นเฒ่าหัวงูพรากผู้เยาว์อย่างไรอย่างนั้น…
