บทย่อ
#รอยรักคุณหมอ(ซีรีส์ คือเธอ ลำดับที่ ๑) เมื่อ "จริงใจ" เกิด “ท้อง” แบบไม่ทันตั้งตัว และ "หมอปืน" พ่อของลูกก็ใจร้ายเหลือเกิน เขาไม่สนใจและแถมบอกอีกว่า “อยากเอาออกหรือเก็บไว้ก็เชิญ ” นั่นคือคำพูดที่ออกจากปากเขาเป็นพ่อและเป็นหมอที่ช่วยชีวิตคนมาเยอะต่อเยอะ แต่กับลูกในไส้ของตัวเองเขากลับเกลียดชัง เพียงเพราะเธอคือ “แม่’ ของลูกเขาเท่านั้น ++++ “จริงใจท้องค่ะหมอปืน” เธอบอกคนที่เปิดประตูเข้ามาในห้องนอนส่วนตัวของตนด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความกังวล มือที่กำลังปลดกระดุมเสื้อหยุดชะงักแล้วเดินมากระชากแขนคนตัวเล็กดึงรั้งเข้ามาหาตน อีกมือที่ว่างก็ยกขึ้นมาบีบเชยคางมนเต็มแรงโทสะให้แหงนเงยขึ้นสบตาตน “ยัยโง่! ไม่รู้จักยาคุมรึไงถึงไม่กิน” จากที่อารมณ์ดีตอนทานมื้อเย็น ตอนนี้อารมณ์ของเขามันเหมือนกับพายุทะเลทรายเมื่อได้ยินคำพูดของจริงใจ “โอ๊ย! จริงใจเจ็บค่ะหมอปืน” เธอจับมือใหญ่ที่บีบคางตนเองเต็มแรงให้ปล่อยคางตน “เธอคิดจะจับฉันใช่ไหมถึงไม่กินยาคุมแล้วปล่อยตัวเองท้องแบบนี้จริงใจ” ปืนไม่โทษตัวเองเลยสักนิด ทั้งๆ ที่ตนนั่นแหละผิด อีกอย่างเธอก็ไม่เคยคิดถึงความผิดพลาดเรื่องนี้ด้วย “เปล่านะคะ จริงใจไม่เคยคิดที่จะทำแบบนั้น” สาวน้อยส่ายหน้าปฏิเสธทั้งน้ำตา “เปล่างั้นเหรอ” พอได้ยินสาวเจ้าเอ่ยปฏิเสธ อกของเขามันก็ร้อนเป็นไฟ หากจริงใจไม่อยากจับเขาแล้วอยากจับใคร “อย่าบอกนะว่าเธออยากได้พี่ชายฉัน” เขาถามแล้วก็ขบกรามแน่นเมื่อคิดว่าคนที่จริงใจต้องการคือพี่ชายตน “มะ…ไม่นะคะหมอปืน ปล่อยจริงใจก่อนได้ไหม จริงใจเจ็บ” “อย่าคิดว่าฉันไม่รู้นะว่าเธอรักพี่ชายฉัน แต่เสียใจด้วย เธอเป็นเมียฉันไม่ใช่ของพี่ตุลย์” เขาผละมือจากคางและผลักร่างเล็กออกห่าง เธอเกือบเสียหลักล้มตอนถูกหมอหนุ่มผลัก ++++ “หมอปืนจะทำอะไร?” เธอถามพร้อมจ้องตาคนคร่อมทับเหนือร่างตนอย่างเอาเรื่อง “เธอเป็นเมียฉัน และเป็นของฉัน ทำไมจะทำอะไรไม่ได้” “อย่ามาทึกทักเอาเองค่ะ จริงใจกับหมอปืนเราเป็นแค่คนรู้จักกันเท่านั้น” มือเล็กข้างที่ว่างอยู่ก็ยกมาดันหน้าอกแกร่งไว้ไม่ให้เขากดตัวทับมาเสียดสีอกของตน “งั้นเหรอ ฉันทึกทักจนเธอมีเพทายเนี่ยนะ ตลกแล้วจริงใจ” “เพทายเป็นลูกของจริงใจคนเดียวค่ะ หมอปืนอย่าลืมสิ่งที่หมอปืนพูดสิคะ หรือต้องให้จริงใจพูดให้ฟังไหมคะ จะได้จะ...อะ...อื้อ” แล้วคำพูดของเธอก็กลืนหายเข้าไปในลำคอเมื่อปากหนาทาบทับลงมาบดจูบหนักหน่วงเอาแต่ใจ #คุณหมอจองรัก(ซีรีส์ คือเธอ ลำดับที่ ๒) "ลงมา!" เธอกอดเข็ดขัดนิรภัยแน่นไม่ยอมปลดเข็มขัดลงรถไปตามคำสั่งเขา "อย่าดื้อน่าจีน ลงมา! ใช่ว่าเราจะไม่เคย เอา กันสักหน่อย หรือว่าไอ้หนุ่มนั่นจัดให้อิ่มแล้วจึงไม่อยาก เอา กับหมอฮึ" เขาโน้มตัวก้มลงไปปลดเข็มขัดนิรภัยแล้วก็ดึงลากคนตัวเล็กลงจากรถเพื่อเข้าห้องไปเชือด ปึก! เสียงกระชากประตูเปิดดังขึ้นแล้วเขาก็ลากร่างเล็กเข้าไปในห้องพร้อมกับใช้เท้าถีบปิดประตู ปึก! "ดูสิจีน ดูห้องที่หมอเลือกสิ มีโซ่ แส้ กุญแจมือให้ด้วย อยากลองไหม" ว้าย! แล้วเขาก็เหวี่ยงคนตัวเล็กไปบนเตียงทันที เจตปรียากระแทกกับเตียงนอนนุ่มสีดำแล้วไฟในห้องก็เป็นสีแดง น่ากลัวจนขนลุก และยิ่งมีพวกโซ่ แส้ กุญแจมือพวกนี้อีก ทำให้เธอหวาดกลัวจนต้องขยับตัวถอยไปชิดหัวเตียงแล้วยกมือกอดตัวเองมองดูคนที่กำลังคลานขึ้นมาหาตัวเองบนเตียง หึหึ "ไม่ต้องกลัวหรอก หมอไม่ใช้มันกับจีนหรอก แต่ถ้าจีนดื้อไม่เชื่อฟัง แส้ โซ่ และกุญแจมือพวกนี้ ผัวจะใช้มันกับเมียแน่นอน หรืออยากลองดูได้นะ ดื้อสิ แล้วหมอจะเอาแส้ฟาดก้น" เขาพูดพร้อมคว้ามือไปหยิบแส้หนังสีดำมาลากลิ้นเลียตามเส้นของแส้หนังราวกับโรคจิต อึก! เจตปรียากลืนน้ำลายลงคอ กอดตัวเองตัวสั่นเมื่อเห็นเขาใช้ลิ้นเลียแส้หนังในมือ "ยะ...ยอมแล้ว หมอตุลย์จะทำอะไรกับฉัน ฉันยอมทุกอย่าง ขอแค่อย่าใช้แส้ โซ่ กุญแจพวกนี้กับฉันได้ไหม" "ผัวเมียกัน เขาใช้คำพูดห่างเหินแบบนี้เหรอจีน" เธอขมวดคิ้วครุ่นคิดคำพูดของเขาว่าตัวเองพูดอะไรผิดไปและห่างเหินตรงไหน แล้วก็เลิกคิ้วเล็กน้อยแล้วพูดใหม่อีกครั้ง "จีนยอมแล้ว หมอตุลย์จะทำอะไรกับจีนก็ได้ แต่อย่าใช้ของพวกนี้กับจีนได้ไหมคะ?" เธอไม่พูดเปล่า แต่ขยับตัวเข้าไปหาเขาแม้จะรู้สึกเขินอาย แต่ตอนนี้เธอต้องทำเพื่อเอาใจหมอโรคจิตคนนี้ "แบบนี้สิค่อยอยากคุยด้วยหน่อย" แล้วเขาก็โยนแส้หนังในมือทิ้งแล้วเปลี่ยนมาเชยคางมนให้แหงนเงยขึ้นแล้วก็ก้มหน้าทาบทับริมฝีปากหนาสีเข้มของตนเองลงบนกลีบปากอวบอิ่มสีระเรื่อของสาวน้อยในชุดนักศึกษา
บทที่ 1.หมอปากร้าย
มุมปากหนายกยิ้มเล็กน้อยก่อนจะเดินเข้าบ้านของตน แต่สายตาจับจ้องมองสองคนที่กำลังคุยกันตรงหน้าเพื่อฟังว่าทั้งสองคุยอะไรกันถึงได้หัวเราะต่อกระซิกกัน และเห็นเป็นแบบนี้ทุกครั้งที่กลับบ้านมาเจอ ทั้งสองสนิทสนมกัน และมือน้อยที่ยกขึ้นแตะแขนของชายอีกคนก็ทำให้เขาหงุดหงิดรำคาญทุกครั้ง ไม่เข้าใจว่าทำไมมันเป็นแบบนี้ ตั้งแต่เล็กจนโตแล้วที่ จริงใจ ผลดี วัย 22 ปี หลานสาวของแม่นม ที่ช่วยคุณย่าเลี้ยงตนมาตั้งแต่พ่อกับแม่จากไป ตอนนั้นเขาเพิ่งอายุได้หนึ่งขวบ พี่ชายได้สองขวบ พ่อกับแม่ก็จากไปขณะเดินทางไปทำงานที่โรงพยาบาลของครอบครัว จริงใจเป็นเด็กที่ติดพี่ชายเขาตั้งแต่เด็กและพี่ขายของเขาก็ตามใจหล่อนมาตั้งแต่เด็ก แต่กับเขา จริงใจจะกลัวและหลบหน้าตลอด และนั่นยิ่งทำให้เขาไม่พอใจ เธอปฏิบัติกับเขาและพี่ชายต่างกัน กับพี่ชายเขา จริงใจจำได้ทุกอย่างว่าชอบกินอะไร เกิดวันอะไร และชอบสีอะไร ส่วนเขาน่ะเหรอ หล่อนไม่เคยใส่ใจด้วยซ้ำว่าชอบอะไร หรือชอบทำอะไรในวันหยุด ไม่เหมือนกับตุลย์ ที่เธอสนใจและใส่ใจทุกอย่าง
ปืน ปีชาเอี่ยม วัย 35 ปี นายแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบประสาท และเป็นอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยด้วย แม้อายุน้อย แต่เขาก็เป็นหมอที่ฝีมือดีไม่แพ้หมอที่แก่กว่าตน ปืนมีพี่ชายหนึ่งคนคือตุลย์ พี่ชายเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคมะเร็งลำไส้ ทั้งสองเรียนจบมาก็เข้ามาบริหารโรงพยาบาลของครอบครัวต่อ แต่ช่วงที่ยังเด็กยังเรียนไม่จบนั้น มีคณะกรรมการเก่าแก่ดูแลบริหารจัดการแทน
“กลับมาแล้วเหรอไอ้ปืน” ตุลย์หันมาถามน้องชายที่เดินมาใกล้ตนกับจริงใจ ที่ยืนคุยกันพร้อมกับหันมายิ้มอ่อนโยนให้เด็กสาวที่ตนเอ็นดูเหมือนน้องมาตั้งแต่เด็ก
“เห็นยังจะถาม แล้วเนี่ยจะไปเข้าเวรเหรอ ทำไมไม่ไป รถติดนะเว้ย!” ปืนถามพี่ชายแล้วมองไปยังคนตัวเล็กอีกคนที่เอาแต่ก้มหน้า ไม่ปริปากพูดจาทักทายตนสักคำ
“กำลังจะออกไปพอดี จริงใจเอาของว่างมื้อดึกมาให้ติดไปกินตอนอยู่เวร” ตุลย์พูดพร้อมยกมือที่ถือกระเป๋าผ้าที่มีผลไม้ที่จริงใจเตรียมให้เหมือนทุกวันก่อนจะไปเข้าเวรดึก
“ดีจริง มีคนเตรียมของว่างมื้อดึกให้” ปืนเอ่ยประชด สายตาก็จดจ้องหญิงสาวที่เอาแต่ก้มหน้าตั้งแต่ตนเดินมาถึง
“อิจฉารึไงไอ้ปืน”
“ใครอิจฉาพี่มิทราบ” ปืนตอบสวนกลับทันควัน
“ไปล่ะ ใกล้ได้เวลาแล้ว เดี๋ยวไปสาย” ตุลย์ยกแขนขึ้นดูนาฬิกาที่ข้อมือแล้วตบไหล่น้องชาย แต่ก่อนจะเดินจากไปก็เอ่ยขอบคุณเจ้าของผลไม้
“จริงใจ ขอบคุณนะที่เตรียมให้หมอ”
“ไม่เป็นไรค่ะหมอตุลย์ ขับรถดีๆ นะคะ”
“อือ...ฉันไปนะ แล้วพรุ่งนี้เจอกัน เดี๋ยวพาไปดูหนังตอบแทน”
“ค่ะ หมอตุลย์” เธอเงยหน้ายิ้มหวานให้คนตรงหน้า แต่แล้วก็ต้องรีบก้มหน้าหุบยิ้มเมื่อหันไปเห็นอีกคนที่มองตนตาขวาง
“ไปนะไอ้ปืน” แล้วตุลย์ก็เดินสาวเท้าเร็วๆ จากไป ทิ้งให้น้องชายกับจริงใจอยู่ด้วยกันตามลำพัง
จริงใจเห็นว่าหมอตุลย์ไปแล้ว ตนก็หมุนตัวจะเดินกลับห้องพักของตนเองที่อยู่หลังตึกใหญ่หลังนี้ แต่ยังไม่ทันได้เดินจากไป เสียงเข้มห้วนก็ดังขึ้น
“ไม่เห็นฉันรึไงถึงไม่ทักฉัน”น้ำเสียงห้วนทำให้เท้าเล็กหยุดก้าวหมุนตัวค้างไว้แล้วเอี้ยวหันหน้ามาหาคนที่เอ่ยกับตน
“จริงใจขอโทษค่ะหมอปืน” เธอขอโทษเสียงแผ่ว
“ขอโทษฉันเรื่องอะไร?”
“คือ...” ยังไม่ทันได้พูด เสียงเข้มก็พูดแทรกอีก
“ถ้าไม่รู้ว่าเรื่องอะไรก็ไม่ต้องพูด ผลไม้น่ะ มีอีกไหม เอาไปให้ฉันบนห้องด้วย”
“คือจริงใจทำให้หมอตุลย์หมดแล้วค่ะวันนี้”
“เหอะ! ดีจริงๆ เกิดเป็นพี่ฉันเนี่ย อย่าคิดฝันจะมาเป็นพี่สะใภ้ฉันเชียว เธอไม่มีสิทธิ์ จำไว้” ปืนยกมือขึ้นกดหน้าผากของสาวน้อยแล้วผลักก่อนจะเดินจากไป แต่ก็พูดทิ้งท้ายไว้
“งั้นเอานมไปให้ฉันบนห้อง ฉันหิว!”
“ในครัวมีอาหารนะคะ ให้จริงใจอุ่นให้ไหมคะหมอปืน” เมื่อเขาบอกหิว เธอจึงเอ่ยเสนอไป
“กับข้าวอะไร”