บทที่ 1.หมอปากร้าย
มุมปากหนายกยิ้มเล็กน้อยก่อนจะเดินเข้าบ้านของตน แต่สายตาจับจ้องมองสองคนที่กำลังคุยกันตรงหน้าเพื่อฟังว่าทั้งสองคุยอะไรกันถึงได้หัวเราะต่อกระซิกกัน และเห็นเป็นแบบนี้ทุกครั้งที่กลับบ้านมาเจอ ทั้งสองสนิทสนมกัน และมือน้อยที่ยกขึ้นแตะแขนของชายอีกคนก็ทำให้เขาหงุดหงิดรำคาญทุกครั้ง ไม่เข้าใจว่าทำไมมันเป็นแบบนี้ ตั้งแต่เล็กจนโตแล้วที่ จริงใจ ผลดี วัย 22 ปี หลานสาวของแม่นม ที่ช่วยคุณย่าเลี้ยงตนมาตั้งแต่พ่อกับแม่จากไป ตอนนั้นเขาเพิ่งอายุได้หนึ่งขวบ พี่ชายได้สองขวบ พ่อกับแม่ก็จากไปขณะเดินทางไปทำงานที่โรงพยาบาลของครอบครัว จริงใจเป็นเด็กที่ติดพี่ชายเขาตั้งแต่เด็กและพี่ขายของเขาก็ตามใจหล่อนมาตั้งแต่เด็ก แต่กับเขา จริงใจจะกลัวและหลบหน้าตลอด และนั่นยิ่งทำให้เขาไม่พอใจ เธอปฏิบัติกับเขาและพี่ชายต่างกัน กับพี่ชายเขา จริงใจจำได้ทุกอย่างว่าชอบกินอะไร เกิดวันอะไร และชอบสีอะไร ส่วนเขาน่ะเหรอ หล่อนไม่เคยใส่ใจด้วยซ้ำว่าชอบอะไร หรือชอบทำอะไรในวันหยุด ไม่เหมือนกับตุลย์ ที่เธอสนใจและใส่ใจทุกอย่าง
ปืน ปีชาเอี่ยม วัย 35 ปี นายแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบประสาท และเป็นอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยด้วย แม้อายุน้อย แต่เขาก็เป็นหมอที่ฝีมือดีไม่แพ้หมอที่แก่กว่าตน ปืนมีพี่ชายหนึ่งคนคือตุลย์ พี่ชายเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคมะเร็งลำไส้ ทั้งสองเรียนจบมาก็เข้ามาบริหารโรงพยาบาลของครอบครัวต่อ แต่ช่วงที่ยังเด็กยังเรียนไม่จบนั้น มีคณะกรรมการเก่าแก่ดูแลบริหารจัดการแทน
“กลับมาแล้วเหรอไอ้ปืน” ตุลย์หันมาถามน้องชายที่เดินมาใกล้ตนกับจริงใจ ที่ยืนคุยกันพร้อมกับหันมายิ้มอ่อนโยนให้เด็กสาวที่ตนเอ็นดูเหมือนน้องมาตั้งแต่เด็ก
“เห็นยังจะถาม แล้วเนี่ยจะไปเข้าเวรเหรอ ทำไมไม่ไป รถติดนะเว้ย!” ปืนถามพี่ชายแล้วมองไปยังคนตัวเล็กอีกคนที่เอาแต่ก้มหน้า ไม่ปริปากพูดจาทักทายตนสักคำ
“กำลังจะออกไปพอดี จริงใจเอาของว่างมื้อดึกมาให้ติดไปกินตอนอยู่เวร” ตุลย์พูดพร้อมยกมือที่ถือกระเป๋าผ้าที่มีผลไม้ที่จริงใจเตรียมให้เหมือนทุกวันก่อนจะไปเข้าเวรดึก
“ดีจริง มีคนเตรียมของว่างมื้อดึกให้” ปืนเอ่ยประชด สายตาก็จดจ้องหญิงสาวที่เอาแต่ก้มหน้าตั้งแต่ตนเดินมาถึง
“อิจฉารึไงไอ้ปืน”
“ใครอิจฉาพี่มิทราบ” ปืนตอบสวนกลับทันควัน
“ไปล่ะ ใกล้ได้เวลาแล้ว เดี๋ยวไปสาย” ตุลย์ยกแขนขึ้นดูนาฬิกาที่ข้อมือแล้วตบไหล่น้องชาย แต่ก่อนจะเดินจากไปก็เอ่ยขอบคุณเจ้าของผลไม้
“จริงใจ ขอบคุณนะที่เตรียมให้หมอ”
“ไม่เป็นไรค่ะหมอตุลย์ ขับรถดีๆ นะคะ”
“อือ...ฉันไปนะ แล้วพรุ่งนี้เจอกัน เดี๋ยวพาไปดูหนังตอบแทน”
“ค่ะ หมอตุลย์” เธอเงยหน้ายิ้มหวานให้คนตรงหน้า แต่แล้วก็ต้องรีบก้มหน้าหุบยิ้มเมื่อหันไปเห็นอีกคนที่มองตนตาขวาง
“ไปนะไอ้ปืน” แล้วตุลย์ก็เดินสาวเท้าเร็วๆ จากไป ทิ้งให้น้องชายกับจริงใจอยู่ด้วยกันตามลำพัง
จริงใจเห็นว่าหมอตุลย์ไปแล้ว ตนก็หมุนตัวจะเดินกลับห้องพักของตนเองที่อยู่หลังตึกใหญ่หลังนี้ แต่ยังไม่ทันได้เดินจากไป เสียงเข้มห้วนก็ดังขึ้น
“ไม่เห็นฉันรึไงถึงไม่ทักฉัน”น้ำเสียงห้วนทำให้เท้าเล็กหยุดก้าวหมุนตัวค้างไว้แล้วเอี้ยวหันหน้ามาหาคนที่เอ่ยกับตน
“จริงใจขอโทษค่ะหมอปืน” เธอขอโทษเสียงแผ่ว
“ขอโทษฉันเรื่องอะไร?”
“คือ...” ยังไม่ทันได้พูด เสียงเข้มก็พูดแทรกอีก
“ถ้าไม่รู้ว่าเรื่องอะไรก็ไม่ต้องพูด ผลไม้น่ะ มีอีกไหม เอาไปให้ฉันบนห้องด้วย”
“คือจริงใจทำให้หมอตุลย์หมดแล้วค่ะวันนี้”
“เหอะ! ดีจริงๆ เกิดเป็นพี่ฉันเนี่ย อย่าคิดฝันจะมาเป็นพี่สะใภ้ฉันเชียว เธอไม่มีสิทธิ์ จำไว้” ปืนยกมือขึ้นกดหน้าผากของสาวน้อยแล้วผลักก่อนจะเดินจากไป แต่ก็พูดทิ้งท้ายไว้
“งั้นเอานมไปให้ฉันบนห้อง ฉันหิว!”
“ในครัวมีอาหารนะคะ ให้จริงใจอุ่นให้ไหมคะหมอปืน” เมื่อเขาบอกหิว เธอจึงเอ่ยเสนอไป
“กับข้าวอะไร”