บทที่4.การพบเจอที่ไม่คาดคิด3/5
3/5
“ยัยนั่นคงอายไม่เป็น หรือไม่ก็สนิทกันดีกับความรู้สึก ‘ด้าน’ ”
“อย่าไปว่าเขาสิอัญ...” เมรีกระซิบห้าม
“มันอดไม่ได้นี่รี ยัยนั่นทำให้ผู้หญิงคนอื่นพลอยโดนดูถูกไปด้วย...เงินสำคัญก็จริง แต่ไม่สามารถซื้อทุกสิ่งได้หรอก” อัญชันบ่นพึม...เพราะเพลินตา พลอยทำให้ผู้หญิงที่ไม่เกี่ยวพลอยถูกหางเลขไปด้วย ในสังคมทุกวันนี้ผู้หญิงก็ถูกกดแทบไม่มีทางเดิน เพลินตายังทำตัวย้ำให้ผู้ชายทับถมเพศหญิงมากยิ่งขึ้น
“ความคิดแต่ละคนไม่เหมือนกันหรอก เพลินเขาอาจจะมีเหตุผลของเขา”
เมรีแย้ง เธอเคยผ่านจุดนั้นมาแล้ว จุดที่สายตาคนรอบข้างมีแต่ความหมิ่นแคลน
วันนี้เธอเข้มแข็งกว่าเก่า ก้าวเดินไปข้างหน้าได้อย่างเข้มแข็ง แม้ครั้งนั้นจะทำให้ตนเองซวนเซไปบ้าง...แต่วันเวลาช่วยทำให้เธอดีขึ้น
“เหตุผลอะไรล่ะรี ออกตัวแรงขนาดนั้น... จ้องแต่จะจับผู้ชายรวย...”
อัญชันยังคงกล่าวต่อ
“พอเถอะอัญ...มันเรื่องของเขา”
เมรีตัดบท เธอก้มหน้ารับประทานอาหารในจานต่อ หยุดพูดเรื่องของคนอื่น เพราะลำพังเรื่องของตัวเองก็สุดที่จะแก้ไข
“อันอันเข้าโรงเรียนยังรี”
อัญชันตัดใจ เธอถามถึงบุตรชายของเพื่อน เด็กผู้ชายที่เธอคิดว่าเขาน่ารักที่สุดในโลก
“เข้าแล้ว...แต่ซนมาก” หากคุยเรื่องบุตรชาย เมรีจะมีดวงตาเป็นประกาย เธอไม่เคยปิดบังเพื่อนร่วมงานว่าเป็นคุณแม่ลูกหนึ่ง...เพลินตาจึงตัดเมรีออกไปจากทำเนียบคู่แข่ง เมรีไม่เคยโดนเพลินตาจิก เหมือนสาวๆ ในบริษัทคนอื่นที่ยังโสด
“ตัวแสบคงป่วนคุณครูจนปวดหัวแหละ”
“ประมาณนั้นเลย เวลาถึงวันประชุมผู้ปกครอง เราอายคุณครูจนหน้าชา เรื่องพฤติกรรมของอันอัน”
ถึงจะเป็นคำต่อว่าของบรรดาครูพี่เลี้ยง แต่ไม่มีใครโกรธเกลียดอันนา ทุกคนรอบตัวล้วนแต่รักเขาทั้งนั้น
“ธรรมดา เด็กผู้ชายก็ต้องมีบ้าง ชักคิดถึงแล้วสิ...วันหยุดนี้เราแวะไปหาดีกว่า...ว่าแต่...เธอเคยเห็นท่านประธานหรือยังรี...” เมรีไม่เคยใส่ใจประธานบริษัท เธอตั้งใจทำงาน ไม่เคยตามความเคลื่อนไหวของเขา ดังนั้น เธอจึงเป็นคนเดียวที่ไม่รู้จักหน้าอีธาน จาง...
หญิงสาวส่ายหน้าแรงๆ
“ต๊ายตาย...รู้มั้ยรี มิสเตอร์อีธานน่ะ หล่อพอๆ กับเจมี่ ดอร์แนน – ที่เล่นเป็นคริสเตียน เกรย์ในหนังเรื่อง Fifty Shades of Grey เลยนะรี”
เมรีย่นหัวคิ้ว...หากท่านประธานหล่อเหลาขนาดนั้น ไม่น่าแปลกใจหรอก ที่บรรดาสาวโสดวิ่งไล่เขา...ราวกับฝูงไฮยีน่าที่ออกล่าเหยื่อ
“อิ่มยัง...ไปทำงานกันเถอะ” เมรีไม่เคยโอ้เอ้อยู่ที่แคนทีนนาน เธอรับประทานอิ่มก็มักจะกลับไปนั่งอ่านหนังสือเงียบๆ ที่โต๊ะทำงานตัวเอง...
“โลกของเธอนี่ มีแต่อันอันกับหนังสือแค่นั้นเหรอ?”
อัญชันเป็นสาวเรียบร้อยก็จริง แต่เธอก็ยังมีเวลาสังสรร มีเวลาเดินช็อปปิ้ง...เติมความสุขให้ตนเอง แต่สำหรับเมรีแล้ว...โลกของเมรี มีแค่บุตรชาย กับหนังสือนวนิยายแค่นั้น...
หญิงสาวไม่ตอบ เธอฉวยจานใส่อาหาร เดินไปวางไว้ที่เก็บ...หันมายิ้มให้อัญชัน ที่เดินคอตกตามมาข้างหลัง
“แวะซื้อผลไม้ก่อนนะรี...” เมรีเดินนำอยู่ข้างหน้า อัญชันเลยต้องรั้งไว้ก่อน ไม่อย่างนั้นคนประหยัดอย่างเมรี คงเดินกลับไปที่โต๊ะทำงานเลย
“อืม ได้สิ”
สองสาวจึงเดินตรงไปยังร้านผลไม้ แต่ไม่มีผลไม้ชนิดไหนถูกใจอัญชัน พอดีสายตาของหล่อนมองเลยออกไปด้านนอก เห็นรถผลไม้เจ้าประจำที่แวะมาช่วงพักเบรกจอดอยู่พอดี
“ไปซื้อที่รถเข็นนั่นดีกว่ารี” อัญชันลากเมรีเดินเลยออกมาด้านนอก พอดีกับรถยนต์คันหรู แล่นผ่านมาพอดี
และใครบางคนบนรถยนต์คันนั้น ถึงกับตาโต เมื่อเขามองเห็นเสี้ยวหน้าของเมรี ก่อนที่รถยนต์จะวิ่งผ่านเลยไป...
บ่ายวันเสาร์ วันที่เป็นวันหยุดพักผ่อน...วันที่อีธานจะนอนและนอนเท่านั้น แต่วันนี้เขากลับอยากออกมาเดินยืดเส้นยืดสายนอกบ้าน.... ชายหนุ่มจึงคว้ากุญแจรถยนต์คันโปรด ขับห้อตะบึงออกมาจากบ้านหลังใหญ่แบบคนใจลอย เขาห้ามการ์ด ห้ามการติดตาม เมื่อต้องการความเป็นส่วนตัวจริงๆ
ชายหนุ่มใช้เวลาบนท้องถนนเกือบหนึ่งชั่วโมง...ก่อนจะตัดสินใจเลี้ยวรถยนต์เข้าไปในสวนสาธารณะที่มองเห็นผ่านสายตา เขาขอนั่งคิดอะไรเงียบๆ สักพัก
“ยัยบ้านั่น ได้ฉันแล้วชิ่ง...ไม่ทิ้งอะไรให้ตามสักอย่าง สงสัยไม่เคยอ่านนิทาน...ซินเดอเรลล่ายังทิ้งรองเท้าไว้ให้เจ้าชายตามเลย...หล่อนไม่รู้หรือไง อ่อยน่ะอ่อย ทำไม่เป็นเหรอ...”
ชายหนุ่มบ่นพึม ทุกครั้งที่ว่างหรืออยู่คนเดียว...
ภาพเงาของหล่อนมักจะตามมาหลอกหลอนเขาประจำ ‘ผู้หญิง’ คนนั้น ทำให้เขาอยู่ไม่สุขเท่าไร
ไม่รู้ความเป็นตัวตน รู้แค่ชื่อ ‘เมรี’ บ้านหล่อนอยู่ที่ไหน เวลานี้หล่อนทำอะไร
5ปีที่ผ่านมา อีธานคิดถึงหล่อนตลอด แต่...ไม่มีวิธีติดตาม
เขาย้อนกลับไปที่ผับแห่งนั้นหลายครั้ง...แต่ก็เหมือนเดิมไร้วี่แววของหล่อน
ผู้หญิงคนนั้นทำเหมือนหายไปจากโลกใบนี้...หายไปตลอดกาล...
“เห้ออ...”
กาแฟหนึ่งแก้วในมือ กับขนมกินเล่นที่ซื้อมาจากร้านค้าข้างทาง เขามองหาที่นั่ง และได้มุมสงบพอสมควรที่ริมบึงน้ำ เก้าอี้เหล็กที่มีร่มไม้ใหญ่บังแสงอาทิตย์ไว้
ชายหนุ่มจิบกาแฟในแก้ว ลดแก้วกาแฟลง พร้อมกับการถอนใจเฮือกใหญ่ๆ
มันหน่วงๆ ในอก มันเหมือนมีบางสิ่งติดค้างในใจ เขาไม่เคยเป็นเช่นนี้ ไม่เคยรู้สึกว่าทำอะไรไม่ได้ เมื่อยังไม่รู้ว่าปัญหานั้นคืออะไร แต่...มันต้องมีแน่ๆ
มันเรื่องบังเอิญแบบเหลือเชื่อ...ในขณะที่เขาควานหาหล่อนให้ควัก...กลับพบแต่ความว่างเปล่า...
และเมื่อเขาหยุดตาม...จู่ๆ หล่อนก็โผล่เข้ามาในสายตา
ใต้จมูกของเขานั่นเอง...
ผู้หญิงคนนั้น!! คนที่เขาเห็นผ่านสายตา...
อีธานจำหล่อนได้...แม้หล่อนจะเปลี่ยนไปไม่น้อย แต่เขาแน่ใจ หล่อนคือผู้หญิงคนนั้น
คนที่เขาฉกหล่อนมาจากฝูงหมาป่า แล้วตนเองก็เป็นคนกระชาก ‘พรหมจรรย์’ ของหล่อนมาเสียเอง
‘เมรี’