บทที่4.การพบเจอที่ไม่คาดคิด1/5
บทที่4.การพบเจอที่ไม่คาดคิด1/5
เมรีหอบซองขนาดใหญ่เดินเชิดหน้าตรงไปยังล็อบบี้ของบริษัทใหญ่ยักษ์!! บริษัทที่เธอทิ้งใบสมัครไว้ และวันนี้คือวันตัดสินชะตาตนเอง ไม่ว่าเธอจะมีความสามารถมากพอหรือไม่ แต่ความตั้งใจของเมรีวันนี้คือเธอต้องได้รับการบรรจุเข้าทำงานที่นี่ให้ได้ เมื่อมันคืออนาคตของบุตรชายตัวแสบของตนเอง เขาจะมีอนาคตที่ดีขึ้น เพราะบริษัทแห่งนี้ ผลตอบแทนในการทำงานเป็นอันดับหนึ่ง ในแต่ละวันมีผู้คนเดินเข้าเดินออกมากมาย เพื่อที่จะได้รับโอกาสแสนงามนั่นสักครั้ง...
และวันนี้มันเป็นโอกาสของเธอ
“สวัสดีค่ะ ดิฉันมีนัดสัมภาษณ์งานค่ะ”
หญิงสาวแจ้งความต้องการ เธอยิ้มแบบผูกมิตรให้กับประชาสัมพันธ์สาวสวย
“อ๋อค่ะ เชิญด้านนั้นเลยค่ะ” สาวสวยยิ้มเก๋ หล่อนชี้มือไปยังกลุ่มคน ที่นั่งรวมตัวกันอยู่ในมุมหนึ่งของโถงล็อบบี้
เมรีค้อมตัวลงเล็กน้อย เธอเดินไปรวมกลุ่มกับคนอื่นๆ ทรุดนั่งอย่างสงบเสงี่ยมลงบนเก้าอี้ตัวที่ว่าง ชำเลืองมองเพื่อนๆ ในกลุ่มอย่างสำรวม เสียงคุยกันเบาๆ เท่าที่เมรีจับใจความได้ แต่ละคนที่มุงเป้ามาที่บริษัทแห่งนี้ เป้าหมายหาใช่การเป็นพนักงาน แต่...
“ท่านประธานทั้งหล่อ ทั้งรวย แถมโสด...หากโชคดีผีผลัก ได้พบได้เจอเขาเข้า เขาอาจจะปิ้งฉันก็ได้”
คนพูดสวยหวานจนเมรีเองยังทึ่ง เธอเริ่มสำรวจเพื่อนร่วมกลุ่มแบบจริงๆ จังๆ ก่อนจะก้มมองตนเองที่เรียบสุด แทบไม่มีอะไรสะดุดตา หากเทียบกับคนอื่นๆ
“แหมๆ หวังสูงนะยะคุณเพลินตา” มีเสียงแหลมๆ ที่เมรีฟังยังไงก็ขัดหูเอ่ยแทรกขึ้นมา
“ถ้าหวังต่ำๆ ฉันจะมาทำอะไรที่จางไท่กรุ๊ปละจ้ะ” คนตอบ ตอบแบบไม่ยี่หระ เมื่อเป้าหมายสูงสุดของตนเองคือ ท่านประธานสุดหล่อ หาใช่ตำแหน่งงานแสนกระจอกนี่สักหน่อย
“ขอให้เธอโชคดีแล้วกัน ฉันจะได้พึ่งใบบุญ” คนเดิมตอบกลับ ลดความแหลมปรี๊ดของน้ำเสียง แต่ก็ไร้ความจริงใจเช่นเดิม
เมรีโครงศีรษะ เธอแอบมองสองสาวตลอดเวลา ก่อนจะฟันธง!! สองคนนี้คบกัน เพราะผลประโยชน์ล้วนๆ ไร้ซึ่งความเป็นมิตรโดยเนื้อแท้
“เธอๆ” ใครบางคนสะกิดเมรี หญิงสาวจึงรีบชักสายตากลับมาจากสองสาวที่กำลังคุยฟุ้ง
“คะ”
“เราชื่ออัญชันนะ เธอมาสมัครตำแหน่งไหนเหรอ?”
จางไท่กรุ๊ปขยายกิจการ เขาเปิดรับสมัครหลายตำแหน่ง เพราะเป็นบริษัทที่มั่นคงไม่ว่าจะฐานะการเงิน หรือสวัสดิการ ดังนั้นจึงมีหลายคนมุ่งหวังที่จะได้งานในตำแหน่งที่ตนเองปรารถนา
เมรียิ้มอ่อนก่อนตอบ “พนักงานธุรการน่ะ”
“เอ่อ...เหมือนกันเลย หวังว่าคงได้เป็นเพื่อนร่วมงานกันนะ”
“ถ้าได้ก็ดีจ้ะ ที่นี่เงินเดือนดี สวัสดิการก็ดีกว่าที่อื่นด้วย” เมรีเปรย ความหวังของเธอคือการได้ขยับขยาย เมื่อเธอมีภาระที่ต้องเตรียมพร้อมไว้ เพราะบุตรชายเติบโตขึ้นทุกวัน
“ใช่เลย...”
“สวัสดีจ้ะ เธอต้องการอะไรจากที่นี่?” เป็นคำถามฟังดูง่ายๆ คนถามเธอคือผู้หญิงรูปร่างท้วมที่เป็นคนสัมภาษณ์
หญิงสาวยกมือขึ้นพนมไหว้ ก่อนจะทรุดตัวลงนั่งตามคำเชื้อเชิญ รวบรวมสติและตอบออกไปด้วยความมั่นใจ
“ต้องการความมั่นคงค่ะ จางไท่กรุ๊ปมีสิ่งนั้นให้กับดิฉัน”
กาญจนายิ้มรับ เธอสำรวจหญิงสาวตรงหน้า ก่อนจะยิ้มกว้างขึ้น
สาวๆ ส่วนใหญ่ที่ตบเท้าเดินเข้ามาในอาณาเขตจางไท่กรุ๊ป พวกหล่อนหาได้สนใจการทำงาน ที่มาก็เพราะมีเป้าหมายสำคัญ ความต้องการของพวกหล่อนคือท่านประธานสุดหล่อ แม่เหล็กอย่างดีที่ดึงดูดสาวสวยให้เดินเข้ามาที่นี่
แต่สิ่งที่พวกหล่อนเหล่านั้นไม่รู้คือ...
อีธาน...ประธานหนุ่มหล่อนั้น...เขาไร้หัวใจ!!
จากการทำงานมาเนิ่นนาน นับตั้งแต่สมัยอดีตประธานที่เป็นบิดาของเขา มิสเตอร์อรัญเป็นคนจริงจัง เขาฝ่าฝันอุปสรรค จนกิจการของบริษัทเจริญรุดหน้า อาหารทะเลแช่แข็งของจางไท่กรุ๊ป ส่งออกไปทั่วโลก มีโรงงานแปรรูปแบบเต็มรูปแบบ องค์กรเติบโตขึ้นมาก...นับตั้งแต่อีธานขึ้นนั่งแท่น...ตลอดเวลา5ปีมานี้ จางไท่กรุ๊ปเป็นที่หนึ่งมาตลอด
ชายหนุ่มเป็นผู้นำที่ดี เขาจัดการงานได้อย่างเด็ดขาด มีวิสัยทัศน์...และมองการณ์ไกล
และเขาก็เป็นนักรักตัวฉกาจเช่นกัน...บนถนนสายนั้น อีธานก็เป็นที่หนึ่ง ไม่ต่างอะไรกับถนนนักธุรกิจเลย
“ไม่ได้คิดไกลกว่านั้นเหรอ?” คำถามกำกวม กับรอยยิ้มหมิ่นแคลน เมรีมองตอบแบบงงๆ หวังไกลแค่ไหนล่ะ หากหมายถึงหน้าที่การงาน เธอเองก็หวังเช่นนั้นเหมือนคนอื่นๆ
“นั่นคือรางวัลสำหรับการทำงานที่แข็งขัน ทุกคนหวังเช่นนั้นไม่ใช่หรือคะ”
ผู้จัดการสาวใหญ่คลี่ยิ้มอ่อนๆ มุมปาก แววตาลดความหมิ่นแคลนลง เมื่อมองสำรวจหญิงสาวตรงหน้าจนถี่ถ้วน การแต่งตัวเรียบร้อยเหมาะสำหรับการทำงาน...มิได้หวังอย่างอื่น เมื่อเนื้องานที่หล่อนจะต้องทำ อาจจะได้พบเจอกับผู้ชายอันตรายอย่างอีธาน และนั่นอาจจะทำให้หล่อนทำงานได้ไม่นาน...สายตาของเธอมองออก แม้ผู้หญิงตรงหน้าจะซ่อนความงดงามไว้ใต้ความเรียบเฉย แต่ความจริงแล้ว...เธอสวยงามไม่แพ้ใครๆ เลย
“ตอบได้ดี แต่...เอะ!! เธอมีครอบครัวแล้วเหรอ?”
สาวใหญ่ท้วง เธอไล่อ่านประวัติของหญิงสาว จนสะดุดกับสถานะภาพ เมื่อหน้าเจ้าหล่อนยังอ่อนเยาว์ แต่ทำไมเธอจึงมีครอบครัวเร็วเกินไป
“ดิฉันมีลูกชายหนึ่งคน แต่ไม่มีสามีค่ะ”
เมรีตอบพร้อมกับยิ้มอ่อน อันนาคือบุตรชายของเธอ แม้เขาจะไม่เคยได้เห็นหน้าพ่อ แต่เมรีก็ไม่เคยทำให้เขารู้สึกขาด เธอเป็นได้ทั้งพ่อ และ แม่ ในเวลาเดียวกัน
กาญจนาพยักหน้ารับ “คุณพร้อมจะเริ่มงานวันไหนล่ะ”
คุณสมบัติของหญิงสาวผ่านเกณฑ์ เธอคงไม่หวั่นไหวง่ายๆ กับเสน่ห์แสนเย้ายวนของอีธาน ดังนั้นเธอคงจะได้ลูกน้องสาวที่ตั้งใจทำงาน มากกว่าเข้ามาเพื่อจับผู้ชาย...
“คะ” เมรีกะพริบเปลือกตาถี่ๆ
“หวังว่าเธอคงไม่ทำให้ฉันผิดหวังนะ” กาญจนายิ้ม เธอมองเห็นแววตาดีใจ
“ขอบคุณค่ะ ดิฉันจะไม่ทำให้คุณผิดหวังแน่ๆ”