บทที่ 1 ราคีรัก ในคืนลวง (4)
“ฉันจะทำให้เธอเจ็บมากกว่านี้อีก ถ้าเธอไม่หายตัวไปจากชีวิตตาข้าว เธอเจอดีแน่” อรจิราข่มขู่เสียงเย็น ก่อนจะขมวดคิ้วเมื่อมือใหญ่ดึงมือหล่อนออกจากมนสิชา “ตาข้าว มาขวางแม่ทำไม”
“พอเถอะคุณแม่ อย่าทำร้ายเมียผม” ชายหนุ่มพูดเสียงห้าว ในแววตาบ่งชัดว่าตำหนิการกระทำของผู้ให้กำเนิด เล่นเอาสาวใหญ่ถึงกับตัวชาวาบ
“แกคิดจะเอามันเป็นเมียจริงๆเรอะ สาวๆที่อยู่รอบตัวแกมีดีกว่าแม่นี่เป็นร้อยเท่า ทำไมแกไม่สนใจ ฮึ ?”
“เรื่องนี้ผมคงไม่จำเป็นต้องตอบคุณแม่ เพราะชีวิตเป็นของผม และผมก็ไม่อยากขัดคุณยายด้วย”
อรจิรากระชากมือออกจากบุตรชาย แล้วพูดเสียงกร้าว
“แม่ไม่ยอมรับลูกสะใภ้คนนี้ จำไว้ !” พูดจบก็หุนหันออกจากห้องไปด้วยอารมณ์คุกรุ่น
เมื่ออยู่ตามลำพังสองคนในห้อง มนสิชาก็ขยับตัวเตรียมหนีให้พ้นคนตัวโตที่ย่างสามขุมเข้าหาหล่อนช้าๆ…ไม่ต่างจากราชสีห์ที่จ้องตะครุบหนูตัวเล็กๆ
“คะ…คุณข้าว” หล่อนพูดตะกุกตะกัก ก่อนสะดุ้งสุดตัวเมื่อถูกเขาฉวยคว้าท่อนแขนไว้ได้
“อะไรกัน ?” คิ้วเข้มเลิกขึ้นสูง ดวงตาแฝงแววขบขันระคนเย้ยหยัน “ไหนว่าเมื่อคืนเรามีอะไรกันแล้วไง แต่แค่โดนผัวถูกเนื้อตัวนิดหน่อยกลับสะดุ้ง ทำยังกับสาวเวอร์จิ้นที่ไม่เคยถูกผู้ชายสัมผัส !”
หญิงสาวหน้าซีดหนักกว่าเดิม แรงบีบจากมือเขาไม่ได้ทำให้หล่อนเจ็บมากเท่าหัวใจที่แสบร้อนไม่ต่างจากถูกสาดด้วยน้ำกรด…หมดกัน ศักดิ์ศรีลูกผู้หญิงที่รักษามาเนิ่นนานยี่สิบกว่าปี บัดนี้ถูกทำลายย่อยยับเพียงคืนเดียว แค่อารมณ์ชั่ววูบที่อยากหาทางออกให้กับตัวเอง ทำให้กล้าทำในสิ่งที่ไม่เคยคิดจะกล้ามาก่อน
แล้วผลลัพธ์เป็นอย่างไรล่ะ ต้องโดนดูถูกจากอรจิรา ฟังคำเย้ยหยันจากเขมปัจน์
“ไม่ได้ยินที่คุณยายบอกหรือคะ ? ท่านบอกว่าเราไม่ควรถูกเนื้อต้องตัวกันอีกจนกว่าจะถึงวันแต่งงาน” หญิงสาวฝืนพูดเสียงเรียบ แม้อกข้างซ้ายจะกระหน่ำเต้นรัวเป็นจังหวะกลองเพลเมื่อสบสายตาคมเข้มที่จ้องมองมาราวจะแผดเผาก็ตาม
“นั่นเป็นความคิดของคนโบราณ แต่ผมเป็นคนสมัยใหม่” ตาคู่คมหรี่ลงเล็กน้อย เพ่งมองที่เรียวปากสั่นระริกของคนตัวเล็ก แล้วพูดต่ออีกว่า “ผมเลยไม่ถือหากจะจูบคุณอีกสักครั้งหรือหลายๆครั้ง”
มนสิชาใจหายวาบ เตรียมผลักคนตัวใหญ่ให้ออกห่าง แต่แรงของหล่อนมีหรือจะสู้แรงเขาได้ เมื่อมือหนาเลื่อนจากต้นแขนมาบีบแก้มของหล่อนแทน จากนั้นหน้าคมคายก็ก้มต่ำ ประทับจูบที่กลีบปากนุ่มอย่างดุดัน
“อ๊ะ !” หญิงสาวอุทาน ตัวอ่อนวูบ เคราะห์ดีที่มืออีกข้างของเขาจับเอวหล่อนยึดไว้แน่นทำให้ตัวหล่อนไม่ต้องรูดลงไปกองบนพื้นให้ขายหน้า
จูบระหว่างชายหญิงที่เคยเห็นในละคร เป็นแบบนี้เองหรือ… ไม่ใช่เพียงแค่สัมผัสปากกันแผ่วเบาอย่างที่เคยคิด ทว่ามันลึกซึ้งยิ่งกว่านั้นเมื่อลิ้นร้อนซอนแทรกเข้าสู่โพรงปากหวาน เกี่ยวกระหวัดรัดลิ้นนุ่มพันพัวอย่างร้อนแรง
เป็นจุมพิตที่ปราศจากความอ่อนโยน แต่ให้ความรู้สึกวาบหวามจนขาเรียวสั่นระรัว พลังแห่งบุรุษเพศของเขมปัจน์มีเปี่ยมล้น อยู่ใกล้พาลให้ใจเต้นแรง อยู่ในอ้อมกอดยิ่งใจสั่น ครั้นถูกจูบก็ดูเหมือนจะไร้เรี่ยวแรงเอาเสียดื้อๆ
เนิ่นนานกว่านาที ในที่สุดชายหนุ่มก็ถอนจูบออกแล้วผลักหล่อนให้ออกห่าง ในดวงตาคู่นั้นเหมือนมีร่องรอยประหลาดฉายพาดผ่าน แต่วินาทีต่อมาก็เลือนหายไปกลายเป็นความเย็นชาเหมือนเก่า
“จูบห่วยแตก นี่น่ะเหรอว่าที่เมียผม หากต้องแต่งงานกับคุณ ชีวิตผมคงจืดชืดน่าเบื่อหน่าย”
หญิงสาวเม้มปากแน่น ตากลมรื้นด้วยหยาดน้ำคลอหน่วย มือเล็กกำเข้าหากันแน่นเพื่อข่มความอับอาย ก่อนจะเชิดหน้าขึ้นสูง มองเขาอย่างถือดี
“เพิ่งรู้นะคะว่าคุณชอบผู้หญิงที่ลีลาเด็ดๆเพราะผ่านผู้ชายมามากมายน่ะ”
เขมปัจน์สะอึก อึ้งไปชั่วขณะ ไม่คิดว่าจะโดนหล่อนย้อนแบบนี้
“คุณ…” พูดได้เพียงเท่านี้ก็หยุดไปเพราะไม่รู้จะพูดอะไรต่อ ก่อนจะตาค้างอีกรอบเมื่อได้ยินประโยคถัดมาจากปากเจ้าหล่อน