รสสวาทเมียบังเอิญ

153.0K · จบแล้ว
อักษรสีทอง
118
บท
33.0K
ยอดวิว
7.0
การให้คะแนน

บทย่อ

“จูบของคุณไง จูบ 1ครั้ง ผมให้ 1พัน ถ้าหอมแก้มให้แค่ 500 ถ้าให้ผมจับ…” ตาคู่คมหลุบลงมองทรวงอกอวบที่เนินทะลักออกมานอกเกาะอก แม้ว่าหล่อนจะใช้เสื้อของเขาคลุมไว้แล้วก็ตาม “ผมให้ครั้งละ 3,000 แต่ถ้านอนกับผม ผมให้ครั้งละ 10,000”

ประธานพลิกชีวิตแต่งงานสายฟ้าแลบรักหวานๆดราม่าเศรษฐีโรแมนติก

บทที่ 1 ราคีรัก ในคืนลวง (1)

บทที่ 1

ราคีรัก ในคืนลวง

ของเหลวสีอำพันไหลรินสู่แก้วทรงสูงจนเกือบค่อน ก่อนมือเรียวจะหยิบยกแก้วใบนั้นขึ้นสูงแล้วเยื้องย่างมาหาร่างสูงซึ่งนั่งมึนอยู่บนเตียงกว้าง พลางคะยั้นคะยอด้วยจริตจะก้านแพรวพราว

“ดื่มอีกสิคะคุณข้าว น่านะ”

“ผม…” ชายหนุ่มหลับตาเพียงครู่ มึนจนต้องยกมือกุมขมับ ก่อนเปิดเปลือกตาขึ้นมองหน้าหวานที่เห็นลอยเด่นอยู่ใกล้ๆอีกครั้ง “ผมไม่ไหวแล้วล่ะ”

“อื้อ…อะไรกันคะ เพิ่งดื่มไปแค่นิดเดียวเองนะ”

“เป็นขวดแล้ว ไม่ถือว่าแค่นิดๆแล้วล่ะ วางแก้วไว้ก่อนเถอะ ที่คุณชวนผมเข้าห้องก็เพราะอยากขึ้นเตียงกับผมไม่ใช่หรือ…” ตาคู่คมพริบพรายด้วยฤทธิ์น้ำเมาผสานอารมณ์ฝ่ายต่ำที่พัดโหม นิ้วยาวแข็งแรงเกี่ยวขอบเสื้อเกาะอกของหล่อนให้ร่นลง ทำให้เนินอกขาวผ่องทะลักออกมาปะทะสายตาคมกล้า ปลุกเร้าความต้องการในตัวให้พลุ่งพล่านเจียนคลั่ง

“อย่าเพิ่งสิคะคุณข้าว ใจร้อนจริง” มนสิชาเอ็ด รีบดึงขอบเสื้อขึ้นด้วยกิริยาหวงตัวจนฝ่ายชายชักเอะใจ

“คุณเป็นคนชวนผมเข้ามาเล่นจ้ำจี้เองนะ แล้วจะอายผมไปทำไม”

“อะ เอ่อ…” หล่อนอึกอัก ก่อนคลี่ยิ้มหวานอวดลักยิ้มที่แก้มสองข้าง “ฉันก็แค่ไม่ชอบความเร่งรีบ รู้ไหมคะสายตาคุณตอนเมาน่ะเซ็กซี่มากแค่ไหน”

“ผมไม่อยากเสียเวลากับการทำตาเซ็กซี่ใส่คุณ มาเถอะยอดรัก ผมอยากกอดคุณ” มือหนาดึงแก้วจากมือหล่อนไปวางบนโต๊ะใกล้หัวเตียงแล้วรวบคนตัวเล็กเข้ามากอด

“อื้อ…คุณข้าวคะ” มนสิชาปรามเสียงเบา ผลักไสอกกว้าง ก่อนทำหน้ายู่ “ทำไมใจร้อนจริง”

“ว่าผมใจร้อน คุณนั่นแหละใจเย็นเกินไปหรือเปล่า เราเข้าห้องนอนกันนานเป็นชั่วโมงแล้วนะ” เขาสบถ ไม่พูดพล่ามทำเพลงต่อ รีบจับหล่อนให้เอนหลังลงบนที่นอนหนานุ่ม ก่อนตามขึ้นคร่อมทับด้วยความใคร่ที่มาพร้อมความปรารถนาที่ลุกโชน

“อ๊ะ ! คุณข้าว” หญิงสาวอุทาน หน้าร้อนวูบยามปลายจมูกโด่งนั่นปัดป่ายพวงแก้มใสไปมา หล่อนใจเต้นระรัว รู้ตัวว่าตกอยู่ในความเสี่ยง… คิดว่าน้ำเมาอาจช่วยให้เขาหลับได้ แต่ไม่คิดเลยว่าเขมปัจน์จะเป็นคนคอแข็งถึงเพียงนี้ ดื่มเท่าไหร่ก็ไม่มีทีท่าว่าจะเมามายเลยสักนิด

แต่ไม่เป็นไร หล่อนเตรียมแผนสองไว้แล้ว

มนสิชาสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ รวบรวมความกล้าและเรียกความมั่นใจให้กลับคืนมาเหมือนเก่า แล้วคล้องแขนรอบลำคอแกร่ง ทำตัวเป็นสาวใจกล้าด้วยการเอ่ยเย้ายวน

“จูบฉันสิคะ…ตรงคอนี่ไง อยากให้คุณประทับรอยรักว่าคืนนี้ฉันเป็นของคุณเพียงคนเดียว”

“ได้สิ แต่ก่อนอื่น ผมต้องขอ…” หลุบตาลงมองเรียวปากอิ่มยวนสายตานั่นพักหนึ่ง ก่อนก้มลงจูบปากหล่อนอย่างดูดดื่ม เล่นเอามนสิชาถึงกับตัวแข็ง ชาวาบไปทั้งร่างราวถูกสาปในชั่วพริบตา

นี่หรือที่เรียกว่าจูบ…ให้ความรู้สึกวาบหวิวเสมือนลอยล่องอยู่บนปุยเมฆ ทว่านาทีต่อมาความอ่อนหวานกลับทวีเร่งเร้าแปรเปลี่ยนเป็นความร้อนแรงจนร่างกายแทบละลาย

วูบหนึ่งที่หล่อนหลับตาพริ้ม เผลอหลงใหลไปกับจูบจากบุรุษหนุ่มชั่วขณะหนึ่ง แต่เมื่อนึกขึ้นได้ถึงความผิดชอบชั่วดี หญิงสาวก็ลืมตาโพลงแล้วเบี่ยงหน้าหลบ

แต่ชายหนุ่มไม่ยอมให้หล่อนหลบพ้นสมดังใจ เพราะปากร้อนผ่าวได้รูปนั้นยังคงตามมาจูบแก้มนุ่ม มุมปากอิ่ม…และเลื่อนลงมาที่ซอกคอระหง ขบเม้มเบาๆจนเกิดรอยแดง

และวินาทีนั้นเองที่เขมปัจน์มึนเบลอจนสายตาพร่าเลือน ภาพตรงหน้าเลื่อนลอยพรายพร่าง พลิกกายลงนอนหงายเคียงข้างร่างหญิงสาว ก่อนที่ความรู้สึกทั้งมวลจะวูบดับไป

มนสิชายันกายลุกขึ้น มองคนที่หลับไม่ได้สติอยู่พักหนึ่ง แล้วยื่นหน้าเข้าไปใกล้เขา จ้องมองเครื่องหน้าทีละส่วนอย่างพินิจ

เริ่มจากคิ้วดกหนายาวพาดขนานเหนือดวงตาเข้มคมที่ตอนนี้ปิดสนิท ทำให้เห็นแพขนตายาวเป็นแพอย่างเด่นชัด มาที่จมูกก็โด่งเป็นสันราวเทพบุตรกรีก และที่น่ามองที่สุดคงหนีไม่พ้นริมฝีปากสีกุหลาบได้รูป…สวยจนอดแตะปลายนิ้วที่ปากเขาไม่ได้

อ่อนนุ่ม…จนอยากรู้ว่าหากถูกเขาจูบ จะให้ความรู้สึกยังไง

ทันทีที่รู้ตัวว่าคิดอะไรอยู่ หญิงสาวก็หน้าร้อนวาบ ดึงมือออกทันควัน บ้าจริง ! หล่อนเป็นผู้หญิงโรคจิตแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่เจอผู้ชายหล่อแล้วจินตนาการไปไกลถึงไหนต่อไหน

ท่องไว้สิมนสิชา…หล่อนต้องทำเพื่อความอยู่รอด ไม่ควรคิดวอกแว่ก ต้องนึกถึงเป้าหมายที่ต้องทำให้สำเร็จเท่านั้น

หญิงสาวเอื้อมมือสั่นระริกปลดกระดุมเสื้อของเขาออก ทีละเม็ด…ทีละเม็ด จนกระทั่งตรงกลางเนื้อผ้าแหวกออกจากกันเผยให้เห็นอกกว้างที่หนั่นแน่นด้วยกล้ามเนื้อ ผิวเนียนละเอียด…สวยเสียยิ่งกว่าผิวผู้หญิง

อกของเขาขาวเนียน เม็ดยอดอกเป็นสีชมพูเข้ม ขนอ่อนสีน้ำตาลทองไล่จากอกจนมาถึงหน้าท้อง ก่อนหายลับไปกับขอบกางเกง ชวนให้คนที่จ้องมองอย่างเผลอไผลถึงกับนิ่งค้าง หน้าร้อนวูบวาบ

โธ่เอ๋ยมนสิชา อยู่มานานจนอายุ 24 กลับทำตัวราวสาวน้อยแรกรุ่นที่เห็นผู้ชายหล่อๆแล้วเป็นต้องใจเต้นตึกตัก แต่จะว่าไปนับตั้งแต่โตมาเป็นสาว หล่อนก็แทบไม่ได้ใกล้ชิดกับผู้ชายคนไหน ยังคงครองตัวเป็นโสดจนถูกตั้งฉายาให้ว่า ‘ยัยป้าเฉิ่มบื้อ’

ที่สำคัญ…หล่อนไม่เคยเจอใครที่หล่อและรูปร่างเซ็กซี่เท่าเขมปัจน์มาก่อนเลย จึงไม่แปลกที่หล่อนจะอดหวั่นไหวไปกับเสน่ห์ของเขาไม่ได้

กว่าจะถอดเสื้อเขาออกได้ก็ยากลำบากพอดู เหตุเพราะเขาตัวหนัก ขณะที่หล่อนตัวเล็กบาง แต่ในที่สุดหล่อนก็ถอดเสื้อได้สำเร็จ จากนั้นก็มาถึงกางเกง

เริ่มจากดึงหัวเข็มขัดออก แล้วรูดซิบลงมานิดๆ ตั้งใจจะรูดลงเพียงนิดเดียวให้เขาอยู่ในสภาพล่อแหลมเท่านั้น ไม่เคยคิดจะถอดให้หมด เพราะหล่อนคงไม่กล้าทำถึงขั้นนั้น

หลังจากบรรลุความประสงค์แล้ว หล่อนก็ฉีกชายกระโปรงชุดราตรีของตัวเองจนเป็นทางยาว แม้จะเสียดายเนื้อผ้า แต่หล่อนก็จำต้องทำ

แคว่ก !

ผ้าถูกฉีกร่น ก่อนจะยีผมที่เกล้าขึ้นอย่างสวยงามนั่นเล็กน้อยจนดูยุ่งๆ แล้วเข้าห้องน้ำ หยดน้ำใส่ตามดวงตาและแก้มของตัวเองจนชุ่มๆ พร้อมกลับขึ้นเตียงมานอนเคียงข้างร่างสูงใหญ่